|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อวันนี้ผมไปธนาคารเพื่อเพิ่มทุนการศึกษาที่ได้ตั้งเอาไว้ ตามกฎเกณฑ์กติกาของทางคณะสงฆ์ที่ว่า พระสังฆาธิการต้องมีการตั้งทุน เพิ่มทุน และแจกทุนการศึกษา เนื่องจากทางพระผู้ใหญ่ฝ่ายปกครองเห็นว่า ถ้าพระภิกษุสามเณรของเราทำตัวเป็นผู้รับโดยฝ่ายเดียว จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีไม่งามและเป็นจุดอ่อนให้ผู้อื่นตำหนิติเตียนได้ จึงได้มีคำสั่งนี้ขึ้นมา
คราวนี้ที่ผมไปเพิ่มนั้น มีทั้งทุนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา และทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ต้องบอกว่าวัดท่าขนุนน่าจะเป็นไม่กี่วัดของประเทศไทย ที่มีทุนการศึกษาครบทุกระดับ คราวนี้อีกส่วนหนึ่งก็คือ อยากจะไปทำเช็คมอบให้กับหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด เพื่อช่วยในเรื่องของการนำไฟฟ้าเข้าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี แต่ก็ทำไม่ได้ เรื่องของเรื่อง...สืบเนื่องมาจากตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ ๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ที่ผมไปร่วมทอดผ้าป่าเพื่อสร้างอาคารเรียนพระเทพศาสนาภิบาลของวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาทวารวดี ตอนเลิกงานจะกลับ ท่านพระครูศรีธรรมวราภรณ์ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี นำเอาใบแจ้งหนี้จำนวน ๗ ล้านกว่าบาทมาส่งให้ บอกว่า "หลวงพ่อจังหวัดแล้วแต่หลวงพ่อเล็กจะพิจารณาว่า จะรับเป็นเจ้าภาพในส่วนใด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:28 |
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
"ผมรับมาแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าโดยตำแหน่งที่พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีแต่งตั้งให้ก็คือ ประธานคณะกรรมการหาทุนจัดสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี
แต่คราวนี้พวกท่านต้องเข้าใจว่า ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีนั้น ผมเรียนที่นั่น เป็นครูสอนที่นั่น พรรคพวกเพื่อนฝูงต้องบอกว่ามีทั้งจังหวัด ด้วยความที่บางคนสนิทสนมก็คว้าใบแจ้งหนี้ไปดู แล้วก็บอกว่า "ฉิบหายแล้วพี่...!" ถามว่า "อะไรวะ ? เงินแค่นี้กูพอหาได้" "ผมว่าพี่ยังโง่เหมือนเดิม" "บอกให้ชัดหน่อยสิว่าเรื่องอะไร ?" เขาบอกว่า "วงในเขาคุยกันว่าพระผู้ใหญ่จะแต่งตั้งพี่เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ซึ่งก็คือว่าที่เจ้าคณะอำเภอนั่นแหละ แต่ถ้าพี่จ่ายเงินตรงนี้ไปก็ฉิบหายเลย เพราะเขาจะว่าพี่จ่ายเงินซื้อตำแหน่ง..!" ผมได้ยินก็สะดุ้งเฮือก "ต้องบอกว่ายังดีนะที่หลวงพ่อแย้มยังไม่ได้เป็นเจ้าคณะภาค ไม่อย่างนั้นวันนี้พี่จ่ายเงินทอดผ้าป่าสร้างอาคารเรียนพระเทพศาสนาภิบาล ก็กลายเป็นติดสินบนเจ้าคณะภาคไปด้วย..!" ผมได้ยินแล้วกลืนน้ำลายไม่ลง จำเป็นต้องเชื่อเขา เพราะว่าเพื่อนผมคนนี้ประสบการณ์ในเรื่องของวงการคณะสงฆ์โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง เขาช่ำชองและเชี่ยวชาญ คลุกคลีมาเกิน ๒๐ ปี ผมมาลองนึกตรองดู ใช่...จังหวะไม่ดีจริง ๆ เพราะหลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์อายุครบ ๘๐ ปี แล้วถ้าหากว่าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผมสมควรที่จะไปรักษาการเจ้าคณะอำเภอ ตลอดจนกระทั่งภายหลังแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอ โดยนิสัยของผมที่ได้รับการอบรมมาแบบทหารก็คือ "คำสั่งผู้บังคับบัญชาคือเสียงสวรรค์ ที่ทหารต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อแม้" แต่พอใบแจ้งหนี้นี้เข้ามา กลายเป็นมัดมือมัดเท้าจนผมทำอะไรไม่ได้เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:28 |
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ ที่ผมมาทองผาภูมิ ผมผ่านหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดมา ๔ รูปแล้ว ตั้งแต่หลวงพ่อไพบูลย์ หลวงพ่อณรงค์ หลวงพ่อพยุง แล้วก็หลวงพ่อปัญญา ผมยังไม่ได้ยินข่าวคราวเลยว่า เจ้าคณะจังหวัดทั้ง ๔ รูป ไปเรียกรับผลประโยชน์จากใคร ท่านมีแต่ให้ ช่วยเหลือทุกวิถีทาง ให้ทั้งกำลังใจ ช่วยทั้งกำลังเงิน ช่วยหาตำแหน่งหน้าที่อันเหมาะสมให้
ผมก็เลยต้องคิดว่า ระยะนี้ผมก็คงทำอะไรเกี่ยวกับวิทยาลัยสงฆ์ไม่ได้เลย จนกว่าการแต่งตั้งรักษาการเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ตลอดจนการแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอไทรโยคผ่านพ้นไป และก็ต้องผ่านพ้นไปประมาณ ๖ เดือน ๑ ปีเลย เพื่อให้คนลืมเรื่องนี้ไปก่อน จึงจะหาเงินไปช่วยเหลืองานหลวงพ่อจังหวัดต่อไปได้ ผมไม่กลัวความเสียหายครับ เพราะผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง แต่ "ปากคน" โบราณเขาบอกว่า "กินพริกกินเกลือ" ครับ พูดให้คนเสียหายได้เจ็บแสบที่สุด แล้วที่เสียหายไม่ใช่ผม ที่เสียหายก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ ที่พวกคุณเรียกง่าย ๆ ว่า หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา หรือหลวงพ่อปัญญา ตามแต่ความสนิทสนมที่มีมากน้อย บางทีเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิด เมื่อเกิดแล้วก็กลายเป็นอุปสรรคขึ้นมา เรื่องแบบนี้เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อปี ๒๕๕๔ ตอนนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอรูปปัจจุบันท่านเป็นรองเจ้าคณะอำเภออยู่ แล้วผมก็หนีตำแหน่งพระครูสัญญาบัตรมา ๗-๘ ปี จนท่านอึดอัดใจมาก ท่านก็เลยขอให้ผมสแกนลายเซ็นส่งไป แล้วท่านช่วยทำประวัติขอให้ เพราะท่านบอกว่า อาวุโสของผมค้ำท่านอื่นหมด เมื่อส่งรายชื่อคนอื่นไป ผู้บังคับบัญชาจะถามว่า แล้วพระอาจารย์เล็กอยู่ที่ไหน ? แล้วผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องอย่างนี้ ก็เลยไม่ทำ ในเมื่อไม่ทำประวัติ ไม่ขอเอง ท่านก็เลยช่วยดำเนินการให้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:28 |
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ระยะนั้นผมต้องตัดขาดจากวัดสามพระยา ตัดขาดจากวัดใต้ไปพักหนึ่ง จนกระทั่งรับสัญญาบัตรพัดยศเสร็จเรียบร้อยถึงได้ไปใหม่ เพราะว่าไม่เช่นนั้นถ้าผมไปเพิ่มกองทุนหลวงปู่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา แบบที่ทำอยู่ปกติทุกปี คนก็จะไปลือให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมดิลกท่านเสียหาย ว่าผมไปซื้อตำแหน่ง
ถ้าผมไปเพิ่มกองทุนพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญโญ) เขาก็จะไปลือให้หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเสียหายว่าผมไปซื้อตำแหน่ง ซึ่งเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้คนเชื่อง่าย เรื่องดี ๆ เขาไม่ค่อยเชื่อกันหรอก ก็เลยกลายเป็นว่าวันนี้แทนที่ผมจะทำเช็ค เพื่อที่จะเอาไปถวายหลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา ให้ท่านดำเนินการเรื่องของไฟฟ้าที่จะเอาเข้าวิทยาลัยสงฆ์ ก็ทำไม่ได้ เพราะปากคนจะว่าผมไปซื้อตำแหน่ง และผมต้องรอไป แต่ยังดีที่ว่า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนมทวนเขาเสนอมา แล้วยืนราคาให้หกเดือน ยังพอที่จะมีเวลาอยู่ เรื่องพวกนี้ต่อไปพวกท่านทั้งหลายค่อยเติบโตไปในภายภาคหน้า อาจจะเริ่มจากตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ อะไรก็ตามแต่ ให้ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ไว้ ผมเองได้รับการอบรมมาแบบทหาร ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ตั้งแต่สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระคุณพรหมดิลกยังเป็นพระเทพสุธี เจ้าคณะภาค ๑๔ อยู่ ท่านถามอะไรเกี่ยวกับอำเภอทองผาภูมิ เกี่ยวกับจังหวัดกาญจนบุรี ผมจะตอบแต่ในด้านดีอย่างเดียว จนกระทั่งตอนหลังท่านรู้ว่าไม่สามารถจะขุดอะไรที่ไม่ดีจากปากผมได้ ท่านก็เลยเลิกถาม ในเมื่อเรื่องที่จะพูดให้ผู้บังคับบัญชาเสียหายผมยังไม่เคยทำ เพราะฉะนั้น..ข้อหาติดสินบนเจ้านายนี่ผมรับไม่ได้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:28 |
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ตอนที่ผมรับตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ พระผู้ใหญ่รูปหนึ่งถามว่า "วิ่งไปกี่ตังค์วะ ?" ผมตอบว่า "ผมไม่รู้เรื่องเลยครับ หลวงพ่อเจ้าคณะภาคท่านตั้งให้ แล้วท่านพูดแค่ว่า "ตั้งมาให้ทำงาน" ท่านจะแต่งตั้งวันที่ ๓๐ คืนวันที่ ๒๘ หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญาท่านถึงได้แจ้งผม แจ้งแค่ว่าให้เตรียมกรอบตราตั้งไปด้วย เผื่อท่านไม่มีมาให้ ผมต้องถามว่าตราตั้งอะไร ? ท่านถึงได้หลุดปากออกมา"
ผมก็ได้ตอบตามความเป็นจริงว่า ผมไม่ได้เสียเงินแต่บาทเดียว พระผู้ใหญ่รูปนั้นท่านเป็นเจ้าคุณ คลุกคลีตีโมงกับเรื่องแบบนี้มานาน ท่านบอกว่า "ตำแหน่งแบบนี้เขาซื้อกันเป็นล้าน..!" ผมดีใจมากครับว่า ตั้งแต่ผมอยู่กาญจนบุรีมาจนป่านนี้ ผ่านเจ้าคณะจังหวัดมาแล้ว ๔ รูป ยังไม่เคยได้ยินเรื่องการซื้อตำแหน่งของที่นี่ โดยเฉพาะตัวผมเอง ทุกครั้งก็จะมีคนไปลือกันว่าผมซื้อตำแหน่ง แม้กระทั่งท่านอาจารยสมพงษ์ได้เป็นเจ้าคณะตำบลตอนพรรษาที่ ๗ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ แต่เนื่องจากว่าหลวงพ่อเจ้าคุณไพบูลย์ท่านจะตั้งผมเป็น ผมบอกว่า "ผมไม่ชอบงานการปกครอง เพราะไปแล้วก็โดนคนเตะสกัดบ้าง แทงข้างหลังบ้าง เรื่องพวกนี้ผมทำไม่เป็น..ผมเบื่อ..!" ท่านบอกว่า "ถ้าแกไม่เอาแล้วเห็นว่าใครสมควร ?" ผมก็บอกว่า "ท่านอาจารย์สมพงษ์ วัดท่าขนุนครับ เห็นท่านทำงานเข้มแข็งดี" ผมก็บอกไปแค่นั้น ไม่นึกว่าท่านจะตั้งมาจริง ๆ เชื่อไหมครับว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดคร้อพนันตามมาต่อว่าผมถึงเกาะพระฤๅษี บอกว่าอาจารย์สมพงษ์เพิ่งจะ ๗ พรรษา ท่านเองตำแหน่งหน้าที่อะไรใหญ่โตกว่าทุกอย่าง ทำไมท่านถึงไม่ได้ ? สรุปก็คือคนที่ต้องการก็ต้องการจริง ๆ คนที่ไม่เอาอะไรเลยก็ไม่เอาจริง ๆ จนกระทั่งมีคนถามผมว่าสร้างภาพหรือเปล่า ? อะไร ๆ ก็ไม่เอา ผมบอกว่าผมไม่ได้สร้างภาพ ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้มา ผมก็จะรับเอาไว้ เพราะได้รับการสั่งสอนมาว่า ผู้ใหญ่ให้อะไรมาอย่าปฏิเสธ แต่ผมจะไม่ไปดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:29 |
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ดังนั้น..เรื่องการที่จะดิ้นรนถึงขนาดไปติดสินบน ไปซื้อตำแหน่ง ชีวิตนี้ผมไม่มีทางที่จะไปทำ แต่ในเมื่อข่าวลือทำให้หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเสียหาย ผมก็ต้องระงับเรื่องเอาไว้ก่อน ระยะนี้ท่านก็คงจะลำบาก ต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายไปก่อน จนกว่าเรื่องของอำเภอไทรโยคจะผ่านพ้นไปพอสมควรแก่เหตุ ผมถึงจะกลับไปช่วยท่านได้ใหม่
คำพูดคนน่ากลัวครับ เรียนถวายท่านทั้งหลายและบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมทุกท่านได้ทราบ เราไม่เอา ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่เอา เราปฏิเสธ คนอื่นก็คิดว่าพูดเอาเชิง ผมอยากจะให้คณะสงฆ์ของเรา พูดอย่างไร ทำอย่างนั้น ต่อหน้าอย่างไร ลับหลังอย่างนั้น เหมือนกับพุทธภาษิตที่ว่า ยถาวาที ตถาการี พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ยถาการี ตถาวาที ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตนี้จะได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้หรือเปล่า แต่ผมก็หวังเอาไว้ และขอแสดงความภูมิใจกับคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีว่า ตลอดระยะเวลาที่สัมผัสกันมา ผ่านเจ้าคณะจังหวัดมา ๔ รูป ๓๐ กว่าปี ยังไม่มีเรื่องเสียหายแบบนี้เกิดขึ้นเลย ก็ขอแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2021 เมื่อ 05:29 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|