#1
|
||||
|
||||
เล่าสู่กันฟัง ภาค ๑
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เถรีไปบ้านอนุสาวรีย์ แล้วอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ เพราะจิตมันว่อกแว่ก
ทีนี้หลวงพ่อเล็กท่านทราบ เลยเมตตาบอกว่า " ถ้าเราเพ่งสมาธิไปที่จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ จะเป็นการตัดสิ่งรบกวนข้างนอกทั้งหลาย" เถรีรีบบอกกับหลวงพ่อว่า "มันยากค่ะ" ท่านก็บอกว่า "อะไรวะ ตัวเองหาช่องไม่เจอ เราอุตส่าห์บอกช่องให้ ยังจะมาบอกว่ายากอีก..!" แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-05-2010 เมื่อ 11:21 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
นอกจากนี้ ท่านยังเล่าถึงเรื่องของหลวงปู่มหาอำพัน
ท่านบอกว่าลูกศิษย์บางคนอยู่กับหลวงปู่มาตั้งหลายปี แต่ไม่ได้อะไรจากท่านไปเลย เพราะว่าบางอย่างหลวงปู่ท่านทำให้ดูเลย เช่น หลวงปู่หยิบหนังสือมาอ่านให้ดู อ่านไปอ่านมาจนเพลิน จึงมีคนมาบอกท่านว่า ได้เวลาทำวัตรแล้ว หลวงปู่ก็ "อ้าว สองทุ่มแล้วหรือ ?" เพราะหลวงปู่มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ตัดขาดจากสิ่งภายนอก ท่านทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง หลวงพ่อเล็กท่านก็บอกว่า ตัวท่านเองทำให้คนอื่นดูด้วย ว่าท่านทำอย่างไร คนที่จะเป็นผู้นำได้นะ ต้องสอนให้ตาม ทำให้ดู อยู่ให้เห็น และตายให้เป็น หลวงพ่อเล็กก็กระซิบบอกว่า ตัวท่านเอง "เหลือแค่ตายให้เป็น....อีกไม่นานหรอก" แล้วท่านก็ยิ้มกริ่มตามแบบของท่าน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:21 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
เถรีเคยเล่าให้พี่ทิดตู่ฟัง ตอนไปงานศพคุณแม่ของหลวงพ่อเล็ก หลวงพ่อบอกว่า " อาตมาเคยจมน้ำตายตอนสองขวบ พอจมไปสมองขาดออกซิเจน สติปัญญาบางส่วนเลยหายไป นี่ขนาดหายไปนะ ถ้าอาตมาไม่จม คงอยู่บนโลกนี้ไม่ได้ ต้องไปอยู่ต่างดาว เพราะเก่งเกินคน "
พี่ทิดตู่ก็ว่า " รู้จักท่านมาเป็นสิบปียังไม่เคยเจอใครเหมือนท่านเลย นอกจากหลวงพ่อนะ" "สมัยก่อนอยู่กับท่านนะประจำเลย พอเขาว่ากันว่า เครื่องนั่นเครื่องนี่ เป็นของรุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมใหม่ อ่านเจอในหนังสือ ท่านว่า เดี๋ยวคุณดูสิ ผมอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็มีคนเอามาให้ พอไปสักไม่กี่วันก็เอามาโชว์แล้ว "นี่..โยมเขาเอามาถวาย ผมพูดผิดซะที่ไหน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:22 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล็กเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อฤๅษีให้ฟังว่า หลวงพ่อฤๅษีเป็นพระที่มีความจำดีมาก ตอนนั้นหลวงพ่อฤๅษีท่านไปงานศพ แล้วมีวงปี่พาทย์ ท่านก็ชอบ ไปขอเรียนกับเขา แต่เขาไม่ให้เรียน หลวงพ่อฤๅษีก็เลยคิดว่า ไม่ให้เรียน อาศัยฟังเองก็ได้
เขาตีตอนเช้า ท่านก็ฟังพอที่จะจำได้บ้าง..... ตอนเพลเขาเล่นซ้ำเพลงเดิม จำได้เลย.... ตอนเย็นเล่นซ้ำอีกเที่ยว ได้ทวนย้ำ ทีนี้ละแม่นยำเลย..... สรุปว่าหลวงพ่อฤๅษีท่านไม่ต้องไปขอเขาเรียน เล่นเองได้เลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-05-2010 เมื่อ 11:20 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
สลดใจว่าถ้าไม่จบในชาตินี้ จะไปหาครูบาอาจารย์ที่ไหนมาเข็นศิษย์ได้อย่างนี้อีก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-04-2009 เมื่อ 22:31 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
หลวงพ่อท่านบอกว่า "ถ้ากำลังใจพร้อมที่จะสละออก สละออกในทุก ๆ เรื่อง ถ้าเรายังรู้สึกว่ายังหวงอยู่ ยังรู้สึกว่ายังจำเป็น นั่นแปลว่ากำลังใจยังไม่เต็ม หรือว่าถึงเต็มก็อาจเป็นกำลังใจสาวกภูมิทั่ว ๆ ไป แต่ถ้ากำลังใจพุทธภูมินี่ไม่ต้องพูดถึง ตัวเองไม่มีก็ไปหามาให้เขา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:25 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
หลวงพ่อบอกว่า "พระบรมสารีริกธาตุเป็นวัตถุมงคลที่สำคัญที่สุดในโลก เพราะว่าไม่มีวัตถุมงคลอะไรที่จะใกล้ชิดพระวรกายของพระพุทธเจ้ายิ่งไปกว่าพระบรมสารีริกธาตุอีกแล้ว สมัยโบราณ หายากสุด ๆ สมัยนี้ไม่รู้พวกเราบุญดีหรืออย่างไร ได้กันง่ายเหลือเกิน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:25 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
มีคนถามหลวงพ่อเล็กว่า ผ้ายันต์เกราะเพชรพับได้หรือไม่ ? ท่านบอกว่า "พับไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก ให้พับด้านที่เป็นยันต์หรือเป็นหัวใจออก ถ้าเป็นยันต์พิชัยสงครามก็เอาที่เป็นรูปพระออก ถ้าหากว่าพระที่ท่าซุงบอกพับไม่ได้ ก็บอกว่าพระที่วัดท่าซุงนั่นแหละ พับก่อนเพื่อนเขาเลย เพราะหลวงพ่อสั่งพับแล้วอัดกรอบแจกเลย ตอนที่มีธงแดงคู่กับเหรียญกูผู้ชนะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล็กท่านเล่าให้ฟังว่า มีโยมเขามาใหม่ ทีนี้หลวงพ่อยังไม่รู้จักชื่อนามสกุลของเขา ก็เลยบอกเขาว่า "เขียนชื่อนามสกุลใส่ซองให้หน่อย เดี๋ยวนายบัญชีเขาจะไม่รู้ว่าใครทำบุญ"
ท่านแซวเล่น ๆ ไปเท่านั้น ปรากฏว่ามีเสียงดังมาจากข้างหูท่านว่า "เทวดาเขาไม่ได้โง่เหมือนท่านนี่..!" หลวงพ่อเล็กหันไปดู เห็นนายบัญชียืนอยู่นั่นเอง หลวงพ่อท่านว่าไม่รู้ว่าย่องมาจากไหน แซวเล็กน้อยถึงกับมาเยือนถึงที่เลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล็กบอกว่า "ทางสายพระป่านั้น ท่านที่จะบอกให้ใช้คาถาหรือสร้างวัตถุมงคล เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ อย่างหลวงปู่มั่น ท่านกลัวว่าจะเป๋ออกนอกทาง
แต่ว่าหลวงปู่มั่นท่านเคยทำตะกรุดทองคำ ท่านให้กับโยมที่เดือดร้อนเรื่องพวกผีมารบกวน หลวงปู่มั่นบอกว่าถ้าโยมหามาได้ท่านจะเขียนให้ และโยมก็หามาได้ คนที่ได้นี่ก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ในชีวิตเลย พอ ๆ กับที่อาตมาขอหวยหลวงตาบัว ก็เป็นประวัติศาสตร์ในชีวิตจริง ๆ คนอื่นลองไปขอเถอะ โดนแหง ๆ... ที่ขอเพราะว่าอยากรู้ว่า พระที่ปฏิบัติสายวิสุทธิมรรคจริง ๆ ไม่ได้เอาฤทธิ์เอาเดช ท่านมีความสามารถอย่างนี้หรือเปล่า ? หลวงตาท่านก็รู้ว่าเราไม่ได้เล่น ท่านก็ให้ แล้วก็ออกจริง ๆ ด้วย เสียดายที่ไม่เล่น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:28 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล่าต่ออีกว่า "สมัยวัยรุ่นวิ่งรับใช้พวกท่านอยู่ ท่านชอบเรียกใช้เพราะเด็ก ๆ วิ่งคล่องดี หลวงปู่หลวงพ่อสมัยนั้นนี่เจอแทบครบทุกรูปเลย วันก่อนเปิดหนังสือ พระดีสี่ภาค รูปเปิดออกมา บอกกับโยมได้เลย รูปนี้ลักษณะอย่างนี้ มีรอยสักนี้ อะไรบอกได้หมด เพราะว่าเคยรับใช้ท่านอยู่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 15:52 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล็กเล่าว่า "หลวงพ่อวัน วัดถ้ำภูผาเหล็ก (พระอาจารย์วัน อุตตะโม) ท่านรูปร่างสูงใหญ่ ช้อนของท่านเกือบ ๆ เท่าทัพพีของเรา ช้อนกินข้าวนะ คนอื่นเขาไปใส่บาตร อาตมาถือจานไปขอข้าวพระ ก็เรามันเด็กวัด แล้วพระปฏิบัติท่านฉันในบาตร
เราก็บอกพระว่า หลวงพ่อครับขอหน่อยครับ หลวงปู่ครับขอหน่อยครับ ท่านก็ตักให้คนละช้อนสองช้อน กินไม่หมดหรอก โดยเฉพาะของพระอาจารย์วัน จ้วงมาทีก็แทบจะสองทัพพี เพราะว่าท่านเล่นจับช้อนกับส้อมคู่กันเลย ส้อมท่านอันใหญ่ " "ท่านเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านไปอยู่ที่ภูผาเหล็กใหม่ ๆ ก็ปฏิบัติด้วยการอดอาหาร ๗ วัน ทางสายนั้นที่ต้องปฏิบัติเคร่งเพราะว่า อีสานนั้นบรรดาดินฟ้าอากาศและการดำเนินชีวิตมันยากลำบาก ในเมื่อยากลำบากจึงต้องต่อสู้ให้สามารถดำรงชีวิตได้ ความเข้มแข็งในใจจึงมีมาก ในเมื่อมีมากกิเลสก็แข็งไปด้วย ถ้าไม่ทรมานจนสุด ๆ จริง ๆ ไม่มีทางที่จะยอม ทางสายนั้นจึงปฏิบัติด้วยการอดอาหาร สามวันบ้าง ห้าวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง แล้วแต่ร่างกายของใครจะทนได้ ท่านอยู่บนภูผาเหล็ก ๗ วัน ฉันแต่น้ำ พอลงมาบิณฑบาต บิณฑบาตเสร็จเดินกลับ ตอนนั้นสายมากแล้ว เดินบิณฑบาต ๗ กิโลเมตร ไปกลับก็ร่วม ๑๕ กิโลเมตร ท่านก็หยุดฉันก่อนที่ตีนเขา ฉันเสร็จท่านบอกขึ้นเขาไม่ได้ เดินไม่ออก ถามท่านว่า แล้วหลวงพ่อทำอย่างไรครับ ? ท่านบอกว่า เดินจงกรมอยู่เกือบสามชั่วโมง กว่าจะมีแรงพอเดินขึ้นเขาได้ เพราะว่าไม่ได้ฉันอยู่ ๗ วัน ฉันไปเรื่อยไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีแน่นไปหมดแล้ว เดินไม่ได้ ต้องค่อย ๆ ขยับ เดินจงกรมทีละนิด ทีละนิด "
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:31 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
มีพี่คนหนึ่งเขามาถามเรื่องเป่ายันต์กับหลวงพ่อ ประมาณว่าจะมาให้หลวงพ่อเล็กท่านทำพิธีเป่ายันต์ให้ หลวงพ่อเลยแจงรายละเอียดไป ว่าพิธีเป่ายันต์ต้องขึ้นอยู่กับพระท่านสั่ง และกระทำเฉพาะเสาร์ห้าเท่านั้น
ท่านบอกว่า "ไม่ใช่โยมคนเดียวที่เข้าใจแบบนั้น มีโยมจำนวนมากก็เข้าใจแบบนั้น เมื่อสองอาทิตย์ก่อนมีโยมจากกรุงเทพฯ เช่ารถกันไปเลย ไปขอเป่ายันต์เกราะเพชร เพราะว่ามีคนเก่งที่สามารถเป่าวันอื่นได้ ถ้าตามตำราหลวงพ่อท่านที่รับมาจากหลวงปู่ปาน เราเป่าได้เฉพาะวันเสาร์ขึ้นห้าค่ำ แต่ปรากฏว่า แม้กระทั่งพระบางรูปที่ไปหาหลวงพ่ออยู่ตลอดเป็นสิบปี ไปจัดงานเป่ายันต์ที่วัดตัวเองวันอาทิตย์ แล้วบางรูปเก่งกว่านั้นอีก ไปเมื่อไรเป่าได้ทันที ไปบูชาพานครู ๒๙๙ บาทเมื่อไรก็เป่าเมื่อนั้น บอกไปว่า ท่านทั้งหลายเก่งมาก เราสู้ไม่ได้ แต่ท่านจะทำให้เราเพี้ยนไปด้วย เพราะว่าเขาจะมาเป่าทุกวัน ขอยืนยันว่าปีนี้เป่าวันที่ ๒๗ มิถุนายน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2024 เมื่อ 16:10 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
หลวงพ่อท่านเล่าถึงท่านป๊อบ(พระประยุทธ ฐานรโต)ให้ฟังว่า ท่านป๊อบเขาป่วยเป็นเบาหวาน แต่ตามใจปากตัวเองเลยยังไม่หาย ตัดนิ้วไปแล้ว ตอนนี้ก็ลามมาเรื่อย ๆ ท่านก็เลยบอกท่านป๊อบไปว่า "ถ้าจะให้ดี ตัดทีเดียวหาย ก็ตัดหัวไปเลย"
ตอนท่านป๊อบไปนอนที่โรงพยาบาล กำลังทำวัตรค่ำอยู่ ท่านป๊อบก็โทรมา "อาจารย์ครับขอเณรเฝ้าผมหน่อย" หลวงพ่อท่านเลยบอกว่า "เฮ้ย ไม่ให้....หมด" ท่านป๊อบบอกว่า "ถ้าไม่มีเณรเฝ้า หมอจะไม่ให้นอนโรงพยาบาล" ท่านเลยบอกว่า " เออ อย่างนั้นเอ็งคลานกลับมาตายที่วัด" หลวงพ่อเล็กบอกว่า รู้ว่าไม่ใช่หมอสั่ง แต่เป็นตัวเขาเองที่อยากกินอะไรก็จะใช้ให้เณรไปวิ่งซื้อ ทีนี้พอท่านไม่ให้เณรไป ท่านบอกว่า "ท่านน้อยใจเลยหนีกลับบ้าน วันก่อนแม่เขามาทำบุญก็ฝากแม่เขาไปบอกท่านป๊อบว่า อยู่บ้านตายก็ลำบาก..เดือดร้อนพ่อแม่ ไปอยู่วัดดีกว่า เณรก็มี เพื่อนพระช่วยสวดให้ฟรี ๆ ด้วย " แล้วท่านก็หัวเราะชอบใจ " รู้ว่าเดี๋ยวท่านเตลิดไปไกล พอเราพูดคำเดียวเดี๋ยวก็กลับมาหา" หลวงพ่อบอกว่า เวลารู้อะไรแล้วก็สนุกอยู่อย่างหนึ่ง คือ ปั่นคนอื่นเล่นได้ แต่อย่าทำบ่อย เดี๋ยวกรรมสนอง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2024 เมื่อ 16:10 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล็กท่านกล่าวถึงในเรื่องการสร้างพระว่า ท่านพยายามสร้างให้ดีที่สุด สร้างออกมาคนจะรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม แต่ถ้าสร้างออกมาสวย คนจะศรัทธา จึงต้องยอมลงทุน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:35 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เคยบอกว่า คนเราเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องเสมอ แต่ผลการคิดต่างกันเพราะสติปัญญาต่างกัน ผู้ร้ายฆ่าคนก็คิดว่าเขาทำถูก..เพราะเขามีสติปัญญาแค่นั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 15:56 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ท่านแนะนำว่า เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่าระวังรักษาอารมณ์ตัวเองให้ผ่องใส เพราะอาจารย์เคยแกล้งดุว่าคนบางคนแล้วท่านพบว่า เผลอหน่อยเดียวโทสะมันมาจริง ท่านเลยไม่สนใจประโยชน์ใครทั้งนั้น นอกจากระวังจิตตัวเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:36 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
หลวงพ่อท่านบอกว่า "ตัวเราอย่าเป็นทุกข์แก่คนอื่น ทั้งกาย วาจาและใจเลย"
และ "เราวางก่อนสบายก่อน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2010 เมื่อ 17:36 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
"..ถ้าเราพึ่งตัวเองได้เมื่อไร จึงจะมีที่พึ่งที่แท้จริง.."
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 15:56 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
ท่านอาจารย์เคยพูดว่า เราต้องทำตัวเองเป็นเกาะ เป็นฝั่ง คือพึ่งตนเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 15:57 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|