#1
|
||||
|
||||
ทำวัตรเช้า วันอังคาร
ขอเชิญสมาชิกทุกท่านสวดมนต์ทำวัตรเช้าร่วมกัน พร้อมกับพระภิกษุที่วัดท่าขนุนในเวลา ๔.๐๐ น. หรือตามแต่เวลาที่ท่านสะดวก หากเปิดหน้านี้แล้วกรุณารอสักครู่หนึ่ง เพื่อทำการโหลดแถบเครื่องเล่นเสียง และท่านสามารถกดที่ปุ่ม"เล่น" เพื่อเปิดเสียงสวดมนต์ และร่วมสวดตามบทสวดทางด้านล่าง |
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
สุธรรม (29-07-2016)
|
#2
|
||||
|
||||
ทำวัตรเช้า บทบูชาพระรัตนตรัย โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, (พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง,) สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม, (พระธรรมเป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว) สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว,) ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ., (ข้าพเจ้าทั้งหลายขอบูชาอย่างยิ่ง ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นพร้อมทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้.,) สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ, (ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม ข้าพเจ้า ทั้งหลายกราบขอพระบรมพุทธานุญาต,) ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา, (ขอพระองค์ผู้มีพระทัยในอันที่จะอนุเคราะห์แก่หมู่ชนผู้จะเกิดมาในภายหลัง,) อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ, (ได้โปรดรับเครื่องสักการะเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้ยากทั้หลายน้อมถวายบูชา,) อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ (เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขอันเกื้อกูล แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ ฯ) อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (กราบ) (พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง, ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว. ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ. (กราบ) (พระธรรมเป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว, ข้าพเจ้าขอนอบน้อม ต่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า.) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
สังฆัง นะมามิ. (กราบ) (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว, ข้าพเจ้าขอนอบน้อม ต่อพระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า.) |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
(นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการังกะโรมะ เส ฯ
(ในเบื้องต้นแต่นี้ไป พวกเราจงพากันกระทำความนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ตื่นแล้วเบิกบานแล้ว โดยพร้อมเพรียงกันเถิดฯ) (รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า ๓ ครั้ง) (ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ฯ) (นำ) หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ (พวกเราจงพากันกล่าวคำสรรเสริญพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยพร้อมเพรียงกันเถิด ฯ) (รับ) โย โส ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ (พระตถาคตเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง) วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติอันงาม เป็นผู้เสด็จไปสู่ที่ดีงามคือพระนิพพาน เป็นผู้รู้แจ้งโลก) อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง (เป็นผู้ฝึกสอนบุคคลอย่างยอดเยี่ยมไม่มีผู้อื่นเทียบได้) สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา (เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้แล้ว ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้สามารถจำแนกธรรมสอนหมู่สัตว์ได้ถูกตามอัธยาศัย) โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพ๎รัห๎มะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ (พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทำความดับทุกข์ให้แจ้งด้วยพระปัญญาอันยิ่งเองแล้ว ทรงสอนโลกนี้กับทั้งเทวดา มาร พรหม พร้อมทั้งสมณ-พราหมณ์ และหมู่สัตว์ ตลอดถึงเทวดาและมนุษย์ ให้รู้ตามพระองค์) โย ธัมมัง เทเสสิ อาทิกัลยาณัง มัชเฌกัลยาณัง ปะริโยสานะ กัลยาณัง (พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้นคือศีล ธรรมอันงามในท่ามกลาง คือสมาธิ ธรรมอันงามในที่สุดคือปัญญา) สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พ๎รัห๎มะจะริยัง ปะกาเสสิ., (ทรงแสดงวิธีการปฏิบัติให้เข้าถึงความเป็นผู้ประเสริฐ พร้อมทั้งอธิบายหัวข้อ และเนื้อความ ในการปฏิบัติอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์โดยไม่เหลือให้สงสัย) ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ, (ข้าพเจ้าขอบูชาอย่างยิ่งต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า) ตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ ฯ (ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้าฯ) (กราบ) |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
(นำ) หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ (พวกเราจงพากันกล่าวคำสรรเสริญ พระคุณแห่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยพร้อมเพรียงกันเถิด ฯ) (รับ) โย โส ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม (พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว) สันทิฏฐิโก (เป็นธรรมที่บุคคลผู้ศึกษาปฏิบัติจะพึงเห็นได้ด้วยตนเอง) อะกาลิโก (สามารถปฏิบัติและเห็นผลได้ทุกเมื่อ ไม่จำกัดกาลเวลา) เอหิปัสสิโก (เป็นธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้จนกล้ากล่าวว่า "ท่านจงมาดูธรรมนี้เถิด") โอปะนะยิโก (เป็นธรรมที่บุคคลควรน้อมเข้ามาใส่ใจ) ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ.
(ผู้รู้ธรรมแล้วทั้งหลาย จะพึงรู้ได้เฉพาะตนเองเท่านั้น) (รู้ได้เฉพาะตนเอง หมายความว่า ไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่า พระธรรมนั้นดีเลิศวิเศษอย่างไร นอกจากจะปฏิบัติเองแล้ว เห็นผลเอง เปรียบเหมือนคนกินเกลือที่เค็ม ไม่สามารถบอกได้ว่ารสเกลือเค็มอย่างไร นอกจากจะกินเอง แล้วจะรู้ได้เองว่าเกลือนั้นเค็มอย่างไร) ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ, (ข้าพเจ้าขอบูชาอย่างยิ่ง ต่อพระธรรมคำสั่งสอนของผู้มีพระภาคเจ้า) ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ. (ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระธรรมนั้น ด้วยเศียรเกล้า ฯ) (กราบ) |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
(นำ) หันทะ มะยัง สังฆาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ (พวกเราจงพากันกล่าวคำสรรเสริญพระคุณแห่งพระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยพร้อมเพรียงกันเถิด ฯ) (รับ) โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว) อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว) ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว) สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติชอบแล้ว) (๑) สุปะฏิปันโน หมายถึง พระโสดาบัน (๒) อุชุปะฏิปันโน หมายถึง พระสิกทาคามี (๓) ญายะปะฏิปันโน หมายถึง พระอนาคามี (๔) สามีจิปะฏิปันโน หมายถึง พระอรหันต์ ) ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา (ท่านเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตามลำดับได้ ๘ บุคคล) (บุรุษ ๔ คู่ ๘ บุคคล คือ คู่ที่ ๑ พระโสดาปัตติมรรค กับ พระโสดาปัตติผล คู่ที่ ๒ พระสกิทาคามิมรรค กับ พระสกิทาคามิผล คู่ที่ ๓ พระอนาคามิมรรค กับ พระอนาคามิผล คู่ที่ ๔ พระอรหัตมรรค กับ พระอรหัตผล รวม ๔ คู่ ๘ บุคคล ฯ) เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (ท่านทั้งหลาย ๘ บุคคลนี้ คือ พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า) อาหุเนยโย (ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่คนทั้งหลายนำมาบูชา) ปาหุเนยโย (ท่านเป็นผู้ควรแก่ของที่เตรียมไว้ต้อนรับ) ทักขิเณยโย (เป็นผู้ควรแก่การรับทานที่หมู่ชนนำมาถวาย) อัญชะลีกะระณีโย (เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้) อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ (ท่านเหล่านี้เป็นนาบุญของโลกอย่างยอดเยี่ยม ไม่มีนาบุญอื่นเทียบได้) ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ, ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ
(ข้าพเจ้าขอบูชาอย่างยิ่งต่อพระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระอริยสงฆ์นั้นด้วยเศียรเกล้า ฯ) (กราบ) |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ระตะนัตตะยัปณามะคาถา (นำ)(หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ สังเวคะปะริกิตตะนะปาฐัญจะ ภะณามะ เส.) (พวกเราจงพากันกล่าวคำแสดงความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย และสวดบทที่แสดงถึงความน่าสลดใจ เพื่อทำใจไม่ให้ประมาทในทางกุศลโดยพร้อมเพรียงกันเถิดฯ) (รับ)พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว พระพุทธเจ้า เป็นผู้หมดจดดีแล้ว มีพระกรุณาเปรียบประดุจห้วงสมุทร โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน มีญาณ คือความรู้อันประเสริฐหมดจดถึงที่สุดแล้ว โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก เป็นผู้ฆ่าความชั่วและสิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมองของโลกได้แล้ว วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน พระธรรม คำสั่งสอนของพระบรมศาสดาพระองค์นั้น ประดุจแสงสว่างแห่งดวงประทีป โย มัคคะปากามะตะเภทะภินนะโก จำแนกประเภท คือ มรรค ผล และนิพพาน โลกุตตะโร โย จะ ตะทัตถะทีปะโน เป็นธรรมอันข้ามพ้นวิสัยของโลก และเป็นธรรมที่ส่องให้เห็นชัด ในเนื้อความแห่งธรรมอันข้ามพ้นวิสัยของโลกนั้น วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมนั้น ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง สังโฆ สุเขตตา ภะยะติเขตตะสัญญิโต พระอริยสงฆ์ เป็นนาบุญที่ดีกว่านาบุญทั้งหลาย โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก เป็นผู้เห็นความสงบคือพระนิพพานแล้ว เป็นผู้รู้ตามพระสุคตเจ้า โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส เป็นผู้ละกิเลสเครื่องทำใจให้โลเลได้หมดแล้ว เป็นพระอริยเจ้า เป็นผู้มีปัญญาดี วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์นั้น ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง วัตถุตตะยัง วันทะยะตาภิสังขะตัง ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปัททะวา มา โหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะสิทธิยา
บุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้กราบไหว้พระรัตนตรัย อันเปรียบเหมือนดวงแก้ว ๓ ประการ อันเป็นของควรบูชาอย่างยิ่งโดยส่วนเดียว ซึ่งได้สั่งสมมาแล้วด้วยอาการอย่างนี้ ๆ และด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอานุภาพของบุญนั้น ขออุปัทวันตรายทั้งปวง จงอย่ามีแก่ข้าพเจ้าเลย |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
(สังเวคะปริกิตตะนะปาฐะ) บทสวดที่แสดงถึงความน่าสลดใจ อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้ เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต พระธรรมที่พระตถาคตเจ้าทรงแสดงแล้ว เป็นธรรมที่ช่วยนำหมู่สัตว์ออกจากทุกข์ เป็นธรรมที่ทำความสงบระงับกิเลส เป็นธรรมที่เป็นไปเพื่อความดับไม่มีเชื้อคือพระนิพพาน เป็นทางปฏิบัติให้ถึงความรู้พร้อม เป็นธรรมที่พระสุคตเจ้าทรงประกาศยืนยันแล้ว มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ พวกเราได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า, ชาติปิ ทุกขา แม้ความเกิด ก็เป็นทุกข์ ชะราปิ ทุกขา แม้ความแก่ ก็เป็นทุกข์ มะระณัมปิ ทุกขัง แม้ความตาย ก็เป็นทุกข์ โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา แม้ความเศร้าโศก ความพิไรรำพัน ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ความเสียใจและความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ความประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์ ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์ ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง แม้คิดปรารถนาอยากได้สิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นสมปรารถนา ก็เป็นทุกข์ สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา เสยยะถีทัง ว่าโดยย่อแล้ว การเอาิตเข้าไปยึดเกาะอยู่กับขันธ์ ๕ ก็เป็นทุกข์ นั่นก็คือ รูปูปาทานักขันโธ การเอาจิตยึดเกาะในรูป ก็เป็นทุกข์ เวทะนูปาทานักขันโธ การเอาจิตยึดเกาะในเวทนา ก็เป็นทุกข์ สัญญูปาทานักขันโธ การเอาจิตยึดเกาะในสัญญา ก็เป็นทุกข์ สังขารูปาทานักขันโธ การเอาจิตยึดเกาะในสังขาร ก็เป็นทุกข์ วิญญาณูปาทานักขันโธ การเอาจิตยึดเกาะในวิญญาณ ก็เป็นทุกข์ เยสัง ปะริญญายะ ธะระมาโน โส ภะคะวา เอวัง พะหุลัง สาวะเก วิเนติ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ได้ทรงแนำนะสาวกทั้งหลาย