กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #701  
เก่า 16-05-2024, 01:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,475 ครั้ง ใน 34,252 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่ากินบ้าน กินเมือง

องค์หลวงตามีความเมตตาสงสารและห่วงใยชาติบ้านเมืองเป็นพื้นในจิตใจตลอดมา ดังนั้น..เมื่อมีโอกาสสั่งสอนตักเตือนกลุ่มข้าราชการงานเมือง ท่านก็มักจะแสดงธรรมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเช่นเดียวกับคราวนี้

"นี่ละ..วัดหนึ่ง ๆ ครอบครัวหนึ่ง ๆ ขึ้นอยู่กับหัวหน้าครอบครัว ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้ว่าฯ ขึ้นไปเป็นลำดับลำดา ให้มีศีลธรรมเป็นเครื่องกำกับตัวเองอยู่เสมอ อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว

เวลานี้เราปล่อยให้กิเลสเข้าไปตีตลาด ตามโรงงานต่าง ๆ มีแต่กิเลสตีตลาดทั้งนั้น แหลกเหลวไปหมด ศีลธรรมเข้าใกล้ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น..บ้านเมืองถึงเหลวแหลก เหลวแหลกดังที่เห็นอยู่นี่แหละ ไม่ใช่เหลวแหลกแบบไม่มีคน คนตายฉิบหาย มันเหลวแหลกด้วยความประพฤติ เหลวแหลกด้วยความเป็นอยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละ หาความไว้วางใจกันไม่ได้ เพราะไม่มีศีลธรรมเป็นที่ไว้วางใจ

ไปที่ไหนก็เหมือนกับลิง คอยกิน..กิน คอยคด..คด คอยโกง..โกง คอยจะได้โอกาสอันไหนนี้ รีดไถทุกแบบทุกฉบับ สุดท้ายข้าราชการเลยเป็นผีตัวหนึ่ง เป็นยักษ์ตัวหนึ่ง ชาติบ้านเมืองเขาก็เอือมระอาซิ..!

เงินทุกบาททุกสตางค์ได้มาจากประชาชนราษฎรทั้งนั้น เป็นภาษีอากรเข้ามาเพื่ออุดหนุนประเทศชาติบ้านเมืองให้มีความแน่นหนามั่นคง กลับเป็นเปรตเป็นผี ให้เปรตให้ผีไปกินเสียหมด มันใช้ไม่ได้..!

วงราชการแต่ละวงเลยกลายเป็นวงสังหารประชาชน วงสังหารประเทศชาติบ้านเมือง อย่างนี้ดูไม่ได้..ใช้ไม่ได้เลย..!

เพราะฉะนั้น..ขอให้พี่น้องทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธปฏิบัติตามศีลธรรมนี้ ขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเข้าไปโดยลำดับ เพื่อความสงบเย็นและมั่นคงของบ้านเมืองเรา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2024 เมื่อ 08:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
  #702  
เก่า 16-05-2024, 01:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,475 ครั้ง ใน 34,252 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การกล่าวทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงว่าวงราชการจะเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมดทุกรายนะ เราพูดถึงรายที่ไม่ดีต่างหาก ซึ่งมีจำนวนมากต่อมาก อันนี้มีมากจริง ๆ อยู่ที่ไหน ๆ ไม่คณนาได้ เต็มไปหมดในวงราชการแผนกต่าง ๆ ยังเย่อหยิ่งจองหองเสียด้วยนะ วงราชการไม่ระลึกเลยว่าตัวเองกินเงินเดือนของประชาชนราษฎร เย่อหยิ่งจองหองจนน่าเกลียด เป็นเจ้าอำนาจกดขี่บังคับประชาชนหลายแบบหลายฉบับนะ

คนนี้แบบนี้ คนนั้นแบบนั้น ๆ ถ้าไม่ได้ใต้โต๊ะเหนือโต๊ะเสียก่อนเป็นขัดเป็นแย้ง เป็นหาอุบายเท่านั้นเท่านี้อยู่จนได้ นี่สิ..ที่มันน่าเกลียดเอาเหลือเกินนะ เอือมระอาเอามาก ประชาชนราษฎรไปแต่ละครั้ง ๆ เสียเวล่ำเวลามาบ้านมาเรือน ค่ารถค่าราอาหารการกิน หน้าที่การงานต้องเสียไปสักเท่าไรไม่ได้คำนึง คอยแต่จะเอาใต้โต๊ะเหนือโต๊ะ ถ้าไม่ได้จะต้องหาอุบายนั้นอุบายนี้

เวลานี้วงราชการเป็นอย่างนี้นะ เสียเอามากมาย ขอให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้ทุกคน นี่คือความจริง เราไม่ได้หาเรื่องใส่คน เราสอนคนเพื่อความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน

มันเป็นอย่างนี้เวลานี้ เขาเบื่อจริง ๆ เบื่อวงราชการเวลานี้ ไม่ใช่ธรรมดานะ แต่ประชาชนถึงเขามีปาก เขาก็ไม่พูดง่าย ๆ ถ้าพูดก็เป็นภัยต่อปากเจ้าของอีกแหละ เพราะพวกนี้พวกเจ้าอานาจ อำนาจอันนี้มันอำนาจบ้า ๆ เถื่อน ๆ เสียด้วยนะ ไม่ใช่อำนาจธรรมดา ไม่อย่างนั้นมันก็ทำชั่วไม่ได้ ถ้าไม่ใช้อำนาจแบบนี้

ชีวิตมันเกี่ยวโยงกันไปหมดไม่ว่าภาคไหน ๆ ชีวิตอยู่กับจุดศูนย์กลางคือชาติ ต่างคนต่างระลึกถึงชาติเสมอ อย่าระลึกถึงตนยิ่งกว่าชาติ ถ้าลงชาติได้ล่มจมไปแล้ว ใครจะไปนั่งบนเก้าอี้เป็นเทวดาอยู่ได้คนเดียว ไม่เคยมี..ต้องเป็นกองทุกข์เหมือนกันหมด ให้เราเห็นใจประชาชนราษฎร

นี่..ความห่างเหินจากศีลจากธรรมเป็นอย่างนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้ ศีลธรรมคือเครื่องยึดเหนี่ยวของใจและความประพฤติหน้าที่การงานทั้งปวงให้เป็นไปเพื่อความดีงาม ถ้าปราศจากศีลธรรมเสีย อะไร ๆ ก็เหลวไปตาม ๆ กัน ฉะนั้น..ศีลธรรมจึงเป็นธรรมที่จำเป็นมาก"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2024 เมื่อ 08:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
  #703  
เก่า 21-05-2024, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,475 ครั้ง ใน 34,252 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่าเห็นแก่ตัว จงเห็นแก่ชาติ

ครั้งหนึ่งองค์หลวงตาเมตตาแสดงธรรมแก่หน่วยงานราชการกลุ่มใหญ่ ดังนี้

"การปกครองกัน ให้คำนึงถึงหลักและกฏเกณฑ์ระเบียบข้อบังคับ นำมาปกครองกัน อย่าเอาอารมณ์มาปกครองกัน อย่าเอาอำนาจวาสนาศักดานุภาพ ว่าเราเป็นผู้ใหญ่ มีอำนาจมาก อยากทำอะไรก็ทำได้ มาปกครองกันโดยหาหลักเกณฑ์หาระเบียบกฎข้อบังคับไม่ได้ นั้นเป็นความผิด

ต่างคนต่างก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างปกครองในฐานะพ่อแม่กับลูก จะมีความร่วมเย็นเป็นสุข

สมบัติของกลาง เราอย่านำออกไปใช้ในกิจส่วนตัว หรือนำออกจำหน่ายขายกิน นั่นเป็นการขายชาติ เป็นการฆ่าชาติ เป็นการทำลายชาติ เพราะความเห็นแก่ตัว

