ชื่อกระทู้: มีดหมอเพชราวุธ
ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 08-02-2015, 14:28
มะลิแก้ว's Avatar
มะลิแก้ว มะลิแก้ว is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 3,388
ได้รับอนุโมทนา 250,920 ครั้ง ใน 2,870 โพสต์
มะลิแก้ว is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีดหมอเพชราวุธที่ราคาสูงเพราะว่า แค่ตะกรุดมหาสะท้อนที่ด้ามก็ราคาครึ่งหนึ่งแล้ว ยังมีตะกรุดสามกษัตริย์ ทอง นาก เงิน อีก ๓ ดอกที่สันมีด ตัวมีดยังเป็นโลหะพิเศษ ด้ามมีดก็เป็นไม้ที่ตอนแรกผิดกฎหมายคือไม้พะยูง แต่ว่าเป็นเรื่องแปลก พวกไม้หรืองาช้างผิดกฎหมาย แต่ทำเป็นของใช้ขึ้นมาแล้วเขาไม่ว่าอะไร งาช้างก็เหมือนกัน ถ้าทำเป็นของใช้ขึ้นมาก็แล้วกันไป ถ้าเป็นงาอยู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณไปล่ามาหรือเปล่า เป็นกฎหมายที่ลักลั่นอย่างไรพิกล จะเรียกว่าเป็นการผ่อนปรนให้ก็ได้ แต่อาตมาเองก็พอมีช่องทางอยู่ เพราะอย่างไรก็สามารถซื้อจากที่เขาโค่นไว้แล้วได้ ต่อให้ไม่ซื้อเขาก็โค่นไปแล้ว

ไม้พะยูงที่มีราคาแพงเพราะมีเท่าไรประเทศจีนซื้อไม่อั้น เนื่องจากว่าเขาไปขุดเจอในสุสาน ที่ผ่านระยะเวลายาวนานมาหลายร้อยปี เครื่องใช้ทุกอย่างที่ทำด้วยไม้พะยูงยังเป็นปกติอยู่ ไม่มีอะไรชำรุดเสียหาย ไม้พะยูงบางทีก็เรียกว่าไม้จันทร์ม่วง เพราะยิ่งใช้ยิ่งดำ ดำขึ้นไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าขัด ๆ ถู ๆ อยู่ทุกวันจะสวยเป็นพิเศษ"

"ปรากฏว่าการทำมีดหมอเพชราวุธครั้งนี้ เล่นเอาโลหะหมดประเทศไทยไปเลย เพราะว่าตัวมีดต้องหนาพอที่จะฝังตะกรุดที่สันได้ แล้วเหล็กที่หนาขนาดนั้นเขาก็ไม่ค่อยสั่งเข้ามาเพราะว่าราคาสูง ในเมื่อเป็นเหล็กพิเศษราคาสูง ไม่มีการสั่งบ่อย ท้ายสุดโรงงานก็เลิกสายการผลิตไป ดังนั้น..เหล็กที่ตกค้างในประเทศไทยโดนอาตมากว้านซื้อมาหมดแล้ว เหลือแต่เศษเล็ก ๆ เท่านั้น แล้วก็ทำมีดหมอได้หน่อยเดียวอย่างที่เห็น เกือบจะตีกันตายใช่ไหม ? ชั่วโมงกว่า ๆ ก็จองหมดแล้ว ดังนั้น..ให้ไปหาของที่เราชอบไปเอง ชอบใจมีดแบบไหนวันที่ ๒๔ มกราคมนี้ก็เอาไปเข้าพิธี บรรจุเข้าหีบเข้าห่อให้ดี จะได้ไม่สูญหาย ถึงเวลาฝากก็ง่ายรับคืนก็ง่าย

อย่าเอาอย่างคุณยายทองชุบนะ ให้ลูกหลานฝากมีดไปเข้าพิธี เขียนติดไว้เลยว่า ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ เพิ่งจะรับกลับไปเมื่อ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ นี่เอง สี่ปีกว่าเกือบห้าปีแล้ว พระเราก็เวรกรรมจริง ๆ ศีลพระบังคับไว้เลยว่า ถ้าหากเขาลืมของไว้ในวัด ต้องเก็บไว้จนกว่าเจ้าของมารับคืน สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง จะมีตู้พิพิธภัณฑ์ของหายเลย ถึงเวลาทำความสะอาดห้องพักต่าง ๆ ก็มีรองเท้าบ้าง กระเป๋าถือบ้าง เยอะแยะไปหมด ต้องไปติดป้ายว่า เก็บมาจากห้องไหน เดือนไหน ปีไหน แล้วก็ไม่ค่อยมีใครมาเอาหรอก เพราะอาจจะทิ้งแล้วก็ได้ แต่คราวนี้ศีลพระบังคับไว้ ไม่สามารถที่จะทิ้งได้ ก็ต้องเก็บ ไม่รู้ว่าหลังรุ่นอาตมาแล้ว คนอื่นที่มาเขาช่วยดูแลต่อหรือว่าขนไปชั่งกิโลขายแล้วก็ไม่รู้ ?"

อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๘
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา