ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 01-01-2020, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,645 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราทั้งหมดเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ในส่วนของการปฏิบัติธรรมนั้น ต้องคอยระมัดระวังในเรื่องของการรู้เห็น และความเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราเผลอ ความเป็นมิจฉาทิฏฐิจะเข้ามาเกาะกินเราทันที แล้วดึงให้เราเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ อย่างเช่นพระพุทธเจ้าสอนว่า สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตนที่จะยึดถือมั่นหมายได้

ถ้าหากว่าบุคคลที่มีปัญญา ก็จะเห็นจริงในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ และรู้จักนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างพอเหมาะ พอสม พอควร แต่ถ้าหากบุคคลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ พอได้ยินว่า “สัพเพ สังขารา อนิจจา ทุกอย่างไม่เที่ยง” ก็จะไปยึดมั่นถือมั่นว่าทุกอย่างไม่เที่ยง แก้ไขอะไรไม่ได้ ธรรมดาเป็นอย่างนั้น ฟังดูเหมือนกับใช่ แต่ว่าไม่ใช่ เพราะว่าความไม่เที่ยงนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ด้วยเหตุปัจจัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา