|
ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เล่าเรื่องหลวงปู่
หลวงปู่กล่อม สมัยไปหาหลวงพ่อนั้น ท่านยังเป็นพระเทพวราลังการอยู่ ลงจากสองแถวก็ถือไม้เท้าเดินก๊อก ๆ ถามหากุฏิหลวงปู่ฤๅษี ทั้งพระทั้งโยมไม่มีใครรู้จัก นึกว่าหลวงตาแก่ ๆ มาจากบ้านนอกคอกนา ก็ท่านเล่นขึ้นสองแถวมานี่นา..!
อีกทีท่านบุกเข้าไปกราบหลวงปู่ธรรมชัยถึงกุฏิ(ที่วัดท่าซุง) ทั้งที่หลวงปู่ธรรมชัยยังไม่ได้เป็นพระครู และอ่อนกว่าทั้งอายุทั้งพรรษา แต่หลวงปู่กล่อมกราบหลวงปู่ธรรมชัยก่อน ท่านถามหลวงปู่ธรรมชัยว่า " พระเดชพระคุณขอรับ..กระผมปรารถนาพระโพธิญาณ แต่ด้อยวาสนาปัญญาน้อย ไม่ทราบว่ายังบกพร่องในการสร้างบารมีจุดใดบ้าง ขอพระเดชพระคุณเมตตาชี้แนะให้เกล้ากระผมด้วยเถิดขอรับ " หลวงปู่ธรรมชัยพับเพียบแต้พนมมือตอบแบบเลี่ยงไม่ได้ว่า " วิริยะบารมีกับปัญญาบารมียังพร่องอยู่ พยายามหน่อยนะครับ.." พวกเราจะละมานะแบบหลวงปู่ได้ไหมละคะ? คัดลอกมาจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2010 เมื่อ 16:03 |
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
หลวงปู่ชุ่มท่านพูดน้อยมาก ส่วนใหญ่เอาแต่นั่งยิ้ม ถามคำตอบคำ จนคนเกรงใจไปเอง แต่องค์นี้แหละ ที่หลวงปู่ฤๅษีบอกว่า เข้านิโรธสมาบัติได้ทั้งสี่อิริยาบถ..!
หลวงปู่เป็นผู้มอบแก้วจักรพรรดิให้แก่หลวงปู่ฤๅษีเอง ท่านว่าท่านหมดอายุแล้วไม่ต้องใช้อีก แต่ " หลวงน้อง " ต้องสงเคราะห์คนมาก หากมีแก้วจักรพรรดิไว้จะได้มีความคล่องตัวมากขึ้น วัตถุมงคลของหลวงปู่ยุคนั้นมี ตะกรุดปรอท ตะกรุดหนังลูกวัวตายในท้อง เหรียญหมดห่วง ท่านว่าท่านเสกปรอทให้แข็งตัวได้เท่านั้น แต่อาจารย์ของท่านเสกเป็นแก้วได้ ปรอทตัวเมียจะเป็นแก้วราหู ปรอทตัวผู้จะเป็นแก้วจักรพรรดิ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-04-2009 เมื่อ 00:45 |
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
หลวงปู่ดาบสเดิมเป็นพระมหาสง่า สุมโน ธุดงค์มาจากจันทบุรี ขึ้นไปปฏิบัติธรรมทางภาคเหนือ ได้สร้างพระเจดีย์ที่ อ.ลอง จ.แพร่ และชักชวนคนให้มาถือศีลปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก
บรรดา " แพะ " ทั้งหลายเห็นว่ามีคนไปหาท่านมาก ต้องมีเงินมากแน่ ๆ จึงไปเรียกร้องผลประโยชน์จากท่าน ท่านบอกว่าเอาไปสร้างพระเจดีย์หมดแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ เมื่อไม่ได้อะไรจากท่านก็หาทางกลั่นแกล้ง จนในที่สุดจับท่านสึก ท่านถอดสังฆาฏิให้เขาไป บอกว่า " ถ้านี่เป็นเครื่องหมายของพระในความหมายของพวกคุณผมก็ ขอสละให้ ต่อไปนี้ผมจะเป็นพระในความหมายของพระพุทธเจ้า อย่ามายุ่งกับผมอีก ถ้ามายุ่งอีกคราวนี้ผมจะสู้..! " ท่านได้รับนิมนต์จากทางไร่บุญรอดฯให้ไปสร้างสำนักอยู่ ใช้ชื่อว่า " อาศรมเวฬุวัน " เขาก็ยังตามกลั่นแกล้งท่านอีก ว่าเอาชื่อวัดแรกของทางพระพุทธศาสนามาใช้ไม่ได้ จนท่านต้องเปลี่ยนชื่อเป็น " อาศรมไผ่มรกต " หลวงปู่ท่านจึงเป็น " ดาบส " และไม่พาดสังฆาฏิมาตั้งแต่บัดนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 13:03 |
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ในงานวันเกิดหลวงปู่บุดดา ท่านอาจารย์บุกป่าไปดูถ้ำมรกตอยู่หลายวัน นึกได้ว่าเป็นงานวันเกิดหลวงปู่ก็ตอนเช้าวันงานแล้ว กลัวว่าจะไปไม่ทัน หลวงปู่ปรากฏเฉพาะหน้าท่านอาจารย์บอกว่า ให้ไปเถอะ ท่านจะรอ ท่านอาจารย์ไปถึงหกโมงเย็นแล้ว หลวงปู่ที่ปกติจะเลิกรับแขกสี่โมงเย็นยังนั่งรออยู่. .! พอท่านอาจารย์ถวายสักการะและทำบุญเสร็จ หลวงปู่ก็กลับเข้ากุฏิเลย..!
ท่านอาจารย์ถวายการรับใช้หลวงปู่บุดดาที่ศาลา ๑๒ ไร่ ก่อนกลับท่านอาจารย์กราบลา หลวงปู่ดึงศีรษะท่านอาจารย์ไปไว้บนตัก ท่านอาจารย์บอกว่า " เป็นภาษาใจชัด ๆ เลยผ่านจากหลวงปู่เข้ามาในใจว่า " ปู่ลาแล้วนะลูก..! " เข้าใจทันทีว่าท่านลาไปนิพพาน..! " หลังจากนั้นเป็นปีหลวงปู่จึงมรณภาพ แต่ช่วงนั้นท่านอาจารย์ติดภารกิจ จนไม่มีเวลาที่จะไปกราบหลวงปู่อีกเลย ท่านว่า " หลวงปู่ลาล่วงหน้าเป็นปี ใครจะรู้ได้ขนาดนี้..! "
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-05-2009 เมื่อ 13:18 |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ในจำนวนครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่ฤๅษีแนะนำในยุคแรก หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ งานหนักที่สุด ไปช้าที่สุด..! "
จะเห็นได้ว่า หลวงปู่ฤๅษีท่านไม่ได้ผูกขาดลูกศิษย์ ครูบาอาจารย์ที่ไหนดีท่านก็แนะนำให้ไปหา ใครที่ว่าเป็นลูกศิษย์ท่าน ถ้ายังหวงวิชา หวงครูบาอาจารย์ ผูกขาดเฉพาะที่ คงต้องทบทวนตัวเองใหม่แล้ว..! รวบรวมจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2010 เมื่อ 16:04 |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|