#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ วันนี้เอาเรื่องอะไรดี "ความจริงย่อมเป็นความจริง" หรือ "มวยล้มต้มคนดูแถว ๆ สตช."..!?
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว ก็คือทางฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขุดพบพระพุทธรูปโบราณที่จมอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงหลายองค์ด้วยกัน มีญาติโยมส่งรูปมาให้ดู ทางฝั่งลาวเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยอาณาจักรสุวรรณโคมคำ ซึ่งอาณาจักรสุวรรณโคมคำนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของตำนาน หรือว่านิทานเสียมากกว่า มากกว่าอาณาจักรเชียงแสนของไทยอีก..! เนื่องเพราะว่าหาหลักฐานไม่ได้เลย ว่ามีโบราณสถานโบราณวัตถุอะไรที่เป็นยุคนั้นสมัยนั้นอย่างแท้จริงบ้าง แล้วมาภายหลังตามตำนานก็ว่าโดนพญานาคถล่มเมือง จมหายลงไปใต้น้ำ คล้าย ๆ กับตำนานเวียงหนองหล่มของบ้านเรา แต่จากการพิจารณาด้วยสายตาของนักเล่นวัตถุมงคล เราจะพิจารณาได้ว่าพระพุทธรูปทั้งหลายเหล่านั้นไม่ใช่ศิลปะล้านช้าง ส่วนใหญ่เป็นศิลปะล้านนา อย่าลืมว่าล้านนาก็คือภาคเหนือของไทยในยุคหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยอาณาจักร หรือว่าเมืองเล็ก ๆ ใหญ่ ๆ มากมาย ส่วนล้านช้างก็คืออาณาจักรฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงที่เป็น สปป.ลาวอยู่ในปัจจุบันนี้ พระพุทธรูปที่กระผม/อาตมภาพสังเกตดูแล้ว ถ้าเป็นองค์ใหญ่ที่สมบูรณ์มาก นอกจากพระเกตุมาลาที่หายไป องค์นั้นน่าจะเป็นศิลปะล้านนา ยุคไล่เลี่ยกับพระเจ้าแค่งคมของวัดศรีเกิด จุดพิจารณาที่ชัดที่สุดก็คือสันพระนาสิก หรือว่า สันจมูก เป็นสันแบบเดียวกันสันพระชงฆ์ของพระเจ้าแค่งคม แล้วมีการลงชาดที่พระโอษฐ์ลักษณะเดียวกับพระเจ้าแค่งคมอีกด้วย ส่วนองค์อื่น ๆ นั้น องค์ที่ชัดเจนมาก ๆ เลยก็คือองค์ที่มีฐานสำเภา หรือบางคนเรียกง่าย ๆ ว่าฐานเรือ ซึ่งสร้างจากตำนานพระพุทธเจ้าเสด็จไปเมืองไพศาลี (เวสาลี) เพื่อปราบโรคระบาด ที่ปรากฏอยู่ในรัตนสูตร ซึ่งเราเจริญพระพุทธมนต์กันเป็นประจำ โบราณก็เลยคิดสร้างฐานให้เป็นลักษณะของเรือหรือว่าสำเภา นั่นเป็นสกุลช่างเมืองฝาง แยกกันออกไหมนี่ ? ส่วนองค์ใหญ่อีกองค์หนึ่งที่เห็นชัด ๆ ว่าเป็นฝีมือช่างสกุลเชียงแสนแล้วก็สิงห์หนึ่งด้วย เนื่องเพราะว่าพิจารณาจากชายผ้าสังฆาฏิเขี้ยวตะขาบที่อยู่สูงมาก ถ้าหากว่าอยู่กึ่งกลางลงมา ก็จะเป็นสิงห์สอง ถ้าอยู่เกือบถึงพระนาภีก็เป็นสิงห์สาม ค่อย ๆ ไปศึกษาเอาก็แล้วกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2024 เมื่อ 00:59 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ส่วนองค์อื่น ๆ ที่เหลือก็เป็นศิลปะล้านนา ไม่ว่าจะเป็นแบบสกุลช่างเมืองไชยปราการ เมืองเขลางค์นคร เมืองฝาง เมืองเชียงใหม่ สรุปว่าเป็นพระเก่าแท้ แต่ไม่ใช่สกุลช่างล้านช้าง และดูจากศิลปะแล้ว อายุก็ไม่น่าจะถึงยุคสุวรรณโคมคำ
สันนิษฐานออกเป็นสองแบบด้วยกัน แบบแรกก็คือช่วงที่คอมมิวนิสต์ยึดประเทศลาวใหม่ ๆ มีการทำลายพระพุทธศาสนา อาจจะนำเอาพระพุทธรูปไปทิ้งน้ำ ไม่ว่าทางคอมมิวนิสต์จะนำไปทิ้งน้ำเอง เพื่อทำลายพระพุทธศาสนาก็ดี หรือชาวบ้านเอาไปทิ้งน้ำเพื่อหลบซ่อนคอมมิวนิสต์ก็ตาม ก็น่าจะเป็นยุคนั้น ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่นาน เป็นช่วงที่กระผม/อาตมภาพยังเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่ถ้าจะเอาการสันนิษฐานที่นานกว่านั้นก็คือ น่าจะเป็นวัดเก่าวัดใดวัดหนึ่ง ที่สร้างอยู่ติดริมแม่น้ำโขงฝั่งโน้น แล้วโดนน้ำเซาะ วัดพัง จมน้ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเป็นข้อสันนิษฐานนี้ วัดนั้นต้องเป็นวัดใหญ่และสำคัญมาก เนื่องเพราะว่าได้รับศรัทธาจากชาวบ้าน นำเอาพระพุทธรูปมาถวาย แทบจะทุกสกุลช่างล้านนาเลย พวกท่านจะเห็นว่าเวลาชาวบ้านเขาศรัทธาวัดใดวัดหนึ่ง ก็จะนำพระไปถวาย ยกเว้นวัดท่าขนุน ถ้าไม่บอกมาก่อนจะไล่กลับเลย เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้ความสำคัญกับพระพุทธรูป ซึ่งเป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก ถ้าไม่มีที่ตั้งให้สมพระเกียรติ หรือว่าที่ประดิษฐานให้สมพระเกียรติ จะไม่รับไว้อย่างเด็ดขาด เอามาทางไหน กลับไปทางนั้นเลย..! ดังนั้น...ถ้าใครจะถวายพระพุทธรูปกับทางวัดท่าขนุน ต้องถามแล้วถามอีกว่ามีที่ตั้งหรือเปล่า แล้วปัจจุบันนี้ก็ไม่ต้องถาม เพราะว่าไม่มีให้แล้ว ในเมื่อคนศรัทธา นำพระพุทธรูปไปถวาย แปลว่าต้องเป็นวัดสำคัญ หรือเป็นวัดที่มีพระมหาเถระองค์สำคัญจำพรรษาอยู่ จึงทำให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา นำเอาพระพุทธรูปไปถวาย ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าในยุคโบราณนั้น การสร้างพระสร้างยากมาก อันดับแรกก็คือวิทยาการไม่ได้พร้อมสมบูรณ์แบบสมัยนี้ อันดับที่สองก็คือโลหะต่าง ๆ หายาก ดังนั้น..คนที่จะสร้างได้ ถ้าไม่ใช่อยู่ในระดับผู้ปกครองชั้นสูง ก็ต้องเป็นมหาเศรษฐีเลย แล้วยังต้องชะลอพระพุทธรูปข้ามแม่น้ำโขง เพื่อเอาไปถวายวัดแห่งนั้นอีก ต้องบอกว่าลำบากไปหมด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2024 เมื่อ 01:02 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงอยากจะเชื่อว่าเป็นประการที่สองมากกว่า ก็คือเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของทางฝั่งล้านช้าง ที่มีความสำคัญหรือมีพระมหาเถระองค์สำคัญจำพรรษาอยู่ ได้รับความเคารพนับถือจากประชาชนทั้งล้านช้างและล้านนาสองฝั่งโขง แล้วท้ายสุดเมื่อโดนน้ำเซาะ พังลงจากตลิ่งไปอยู่ใต้แม่น้ำโขง จนถึงปัจจุบันนี้เพิ่งจะงมเอาพระพุทธรูปขึ้นมาได้
ตอนแรกกระผม/อาตมภาพคาดว่าจะเป็นของปลอม ที่บรรดาเซียนพระเอาไปแช่น้ำไว้ เพื่อให้ดูเก่า แต่พอดูศิลปะต่าง ๆ แล้ว คนละยุค คนละสกุลช่างกัน ซึ่งถ้าหากว่าคุณจะลงทุนทำแบบนี้ ก็แปลว่าต้องลงทุนปั้นพิมพ์ใหม่หมดเลย กลายเป็นเรื่องเกินกำลัง เพราะว่าทำไปแล้ว เขาก็หากำไรได้ยาก แบบเดียวกับพวกที่ปลอมพระวัดท่าขนุน แล้วไปปลอมเนื้อตะกั่ว ปลอมแบบไร้ฝีมือด้วย เพราะว่าตะกั่วหาง่าย ราคาไม่สูงมาก แต่วัดท่าขนุนให้จองพระเนื้อตะกั่วแพงกว่าเนื้ออื่น เกิดจากสาเหตุอะไรไปเดากันเอาเอง..! ว่าแต่ว่าจองพระกันทันหรือไม่ ? เนื่องเพราะว่าทั้งเหรียญเสริมปัญญา ตั้งแต่เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองเหลือง เนื้อทองแดง มาถึงเนื้อตะกั่ว หรือเนื้อชิน กับเหรียญนาคปรกเสาร์ ๕ ตรีวัน เนื้อทองคำและเนื้อเงิน ถ้าหากว่าออกได้หมด ก็จะอยู่ที่ราว ๆ ๒๐ กว่าล้านบาท แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้ชักต้นทุนการลงทุนในเรื่องของทองคำและเงินเลย ค่าแรงช่างก็ยังไม่ได้คิดถึง ไม่ใช่ว่าเรามองว่ายอดจอง ๒๐ กว่าล้าน สบายแล้ว กระผม/อาตมภาพยังติดหนี้ค่าสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนอยู่ ๕๑ ล้านบาท และไอ้ ๒๐ กว่าล้านก็เป็นแค่ตัวเลขในฝัน เพราะว่ายังไม่ได้หักต้นทุนวัสดุเลย ดังนั้น..สิ่งที่เราเห็น จึงไม่ใช่สิ่งที่เราคิด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2024 เมื่อ 01:04 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ขณะเดียวกันก็เสียดายแทนหลายต่อหลายท่าน ที่ลืมไปว่าเว็บไซต์วัดท่าขนุน เป็นเว็บไซต์สนับสนุนการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ก็มักจะพลาด พิมพ์ตัวเลขในการจองเป็นเลขอารบิกบ้าง พิมพ์ตัวเลขและตัวหนังสือติดกันเป็นพืดบ้าง ที่อื่นอาจจะเว้นให้ เพราะว่าเขากลัวของขายไม่ได้ แต่วัดท่าขนุนไม่เว้นให้ เพราะว่าไม่เคยขายไม่ได้..!
แบบวันนี้พอไอ้ตัวเล็กเปิดจองเหรียญนาคปรกเสาร์ ๕ ตรีวัน เนื้อเงิน กระผม/อาตมภาพนั่งรับคณะของนางกาญจนา คล้ายพุฒ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ จากจังหวัดปทุมธานี พร้อมกับบรรดาครูที่มาศึกษาดูงาน ๖๐ คน กว่าจะส่งแขกกลับ กว่าที่จะไปถึง ก็ปรากฏว่าเขาจองกันไป ๑๑ หน้าแล้ว แล้วเหรียญก็หมดตั้งแต่หน้าที่ ๖ ขนาดบอกว่าหมดแล้ว ๆ ยังตะบี้ตะบันจองไป ๑๖ - ๑๗ หน้า พูดง่าย ๆ ว่าไม่ได้ไม่เป็นไร ขอฝากชื่อไว้ในพระพุทธศาสนาด้วย..! อีกพวกหนึ่งที่น่าเสียดายพอกัน ก็คือจองแล้วไปแก้ไข อาจจะแก้ไขการเว้นวรรคให้ถูก หรือแก้ไขตัวเลขเป็นเลขไทยก็ตาม โดนปรับตัดสิทธิ์ทั้งหมด เนื่องเพราะในอดีตมีบุคคลเอาเปรียบคนอื่น พอเห็นเขาจองกันมาก ๆ ตัวเองก็เกิดความโลภ กลับไปแก้ไขตัวเลขให้สูงขึ้น กลายเป็นตัดโอกาสบุคคลที่จองตามมา กฎเกณฑ์กติกาทุกอย่าง กรุณาอ่านให้ชัดเจน โดยเฉพาะสมัครสมาชิกเว็บไซต์แต่เนิ่น ๆ เนื่องเพราะว่าผู้ดูแลจะมาทำการรับการยืนยันตัวตนของท่าน ก็ต่อเมื่อว่างจากงานจริง ๆ แล้วกระผม/อาตมภาพก็ไม่เห็นว่าเขาจะว่างงานสักที ไม่ใช่ว่าสมัครเดี๋ยวนี้แล้วจะสามารถจองเดี๋ยวนี้ได้เลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2024 เมื่อ 01:06 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
เว็บไซต์วัดท่าขนุนเป็นเว็บไซต์เรื่องมาก ไม่ง้อสมาชิก ต้องการให้ตั้งยูสเซอร์เนมเป็นภาษาไทยที่แปลได้ตามพจนานุกรม ไม่ใช่ ๒ - ๓ รายล่าสุด ที่โดนส่งเข้าไปในห้องเย็น อย่างเช่น "สมเดชกบ" กูจะแปลว่าอย่างไร ? แปลว่า "กบมีอำนาจเสมอตน" ใช่ไหม ? ก็คือถ้ามึงไม่มีคำว่ากบ หรือไม่มีคำว่าสมเดชก็ผ่านแล้ว..!
หลายท่านก็มาภาษาไทยชัดเป๊ะเลย "เอลซ่า" เขียนไทยถูกด้วยนะ ไม่ผิดเลย แต่ใช่ภาษาไทยไหม ? บางท่านก็ภาษาถิ่นมาเป๊ะ ๆ เลย ซึ่งไม่ปรากฏในพจนานุกรมเสียด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องตัดทิ้งไป เรื่องพวกนี้ใครจะใช้เว็บไซต์วัดท่าขนุน กรุณาศึกษาให้ดี ๆ ส่วนบรรดาผู้ที่รู้ทางหนีทีไล่แล้ว ตั้งสารพัดยูสเซอร์ไว้ เผื่อที่จะโดนแขวน ก็ถือว่าเป็นความฉลาดของท่านไป หรือไม่ก็กลัวชาวบ้านจะรู้ว่าตัวเองจองไว้มาก เขาจะมารบกวน ฝากคนอื่นจองให้เขาเดือดร้อนแทน ไอ้นั่นก็แล้วแต่ท่าน ทางเว็บไซต์วัดท่าขนุน รู้อย่างเดียวก็คือ จ่ายเงินครบก็แล้วไป จ่ายไม่ครบก็โดนแขวนอีก..! จองกระทู้ไหน กรุณาดูบัญชีโอนเงินให้ดี ๆ ถ้าโอนผิด ไม่มีการโอนคืนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าปัจจุบันนี้พวกฟอกเงินหรือบัญชีม้ามักจะใช้วิธีนี้ ก็คือแกล้งโอนเงินผิด ให้เราโอนคืนไป แล้วกลายเป็นว่าเราไปพัวพันกับพวกแก๊งหลอกลวงชาวบ้านเขา ใครโอนผิดก็ให้ทำใจเลยว่าทำบุญกับวัดท่าขนุนไปทุกอย่างเลยก็แล้วกัน สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2024 เมื่อ 01:09 |
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|