"ต่อไปถ้าปฏิบัติจนกระทั่งมั่นใจในความรู้ความสามารถตัวเอง แล้วนำไปสั่งสอนคนอื่นเขาต่อ ก็จะได้ในส่วนของธัมมเทสนามัย ถ้าหากว่าไม่มั่นใจจะสอนเขาได้ถูก ก็สอนเขาให้ทานและรักษาศีลไว้ก่อน ในส่วนของการภาวนาบอกเขาไปว่า เราแนะนำได้แค่เบื้องต้น ถ้าอยากได้ที่สูงกว่านั้น ให้เสาะหาครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาเรียนรู้ต่อไป
ส่วนทิฏฐุชุกัมม์ มีความเห็นเป็นสัมมาทิฐิ ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นความดี เราตั้งใจปฏิบัติตามนั้น ส่วนนี้เราได้แน่นอนอยู่แล้ว ก็แปลว่าเราได้ในทานมัย สีลมัย ภาวนามัย เวยยาวัจจมัย ส่วนที่กำลังได้อยู่คือธัมมัสสวนมัย ส่วนที่จะได้ในโอกาสต่อไปก็คือส่วนปัตติทานมัยและปัตตานุโมทนามัย
เราจะเห็นว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นจนกระทั่งหลับตาลงในแต่ละวัน เราสามารถสร้างบุญสร้างกุศลได้โดยตลอด โดยเฉพาะการรักษาศีลและเจริญภาวนา ไม่ต้องเสียสตางค์และข้าวของใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถทำได้ทันทีในทุกที่และทุกเวลา
ขอฝากญาติโยมเอาไว้ว่า การปฏิบัติธรรมของเรานั้น ถ้ารอจนได้เวลาแล้วค่อยมาปฏิบัติ ก็แปลว่ายังใช้การไม่ได้ ถ้าจะให้ใช้การจริง ๆ ต้องสามารถใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ด้วย ให้ทุกย่างก้าว ทุกลมหายใจเข้าออกของเราเป็นการปฏิบัติธรรม ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ที่บาลีเรียกว่า “ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ” ก็คือการปฏิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-01-2016 เมื่อ 19:09
|