กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-09-2009, 10:21
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,611 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default การรักษาศีล ๘ และโทษของอาหารมื้อเย็น

ถาม : ถ้าเกิดถือศีลแปดแล้วข้อ ๖, ๗, ๘ นี่พร่องเล็กน้อย กับถือศีลห้าแล้วสมบูรณ์อย่างนี้ อันไหนกำไรกว่ากัน ?
ตอบ : ศีลแปดกำไรกว่า เพราะบกพร่องเล็กน้อยก็จริง แต่ส่วนดีมีมากกว่า ศีลแปดคุมศีลห้าอยู่แล้ว มากกว่าอยู่แล้ว จริง ๆ แล้วศีลแปดมีเก้าข้อ นัจจะคีตะวาฯ กับมาลาคันธะฯ สองข้อนี้เขารวบเป็นข้อเดียวกัน ค่อย ๆ ทำไป เดี๋ยวเกิดความเคยชินก็จะทรงตัวไปได้เอง

ถาม : ตรงข้อแปดนะคะ อุจจาสะยะนะฯ เวลาที่เรานอน นอนเป็นที่นอนนุ่ม ถ้าอย่างเราปวดหลังละคะ เรานอนกับพื้นธรรมดาแล้วเราปวดหลัง ?
ตอบ : นอนไปเถอะ หนาสักคืบหนึ่งก็ได้ ที่นอนสูงที่นอนใหญ่ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี เขาหมายความตามอรรถกถาท่านบอกว่าคืบหนึ่ง คืบหนึ่งสมัยก่อนคือ ๑๒ นิ้ว เป็นฟุตเลย จริง ๆ แล้วที่ท่านห้าม เพราะท่านกลัวว่าจะติดสัมผัส คือว่าถึงเวลาแล้วจะติดเย็นติดร้อน อ่อนแข็ง ไม่ได้ไม่มีก็ดิ้นรนต้องให้ได้มา จิตใจก็จะไปฟุ้งซ่านถึงตรงจุดนั้น ถ้าไม่ติด..เรารู้ว่าร่างกายของเราเจ็บป่วยอยู่ ไม่ใช่ข้ออ้างที่เราอ้างขึ้นมาเพื่อที่จะติดสุขตรงนั้น ก็นอนไปเถอะ

ถาม : อย่างนั้นเราก็สามารถอย่างเช่นว่า สมาทานศีลแปดตั้งแต่เช้าถึงเย็น แล้วเย็นเป็นคนที่ต้องกินข้าวทุกมื้อ แล้วก็ต้องกินข้าวเย็น ก็คือลาแล้วก็กินข้าวได้ ?
ตอบ : อ๋อ..ไม่ต้องลาหรอก อนุญาตให้กินได้เลย รักษาเป็นเวลายังดีกว่าไม่รักษาเลย

ถาม : แล้วก็สมาทานศีล ?
ตอบ : สมัยก่อนบวชอาตมาเคยเป็นอย่างนี้อยู่ช่วงหนึ่ง คือมาไล่ไปไล่มา เอ๊ะ..ของเรานี่ศีลแปดชัด ๆ เลย เพียงแต่เสียเวลาไปกินข้าวเย็นอยู่สิบนาทีแค่นั้นเอง เลยตัดสินใจไม่กินตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ก็เป็นอันว่าจบ แม้แต่ประเภทที่ว่าวินาที สองวินาทีก็ได้ เพราะว่าอานุภาพของศีลแปดสูงกว่าศีลห้ามาก อานิสงส์มากกว่า รักษาขนาดนั้นของเรานี่ ถ้ายังไม่ละอาหารเย็น เท่ากับว่าเราขาดแค่ครู่เดียวในแต่ละวัน

ถาม : ไม่ต้องลาใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องลาหรอก ถึงเวลาก็ขออนุญาตกินครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่ต้องสมาทานใหม่หรอก เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไรก็งดเว้นต่อไป แต่ถ้าจะเอาจริงเอาจังก็ต้องเว้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเล่นสนุก นึกจะกินข้าวเย็นก็ลามากิน จะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัย..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 286 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-09-2009, 10:22
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,611 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราไม่ได้สมาทานศีล เราไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล แต่บังเอิญที่นอนที่บ้านก็ไม่หนา ข้าวก็กินครู่เดียว ทีวีเสียไม่ได้ดูอะไรแบบนี้ ?
ตอบ : กุศลไม่มี

ถาม : คะ..? ผลไม่มี ?
ตอบ : ขาดเจตนา คือ ตัวตั้งใจ ในเมื่อไม่ได้ตั้งใจที่จะละ ผลบุญก็ไม่มี

ถาม : ถึงแม้จะตรงตามนั้นก็ตาม ?
ตอบ : ในบาลีก็บอกชัดแล้ว เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญังวทามิ ต้องเจตนาคือตั้งใจ ถึงจะเป็นบุญ

ถาม : ถ้าตั้งใจละ แต่ปวดท้องเพราะหิว ?
ตอบ : แล้วสิ่งที่ท่านอนุญาตให้กินได้ ให้ฉันได้ก็เยอะแยะไป เพียงแต่ว่าเราคิดที่จะกินข้าวท่าเดียว

ถาม : แล้วอย่างบางคนไม่กินข้าวแต่กินนมเยอะ ๆ ?
ตอบ : ท่านให้รู้จักประมาณในการกิน มีอยู่คนหนึ่ง รู้สึกว่าจะเป็นลูกศิษย์อาจารย์โอ๋ ? (อาจารย์บุปผชาติ พงษ์ประดิษฐ์) เจ้านั่นรักษาศีลแปด กำหนดเอาว่า เวลากินข้าวมื้อสุดท้ายคือบ่ายสอง ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสองเขาฟาดไปสิบกว่าหน ถ้าอย่างนั้นคุณรักษาศีลห้าดีกว่า ไม่เปลืองมาก ท่านให้มี โภชเนมัตตัญญุตา คือรู้จักประมาณในการกินด้วย

ตัวโทษของการกินอาหารเย็น จะลำบากอยู่อย่างหนึ่ง คือว่าพอถึงเวลาแล้ว เลือดทั้งหมดจะวิ่งลงไปที่กระเพาะ เพื่อไปย่อยอาหาร โบราณท่านให้ใช้คำว่าไฟธาตุ พร้อมที่จะสันดาปเพื่อเผาผลาญอาหาร

ตอนที่เลือดวิ่งลงไปที่กระเพาะ สมองจะมึนเพราะเลือดเลี้ยงอยู่น้อย จะหลับท่าเดียว ทำให้การภาวนาทุกอย่างไม่ได้อย่างที่เราต้องการ
เพราะว่าร่างกายอยู่ในสภาพที่หนักไปด้วยอาหาร ในเมื่อหนักไปด้วยอาหาร การภาวนาก็ไม่คล่องตัว เลือดลมไม่ปลอดโปร่ง จะทำให้เสียผลตรงนี้ แต่ว่าคนทั่ว ๆ ไปถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะงดเว้นได้จริง ๆ ตั้งใจรักษาศีลห้าก็ไปพระนิพพานได้


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 13:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 294 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-11-2016, 12:15
ชยาคมน์'s Avatar
ชยาคมน์ ชยาคมน์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 222
ได้ให้อนุโมทนา: 21,244
ได้รับอนุโมทนา 155,559 ครั้ง ใน 2,941 โพสต์
ชยาคมน์ is on a distinguished road
Default

กราบขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันในสิ่งที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้มากว่า ๒,๖๐๐ ปี

Yoshinori Ohsumi ได้รับรางวัลโนเบลในปี ๒๐๑๖ เพราะเขาค้นพบว่า การอดอาหาร อย่างเช่น การอดอาหารเย็น จะทำให้เซลล์เกิดกระบวนการรีไซเคิลเอาสิ่งที่เป็นส่วนเกินมาใช้และทำลายสิ่งที่ใช้การไม่ได้ในเซลล์ จึงมีผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ลดการแก่เร็วก่อนเวลาได้

ข้อค้นพบนี้ของเขาเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการผู้ตัดสินรางวัลโนเบลในปีนี้

อ้างอิงจาก http://www.pageqq.com/en/content/vie.../0-494373.html
__________________
ร่วมรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณเอง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชยาคมน์ : 17-11-2016 เมื่อ 12:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชยาคมน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
ศีล ๘, อาหารเมื้อเย็น


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว