ดูแบบคำตอบเดียว
  #21  
เก่า 17-01-2016, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,980 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นึกถึงว่าหลวงพ่อช่วยผมหน่อย ผมไม่ไหวแน่ ก็มีความรู้สึกเหมือนอาจหาญขึ้นมาเฉย ๆ เวลาท่านพูดอะไรมา ท่านให้พูดตามคำพูดไปเลย ท่านก็ให้ตอบว่า “เออ...เวลาพระเข้าฌาน ๔ ก็เป็นประกายพรึกใช่ไหม ? เวลาจะอธิษฐานอะไรก็ลดลงมาถึงอุปจารสมาธิ ใช่ไหม ? ท่านก็นึกขอให้เห็นท่านปู่ท่านย่าชัดเจน แล้วก็เข้าไปฌาน ๔ ใหม่ ใช่ไหม ? แล้วลดมาถึงอุปจารสมาธิ ก็จะเห็นชัดเท่าฌาน ๔” เราก็เลยบอกว่า อันนั้นเป็นหลักสูตรของคน ซึ่งแม้กระทั่งฝึกในชาติแรกก็ฝึกตามนั้น ตามขั้นตอนของตำราในพระไตรปิฏก เวลาคนเจอพระพุทธเจ้าก็ฝึกไปอย่างนี้ ๆ เป็นขั้นตอนที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นอมตะอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าคน ๆ นั้นทำมาแล้วล้านครั้ง จำเป็นต้องทบทวนอย่างนี้ไหม ? พอขึ้นไปเร็ว ท่านก็บอกให้เอาผลมาใช้เลย

ท่านให้บอกว่า “คุณ...ตอนนี้คุณเห็นผมเป็นอย่างไร ?” ท่านบอกว่า “ไม่เห็นองค์หลวงตาเลย เห็นแต่ประกายพรึกหมด” แต่ไม่ใช่เป็นพระอรหันต์นะ ใจของท่านเอง ท่านบอก “ให้คุณคิดว่าแสงประกายพรึกคือแสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า แสงพระปัญญาธิคุณของท่าน นึกได้ไหม ?” ท่านบอก “ได้ครับ” “นึกขอบคุณท่านได้ไหม” “ได้ครับ” “นึกว่าท่านยิ้มให้คุณได้ไหม” “ได้ครับ” เท่านั้นเอง เวลาคุณนึกอะไรขึ้นมาสักอย่าง จับประกายพรึกแล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า ขอบพระคุณสมเด็จพ่อมากครับ สว่างเหลือเกิน เท่านั้นใจก็ลดมาอุปจารสมาธิโดยอัตโนมัติ

โอ้โห...องค์นั้นท่านก็บอกว่าเพิ่งเข้าใจ หลวงตาก็บอก “ผมก็เพิ่งเข้าใจเหมือนกันแหละ...!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2016 เมื่อ 18:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา