|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๘
ถาม : การภาวนาแบบมีสติแนบกับจิตตลอดวันควรทำอย่างไร ? เพราะชีวิตประจำวันต้องทำงานอย่างอื่นร่วมด้วย
ตอบ : มี ๒ วิธี วิธีแรกก็คือภาวนาให้ถึงระดับปฐมฌานละเอียด ความรู้สึกของเราจะภาวนาเองโดยอัตโนมัติ แค่เอาสติกำกับตามไปก็พอ อีกประการหนึ่งก็คือฝึกซ้อมการแยกจิตให้ทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน สภาพจิตส่วนหนึ่งประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์อยู่กับการภาวนา อีกประมาณ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ให้ทำงานในชีวิตประจำวันไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : การที่ลืมใส่บาตรวิระทะโยบางวัน เราจึงใส่ย้อนหลังในวันที่ขาด ถือว่าเป็นการใส่ทุกวันหรือไม่ ?
ตอบ : ภาวนาคาถาให้ครบตามที่ตั้งใจเอาไว้ก็แล้วกัน ถือว่าแปะคืนตรงที่แหว่ง ๆ ไปบ้าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : การทำบุญระยะแรกมีความตั้งใจทำ ระยะที่ ๒ ทำไปแล้วไม่เป็นที่พอใจด้วยสาเหตุบางประการ ระยะที่ ๓ คิดว่าไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ความคิดในการทำบุญลักษณะอย่างนี้อานิสงส์จะเป็นอย่างไร ?
ตอบ : พร่องไปหน่อยหนึ่ง จะเอาอานิสงส์เต็มก็คือ ก่อนทำมีความปีติว่าจะได้ทำบุญนั้น ระหว่างที่ทำมีความปีติว่าเราได้ทำบุญนั้น หลังจากทำแล้ว นึกถึงเมื่อไรก็มีความปีติว่าได้ทำบุญนั้นแล้ว เพราะฉะนั้น..ห้ามไม่พอใจ เดี๋ยวจะไปเกิดเป็นอสูร เพราะว่าอสูรคือผู้ที่มักจะทำบุญผสมด้วยโทสะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:01 |
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อเรากินผลไม้แล้วนำเมล็ดไปเพาะชำ พอต้นโตขึ้นก็นำไปถวายวัด กรณีนี้จะเป็นบาปแก่ตัวเราหรือไม่ ? หรือพอต้นโตขึ้นออกผลแล้ว นำผลไปถวายวัดจะเป็นบาปแก่ตัวเองหรือไม่ ?
ตอบ : ข้อนี้ต้องเรียกว่าฟุ้งซ่านเกินเหตุ เพราะไปคิดว่าเป็นของเหลือจากเรา หมายถึงว่าเหลือจากผลไม้ลูกนั้น สมมติว่าเราเอาแอปเปิ้ลที่กัดแหว่งคำหนึ่งไปถวายพระ อย่างน้อยก็ยังเป็นทาสทาน อานิสงส์นั้นมีอยู่ ถึงเวลาเราก็รับในส่วนที่ไม่เต็มอย่างนั้นด้วย แต่ในส่วนที่เราปลูกต้นไม้ หรือว่านำไม้ผลที่เกิดจากเมล็ดนั้นไปถวายวัด เป็นความดีโดยส่วนเดียว จึงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องบาปเรื่องกรรมกันต่อไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:02 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : ขณะที่สวดมนต์ไม่มีสมาธิ พอช่วงอุทิศส่วนกุศล บุคคลที่เราอุทิศจะได้รับหรือไม่ ? เพราะผู้สวดไม่มีสมาธิ
ตอบ : น่าคิดไหม ? สิ่งที่เราทำเป็นความดี ดังนั้น..ไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ตาม เมื่ออุทิศไป บุคคลที่เราตั้งใจให้ย่อมได้รับในส่วนกุศลนั้น เพราะว่าในขณะที่เรานั่งสวดมนต์อยู่เราทำชั่วด้วยกายไม่ได้ ขณะเดียวกันปากเราสวดมนต์อยู่ก็ทำชั่วด้วยวาจาไม่ได้ ต่อให้ใจคิดชั่ว ฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิขนาดไหนก็เสียแค่ส่วนเดียว ความดีได้ถึง ๒ ใน ๓ ส่วน เพราะฉะนั้น..อุทิศส่วนกุศลไปเถอะ อย่างไรก็มีบุญให้เขาแน่ ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ถาม : การปรามาสพระรัตนตรัยที่ไม่เจตนา แสดงว่าการปฏิบัติธรรมของเรายังพร่องในเรื่องใด และควรแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : สติบกพร่อง เพราะถ้าสติสมบูรณ์อยู่ก็ย่อมไม่ปรามาสในพระรัตนตรัย ควรแก้ไขอย่างไร ? ก็ต้องสร้างสติให้มากขึ้น วิธีสร้างสติให้มากขึ้นก็คือ การนั่งภาวนากำหนดลมหายใจเข้าออก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ถาม : ขณะที่สวดมนต์ แผ่เมตตา มีจิตผุดนึกคำด่าโดยไม่เจตนา ถือว่าบาปหรือไม่ ?
ตอบ : เราตั้งใจทำความดีอย่างที่บอกไปแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ในส่วนที่ผุดขึ้นมาจะเป็นส่วนของกิเลสมารที่ตั้งใจจะมากวนใจของเราให้ขุ่น เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องไปกังวลว่าบาปหรือไม่บาป เพราะเขาได้ไปแค่ส่วนเดียว อีกสองส่วนเป็นของเรา ให้ทำต่อไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:05 |
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ถาม : พระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินของผม มีสีหมองเนื่องจากโดนอากาศ ทำให้สีองค์พระเปลี่ยนไป ถ้าหากผมจะนำน้ำยาขัดเงินมาขัดองค์พระ จะเป็นการสมควรหรือไม่ครับ ? จะเป็นการปรามาสพระหรือไม่ ? หรือจะทำให้เนื้อองค์พระเสียหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเราต้องการคงสภาพเดิม ซึ่งบรรดานักเล่นวัตถุมงคลจำนวนมากต้องการให้เป็นอย่างนั้น แล้วเราไปขัดทิ้ง วัตถุมงคลนั้นก็เสียสภาพความเก่าไป ถ้าเป็นสิ่งที่นิยมในท้องตลาดราคาก็ตกไปหลายเปอร์เซ็นต์ แต่การที่เราขัดพระให้สวยงาม ให้ดูสะอาดตาขึ้น ถือว่าได้อานิสงส์ในการทำความสะอาดพระพุทธรูป จะว่าไปแล้วเป็นสิ่งที่สมควรทำ แต่ขอแนะนำว่าอย่าไปขัดเอง เพราะส่วนใหญ่ถ้าเราขัดเองแล้วมักจะเสียหาย อาจจะเกิดเป็นรอยหรือว่าเนื้อแหว่งไปได้ เอาไปให้ทางร้านที่เขารับชุบจะดีกว่า ให้เขาเคลือบด้วยไฟฟ้า อยู่ได้ประมาณ ๔-๕ ปี ถ้ารู้สึกว่าหมองก็เอาไปให้เขาล้างแล้วก็เคลือบใหม่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:06 |
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ถาม : การบูชาวัตถุมงคลเพื่อร่วมบุญต่าง ๆ อานิสงส์ที่ได้เต็มร้อยไหมครับ ? และควรวางกำลังใจอย่างไรให้ได้อานิสงส์เต็มร้อยครับ ?
ตอบ : อันดับแรกต้องดูว่าจ่ายเงินครบหรือเปล่า ? ถ้าจ่ายครบก็ได้เต็มร้อย..! เพราะฉะนั้น..ควรวางกำลังใจว่าเราต้องจ่ายให้ครบในทุกกรณี ห้ามเบี้ยวอย่างเด็ดขาด..! ถาม : แล้วให้อานิสงส์เต็มร้อย ? ตอบ : อานิสงส์จะไม่เต็มตรงที่มัวแต่สงสัยแล้วถามอยู่นั่นแหละ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:08 |
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
ถาม : ลูกค้าผมเช่าบ้านที่มีศาลพระภูมิเสาเดียวในทางทิศใต้ ไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบกับผู้เช่าบ้านหรือไม่ครับ ? และถ้ามีผลกระทบควรแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ย้ายเสีย..ให้ไปอยู่ในทิศที่ถูกต้องแทน ทิศใต้กับทิศตะวันตกเป็นทิศของอากาสเทวดา ไม่ใช่ทิศของพระภูมิเจ้าที่ ไปตั้งศาลลักษณะอย่างนั้นก็เหมือนอย่างกับเอานายพลมาเป็นคนใช้ เดี๋ยวก็เจอดีจนได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:08 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อจิตแรกเริ่มเดิมแท้ประภัสสร มีธรรมเสมอเหมือนกัน เหตุใดหรือประสบการณ์ใดของจิตในวัฏสงสาร ที่ทำให้จิตของบางคนมีมานะทิฐิ มีอัตตาอันแรงกล้า เห็นว่าตนดีกว่าผู้อื่น ? และสามารถกำจัดมานะทิฐิ อัตตาอันแรงกล้านี้ด้วยธรรมใดครับ ?
ตอบ : การสั่งสมของกิเลส ตัณหา อุปาทานและอกุศลกรรม ทำให้สภาพจิตที่เคยประภัสสรพอกพูนไปด้วยกิเลสต่าง ๆ วิธีกำจัดก็ให้ปฏิบัติรวบรัดตัดตรงเข้ามาสังโยชน์ ๑๐ ถ้าประหารสังโยชน์ ๑๐ ได้ครบเมื่อไรก็เป็นอันว่ากำจัดได้หมด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:09 |
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
ถาม : เราใส่ตะกรุดมหาสะท้อนอยู่แล้วนั่งที่พื้น โดยขณะนั้นมีคนมายืนค้ำหัวเรา หรือมีคนนั่งบนเก้าอี้ซึ่งสูงกว่าระดับคอของเราที่กำลังสวมตะกรุดอยู่ ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน แบบนี้คนที่มายืนค้ำหัวเราหรือคนที่นั่งบนเก้าอี้จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเขาไม่เตะเราก็ไม่เป็นไร..! ถาม : ตะกรุดมหาสะท้อนมีผลต่อการกระทำเหล่านี้ไหมครับ ? เช่น โดนสะกดรอยตามบ้าง แอบติดกล้องสอดแนมบ้าง แกล้งทำเสียงดังใส่ทุกรูปแบบบ้าง วางแผนกลั่นแกล้งลับหลังบ้าง ? ตอบ : ให้ภาวนา “เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา” ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้ว่ามีผลไหม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:10 |
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
ถาม : วิธีที่ผมอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนคือ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ สวด อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๑ จบ แล้วถือตะกรุดมหาสะท้อนพนมมือ ขอให้ตะกรุดมหาสะท้อนคุ้มครองผมและขอให้ตะกรุดมหาสะท้อนได้โปรดแสดงอานุภาพอย่างเต็มที่ด้วยเถิด แล้วสวดต่อว่า "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด" จากนั้นก็สวดคาถาว่า "เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา" สวดไปเรื่อย ๆ สัก ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง เสร็จแล้วก็สวมตะกรุดใส่คอ แล้วก็ดูลมหายใจไปเรื่อย ๆ โดยระลึกถึงตะกรุดอยู่เนือง ๆ ทั้งวันเท่าที่จะทำได้ โดยจะสวด เช้า เย็น ก่อนนอน แล้วก็สวมตะกรุดนอนไปเลย โดยผมต้องการให้ตะกรุดคุ้มครองและมีผลทั้งวันทั้งคืน ผมทำแบบนี้ถูกต้องไหมครับ ? ถ้ายังไม่ถูกผมควรแก้ไขอะไรตรงไหนบ้างครับในการอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนนี้ ?
ตอบ : ทำเกิน ถ้าเป็นอาตมาคนถามโดนเตะสลบไปแล้ว..! กว่าจะถึงคาถามหาสะท้อนรู้สึกว่านานเหลือเกิน ...(หัวเราะ)... ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่ายิ่งสวดมนต์หรือภาวนามากเท่าไร แสดงว่าสภาพจิตของเราเกาะพระหรือเกาะความดีมากเท่านั้น แต่จะว่าไปแล้วเอาแค่ตัวคาถามหาสะท้อนอย่างเดียวก็พอแล้ว ถาม : เราสามารถใส่ตะกรุดมหาสะท้อนเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำไปด้วยได้ไหมครับ ? ตอบ : ไม่เคยมีข้อห้ามไว้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
ถาม : อานุภาพของแก้วอินทนิล แก้วสุริยกานต์ และแก้วจันทรกานต์ เป็นอย่างไรครับ ? และถ้าเราทำสมาธิโดยนึกภาพดวงแก้วทั้งสามนี้เป็นนิมิต ซึ่งเป็นรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต เราจะได้รับอานุภาพจากดวงแก้วเป็นอานิสงส์บ้างไหมครับ ?
ตอบ : มีหรือวะ..? ยังสงสัยอยู่ว่าเอารูปจากที่ไหนมา ถาม : เขาบอกว่าเอารูปมาจากอินเตอร์เน็ตครับ ? ตอบ : อย่างนั้นก็ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วกัน ถาม : เขาเอารูปจากอินเตอร์เน็ตมาจับเป็นนิมิต เขาจะได้รับอานุภาพจากดวงแก้วไหมครับ ? ตอบ : ไม่สามารถที่จะบอกได้ เพราะยังไม่เคยทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:13 |
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
ถาม : พอทำกรรมฐานไปช่วงหนึ่งแล้ว ออกมาจากอารมณ์พระกรรมฐานแล้วใช้ชีวิตปกติ ผมมาอ่านหนังสือที่เคยอ่าน แต่พอมาอ่านตัวหนังสือกลับกลายเป็นอย่างอื่น แล้วผมอ่านไม่ออก อาจเป็นรูปภาพหรือภาษาแปลก ๆ ครับ แบบนี้เรียกว่าอะไรครับผม ?
ตอบ : ถ้าไปถามหมอเขาบอกว่าบ้า..! นี่ยังดีที่มาถามอาตมา แปลว่ายังคลายสมาธิออกมาไม่หมด สภาพจิตจึงไม่ยอมรับอย่างอื่น หรือถ้าเห็นภาพอื่นแปลว่าสมาธิตอนอ่านหนังสือเป็นอุปจารสมาธิพอดี ภาพต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:15 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
ถาม : พระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินเนื้อเงินและเนื้อชุบทองพ่นทราย นอกเหนือจากเรื่องของมหาสะท้อนแล้ว นอกนั้นมีอานุภาพเท่ากันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่..คนเห็นพระกริ่งเนื้อเงินแล้วอยากได้มากกว่า..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:15 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
ถาม : อยากทราบวิธีอาราธนาพระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินครับ ?
ตอบ : อาราธนาที่ประเทศไทย แล้วไปอาราธนาที่เนปาล ในเมื่ออยากได้สองแผ่นดินก็ต้องไปสองที่..! ถาม : อาราธนาที่เมืองไทยก็ได้นี่ครับพระอาจารย์ ? ตอบ : ได้แค่แผ่นดินเดียว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:16 |
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
ถาม : มีหลายครั้งที่ฝึกตัดขันธ์ ๕ โดยคิดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เป็นสมบัติของโลก เราไม่ต้องการมัน เราต้องการไปพระนิพพาน พอคิดแบบนี้บ่อย ๆ เข้า ก็มีหลายครั้งที่เหมือนกับว่า ใจเริ่มจะยอมรับทีละนิดว่าขันธ์ ๕ ไม่ใช่ของเราจริง ๆ แต่พอใจเริ่มคิดยอมรับขึ้นมาว่าร่างกายไม่ใช่ของเราทีไร ก็มักจะมีความคิดสวนขึ้นมาทันทีว่า "หากว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราแล้ว ถ้าอย่างนั้นหากมีใครต้องการจะมาทำร้าย ทำลาย หรือทำปู้ยี้ปู้ยำอย่างไรก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องลามก ก็ปล่อยให้เขาทำไปเลย เพราะว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา ใครอยากจะทำอะไรก็ตามใจเขา" พอความคิดนี้แวบขึ้นมา ใจก็รู้สึกหวงร่างกายนี้ขึ้นมาอีก ไม่ต้องการให้ใครมาทำอะไรแบบนั้น จิตก็กลับมายึดถือว่าร่างกายนี้เป็นของเราใหม่ ตอนนี้เลยแทบไม่ค่อยจะกล้าคิดตัดขันธ์ ๕ สักเท่าไร เกิดความกลัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลยอยากจะขอทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรหรือคิดแบบไหนถึงจะผ่านปัญหานี้ไปได้ครับ ?
ตอบ : คิดเหมือนเดิม แสดงว่าโดนมารหลอก แค่ประเภทแทรกความคิดเข้ามาหน่อยเดียว คุณก็ไปเชื่อมารเสียแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
ถาม : การสวดคาถา เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา ให้คุ้มครองตลอดทั้งวัน ควรจะท่องเช้าเย็นใช่หรือไม่คะ ? และหากสวดคาถาแล้วจำเป็นต้องไปใกล้คนที่จะคลอดลูก ควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาคุ้มครองกันจริง ๆ ให้ภาวนาเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ส่วนถ้าจะต้องเข้าไปใกล้เขาก็อย่าไปภาวนาสิวะ..! ถาม : แล้วพกตะกรุดมหาสะท้อน ? ตอบ : พกตะกรุดเขาห้ามเข้าไปอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:19 |
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
ถาม : กระผมเคยได้อ่านบทความเกี่ยวกับการขอพึ่งบารมีพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ รวมถึงวัตถุมงคลที่หลวงพ่อหลาย ๆ ท่านได้สร้างไว้ว่า หากเราไม่มีความผูกพัน หรือเคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมา โอกาสที่ท่านจะมาช่วยสงเคราะห์เรานั้นเป็นไปได้ยาก จริงหรือเท็จประการใดครับ ?
ตอบ : ถ้าได้มาแสดงว่าต้องมีความผูกพันอยู่แล้ว ฉะนั้น..คนพูดก็สักแต่ว่าพูดไป แล้วเราก็ดันทะลึ่งไปเชื่อเขาอีก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2015 เมื่อ 02:19 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|