เรื่องของอาวุธ พ่อปู่ขุนพันธ์ คือ พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่เรารู้จักในนามขุนพันธ์จอมขมังเวทย์ บอกกับอาตมาว่า คนไม่ใช่สัตว์ จะได้มีเขี้ยวเล็บที่ใช้งานได้ทันที ดังนั้น..ถ้าทำตัวแบบคนไม่ประมาท ควรจะมีอาวุธติดตัวไว้บ้าง เป็นมีดพับเล่มเล็ก ๆ ก็ได้
บุคคลหนึ่งที่พ่อปู่ขุนพันธ์ให้ความเคารพมาก ก็คือ เสือไทย ที่เขาเอาไปสร้างเป็นหนังเรื่อง สุภาพบุรุษเสือไทย
เสือไทยจริง ๆ เป็นมหาดเล็กในเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดนเขาใส่ความว่าฆ่าคนตาย เสือไทยก็หนีไป ระหว่างที่ซ่อนตัวอยู่ พ่อปู่ขุนพันธ์ตอนนั้นเป็นพันตำรวจตรี ผู้กำกับจังหวัดพิจิตร ได้ไปพบท่านเข้า ปรากฏว่าเสือไทยแม้จะเป็นยอดฝีมือในอาคม ชนิดที่ว่าถึงใครแอบยิงก็ยิงไม่ออก แต่เสือไทยก็ยังพกมีมีดเหน็บติดตัวตลอดเวลา
และครูของอาตมา ก็คือ ครูอี๊ด คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ บอกชื่อนี้ไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเวลาท่านเขียนหนังสือ ท่านใช้นามปากกาว่า พนมเทียน พวกเราน่าจะร้องอ๋อ กันเป็นส่วนใหญ่ ครูอี๊ดบอกว่า ไม่แน่ใจว่าในแต่ละวันเราจะเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินอะไรบ้าง ถ้ามีอาวุธติดตัวไว้อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ใช้ไม่เป็นเอาไว้ขู่เขาก็ยังดี
และครูอี๊ดก็บังคับลูกหลาน ถึงเวลาจะเข้านอน ชุดนอนที่สวยที่สุดของลูกสาวครู ก็คือกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดแบบเสื้อกีฬา โดยที่ในกระเป๋ากางเกงมีบัตรประชาชนอยู่ มีมีดพับ ๑ เล่ม มีกุญแจบ้าน และที่สำคัญที่สุดใต้หมอนมี .๓๘ อยู่กระบอกหนึ่ง ครูสั่งลูกสาวว่าฉุกเฉินเมื่อไรคว้าปืนติดตัว อย่างเช่นไฟไหม้ ไขประตูแล้วหนีออกไปข้างนอก เรามีบัตรประชาชนติดตัว เราแสดงตัวจริงของเราได้ตลอดเวลา มีเงินติดตัวไว้เล็กน้อย ถึงเวลาจะได้ใช้ ลูกสาวจะใส่ชุดนอนเซ็กซี่หน่อยก็ไม่ได้ เพราะพ่อกำชับเอาไว้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 02:45
|