ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 21-07-2015, 18:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,542 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เราควรที่จะปฏิบัติกรรมฐานกองใดกองหนึ่งให้เกิดผลจริง ๆ ถ้าเราปฏิบัติแล้วเกิดผลจริง ๆ ก็จะเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัยอย่างแน่นแฟ้นไม่คลอนแคลน นั่นเป็นกติกาข้อแรกที่ทำให้เราก้าวสู่ความเป็นพระอริยเจ้า คือพระโสดาบัน

เมื่อปฏิบัติได้ผล ความมั่นใจมีมากขึ้น ความเคารพในพระรัตนตรัยแน่นแฟ้นมากขึ้น เราก็แค่มาทบทวนศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล ถ้าอย่างนั้นเราก็ก้าวใกล้ความเป็นพระอริยเจ้าคือพระโสดาบันเข้าไปอีก ก็เหลือแต่ทำความรู้สึก ก็คือมีสติระลึกรู้อยู่เสมอว่า ตัวเราจะต้องตาย ตายแน่นอน ตัวเราก็ดี คนอื่นก็ดี สัตว์อื่นก็ดี ล้วนแล้วแต่ต้องล้มหายตายจากกันไปหมด ชีวิตนี้มีความตายเป็นปกติ สัตว์โลกเกิดมาเท่าไร ก็ตายหมดเท่านั้น

เมื่อรู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ก็ต้องกำหนดเป้าหมายในชีวิตว่าตายแล้วจะไปไหน ถ้าหากว่าอบายภูมิ ๔ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือแม้กระทั่งมนุษย์ ก็เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะเกิดอีก มีแต่คนที่อยากจะขึ้นไปด้านบน ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ชั้นดี มีความสุข ความสะดวกสบาย ถึงพร้อมไปด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค สมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติข้าทาสบริวาร ซึ่งหาได้ยาก เป็นเทวดาเป็นนางฟ้าเป็นพรหม มีความสุขอยู่ก็จริง แต่ถ้าหมดบุญเมื่อไรก็ต้องตกลงสู่อบายภูมิอีก เมื่อเป็นดังนี้ถ้าจะประกันความเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง ก็มีดินแดนเดียวที่ไม่เกิดไม่ตาย ไม่ต้องมาทุกข์อีก นั่นคือพระนิพพาน

ในเมื่อทุกท่านทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแน่นแฟ้น ทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ก็ให้กำหนดเป้าหมายไว้ว่าถ้าเราตายขอไปพระนิพพานที่เดียว

แล้วเอาจิตจดจ่ออยู่กับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแบบใดแบบหนึ่งที่เรารักชอบหรือคุ้นเคย ว่านั่นเป็นพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราระลึกถึงพระองค์ท่าน คือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่าน คือเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วพยายามรักษากำลังใจประคับประคองอยู่ตรงอารมณ์ใจเช่นนี้ให้นานที่สุดเท่าที่นานได้

ถ้าอารมณ์เคลื่อนคลายหายไป ก็ให้ตั้งใจนึกถึง..ภาวนาถึงอย่างนี้ใหม่ ทำย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก จะเบื่อหน่ายไม่ได้ จนกว่าองค์ปัญญาจะเกิดขึ้น มีความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไม่ปรารถนาจะมีร่างกายนี้ ไม่ปรารถนาที่จะเกิดมาในโลกนี้ อย่างแท้จริง สภาพจิตก็จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้อย่างที่ตั้งความปรารถนาเอาไว้

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2015 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา