"พอรัชกาลที่ ๘ สวรรคต ก็ต้องไปไล่สายกันเหมือนเดิม พอมาถึงสายของกรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ทั้งสามพระองค์ยิ่งไม่เอาใหญ่เลย คราวที่แล้วไล่กษัตริย์ออก คราวนี้ฆ่าเลย ใครจะกล้าเป็น ? ก็ตกมาที่สมเด็จย่าอีก สมเด็จย่าต้องสละลูกคนเล็กให้ไปครองราชย์
ดังนั้น..สองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา รัตนโกสินทร์ของเราในราชวงศ์จักรีไม่มีการแย่งชิงราชสมบัติ ต้องบอกว่าพระสยามเทวาธิราชปกปักรักษาไว้ ก็เลยเป็นแบบอย่างที่ดี อย่างราชวงศ์ทางยุโรปก็มีการแย่งชิง แต่พอมาระยะหลังเขาแก้ปัญหาตก โดยการแต่งงานไขว้กันไปไขว้กันมาจนเป็นญาติกันหมด ไม่รู้จะแย่งกันไปทำไม เพราะญาติตัวเองทั้งนั้น
แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล ชาวบ้านก็ให้การเคารพนับถือ ขณะที่ต่างประเทศไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะว่ากษัตริย์จริง ๆ ก็คือ นักรบ ถึงเวลาไม่ได้รบเพื่อประชาชน คนเขาก็ไม่เห็นประโยชน์
ปัจจุบันอย่างสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธ พระบรมราชินีนาถของอังกฤษ พระองค์ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองระบอบกษัตริย์ที่ยังเข้มข้นอยู่มาก แต่คนให้ความสำคัญน้อยลงไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันนี้กษัตริย์ของเขายังต้องเสียภาษีด้วย..!
นึกถึงเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง ก็คือ พระเจ้าโบดวงขับรถเร็วเกินกำหนด ตำรวจเขาเรียกมาเขียนใบสั่ง ถามว่าชื่ออะไร ? "โบดวง" อาชีพอะไร ? "กษัตริย์" เขาไม่สนใจหรอก ออกใบสั่งให้ไปจ่ายค่าปรับเฉยเลย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2011 เมื่อ 03:15
|