เพื่อให้กำหนดรู้ความทุกข์อันเกิดจากการยึดเกาะในัขนธ์ ๕ อย่างนี้เป็นส่วนมาก เอวังภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา ปะวัตตะติ ก็แล พร่ำสอนเป็นอันมากของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ย่อมทำให้สาวกทั้งหลายประทับใจ เพราะการชี้แนะอย่างนี้ว่า รูปัง อะนิจจัง รูปหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ เวทะนา อะนิจจา เวทนาหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ สัญญา อะนิจจา สัญญาหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ สังขารา อะนิจจา สังขารหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ วิญญาณัง อะนิจจัง วิญญาณหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ รูปัง อะนัตตา รูปไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป เวทะนา อะนัตตา เวทนาไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป สัญญา อะนัตตา สัญญาไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป สังขารา อะนัตตา สังขารไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป วิญญาณัง อะนัตตา วิญญาณไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ช้าก็ต้องสลายไป สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา บังคับบัญชาไม่ได้ ต้องสลายไปในที่สุด ดังนี้ เต (ผู้หญิงว่า ตา) มะยัง โอติณณามะหะ ชาติยา ชะรามะระเณนะ โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ เราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว โดยความเกิด ความแก่ และความตาย โดยความโศก ความพิไรรำพัน ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ความเสียใจและความคับแค้นใจทั้งหลาย ทุกโขติณณา ทุกขะปะเรตา เราทั้งหลายชื่อว่าเป็นผู้มีความทุกข์ครอบงำแล้ว มีความทุกข์นำหน้าแล้ว อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ* ไฉนหนอ การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ จักปรากฏแก่เราได้ (สำหรับพระภิกษุ-สามเณร) จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง อุททิสสะ อะระหันตัง สัมมาสัมพุทธัง เราทั้งหลายตั้งใจจำเพาะเจาะจง เฉพาะพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น แม้ปรินิพพานไปนานแล้ว, สัทธา อะคารัส๎มา อะนะคาริยัง ปัพพะชิตา, เราทั้งหลายมีศรัทธาออกจากเรือนแล้วบวช เป็นผู้ไม่มีเรือนแล้ว ตัส๎มิง ภะคะวะติ พ์รัมห์มะจะริยัง จะรามะ พากันประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ภิกขูนัง (สามะเณรานัง) สิกขาสาชีวะสะมาปันนา (ถึงพร้อมแล้วด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา และธรรมเป็นเครื่องเลี้ยงชีพของภิกษุทั้งหลาย (และสามเณร) ทั้งหลาย) ตัง โน พ๎รัห๎มะจะริยัง อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตูติ ขอพรหมจรรย์ของเราทั้งหลายนั้น จงเป็นไปเพื่อการกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นเถิดฯ (*สำหรับอุบาสก-อุบาสิกา เมื่อสวดถึง"ปัญญาเยถาติ"แล้วให้สวดต่อไปดังนี้)
* จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะโต (ผู้หญิงว่า ตา) เราทั้งหลายขอยึดเอาพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ปรินิพพานนานแล้วพระองค์นั้น เป็นที่พึ่ง ธัมมัญจะ ภิกขุ สังฆัญจะ ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ ขอยึดเอาพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ด้วย เป็นที่พึ่ง และกำหนดถึงรัตนะทั้งสามนั้นไว้ในใจอยู่ และปฏิบัติตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ตามสติปัญญาและตามกำลัง สา สา โน ปะฏิปัตติ ขอการปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะสังวัตตะตุ จงเป็นไปเพื่อการกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้เถิดฯ |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
เขมะเขมะสะระณะคะมะนะปะริทีปิกาคาถา (นำ) หันทะ มะยัง เขมาเขมะสะระณะคะมะนะปะริทีปิกาคาถาโย ภะณามะ เสฯ ..................................พาหุง เว สะระณัง ยันติ..............ปัพพะตานิ วะนานิ จะ ..................................อารามะรุกขะเจต๎ยานิ................มะนุสสา ภะยะตัชชิตา (มนุษย์ทั้งหลายจำนวนมาก เมื่อถูกภัยคุกคาม ก็พากันยึดเอาภูเขาและป่าไม้เป็นที่พึ่งบ้าง ยึดเอาสวน ต้นไม้และเจดีย์เป็นที่พึ่งบ้าง) ..................................เนตังโข สะระณัง เขมัง..............เนตัง สะระณะมุตตะมัง .........................(การหาที่พึ่งเช่นนั้น ไม่ใช่ที่พึ่งอันพ้นจากภัย สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ที่พึ่งสูงสุด) ..................................เนตัง สะระณะมาคัมมะ..............สัพพะทุกขา ปะมุจะติ .....................................(การอาศัยที่พึ่งเช่นนั้น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวง) ..................................โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ..........สังฆัญจะ สะระณัง คะโต .................................(ส่วนผู้ใดยึดเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง) ..................................จัตตาริ อารยะสัจจานิ................สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ ..................................ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง............ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง ..................................อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง.............ทุกขูปะสะมะคามินัง ..................................(ผู้นั้นย่อมเห็นอริยสัจ คือ ความประเสริฐ ๔ อย่าง ด้วยปัญญาอันชอบ ...................คือ เห็นทุกข์ เห็นเหตุให้เกิดทุกข์ เห็นความข้ามพ้นจากทุกข์ และเห็นหนทางอันประเสริฐ ๘ ประการ ..............................................อันเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์) ..................................เอตัง โข สะระณัง เขมัง.............เอตัง สะระณะมุตตะมัง ...........(การยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนั้น ยอมเป็นที่พึ่งอันพ้นจากภัยทั้งปวง พระรัตนตรัยนั้นเป็นที่พึ่งอันสูงสุด) ..................................เอตัง สะระณะมาคัมมะ........,.....สัพพะทุกขา ปะมุจจะตีติ ..............................(การอาศัยพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนั้น ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้แล) |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ปฐมพุทธะวะจะนะ
อะเนกะชาติสังสารัง..............สันธาวิสสัง อะนิพพิสัง คะหะการัง คะเวสันโต...........ทุกขา ชาติ ปุนัปปุนัง คะหะการะกะ ทิฏโฐสิ...........ปุนะ เคหัง นะ กาหะสิ สัพพา เต ผาสุกา ภัคคา........คะหะกุฏัง วิสังขะตัง วิสังขาระคะตัง จิตตัง............ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคาติ |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
อภิธัมมะนิทาน
กะรุณา วิยะ สัตเตสุ.................ปัญยายัสสะ มะเหสิโน เญยยะธัมเมสุ สัพเพสุ..............ปะวัตติตถะ ยาถารุจิง ทะยายะ ตายะ สัตเตสุ..............สะมุสสาหิตะมะนะโส ปาฏิเหราวะสานัมหิ.................วะสันโต ติทะสาละเย ปาริจฉัตตะกะมูนัมหิ.................ปัณฑุกัมพะละนามะเก สิลาสะเน สันนิสินโน................อาทิจโจวะ ยุคันธะเร จักกะวาฬะสะหัสเสหิ................ทะสะหาคัมมะ สัพพะโส สันนิสินเนนะ เทวานัง...............คะเณนะ ปะริวาริโต มาตะรัง ปะมุขัง กัต๎วา...............ตัสสา ปัญญายะ เตชะสา อะภิธัมมะกะถัง มัคคัง...............เทวานัง สัมปะวัตตะยิ ตัสสะ ปาเท นะมัสสิต๎วา............สัมพุทธัสสะ สิรีมะโต สัทธัมมัญจัสสะ ปูเชต๎วา............กัต๎วา สังฆัสสะ จัญชะลิง นิปัจจะการัสเส ตัสสะ...............กะตัสสะ ระตะนัตตะเย อานุภาเวนะ โสเสต๎วา...............อันตะราเย อะเสสะโต อิติ เม ภาสะมานัสสะ ................อะภิธัมมะกะถัง อิมัง อะวิกขิต๎วา นิสาเมถะ................ทุลละภา หิ อะยัง กะถา ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา เทเวสุ วิหะระติ ตาวะติงเสสุ ปาริจฉัตตะกะมูลัมหิ ปัณฑุกัมพะละสิลายัง ตัต๎ระ โข ภะคะวา เทวานัง ตาวะติงสานัง อะภิธัมมะกะถัง กะเถสิ จิตตะวิภัตติรูปัญจะ...................นิกเขโป อัตถะโชตะนา คัมภีรัง นิปุณัง ฐานัง.................ตัมปิ พุทเธนะ เทสิตัง ฯ |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
ทำวัตรพระ
โย สันนิสินโน วะระโพธิมูเล มารัง สะเสนัง สุชิตัง วิเชยยะ สัมโพธิมาคัจฉิ อันตะญาโณ โลกุตตะโม ตัง ปะณะมามิ พุทธัง เย จะ พุทธา อะตีตา จะ เย จะ พุทธา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย พุทธา อะหัง วันทามิ สัพพะทา อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเททวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ปาทะปังสุง วะรุตตะมัง พุทเธ โย ขะลิโต โทโส พุทโธ ขะมะตุ ตัง มะมัง อัฏฐังคิโก อะริยะปะโถ ชะนานัง โมกขัปปะเวสายะ อุชู จะ มัคโค ธัมโม อะยัง สันติกะโร ปะณีโต นิยยานิโก ตัง ปะณะมามิ ธัมมัง เย จะ ธัมมา อะตีตา จะ เย ธัมมา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย ธัมมา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย ธัมมา อะหัง วันทามิ สัพพะทา ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ธัมมัญจะ ทุวิทัง วะรัง ธัมเม โย ขะลิโต โมโส ธัมโม ขะมะตุ ตัง มะมัง สังโฆ วิสุทโธ วะระทักขิณยโย สันตินท๎ริโย สัพพะมะลัปปะหีโน คุเณหิ เนเกหิ สะมิทธิปัตโต อะนาสะโว ปะณะมามิ สังฆัง เย จะ สังฆา อะตีตา จะ เย จะ สังฆา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย สังฆา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอาสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง สังฆัญจะ ทุวิธุตตะมัง สังเฆ โย ขะลิโต โทโส สังโฆ ขะมะตุ ตัง มะมัง อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ท๎วัตติงสาการะปาโฐ
อัตถิ อิมัส๎มิง กาเย เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ มัสัง นะหารู อัฏฐี อัฏฐิมิญชัง วักกัง หะทะยัง ยะกะนัง กิโลมะกัง ปิหะกัง ปัปผาสัง อันตัง อันตะคุณัง อุทะริยัง กะรีสัง ปิตตัง เสมหง ปุพโพ โลหิตัง เสโท เมโท อัสสุ วะสา เขโฬ สิงฆาณิกา ละสิกา มุตตัง มัตถะเก มัตถะลุงคันติ ฯ |
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะปาฐะ
(นำ) หันทะ มะยัง ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะ ปาฐัง ภะณามะเส ฯ ปะฏิสังขา โยนิโส จีวะรัง ปะฏิเสวามิ (เราพิจารณาโดยอุบายอันชอบแล้ว จึงนุ่งห่มจีวร คือ) ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ (นุ่งห่มเพียงเพื่อป้องกันความหนาว) อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ (เพียงเพื่อป้องกันความร้อน) ฑังสะมะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ (เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งอันเกิดจากเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย) ยาวะเทวะ หิริโกปินะปะฏิจฉาทะนัตถังฯ (และนุ่งห่มเพียงเพื่อปกปิดอวัยวะอันให้เกิดความละอายเท่านั้น ไม่ได้นุ่งห่มเพื่อความสวยงามแต่อย่างใด) ปะฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฎิเสวามิ (เราพิจารณาโดยอุบายอันชอบแล้ว จึงบริโภคอาหาร คือ) เนวะ ท๎วายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ (เราจักไม่บริโภคอาหารเพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนาน ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเมามันเกิดพลังทางกาย ไม่บริโภคเพื่อทำให้ร่างกายผ่องใส) ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ยาปะนายะ วิหิงสุปะระติยา พ๎รัห๎มะจะริยานุคคะหายะ (เราบริโภคอาหารเพียงเพื่อให้ร่างกายนี้ดำรงอยู่ได้ เพื่อเลี้ยงชีวิตตามฐานะของตน เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องลำบาก เพื่อจะได้มีกำลังในการประพฤติพรหมจรรย์ต่อไป) อิติปุรานัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ (ด้วยการพิจารณาอย่างนี้แล้วจึงบริโภคอาหาร เราย่อมระงับทุกขเวทนาเก่า คือ ความหิวลงเสียได้ และไม่ทำให้ทุกขเทวนาใหม่เกิดขึ้นได้) ยาต๎รา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตะ จะ ภาสุวิหาโร จาติ ฯ (การดำเนินชีวิตให้เป็นไปโดยสะดวกสบายตามอัตภาพ และความไม่มีโทษตลอดถึงความเป็นอยู่โดยผาสุก จักมีแก่เราด้วยประการฉะนี้แล) ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง ปะฏิเสวามิ (เราพิจารณาโดยอุบายอันชอบแล้ว จึงใช้สอยเสนาสนะที่อยู่อาศัย คือ) ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ (อาศัยอยู่เพียงเพื่อป้องกันความหนาว) อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ (เพียงเพื่อป้องกันความร้อน) ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ (เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งอันเกิดจากเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย) ยาวะเทวะ อุตุปะริสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถัง ฯ (และเพียงเพื่อบรรเทาอันตรายอันเกิดจากดินฟ้าอากาศ และเพื่อให้จิตใจมีความยินดีในการออกหลีกเร้นสำหรับภาวนาเท่านั้น) ปะฏิสังขา โยนิโส คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารัง ปะฏิเสวามิ (เราพิจารณาโดยอุบายอันชอบแล้ว จึงใช้ยารักษาโรคอันเกิดแต่ความป่วยไข้ คือ) ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ (เพียงเพื่อระงับทุกขเวทนาอันเกิดจากความเจ็บป่วยต่าง ๆ) อัพ๎ยาปัชฌะปะระมะตายาติ ฯ (และเพียงเพื่อความเป็นผู้ไม่มีโรคเบียดเบียนเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้แล ฯ) |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
ปัตติทานะคาถา
(นำ) หันทะ มะยัง ปัตติทานะคาถาโย ภะณามะ เส ฯ ยาเทวะตา สันติ วิหาระวาสินี เทวดาเหล่าใด ที่ประจำอยู่ ณ สถานที่อยู่แห่งนี้ ถูเป ฆะเร โพธิฆะเร ตะหิง ตะหิง และที่สิงสถิตอยู่ในเรือน พระสถูปเจดีย์ และเรือนโพธิ์ ในที่นั้น ๆ ตะ ธัมมะทาเนนะ ภะวันตุ ปูชิตา เราได้บูชาเทวดาเหล่านั้น ด้วยธรรมทานแล้ว โสตถิง กะโรนเตธะ วิหาระมัณฑะเล ขอท่านจงกระทำความสวัสดี ให้เกิดมีในสถานที่อยู่นี้ด้วยเถิด เถรา จะ มัชฌา นะวะกา จะ ภิกขะโว พiะภิกษุทั้งหลาย ที่เป็นพระเถระ ที่เป็นพระมัชฌิมะ และที่เป็นพระนวกะ สารามิกา ทานะปะตี อุปาสะกา อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายผู้เป็นเจ้าของทาน พร้อมทั้งคนที่อยู่ในวัด คามา จะ เทสา นิคะมา จะ อิสสะรา ชนทั้งหลายที่เป็นชาวบ้าน ที่เป็นชาวเมืองใหญ่ ที่เป็นชาวเมืองเล็ก และชนผู้เป็นใหญ่ทั้งหลาย สัปปาณะภูตา สุขิตา ภะวันตุ เต ขอให้ท่านผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลายเหล่านั้น จงเป็นผู้ถึงความสุขเถิด ชะลาพุชา เยปิ จะ อัณฑะสัมภะวา.................สังเสทะชาตา อะถะโวปะปาติกา แม้สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดที่เกิดจากในครรภ์ ที่เกิดจากในไข่ ที่เกิดจากในที่ชื้นแฉะ และสัตว์ที่เกิดผุดขึ้นดุจลอยมาก็ดี นิยยานิกัง ธัมมะวะรัง ปะฏิจจะ เต.................สัพเพปิ ทุกขัสสะ กะโรนตุ สังขะยัง ฯ ขอสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นแม้ทั้งหมด จงได้อาศัยพระธรรมอันประเสริฐ อันสามารถช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้นั้นแล้ว สามารถกระทำกองทุกข์ให้สิ้นไปเถิด ฐาตุ จิรัง สะตัง ธัมโม..............................ธัมมัทธะรา จะ ปุคคะลา ขอให้พระธรรมของสัตบุรุษทั้งหลาย จงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน และขอให้บุคคลทั้งหลายผู้ทรงธรรม จงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน สังโฆ โหตุ สะมัคโค วะ............................อัตถายะ จะ หิตายะจะ ขอพระสงฆ์จงเป็นผู้มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกันทั้งหมด เพื่อประโยชน์และเพื่อความสุขอันเกื้อกูลแก่สัตว์โลก อัมเห รักขะตุ สัทธัมโม............................สัพเพปิ ธัมมะจาริโน ขอพระธรรมจงรักษาเราทั้งหลายทั้งปวงผู้ประพฤติธรรมอย่างสม่ำเสมอ วุฑฒิง สัมปาปุเณยยามะ..........................ธัมเม อะริยัปปะเวทิเต ฯ ขอเราทั้งหลายจงถึงความเจริญในธรรมที่พระอริยเจ้าแสดงไว้แล้วเถิด ปะสันนา โหนตุ สัพเพปิ...........................ปาณิโน พุทธสาสะเน ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา สัมมา ธารัง ปะเวจฉันโต..........................กาเล เทโว ปะวัสสะตุ ขอฝนจงหลั่งลงมาโดยสม่ำเสมอ และจงตกต้องตามฤดูกาล วุฑฒิภาวายะ สัตตานัง............................สะมิทธัง เนตุ เมทะนิง ขอฝนจงนำความสมบูรณ์พรั่งพร้อมมาสู่แผ่นดิน เพื่อความเจริญแก่สัตว์ทั้งหลาย มาตา ปิตา จะ อัต๎ระชัง...........................นิจจัง รักขันติ ปุตตะกัง บิดามารดาย่อมรักษาบุตรที่เกิดในตนเป็นนิจฉันใด เอวัง ธัมเมนะ ราชาโน............................ปะชัง รักขันตุ สัพพะทา ฯ ขอพระราชาทั้งหลาย จงรักษาและปกครองประชาชนโดยธรรมฉันนั้นตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
คำอุทิศส่วนกุศล
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า เทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา ส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
คำขอขมาพระรัตนตรัย
อุกาสะ วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ท๎วารัตตะเยนะกะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม เป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว สังฆัง นะมามิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระอริยสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า |
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์เสียงไว้เพื่อสวดมนต์ที่บ้าน หรือเก็บไว้บนอุปกรณ์ของท่าน โดยคลิกขวาที่ลิ้งค์
http://www.sapanboon.com/audio/Thamw...ng_Tuesday.mp3 แล้วเลือก "Save as" หรือ "บันทึกเป็น" นะครับ |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มัคคนายก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|