#1
|
||||
|
||||
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันพุธที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันพุธที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/oljMxrTCJho ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก พอรู้สึกว่ามั่นคงทรงตัวแล้ว ก็กำหนดภาพพระไปด้วย หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 10-03-2022 เมื่อ 19:54 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
อย่าเอาความชัดเจน แค่มีภาพพระก็พอแล้ว อย่าใช้สายตาเพ่ง กำหนดนึกถึง ไม่ใช่ตาเห็น
ลมหายใจผ่านจมูก ผ่านอก ไปสุดที่ท้อง ลมหายใจออกจากท้อง ผ่านอก มาสุดที่ปลายจมูก ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไปในท้อง เลื่อนตามลมหายใจขึ้นมาบนศีรษะ หายใจเข้า..ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ความรู้สึกพร้อมกับภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 10-03-2022 เมื่อ 15:41 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ทุกวินาทีของเราต้องให้ความรู้สึกอยู่ที่ภาพพระ อยู่ที่ลมหายใจ
เผลอไปคิดเรื่องอื่น นึกขึ้นมาได้ ให้รีบกลับมาที่ลมหายใจหรือภาพพระทันที หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะ ความรู้สึกบางคนถ้าชัด ๆ เหมือนกับเราหายใจเข้าผ่านกระหม่อม หายใจออกทางกระหม่อม ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้น ให้รู้ว่าเราหายใจพร้อมกับจับภาพพระได้ก็ใช้ได้แล้ว หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้องพร้อมกับคำภาวนา หายใจออก ภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะพร้อมกับคำภาวนา |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ทันทีที่ตื่นนอนขึ้นมา งานแรกก็คือนึกถึงลมหายใจเข้าออกและภาพพระเอาไว้ จนกระทั่งรู้สึกว่าชัดเจนแจ่มใสแล้ว ค่อยขยับลุกไปทำงานทำการอื่น
หายใจเข้า..ภาพพระเลื่อนลงไปในอก เลื่อนลงไปในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นมาในอก เลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจกับภาพพระมีความมั่นคงแล้ว ก็กำหนดภาพพระให้นิ่งอยู่บนศีรษะของเรา หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ไม่ต้องไหลตามลมหายใจแล้ว ให้นิ่งอยู่บนศีรษะอย่างเดียว แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 12:42 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
จำเคล็ดลับให้แม่น ๆ คือ ไม่เอาความชัดเจนของภาพพระ และไม่เอาความสว่างเป็นประมาณ ให้รู้สึกว่ามีภาพพระอยู่กับเรา สว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออก จนกระทั่งภาพพระกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเรา เหมือนกับว่าตัวเราอยู่ในองค์พระ องค์พระก็คือตัวเรา
หายใจเข้า..สว่างไสวออกไปรอบด้าน หายใจออก..สว่างไสวออกไปรอบด้าน กำหนดความรู้สึกให้กระแสความสว่างไสวที่เปรียบเหมือนพระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แผ่กว้างออกไป กว้างออกไปรอบด้าน กำหนดความรู้สึกเหมือนกับโยนหินลงในน้ำ แล้วกระแสน้ำกระเพื่อมเป็นวง ๆ กว้างออกไป ๆ หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 12:42 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ภาพพระและตัวเราที่เหมือนกับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แผ่ความสว่างไสวออกไปรอบด้าน สว่างไปทั่วทั้งศาลาแห่งนี้
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น สว่างไปทั่วทั้งศาลา หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น สว่างไปทั้งวัด ความสว่างแผ่กว้างออกไปตามลมหายใจเข้า ความสว่างแผ่กว้างออกไปตามลมหายใจออก กำหนดเอาตามจังหวะการหายใจของเรา อย่าไปกำหนดตามเสียงพูด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 12:42 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวออกไปรอบด้าน สว่างไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทั่วทั้งตำบล ทั่วทั้งอำเภอ ทั่วทั้งจังหวัด
เหมือนตัวเราสูงขึ้น ใหญ่ขึ้น สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น จนมองเห็นกว้างไกลออกไป ไกลออกไป หายใจเข้า..รัศมีสว่างไสวขององค์พระแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป กว้างไปทั้งประเทศ กว้างไปทั้งทวีป กว้างไปทั้งโลก เหมือนตัวเราและภาพพระโตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า ความสว่างไสวสามารถแผ่ครอบคลุมทั่วโลกที่เป็นวัตถุเล็ก ๆ ภายใต้ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:43 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
หายใจเข้า..ความสว่างไสวขององค์พระแผ่กว้างออกไปโดยไม่มีประมาณ
หายใจออก..ความสว่างไสวขององค์พระแผ่กว้างออกไปโดยไม่มีประมาณ จะกำหนดให้องค์พระสว่างไสวอยู่เหนือศีรษะของเราก็ได้ จะให้สวมลงมาจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับร่างกายเราก็ได้ ในความรู้สึกคือร่างกายนี้ใหญ่โตเต็มจักรวาล พระเมตตาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่ปกออกไปสู่สรรพสัตว์ ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า ขอให้เขาทั้งหลายพ้นจากกองทุกข์ ขอให้เขาทั้งหลายอยู่ดีมีสุข มีความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:45 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด
หายใจเข้า..รัศมีสีขาวของพระเมตตาคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป หายใจออก..รัศมีองค์พระแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป เบื้องบนจรดพรหมชั้นที่ ๑๖ เบื้องล่างถึงอเวจีมหานรก เบื้องขวางก็คือจักรวาลที่ประกอบไปด้วยโลกธาตุต่าง ๆ ที่มีมนุษย์และสัตว์มากมายจนนับไม่ถ้วน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:46 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวโดยไม่มีประมาณ หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวโดยไม่มีประมาณ เราแค่อาศัยความหวังดีปราถนาดีของตน เกาะรัศมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งไปถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า ให้ตั้งใจว่า มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:46 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
กำหนดใจอยู่กับภาพพระที่สว่างไสวไม่มีประมาณ เมื่อรู้สึกว่ามั่นคงดีแล้ว ก็กำหนดภาพพระให้แน่วนิ่งอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น อย่าเอาความชัดเจน และอย่าเอาความสว่างเป็นประมาณ โดยปกติแล้วสำหรับพวกเราถ้าระดับความสว่างเหมือนมองในที่มืดก็ถือว่าดีมากแล้ว ความสว่างไสวและความชัดเจนจะมีมากก็ต่อเมื่อสมาธิทรงตัวสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป เอาแค่รู้สึกว่ามีภาพพระใส ๆ สว่างอยู่บนศีรษะของเรา หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:50 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ตัวเราตอนนี้เหมือนกับเป็นเปลือกกลวง ๆ โล่ง ๆ ไม่มีอะไร มีแต่องค์พระสว่างไสวอยู่ในห้วงนึก น้อมจิตน้อมใจกราบลงที่องค์พระ นั่นคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมาสงเคราะห์พวกเราทั้งหลาย เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 11:01 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
หลังจากนั้นตั้งใจขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำหนดความรู้สึกย้อนหลังไป..
ตอนที่เราเดินมาที่ศาลาแห่งนี้ ตอนที่เราเข้าห้องน้ำห้องส้วม ตอนที่เรานอนอยู่ ก่อนนอน การทำกิจกรรมก่อนนอน.. ไล่ไปถึงตอนทำวัตรค่ำ ตอนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย ตอนทำบุญช่วงเช้า.. ย้อนไปถึงวันก่อนที่เราปฏิบัติธรรม ย้อนไปถึงตอนที่เราไปเปิดร้านค้าชุมชน.. ย้อนไป ๓ วันที่แล้ว ๔ วันที่แล้ว ๕ วันที่แล้ว ๗ วันที่แล้ว ๑๐ วันที่แล้ว ๑๕ วันที่แล้ว.. เดือนที่แล้ว ๒ เดือนที่แล้ว ๓ เดือนที่แล้ว ๔ เดือนที่แล้ว ๕ เดือนที่แล้ว ๖ เดือนที่แล้ว.. ๑ ปีที่แล้ว ๒ ปี ๓ ปี ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปี ไล่ไปเรื่อย.. จนไปถึงวันที่เราเป็นจุดปฏิสนธิ์เล็ก ๆ อยู่ในท้องแม่ โดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเข้า ก็แตกเซลล์ออกมาจาก ๑ เป็น ๒ จาก ๒ เป็น ๔ จาก ๔ เป็น ๘ จาก ๘ เป็น ๑๖ จาก ๑๖ เป็น ๓๒ จาก ๓๒ เป็น ๖๔ จาก ๖๔ เป็น ๑๒๘ จาก ๑๒๘ เป็น ๒๕๖ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:53 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
จนกระทั่งปรากฏดวงตา เริ่มมีกะโหลกศีรษะ มีจมูก มีปาก มีหู งอกปัญจสาขา คือ ๒ แขน ๒ ขามาด้วย ค่อย ๆ มีอวัยวะใหญ่น้อยภายในภายนอกสมบูรณ์บริบูรณ์
ครบถ้วน ๑๐ เดือนก็คลอดก็เคลื่อนจากท้องแม่ออกมา เป็นเด็กเล็กนอนหงายตะกายอากาศ พ่อแม่เลี้ยงดูมาด้วยน้ำนม ด้วยก้อนข้าว ค่อย ๆ หัดพลิกคว่ำ หัดตะเกียกตะกาย หัดคลาน หัดยืน หัดเดิน หัดวิ่ง ไม่มีฟันก็มีฟัน โตขึ้นเป็นเด็กเล็ก เป็นเด็กโต เป็นเด็กหนุ่มเด็กสาว เป็นหนุ่มสาวเต็มตัว เป็นวัยกลางคน เป็นคนแก่ เป็นคนตาย เมื่อวานเราดูมาถึงตรงนี้ เห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้ของเรามีแต่ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ถูกต้องทุกประการแล้ว เราขอยอมรับในความไม่เที่ยงของร่างกายนี้ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:54 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
วันนี้เรามาดู พระองค์ท่านตรัสว่า "สัพเพสังขารา ทุกขา" สังขารนี้ประกอบไปด้วยความทุกข์
ตอนเราเป็นจุดปฏิสนธิ์เล็ก ๆ อยู่ในท้องแม่ โดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเผาลนอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ก่อเกิดกำเนิดร่างกายนี้ขึ้นมา ความร้อนนั้นเหมือนกับอยู่ในหม้อนึ่ง เมื่อค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา ที่ทางก็คับแคบลงไปเรื่อย.. เรานั่งอยู่ท่าเดียวไม่กี่นาที ยังปวด ยังเมื่อย นั่นต้องขดอยู่ในท้องแม่ ๙ เดือน ๑๐ เดือน.. ทั้งร้อน ทั้งอึดอัด ทั้งคับแคบ ทั้งปวดเมื่อย ถึงเวลาก็ดิ้นรนถีบซ้ายเตะขวาเพื่อให้พ้นจากอาการทุกข์ยากลำบากเหล่านั้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:54 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
ต้องทนทุกข์ทรมานอึดอัด ปวดเมื่อยอยู่ ๑๐ เดือนเป็นอย่างน้อย..
แล้วค่อยคลอด ค่อยเคลื่อนออกมาสู่ภายนอก กระทบความหนักของอากาศ แสบร้อนไปทั้งกาย ร้องไห้จ้า.. ร่างกายสกปรกต้องชำระล้าง หิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม.. ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ ต้องอึ ต้องฉี่.. เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องรักษาพยาบาล.. มีแต่ความทุกข์อยู่ตลอดเวลา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:55 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ของใครมาถึงตรงนี้ รู้สึก(ภาพพระ)เลือนลางไม่ชัดเจน ก็กลับไปหาภาพพระใหม่
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:55 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
เมื่อรู้สึกหนักแน่นมั่นคงชัดเจนแล้ว ก็กำหนดใจดูต่อว่า..
เจ้าเด็กตัวเล็กนั้น นอนหงายไปนาน ๆ ก็ปวดก็เมื่อยก็ทุกข์.. พยายามพลิกคว่ำ กว่าจะหัดคว่ำลงได้ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เหนื่อยแทบขาดใจ.. หัดคืบไปข้างหน้า หัดคลาน หัดยืน ตั้งไข่ หกล้มหกลุก กว่าจะยืนได้มั่นคง.. กว่าจะหัดเดินก้าวแรก กว่าจะมั่นคงจนสามารถเดินได้เร็วขึ้น จนกระทั่งวิ่งได้.. แต่ละขั้นตอนล้วนแล้วแต่เหนื่อยยากลำบากทั้งสิ้น ระหว่างนั้นก็ยังหิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระต้องอึ ปวดปัสสาวะต้องฉี่ สกปรกโสโครกต้องอาบน้ำชำระร่างกาย เจ็บไข้ได้ป่วยต้องรักษาพยาบาล เป็นอันว่า..รอดจากความทุกข์ทั้งหลายโดยไม่ตาย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:56 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กเล็ก พ่อแม่เป็นห่วง กลัวจะทำมาหากินไม่เป็น..
ส่งลูกเข้าเรียนตั้งแต่เด็กเล็ก ตั้งแต่อนุบาล.. คราวนี้ก็ลำบากเดินทางไปโรงเรียนก็เหนื่อยยาก โดนเพื่อนแกล้ง โดนครูตี.. ต้องกอบโกยเอาความรู้ใส่หัวตัวเอง ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด ค่อย ๆ ผ่านแต่ละวิชาแต่ละปี จากอนุบาล ๑ อนุบาล ๒ อนุบาล ๓ เป็น ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ วิชาการต่าง ๆ มากขึ้น..มากขึ้น กว่าจะจบการเรียนรู้แต่ละวัน ก็หัวร้อนมึนไปหมด.. แล้วก็ยังหิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระต้องอึ ปวดปัสสาวะต้องฉี่.. สกปรกโสโครกต้องอาบน้ำอาบท่า.. เจ็บไข้ได้ป่วยต้องรักษาพยาบาล แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:56 |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
ตีเสียว่าเราเป็นสุดยอดมนุษย์ เรียนไม่เคยตกเลย..
จบชั้นประถมก็เข้าเรียนมัธยม จบชั้นมัธยม ยังอุตส่าห์โชคดีเอ็นทร้านซ์ติด.. เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ละครั้ง แต่ละตอนล้วนแล้วแต่ยากลำบาก.. ถือว่าเราโชคดีสุด ๆ เรียนจบมาได้ด้วยความเหนื่อยยาก ก็ต้องตะเกียกตะกายหางานทำเพื่อที่จะเลี้ยงตัวเอง ในระหว่างที่เรียนอยู่ หรือระหว่างทำงาน ก็มีคนมาชอบ หรือว่าเราชอบเขา.. ทันทีที่รักกันชอบกันก็ทุกข์แล้ว กลัวเขาจะไม่รักเรา กลัวเขาจะไม่ชอบเรา.. กลัวเขาจะไม่ยินดีแต่งงานกับเรา กลัวคนจะมาแย่งเขาไป.. มีแต่ความทุกข์อยู่ตลอดเวลา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 11-03-2022 เมื่อ 10:56 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|