ความเห็นแก่ตัวนั้นไปไม่รอด ถ้าชาติไปไม่ตลอดเราต้องจมไปด้วยชาติ เราอย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาตัวรอดเป็นยอดดี การคิดเอาตัวรอดแบบนั้นแลเป็นยอดที่เลวที่สุด เพราะคน ๆ หนึ่งอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันหลายคน เช่นประเทศไทยเรานี้ ทั้งประเทศมีความเกี่ยวโยงกันอยู่ เหมือนกับตาแหตาข่าย ตาหนึ่งขาดก็เกี่ยวเนื่องไปถึงตาแหตาข่ายทั้งหลาย ปลาก็ลอดออกไปที่นั่นได้

ถ้าชาติได้ล่มจมไปเสีย เราจะเอาตัวรอดด้วยวิธีใด ? นอกจากเราต้องจมไปกับชาติเท่านั้น ชาติจมเราต้องจม ชาติอยู่ได้เราก็อยู่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น เราต้องรักษาเพื่อความอยู่รอดของคนทั้งชาติ การรักษาเพื่อความอยู่รอดเฉพาะเรานั้น เป็นความคิดผิดของบุคคลผู้เห็นแก่ตัวมาก คิดเพื่อความร่ำรวย แต่หารู้ไม่ว่าความคิดนั้นคือเพชฌฆาต สังหารตนและชาติให้ล่มจม..!

ท่านหนึ่งสอนว่า สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นความเกี่ยวโยงกันไปหมด คนในชาติรักคนในชาติ ไม่มีใครที่จะรักยิ่งกว่าคนไทยรักคนไทย ไม่มีใครที่จะรับผิดชอบยิ่งกว่าคนในชาติจะรับผิดชอบคนในชาติของตน และไม่มีใครจะรับผิดชอบยิ่งกว่าเราจะรับผิดชอบในขอบเขตของเรา.."

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
  #704  
เก่า 23-05-2024, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,475 ครั้ง ใน 34,252 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตำรวจดี คนรัก

องค์หลวงตาเมตตาแสดงธรรมโปรดคณะนายตำรวจดังนี้

"เราเป็นตำรวจนี้ก็คือ เป็นผู้ที่รักษาหน้าที่การงานอันสำคัญในส่วนรวม อำนาจอะไรก็มอบให้ตำรวจเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง เพื่อความสงบสุขร่มเย็น ถ้าตำรวจไม่มี โจรมารผู้ร้ายเต็มไปหมด ที่ไหน ๆ ก็เป็นโจรได้ เป็นผู้ร้ายได้

ถ้าไม่มีสิ่งกลัวเสียอย่างเดียว คนเราจะทำชั่วได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมีสิ่งที่บังคับบัญชา สิ่งที่น่ากลัวอยู่บ้าง ก็ต้องได้ระมัดระวังคนเรา

เพราะฉะนั้น..เมื่อมีตำรวจที่ดีรักษากฎหมายบ้านเมือง เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข มีมากน้อยในสถานที่ใด สถานที่นั้น บ้านเมืองนั้น ย่อมได้รับความสงบร่มเย็น ตำรวจก็เป็นผู้พึ่งเป็นพึ่งตายของชาวบ้าน ในขณะเดียวกันเราอย่าให้ตำรวจเป็นผีเป็นยักษ์ของชาวบ้าน รีดไถเขาก็แล้วกัน เราต้องแยกออกเป็นประเภท ๆ เพราะเรื่องความจริงมีอยู่อย่างนั้น

การประพฤติปฏิบัติตัวเรานั่นแหละ เป็นตัวอย่างอันดีแก่ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลาย ก่อนหน้าเขาอย่าเอาใครมาเป็นตัวอย่าง ถ้าเอาหลักกฎหมายบ้านเมืองเข้ามาบวกในความเป็นตำรวจของเรา แล้วดำเนินหน้าที่การงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อความซื่อสัตย์สุจริต ความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ต่อประชาชน ไปที่ไหนประชาชนเขาก็จะรัก

ถ้าผิดเราก็จับจริง ๆ ปรับโทษสินไหมจริง ๆ เพราะคนนี้ผิด เมื่อเราจับอย่างมีเหตุมีผล ปรับไหมใส่โทษด้วยความมีเหตุมีผลนี้ ชาวบ้านเขาก็เห็นใจ เขาก็รักเขาก็ชอบ เขาก็รู้ว่าเราทำถูก ถ้าเราทำตรงกันข้าม ไม่มีหลักมีเกณฑ์ อาศัยแต่อำนาจของความเป็นตำรวจ เอาอำนาจของกฎหมายบ้านเมือง แล้วทำสุ่มสี่สุ่มห้า แอบหน้าแอบหลังอย่างนั้น เขาก็รู้ เพราะเหตุไร ? เพราะบ้านเมืองนั้นคือใคร ก็คือคน คนมีหัวใจ ตำรวจรู้ คนเขาก็รู้ จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ตรงแนวของตำรวจเรา ผู้มีหน้าที่รักษาชาติบ้านเมือง

ตำรวจไปที่ไหน บ้านเมืองเราจะมีความร่มเย็น คนรัก ไปไหนก็ดี มีเสน่ห์ในตัว เด็กก็รัก ไม่ว่าแต่ผู้ใหญ่รัก เด็กรัก ก็เย็นใจ ก็สบาย เหมือนเรามีคุณค่า ผู้ใหญ่รัก ก็เหมือนเรามีคุณค่า ประชาชนรัก ยิ่งเป็นผู้มีคุณค่ามาก

เพราะฉะนั้น..จงตั้งหน้าตั้งตา ทำตัวของตัวให้เป็นตัวอย่างของตัวเอง ให้มีความร่มเย็น ให้มีความพึงใจในตัวของเราเอง ก่อนที่จะไปปฏิบัติหน้าที่การงานให้เป็นที่พึงใจของประชาชนทั้งหลาย ให้พึงทำตัวเป็นหลักใจนั้นละ ทีนี้ไปที่ไหนประชาชนพลเมืองไม่ว่านักบวชหรือฆราวาสหญิงชาย รักหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2024 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 7 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
  #705  
เก่า เมื่อวานนี้, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,475 ครั้ง ใน 34,252 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เป็นทหารแล้วอย่าบ้ายศ

"...วันนี้เราน่าตำหนิไอ้หมาหางกุดสองตัว เราตำหนิมันสักหน่อย ทุกวันมันปวดเยี่ยวมันวิ่งเข้าป่า ถ้ามันปวดเยี่ยววิ่งออกมา มันอยู่ห้องที่ (หน่อย)เขาถอดเทป มันมักจะไปนอนแอบอยู่นั้นน่ะ เป็นเสี่ยวกัน หมานี้จะไปติดอยู่นั้นนอนอยู่นั้นน่ะ ครั้นเวลาไปเที่ยวที่ไหนมามานั้น มันจะไปตะกุย ๆ ประตู ก๊อก ๆ ๆ ทางนั้นเปิดประตูรับเข้าปุ๊บเลย นอนสบาย วันนี้มันปวดเยี่ยวออกมาพอดี เป็นจังหวะเราไปที่นั่น

พอเห็นเราไปข้างนอก เขามองเห็นเรา เขาเปิดประตูปั๊บ หมาสองตัวนั้นก็ออกมา ปุ๊บปั๊บออกมา ออกมาตัวนี้ก็ไปเยี่ยวที่เขาปูเสื่อเรียบร้อยแล้ว ไปเยี่ยวใส่ตรงนั้นเลย ตัวนี้ก็ปุ๊บปั๊บออกมาด้วยกัน ออกไปที่นั่นก็ไปเยี่ยวใส่เสื่อตรงนั้นอีก โธ่ ทำไมเป็นอย่างนี้ไอ้หมาสองตัวนี้

‘ทุกวันมันเป็นอย่างนั้นเหรอ’
‘ไม่เป็น’
‘มันทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้นละ’
‘คือแต่ก่อน พอมันปวดเยี่ยวมันจะออกไปเที่ยว พอเปิดปั๊บวิ่งเข้าป่าไปเยี่ยวป่า’

แล้ววันนี้ฟาดเยี่ยวบนเสื่อเลย เห็นต่อหน้าต่อตา มันเป็นยังไงมันขายหน้าเอานักหนา เจ้าของเป็นเสี่ยวกันมาทำไมไม่สอนกัน เยี่ยวราดไอ้หมาหางกุดสองตัวนั่น หมาน้อย อันนี้น่าตำหนิก็ตำหนิ

แต่ที่น่าชมก็คือว่า คนเรานี้ปูพรมไว้อย่างเต็มเหนี่ยว ให้เป็นความสะดวกเพิ่มเกียรติยศชื่อเสียง ให้เป็นศักดิ์ศรีดีงามของมนุษย์เรา ปูเสื่อแล้ว ยังไม่แล้วเอาพรมมาปูอีก แล้วใส่รองเท้าอวด ๆ เดินเหยียบพรมเข้าไป เราเห็นแล้วเราสะดุดใจจนไม่ลืม

ไม่ใช่ผู้น้อยนะ ผู้ใหญ่เสียด้วย นี่ทำตัวที่เลวต่ำทรามที่สุด นี่มันยังไง ตั้งแต่หมาเขาก็ไม่เคยใส่รองเท้ามาเหยียบพรม อันนี้คนใส่รองเท้ามาเหยียบพรมที่มีราคาสูงส่ง มันยังไงเป็นอย่างนี้ อย่างนี้หรือจะเป็นผู้นำชาติบ้านเมือง มันคิดไปเลยทันที เพราะผู้นี้เป็น ข้าราชการผู้ใหญ่ฝ่ายทหาร มันลืมตัวอย่างนั้นคนเรา ใส่รองเท้าไปเหยียบพรมที่เขาปูไว้อย่างเรียบ

‘ก็ถอดเสียซิ ถอดรองเท้า แต่หมามันยังไม่ใส่รองเท้าไปเหยียบพรม เราเป็นคนทั้งคนและเป็นผู้ปกครองชาติบ้านเมือง ทำไมจึงทำตัวเลวอย่างนี้ ลืมตัวขนาดนี้เชียวหรือ ใครอย่าไปเป็นอย่างนั้นนะ ถ้าควรถอดรองเท้าให้ถอด ถ้าไม่ถอดอย่าเข้า ดีกว่าที่จะไปขายตัวอย่างนั้นนะ เลว เลวมากทีเดียว’

นั่นมันอดคิดไม่ได้นะ ตั้งแต่นั้นมามันจับติดในหัวใจ กิเลสตัวพองตัวนี้ใส่รองเท้าอวดอวด ๆ เข้าไป ว่าตัวนี่ยศใหญ่ ยศใหญ่อะไรมันต่ำกว่าหมาขนาดไหนยศ หมาเขาไม่ได้ใส่รองเท้าไปเหยียบพรม ไอ้นี้คนแท้ ๆ เป็นผู้ใหญ่ปกครองบ้านเมือง แล้วใส่รองเท้าอวด ๆ ไปเหยียบนพรมให้คนทั้งสังคมนั้นดูอยู่ต่อหน้าต่อตา

เราเห็นเองเราเกิดความสลดสังเวช เลยไม่ลืมเหตุการณ์อันนี้ที่เห็นประจักษ์ใจ เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่าทำกันนะ อย่าลืมเนื้อลืมตัวถึงขนาดนั้น..."

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน )
จุฑาทิพย์ทองบ่อ, เมฆดำ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:32



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว