ดูแบบคำตอบเดียว
  #15  
เก่า 25-02-2009, 19:57
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 259
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,289 ครั้ง ใน 1,280 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

การให้พรของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ
ภายหลังจากที่ท่านเจ้าคุณ ธมฺมวิตกฺโกได้สนทนาธรรมกับศรัทธาญาติโยมทั้งหลายที่มากราบนมัสการเสร็จสิ้นลง ท่านก็มักจะให้พรด้วยประโยคสำคัญที่ว่า
“ขอให้มีความสุขความเจริญ เจริญยิ่งๆขึ้นไป...” และ “ให้ทำแต่กรรมที่ดีนะ จะได้มีความสุข"

“ตาย”ง่ายกว่า”อยู่”
ครั้งหนึ่ง ท่านธมฺมวิตกฺโกได้ปรารภกับคุณโกศล ปัทมสุนทร หลานชายของท่านว่า
“โกศล...ตายแล้วก็สามารถช่วยคนได้ดีกว่าอยู่อีกนะ ขอเพียงแต่เราอธิษฐานจิตถึงกันและกันได้เท่านั้น...!!!”
และ
“กระแสจิตเปรียบเหมือนเครื่องส่งวิทยุนะ ถ้าจูนเครื่องตรงกัน ก็สามารถติดต่อกันได้....”
แต่....
“ถ้าเครื่องส่งมีกำลังส่งมากเพียงไร แต่เครื่องรับจูนเครื่องไม่ตรงกัน ก็ไม่สามารถรับได้....”
นี้ก็ย่อมหมายความว่า แม้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ จะละสังขารอันเป็นของกลางโลกอันเป็นภาระหนักที่จะ ต้องมีการแก่ การเจ็บ การตายเป็นธรรมดาไปแล้วแม้เพียงไร แต่หากผู้ที่เคารพเลื่อมใสในองค์ท่านตั้งจิตอธิษฐานต่อจิตแห่งท่าน ธมฺมวิตกฺโกอย่างแน่วแน่มั่นคงแล้วไซร้ ท่าน ธมฺมวิตกฺโกก็ย่อมจะสามารถรับรู้และแผ่บารมีมาให้ความสงเคราะห์อนุเคราะห์ได้อยู่เสมอในที่ทุกสถาน ตลอดกาลทุกเมื่อ หาระหว่างมิได้เลย


ผ้าขี้ริ้วห่อทอง

เกี่ยวกับการวางตัวในสังคม ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ก็เคยสอนคุณโกศล ปัทมสุนทร หลานชายของท่าน(บุตรชายของน้องสาวท่านธมฺมวิตกฺโก)ไว้คราวหนึ่งว่า
“ โกศล....ให้ทำตัวเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทองนะ ไม่โอ่อ่า ให้อ่อนน้อมถ่อมตนนะ แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย ไม่ต้องประดับประดาอะไรมากมาย มีกายวาจาสงบเรียบร้อย.......”

หมายเหตุ., คำสอนของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ในตอนนี้ ช่างเป็นการที่ ”ดีงาม” และ ”ผู้ดี” มากๆ โดยแท้ ซึ่งสอดคล้องกับสุภาษิตบทหนึ่งของท่านที่ว่า “ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้นั้นไม่จริง” ซึ่งตรงกันข้ามกับคนเป็นอันมากในสมัยนี้ ที่มักนิยมบำเพ็ญตนเป็นแบบ ”ผ้าขี้ริ้วปิดทอง” ซ่อนความสกปรก ร้ายกาจไว้ภายหลังฉากหน้าอันแสนจะหรูหรา สวยสดงดงามชวนฝันกันเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองไปหมด ซึ่งมักมีเลศนัยและอันตรายแฝงอยู่ภายในอย่างเหลือล้น ฉะนั้น ขอให้ทุกท่านจงระมัดระวังตนของตนให้พ้นจากพวก ”ผ้าขี้ริ้วปิดทอง” ทั้งหลาย ให้จงดีเถิด

“มธุรสวาจา”
เมื่อโกศล หลานชายของท่านแต่งงานกับจำเนียร ปัทมสุนทรแล้ว ในยามใดที่คุณโกศลพาภรรยามากราบท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ก็มักจะเรียกหา”หลานสะใภ้” ของท่านว่า “คุณ...” ทุกคำ จนหลานสะใภ้รู้สึกเกรงใจท่านมาก เลยกราบเรียนไปว่า ให้ท่านธมฺมวิตกฺโกเรียกชื่อของนางเฉยๆ ก็ได้ฯ
แต่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกลับตอบว่า “การพูดจาไพเราะเพราะพริ้งนั้น เป็นสง่าราศีแก่ตัวเราเอง และเป็นการยกย่องผู้ถูกเรียกด้วย.....”

หมายเหตุ สำหรับผู้ที่นิยมการพูดคำด่าคำ หรือก่อนที่จะอ้าปากเปล่งวาจาอะไรได้ จะต้องมี ”อินโทร” เป็น ”ตัวเงินตัวทอง” หรือ ”สารพัดสัตว์สิ่งเดียรัจฉาน ๑๐๘” มาอารัมภบทเสียก่อน ก็น่าที่จะได้คิดและตริตรองให้จงหนักทีเดียว ว่ายังจะ ”ทำลายราศี” ของตนด้วยความคะนองปากของตัวเองอยู่อีกหรือไม่...???

“ของสาธารณะ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น”

อีกครั้งที่ท่าน ธมฺมวิตกฺโกได้สอนเรื่องของ ”โลก” ให้กับหลานชายของท่านไว้อย่างลึกซึ้งและ เจ็บๆ ไม่น้อยเลยทีเดียวว่า “โกศล....ของสาธารณะ ๔ อย่าง มีศาลา(ที่พักคนเดินทาง) ,นารี (ผู้หญิง),วิถี(ทางเดิน),คงคา(แม่น้ำลำคลอง) อย่าไปจริงจังมากนะ อย่าไปปักใจมากนะ อย่าไปหลงใหลมาก เราไม่ใช้ คนอื่นก็ใช้ได้ เราไม่เอา คนอื่นก็เอาได้นะ ผิดหวังจะได้ไม่เสียใจ..........” วาจาสุภาษิตของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯบทนี้ ทั้ง “เจ็บ” และ ”แสบ” สะใจพระเดชพระคุณดีไหมเล่าขอรับ ท่านผู้ชม(อ่าน)ที่รักทั้งหลาย...????

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 15-07-2009 เมื่อ 11:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา