#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้ ญาติโยมที่เข้าเว็บไซต์วัดท่าขนุนเพื่อร่วมบุญในกระทู้ต่าง ๆ ของห้องสะพานบุญ ก็จะพบว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ได้นำเอาวัตถุมงคลส่วนตัว ที่กระผม/อาตมภาพเรียกง่าย ๆ ว่า "ของแพง" ออกมาให้ท่านทั้งหลายได้บูชากัน
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลส่วนของวัดท่าขนุนเอง หรือว่าของครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ ซึ่งของทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพซื้อหาบูชามาด้วยเงินส่วนตัว ตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้เพื่อการศึกษา แต่เนื่องจากว่าระยะนี้ต้องใช้เงินหนักมาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน และตลาดชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยนั้น เฉพาะ ๒ แห่งนี้ รวมกันก็ตกเดือนละ ๑๐ กว่าล้านบาท จึงต้องตัดใจจากของที่ตนเองคิดว่าดีและสวย ตั้งใจเก็บเอาไว้เพื่อการศึกษา และเป็นความภาคภูมิใจเป็นส่วนตัว ก็ต้องสละออก เพื่อที่ถึงเวลาแล้วจะได้หมุนเงินทัน..! ถ้าท่านทั้งหลายบอกว่ากระผม/อาตมภาพทำพระคาถาเงินล้านขึ้นแล้ว ยังต้องหมุนเงินอีกหรือ ? ก็ต้องบอกว่า ของบางอย่างถ้าหากว่าหนักเกินกำลังตนเอง ก็ต้องหาวิธีการทำให้มีเงินเข้ามา ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ได้บูชาวัตถุมงคลเหล่านี้ไป ก็ขอให้เข้าใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น เดิมทีเป็นของที่กระผม/อาตมภาพติดเอาไว้ในย่ามบ้าง ไว้ที่หัวนอนบ้าง เพื่อบูชาเป็นการส่วนตัว ต้องเรียกว่า "ตัดใจเอาออกมาให้" ย่ามส่วนตัวทั้ง ๓ ใบ ซึ่งสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันใช้อยู่นั้น ตอนนี้ก็พร่องลงไปเกือบครึ่งแล้ว เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้าหากว่ายืนระยะไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยออกแม้กระทั่งย่ามที่ใช้งานอยู่..! ก็ถือว่าบอกกล่าวให้พวกเราได้ทราบเอาไว้ ถ้ามีเสียงรบกวนแทรกเข้ามาก็ขออภัยทุกท่านด้วย เพราะว่าบันทึกเสียงท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองอยู่ ยังดีที่ไม่เคยสาบานไว้กับใคร ไม่เช่นนั้นก็คงต้องหวาดระแวงว่าเมื่อไรฟ้าจะผ่าลงมา..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2022 เมื่อ 02:16 |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ส่วนที่อยากจะบอกกล่าวก็คือว่า มีญาติโยมที่โทรศัพท์มาปรึกษาเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว เรื่องของที่ทำงาน หรือว่าปัญหาในการปฏิบัติธรรม ตรงนี้ขออนุญาตบอกกล่าวไว้ให้ชัดเจนว่า กระผม/อาตมภาพนั้นไม่ได้รับโทรศัพท์ด้วยตนเองมาหลายปีแล้ว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าญาติโยมที่โทรมานั้น จะบอกว่าไม่รู้กาลเทศะก็ใช่ ไม่มีความเกรงใจในผู้อื่นก็ใช่ ประมาณว่า "ถ้ากูยังไม่ได้นอน คนอื่นก็ยังไม่ได้นอนด้วย" แล้วก็โทรมาตอน ๕ ทุ่มเที่ยงคืน ซึ่งตรงนั้นก็ยังไม่กระไรนัก แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กว่า "ตื่นแล้วให้ลุกเลย" จึงทำให้ไม่สามารถที่จะนอนต่อได้ ไม่ใช่หลายท่านรับโทรศัพท์เสร็จก็นอนอุตุต่อไปได้ จนบางทีคุยโทรศัพท์อะไรไว้ก็จำไม่ได้เสียอีก จึงเป็นการรบกวนอย่างมาก เพราะว่าบางวันทำงานดึก ๔ ทุ่ม ๕ ทุ่ม เพิ่งจะหลับลงไปได้ไม่ถึงอึดใจ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็เลยตัดใจเลิกรับโทรศัพท์ไปเลย ทำให้คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นเลขานุการส่วนตัว เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน และเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ต้องเดือดร้อนแทน แถมท่านใดท่านหนึ่งที่รู้จักพระภิกษุสามเณรในวัดท่าขนุน รู้จักแม่ชีหรือว่าคนวัด ก็ยังโทรไปรบกวนทางด้านนั้นอีกด้วย ท่านทั้งหลายอาจจะคิดว่าการที่กระผม/อาตมภาพไม่รับโทรศัพท์นั้นเป็นความใจร้ายใจดำ จะกล่าวเช่นนั้นก็ได้ แต่ต้องบอกว่าที่ไม่รับโทรศัพท์นั้น เพราะว่าส่วนหนึ่งไม่เห็นประโยชน์เลย ท่านที่โทรมาปรึกษานั้น สามารถแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ส่วนที่ ๑ ก็คือ มีการตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำอะไร แต่โทรมาหาพระเพื่อสอบถาม อยู่ในลักษณะของการจับพระเป็นตัวประกัน ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพเห็นด้วย ก็จะไปบอกกล่าวกับคนอื่นว่า "หลวงพ่อรับรองว่าทำได้" แต่ถึงกระผม/อาตมภาพไม่เห็นด้วย ท่านทั้งหลายก็ยังคงไปทำอยู่ดี เพราะว่าตัดสินใจจะทำเสียแล้ว ดังนั้น..ถึงบอกกล่าวอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ บอกในด้านที่ถูกใจ ท่านก็เอากระผม/อาตมภาพไปอ้างถึง บอกในด้านที่ไม่ถูกใจ ท่านก็ตัดสินใจที่จะทำอยู่ดี จึงเป็นเรื่องที่เสียเวลารับไปเปล่า ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2022 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ส่วนอีกประเภทหนึ่งนั้น ก็คือ โทรมาสอบถามเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องใช้การตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่ เรื่องของการงาน เรื่องของหัวใจ ตลอดจนกระทั่งเรื่องของการปฏิบัติธรรมที่ขัดข้องอยู่ ตรงนี้ยิ่งเหลวไหลเข้าไปใหญ่ เพราะว่าต่อให้กระผม/อาตมภาพบอกไป ท่านทั้งหลายก็ทำไม่ได้..!
อย่างเช่นว่า โทรมาบอกว่าทะเลาะกับสามี โดนทำร้ายร่างกายอยู่เสมอ กระผม/อาตมภาพก็แนะนำว่า "เลิกกับแม่งงงไปเลย..!" ท่านทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะกำลังใจไม่ถึง ยังห่วงหาอาวรณ์ รู้สึกว่าโดนทำร้ายมาแค่นี้ยังไม่พอ ยังอยากจะโดนต่อไปอีกหลายปี..! เป็นต้น หรือว่าท่านทั้งหลายที่ติดขัดในการปฏิบัติธรรม เมื่อบอกกล่าวไปแล้ว กำลังใจของท่านไม่ถึงตรงจุดนั้น ตะเกียกตะกายอย่างไรก็ไม่ผ่าน เรียกว่าปรึกษาไปก็ไร้ประโยชน์ เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพสามารถแบกข้าวสาร ๑๐๐ กิโลกรัมได้สบาย ๆ แต่ท่านทั้งหลายให้แบกถุงละ ๕ กิโลกรัม ๒ ถุงก็หนักหนาสาหัสแล้ว เมื่อมาถามถึงวิธีแบกข้าวสารถุงละ ๕๐ กิโลกรัม หรือว่า ๑๐๐ กิโลกรัม ต่อให้กระผม/อาตมภาพบอกให้ปากฉีกถึงหู ก็เชื่อว่าท่านทั้งหลายยังคงทำไม่ได้อยู่ดี กระผม/อาตมภาพจึงไม่เห็นประโยชน์ในการรับโทรศัพท์ และทำให้โทรศัพท์ของกระผม/อาตมภาพนั้น ถึงแม้ว่าจะตกรุ่นมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว แต่ก็ยังใหม่เอี่ยมพร้อมใช้อยู่เสมอ เพราะว่าถ้ามีธุระสำคัญถึงจะเปิดออกโทร แล้วก็ปิดทิ้งต่อไปตามเดิม ดังนั้น..ถือว่าใช้เครื่องน้อยมาก ถ้าเป็นรถยนต์ก็ถือว่ายังอยู่ในระยะ "รันอิน" อยู่เลย แต่เป็นการดีตรงที่ว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อของใหม่อยู่เรื่อย เพราะว่าของเก่ายังคงใช้ได้ดีเหมือนเดิม อีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกกล่าวแก่ท่านทั้งหลายก็คือว่า เรื่องของกำลังใจ เพราะว่าวัตถุมงคลหลายต่อหลายอย่างนั้น ต่อให้กำลังใจเท่ากัน ถ้าสร้างบุญบารมีมาต่างกัน ก็ยังทำให้ได้รับผลไม่เท่ากัน อย่างเช่นว่า ถ้าเราไปใช้วัตถุมงคลด้านที่เกี่ยวกับลาภผลเงินทอง บุคคลที่เคยสร้างทานบารมีมามาก ย่อมได้รับมากกว่า มีความคล่องตัวมากกว่า เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2022 เมื่อ 02:29 |
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
อีกส่วนหนึ่งก็คือ กำลังใจที่ไม่เท่ากัน ทำให้ท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะเข้าถึงพลังงานของวัตถุมงคลได้อย่างแท้จริงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือ ไม่รู้จักพลิกแพลง ทำตนเป็นบุคคลเถรตรง
อย่างเช่นบางคน ถึงเวลาต้องอาราธนาพระก่อนออกจากบ้าน ก็ใช้วิธีอาราธนาเสียงดัง ปรากฏว่าเมื่ออาราธนาเสียงดัง ก็โดน "ขันธมาร" กลั่นแกล้ง อย่างเช่นว่า ทำให้มีเสลดติดคอบ้าง ทำให้เสียงแหบแห้งบ้าง แทนที่ท่านทั้งหลายจะอาราธนาในใจ กลับไปตะเบ็งเสียงเพื่อที่จะให้ดังเท่าเดิม แล้วก็ไปรบกวนห้องที่พักอยู่ข้าง ๆ หรือว่าบ้านใกล้เรือนเคียงของตน แล้วก็มีการโดนกระแนะกระแหน "แทะหัว" กันมา เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง สร้างศัตรูกับคนรอบข้าง โดยที่ไม่ได้พิจารณาว่าตนเองใช้วิธีที่ผิด แล้วยังมาถามผิด ๆ อีกด้วยว่า "จะแก้ไขอย่างไรในการอาราธนาแล้วไม่ให้คนข้างบ้านเขาเดือดร้อน ?" กระผม/อาตมภาพใช้คำว่า "ไม่มีวัวปนเลย..!" ซึ่งท่านทั้งหลายก็คงจะเข้าใจว่าบุคคลประเภทนี้เป็นอย่างไร ? ในเมื่อกำลังใจไม่เท่ากัน วิธีการที่ใช้ไม่ถูกต้อง ก็ทำให้ท่านทั้งหลายเข้าถึงพลังของวัตถุมงคลได้ไม่เหมือนดังที่กระผม/อาตมภาพได้กล่าวเอาไว้ อย่างเช่นในเรื่องของแมลงภู่คำ ซึ่งกระผม/อาตมภาพมีติดรถเอาไว้ ๒ ตัวเป็นประจำ เพื่อให้ท่านทั้งสองช่วยดูแลให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง และมีความปลอดภัย กระผม/อาตมภาพได้มีการอุทิศส่วนกุศลให้อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็อาราธนาใช้ด้วยกำลังใจของตนเอง ทำให้แมลงภู่คำคู่นี้ แสดงในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเป็นปาฏิหารย์ อย่างเช่นว่า เปิดเสียงสวดมนต์ฟังเองบ้าง ถ้าหากว่าเสียงสวดมนต์ จังหวะที่กระผม/อาตมภาพเปิดให้นั้นสั้นเกินไป ก็กดเปลี่ยนเองเสียบ้าง..! เหล่านี้เป็นต้น และโดยเฉพาะเมื่อถึงเวลามีอันตรายมา บางทีก็มาปรากฏตัวให้เห็นอย่างชัดเจน หรือว่าบอกกล่าวเป็นเสียงต่อคนขับรถ เพื่อที่จะให้หลีกเลี่ยงจากอันตรายทั้งหลายเหล่านั้นไปได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2022 เมื่อ 02:32 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ท่านทั้งหลายเอาไปใช้ให้ตายก็ไม่ได้ขนาดนี้ เพราะท่านทั้งหลายไม่เข้าใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้นก็เหมือนกับคนเรา ถ้าหากว่าได้รับอาหารอยู่เสมอ ก็มีความแข็งแรง พร้อมที่จะให้ใช้งาน
กระผม/อาตมภาพใช้วิธีอุทิศส่วนกุศลให้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตร เจริญพระกรรมฐาน ตลอดจนกระทั่งสร้างกองบุญการกุศลอื่น ๆ ก็อนุญาตให้พวกเขาโมทนา แล้วในเวลาเดินทางก็ยังเปิดเสียงสวดมนต์ให้ฟังอยู่ทุกวัน เป็นต้น ท่านทั้งหลาย นอกจากอาราธนาด้วยกำลังใจที่เข้าไม่ถึงอานุภาพวัตถุมงคลอย่างแท้จริง ซ้ำยังไม่รู้วิธีที่จะเพิ่มพลังของสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ด้วย ก็ทำให้ท่านไม่สามารถที่จะใช้ได้อย่างเต็มที่ เหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้กล่าวไว้ แล้วหลายท่านก็อาจจะมีการมาต่อว่า โดยที่ไม่ได้ดูว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงบางคนทำไมถึงใช้ได้ดีกว่าเรา ในเมื่อเข้าไม่ใจถึงเหตุ ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง แล้วเราจะได้รับผลเหมือนคนอื่นได้อย่างไร ? สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2022 เมื่อ 02:34 |
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|