|
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงเช้า)
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงเช้า)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 10-12-2023 เมื่อ 00:12 |
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ (ผู้ปฏิบัติธรรมยังเข้าศาลามากันไม่ครบ) แล้วที่เหลือจะรอดไหมจ๊ะ ? ก็คือถ้ากรอบเวลาแค่นี้เราไม่สามารถที่จะปรับให้เข้ากันได้ อย่างอื่นก็ยากกว่านี้อีกเยอะ นักปฏิบัติธรรมที่ดี ส่วนสำคัญคือความตรงต่อเวลา แสดงออกซึ่งสัจบารมีในใจของเราเอง ดังนั้น..นักปฏิบัติธรรมที่ดีทุกอย่างมีแต่ก่อนเวลาไม่มีหลัง เพราะต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ก่อนตายขอสร้างความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าหลุดพ้นได้เลยก็ยิ่งดี ถ้าหลุดพ้นไปไม่ได้ ขอให้หนทางการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารของเรา เหลือให้สั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ ดังนั้น..นักปฏิบัติธรรมที่ดีทุกวินาทีจึงมีค่าอย่างยิ่ง เป็นการช่วงชิงกันระหว่างกุศลและอกุศล ใจของเราเหมือนเก้าอี้ที่นั่งได้แค่คนเดียว ถ้ากุศลเข้าไปนั่งไว้ อกุศลก็มาไม่ได้ แต่ถ้าอกุศลเข้าไปนั่งเมื่อไร ก็ไล่ออกยากมาก..! จึงต้องชิงเวลาทุกวินาที ที่จะนำเอากุศลเข้ามาใส่ใจของเรา ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมพอถึงระยะท้าย ๆ ก็เป็นการชิงกันระหว่างตัวเรากับกิเลส ว่าแต้มนี้ใครจะได้ สนุกสนานอย่างชนิดที่มีหนังมีละครอะไรมาอยู่ตรงหน้าก็ไม่สนใจแล้ว หลวงตามหาบัวเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนท่านปฏิบัติธรรม พอช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม ปัญญากับกิเลสกำลังฟัดกันหมุนติ้ว ๆ อยู่ในอก ขาก็เดินจงกรมตามปกติ เสียงดังโครม..! สุดทางเดินจงกรมตอนไหนก็ไม่รู้ เดินเลยไปชนต้นไม้ คลายกำลังใจออกมาหน่อยหนึ่ง หันหลังกลับเข้าทางจงกรมเดินต่อ ข้างในก็รบกันต่อ อีกสักพักก็โครม..! อีกแล้ว คือต้องสนใจข้างในมากกว่าข้างนอก โดยปกติแล้วทั่ว ๆ ไปก็นั่ง แต่ด้วยความที่ท่านอยากจะปฏิบัติให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ท่านก็เลยเดิน คราวนี้เดินพอสภาพจิตดำเนินอยู่ภายใน สู้รบกับกิเลสอย่างชนิดตายกันไปข้างหนึ่ง จึงไม่ได้สนใจภายนอก ท่านก็เดินชนต้นไม้ไปเลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:16 |
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ดังนั้น..พอนักปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง ตอนท้าย ๆ นี่จะสนใจโลกภายนอกน้อยมาก จะหนังจะละครจะอะไรสนุกแค่ไหนก็ทิ้งหมด เพื่อที่จะลุ้นว่าแต้มนี้ใครได้ ? ถ้าเราพลาดก็ต้องศึกษาไว้ว่าพลาดตรงไหน ? คราวหน้าอย่าได้พลาดอีก ถ้าหากว่าเราชนะก็ต้องระมัดระวังไว้ว่า คะแนนต่อไปอย่าให้เขาตีคืนไปได้
ช่วงที่แพ้ชนะก้ำกึ่งกัน มึงบ้างกูบ้าง มึงทีกูที เป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ แต่เป็นเรื่องสนุกที่หัวเราะไม่ออก เล่าให้คนอื่นฟังก็สนุก เจอด้วยตัวเองแล้วจะรู้ ว่าประเภทสายตัวแทบขาดเป็นอย่างไร ? เพราะว่ากิเลสนั้นถอนออกจากใจเรายากสุด ๆ ฝังรากลึกชนิดที่ปัญญาไม่ถึงก็ค้นไม่เจอ..! พวกเราแค่ลองถามตัวเองดู คนที่เรารักมีไหม ? ของที่เรารักมีไหม ? ทรัพย์สมบัติมีไหม ? ถ้าต้องทิ้งทั้งหมดลงไปในวันนี้ทำได้ไหม ? มาตายตรงข้อนี้แหละ..! จะต้องหาข้ออ้างสักอย่างหนึ่งที่จะไม่ทิ้ง เพราะว่ากิเลสมีมายามาก "โอ๊ย..อย่าเพิ่งเลย ยังไม่แก่ ทิ้งไปหมดได้อย่างไร ยังต้องเหลือเอาไว้ใช้ เดี๋ยวชีวิตตอนแก่จะลำบากนะ..!" รู้ได้อย่างไรว่าจะอยู่ยันแก่..?! ถ้าเกิดตายไปวันนี้ล่ะ..? พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านปราภว่าอยากได้พระบวช ๓ รูป จะบวชให้ท่านได้ไหม ? อาตมาก็กราบเรียนท่านว่า "ขอคิดดูก่อนครับ" ซึ่งความจริงได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้ แต่วันนั้นหลวงพ่อใจดี ไปส่งท่านที่สนามบินดอนเมืองไปนิวซีแลนด์ ท่านก็เลยหัวเราะ "เออ..เดี๋ยวพ่อกลับจากนิวซีแลนด์ ค่อยให้คำตอบก็ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:19 |
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
พอตัดสินใจได้เรียบร้อย วันท่านกลับก็ไปรับท่าน พอเจอหน้าก็กราบเรียนว่า "ตกลงผมจะบวชครับ หลวงพ่อจะให้ผมไปวัดวันไหนครับ ?" ท่านบอกว่า "ถ้าไปวันนี้ได้ก็ไปเลยสิ..!" อาตมาก็โดดขึ้นรถไปกับท่านตอนนั้นแหละ..! นอกจากสตางค์ติดตัว ๒๐๐ - ๓๐๐ บาทแล้ว ไม่มีอะไรติดตัวเลย ไปหาเอาข้างหน้า ถ้าเป็นพวกเราตัดสินใจแบบนี้ได้ไหม ?
โยมแม่นั้น อาตมาอายุยังไม่ทันจะครบบวชก็รบเช้ารบเย็น "เมื่อไรจะบวชให้แม่สักที ?" ปรากฏว่าท่านไปโดนรถชน ดูแลอยู่ ๓ ปีกว่าจะหายเป็นปกติ พอปรารภบอกว่า "หลวงพ่อท่านจะขอให้บวช" แม่ที่รบเช้าเร้าเย็นว่าเมื่อไรจะบวชให้ ถามกลับมาว่า "ถ้าเอ็งไปบวชแล้วข้าจะอยู่กับใคร ?" อ้าว..เก่งมาก..! ก็เลยบอกว่า "แม่มีลูกตั้ง ๑๒ คน ถ้าผมไม่อยู่สักคนแล้วแม่อยู่ไม่ได้ แม่ก็ตาย ๆ ไปเถอะ..! ผมไปล่ะ" นี่ไม่ใช่เรื่องอกตัญญูนะ นั่นคือการตัดสินใจ ถ้าเราขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจ เคยสงสัยไหมว่าสมัยนี้ทำไมปฏิบัติแล้วได้มรรคผลยากแท้..? ก็เพราะว่าขาดการตัดสินใจ สมัยพุทธกาลพอพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ พระท่านกฟังแล้วตัดสินใจตามไปเลย "ตรงนี้เราทำได้ เราจะทำเดี๋ยวนี้" เขาได้มรรคได้ผลกันเพราะอย่างนั้น ก็คือตัดสินใจว่าเอา ตัดสินใจว่าทำ สำหรับพวกเราคำนี้ไม่เคยอยู่ในหัว พอจะให้ตัดใจจากอะไรสักอย่าง "โอ๊ย..ใจจะขาด..!" ให้ขาดลงไปจริง ๆ สักทีสิน่า..! พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งหลายสิบปี เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไรไปน้ำตาสักหยดก็ไม่มี ห่างแฟนแค่ไม่กี่วัน ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า..! เคยกินเต่าไหม ? ก่อนที่จะกินได้ต้องโยนเข้ากองไฟเผาเสียก่อน เพื่อให้เนื้อเต่าล่อนออกจากกระดอง เต่าก็ร้องไห้น้ำตาไหลน้ำตาร่วง เขาก็เลยว่าร้องไห้เหมือนเผาเต่า..! บอกให้พวกเราสำนึก จดจำ และก็ได้รู้ไว้ว่า ทุกวันนี้ที่ยากเพราะอะไร ? แม้กระทั่งมาปฏิบัติธรรมให้ตรงเวลายังยากเลย แล้วอย่างอื่นจะง่ายนั้นไม่มีหรอก นี่เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดแล้ว พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:24 |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|