ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-06-2016, 13:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,529
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,535 ครั้ง ใน 34,117 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นดังนี้...จึงอยากจะให้ทุกคนเมื่อเกิดเหตุเฉพาะหน้าขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจของเราดีขึ้นในการปฏิบัติธรรม หรือว่าพังลงเพราะการปฏิบัติธรรม ให้เราค่อย ๆ ตั้งสติที่พอมีอยู่ นึกย้อนหลังไปว่า ตอนที่เราทำแล้วดี ความดีเกิดขึ้น จิตใจสงบระงับ รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหน เราภาวนาอย่างไร พิจารณาอย่างไร แล้วเราก็สร้างสิ่งแวดล้อมแบบนั้นขึ้นมาใหม่ หรือไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้นใหม่

อย่างเช่นว่ามาปฏิบัติธรรมที่บ้านวิริยบารมีอย่างนี้ ทำให้รู้สึกว่ากำลังใจทรงตัวได้ง่าย เพราะว่าทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนักปฏิบัติเหมือน ๆ กัน กระแสใจไม่ขัดกัน เราก็ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น เราใช้คำภาวนาแบบไหนแล้วกำลังใจทรงตัวได้ง่าย เราก็ใช้คำภาวนาแบบนั้น เราพิจารณาแบบไหนที่สภาพจิตยอมรับแล้วปล่อยวางลงได้ เราก็พิจารณาแบบนั้นใหม่ เมื่อเราสร้างเหตุที่ดี ที่ถูกขึ้นมา ผลดีก็ย่อมเกิดแก่เราเอง

ในเมื่อกำลังใจของเราพังลงไป ให้พยายามใช้สติที่มีอยู่ ย้อนทบทวนไปดูว่า เราคิด เราพูด เราทำอย่างไรสมาธิถึงได้ตก กรรมฐานถึงได้แตก แล้วก็ละเว้นจากสาเหตุทั้งหลายเหล่านั้น เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วที่สมาธิตก กรรมฐานแตกก็คือ เราปล่อยให้กิเลสเข้ามากินใจของเรา การที่เราจะปล่อยให้กิเลสให้มากินใจของเราได้ อันดับแรกเลย ก็คือ เราคิดผิด ในเมื่อเราคิดผิด สภาพจิตก็ปรุงแต่งในเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง

ลำดับต่อไป คือ พูดผิด มัวแต่นั่งพูดคุยเฮฮากันจนไม่มีเวลารักษากำลังใจตนเอง สมาธิที่ทรงตัวอยู่เคลื่อนคลายไปตอนไหน บางทีก็สังเกตไม่ทัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2016 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา