พูดถึงกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก "คณะผู้จัดงานปีนี้เตรียมการได้ดีมาก อาจจะเป็นพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ด้วย เมื่อวานนี้เรื่องการแจกเสื้อ แจกหมวก ทำได้เรียบร้อยแล้วก็รวดเร็วมาก โดยปกติคนจำนวนมากขนาดนั้น โอกาสที่จะเสร็จเร็วแบบนั้นคงจะยาก ถ้าใช้ภาษาทหารของอาตมาก็คือ "ทำดีก็ทำได้ แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ทำ ?"
สมัยก่อนตอนรับราชการอยู่ ถึงเวลาผู้บังคับบัญชาก็จะด่า "ทำดีก็ทำได้ แล้วทำไมไม่ทำ ?" ก็ได้แต่หวังว่าหลังวันที่ ๙ ไปแล้ว การขี่จักรยานเพื่อสุขภาพจะยั่งยืนกว่านี้อีกหน่อย อาตมาดูชมรมคนรักจักรยานของทองผาภูมิแล้วอนาถใจ ตอนก่อตั้งชมรมสมาชิกเป็นร้อย เดี๋ยวนี้มีปั่นอยู่ ๒ คน แล้ว ๒ คนนี่อยู่บ้านเดียวกันด้วย
การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จทั้งทางโลกทางธรรมนั้น มีอยู่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือความจริงจังและสม่ำเสมอ ใครที่เป็นคนจริงจังสม่ำเสมอก็จะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้น..ถ้าทำกันแบบไฟไหม้ฟาง ฉาบฉวย ทำแค่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ทำแค่เบื้องสูงสนใจ ถ้าอย่างนั้นก็ชาตินี้ก็เอาดีได้ยาก
ตั้งแต่ได้รับการทูลเชิญขึ้นครองราชย์ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ก็ทรงมีโครงการ พูดง่าย ๆ ว่าปลอบขวัญประชาชน เพราะว่าทุกคนรู้สึกเหงาหรือว้าเหว่ที่สูญเสียในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไป พระองค์ท่านก็จัดโครงการอุ่นไอรักขึ้นมา ตอนนี้ก็ปั่นจักรยานต่อจากยุค Bike for Mom เรื่องแบบนี้ต้องบอกว่าเป็นข้างบนลดพระองค์ลงมาใกล้ชิดกับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่เหงา ไม่ว้าเหว่ รู้ว่าอยู่ในพระเนตรพระกรรณ
คราวนี้ก็อยู่ที่พวกเราว่าจะจริงจังและสม่ำเสมอสักเท่าไร ถ้าหาก "ขี้เกียจ" นำหน้าอยู่เหมือนเดิมก็เห่อแค่พักเดียว แบบเดียวกันท่านที่ซื้อเครื่องออกกำลังกายไปไว้ที่บ้าน มีความเพียรพยายามอยู่ไม่เกิน ๒ อาทิตย์ หลังจากนั้นก็เอาไว้ตากผ้า..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2018 เมื่อ 14:37
|