ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 24-06-2010, 17:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,405,985 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะฝึกจะหัดในการทรงสมาธิในขณะที่งานอื่นไปด้วยนั้น อย่ารอแต่เพียงการเดินจงกรม ไม่ว่าจะทำการทำงานอะไรก็ตาม ให้เราเอาสติจดจ่ออยู่กับงานเฉพาะหน้า เรื่องอื่นรอบข้างไม่ต้องไปสนใจ จดจ่ออยู่เฉพาะภาพพระ อยู่เฉพาะลมหายใจเข้าออก หรืออยู่กับงานที่ตนเองทำอยู่

การที่เราจะซักซ้อมสมาธิให้ทรงตัวถึงระดับฌานใช้งานนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เราต้องทรงฌานใช้งานได้เป็นปกติ นึกเมื่อไรก็ทรงอารมณ์ใจได้เมื่อนั้น ถ้าเป็นดังนี้เราจึงมีโอกาสที่จะพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง คือ มีโอกาสที่จะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้

การปฏิบัติของเรานั้น นอกจากจะปฏิบัติสมาธิแล้ว ยังต้องมีศีลเป็นหลัก ถ้าเรารักษาศีล ทบทวนศีลอยู่ทุกวัน จนกระทั่งอารมณ์ใจทรงตัวแน่วแน่ ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนก็รู้ว่าศีลจะขาดหรือไม่

ในส่วนของสมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องได้ระดับปฐมฌานละเอียด เป็นการทรงปฐมฌานในแบบฌานใช้งาน เพื่อที่จะได้ประกอบหน้าที่ของเราไปพร้อม ๆ กับการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก และคำภาวนาด้วย

และท้ายสุด สิ่งที่ลืมไม่ได้คือ เราจำเป็นต้องพิจารณาให้เห็นว่า ร่างกายนี้มีความไม่เที่ยงอย่างไร มีความเป็นทุกข์อย่างไร ไม่สามารถยึดถือเป็นตัวตนเราเขาได้อย่างไร ถ้าสามารถพิจารณาอย่างนี้ แล้วถอนความอยากเกิด ถอนความปรารถนาในร่างกาย ถอนความยินดีในโลกนี้เสีย เราก็สามารถที่จะหลุดพ้นเข้าพระนิพพานได้

สำหรับตอนนี้ขอให้ทุกท่านตั้งใจ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา หรือการพิจารณาตามแต่ความถนัดของแต่ละคน ให้รักษาอารมณ์ให้อยู่กับปัจจุบันเฉพาะหน้า จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2010 เมื่อ 02:32
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา