พระอาจารย์สอนว่า "คนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน การแสดงออกของแต่ละคนจะต่างกัน
(ท่านหยิบพวงมาลัยขึ้นมา) นี่ดอกมะลิ นี่ดอกรัก นี่ดอกกุหลาบ คนละเรื่องเลย แต่พอมารวมกันเป็นพวงมาลัย มันแลดูสวย ดอกไม้ที่รวมกันเป็นพวงมาลัยได้สวยอย่างนี้ เกิดจากอะไร? มันต้องมีแก่นแกนของมัน คือ เส้นด้ายใช่ไหม ?
พวกเราร้อยพ่อพันแม่ จะให้นิสัยเหมือนกันดั่งแกะออกมาจากบล็อกเดียวกันก็ไม่ได้ แต่ว่าพวกเรามีเบ้าหลอมคือศีล สมาธิ และปัญญาของพระพุทธเจ้า ถ้ายังมีไตรสิกขาอยู่ อย่างไรก็ไม่ล้นออกจากกรอบ ในเมื่อไม่ล้นออกจากกรอบไป อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ มองอย่างไรมันก็งามจนได้
อย่าง เต้ย(สุรจิตร) นี่ก็งามของเต้ย ลองหามุมให้เจอว่างามตรงไหน อาจจะงามแบบดอกตำแยที่ห้อยอยู่ปลายพวงมาลัยก็ได้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าถึงแม้เป็นดอกตำแย แต่ก็ยังพอดูได้ ถ้าเราเห็นปกติธรรมดาตรงนี้ แก่นความเป็นจริงของบุคคลแล้ว เราจะไม่เสียเวลาไปตั้งความหวังกับใคร เพราะแต่ละคนสร้างกรรมมาไม่เหมือนกัน จะไปให้ออกมาเหมือนบล็อกเดียวกันก็ไม่ได้ เพียงแต่ว่าอย่าล้นกรอบก็พอ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 24-05-2015 เมื่อ 15:47
|