กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-12-2015, 16:51
กนกวลี พึ่งบารมีพระธรรม
Guest
 
ข้อความ: n/a
Lightbulb ประเด็นเรื่องอาบัติปาราชิก, ย้ายเจดีย์ และการขอขมาพระรัตนตรัย

นมัสการพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.

ผมกราบเรียนถามพระอาจารย์ข้อสงสัยเกี่ยวกับวินัยสงฆ์และข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบมาเนื่องด้วยประเด็นการย้ายเจดีย์จากคำพูดของพระภิกษุในสายปฏิปทารูปหนึ่ง ดังนี้

๑. หากพระภิกษุรูปหนึ่งได้รับว่าตนครอบครองทรัพย์สินของโยมที่มีมูลค่าเกิน ๑ บาท โดยรับปากว่าจะคืนทรัพย์สินนั้น พร้อมกับโยมได้มีการทวงถามทั้งด้วยตนเองและฝากผู้อื่นไปทวงนับสิบครั้ง แต่พระภิกษุเล่นแง่ไม่ยอมคืนทรัพย์สินโดยอ้างหลากหลายเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งปรากฏชัดถึงไถยจิตที่ต้องการกลั่นแกล้งหรืออะไรก็ตามที่มิใช่กิจของสงฆ์ โดยระยะเวลาผ่านมาร่วมหนึ่งเดือนกว่า โยมก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าใด ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง โยมปลงตกกับพฤติกรรมของพระภิกษุรูปนั้น จึงเลิกติดตามและตัดสินใจทอดธุระทรัพย์สินทั้งหมดนั้นโดยเด็ดขาด ในกรณีนี้ถือว่าพระภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่ครับ ?

๒. หากพระภิกษุรูปนั้นได้นำทรัพย์สินมาคืนโยมภายหลังที่โยมตัดสินใจทอดธุระไปเรียบร้อยแล้ว พระภิกษุนั้นยังถือได้ว่าคงอยู่ในสมณเพศเป็นพระสงฆ์เหมือนเดิมหรือว่าขาดจากความเป็นพระอย่างถาวรแล้วครับ ?

๓. การที่พระภิกษุได้ให้โยมเป็นธุระจัดซื้อสิ่งของอย่างหนึ่งให้แก่โยมอุปถัมภ์ท่านหนึ่ง ซึ่งราคาค่างวดจะถูกกว่าหลายพันบาท หากแต่พระภิกษุได้บอกราคาเต็มต่อโยมอุปถัมภ์ และพระภิกษุก็ได้กำชับทั้งร้านค้าที่ขายและโยมไม่ให้แพร่งพรายหรือแจ้งให้โยมอุปถัมภ์ท่านนั้นเห็นใบเสร็จที่ปรากฏส่วนลดเปอร์เซ็นต์ชัดเจนโดยเด็ดขาด โดยเงินส่วนต่างนั้น ณ จนบัดนี้ ก็ไม่มีใครทราบว่าพระภิกษุรูปนั้นนำไปใช้ทำอะไร หากแต่ไถยจิตเบื้องต้นคือพระภิกษุจงใจลักทรัพย์และฉ้อโกงโยมอุปถัมภ์ท่านนั้นใช่หรือไม่ ? จากกรณีนี้เท่ากับพระรูปนั้นต้องอาบัติปาราชิกซ้ำโทษของเดิมอีกครั้งด้วยหรือไม่ครับ ?

๔. พระภิกษุรูปนี้ได้เคยบอกว่าประเด็นเรื่องการย้ายเจดีย์นั้น หากนำเอาเงินทำบุญของพุทธบริษัทมาใช้ในงานบุญที่มีอานิสงส์มากกว่าเจตนาเดิมที่คนร่วมบุญมา ไม่ถือว่าเป็นการย้ายเจดีย์ ยกตัวอย่างเช่น โยมกุ๊กไก่ถวายปัจจัยร่วมบุญโรงทาน แต่พระภิกษุรูปนั้นกลับนำเอาปัจจัยนั้นไปสร้างพระชำระหนี้สงฆ์แทน เพราะอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปและวิหารทานย่อมสูงกว่าอานิสงส์ของการทำโรงทานมาก ซึ่งอย่างนี้แล้วไม่ถือว่าย้ายเจดีย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พระอาจารย์เน้นย้ำมากในเรื่องของเจตนาของผู้ที่ร่วมบุญมาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมจึงขอกราบขอความกระจ่างชัดจากพระอาจารย์ในประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากเช่นนี้เนื่องด้วยคัดค้านกับปฏิปทาของครูบาอาจารย์อย่างชัดเจนครับ

๕. ในกรณีที่โยมได้รับหนังสือ พระเครื่องและวัตถุมงคล มาจากพระภิกษุรูปนี้ทั้งโดยเจตนาดีหรือไม่ก็ตามเพราะเหตุการณ์ช่วงที่ได้รับมานั้นชุลมุนและวุ่นวายมาก เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มีศีลน้อยกว่าและป้องกันการถูกทอดธุระโดยเจตนาของพระภิกษุรูปนั้นเอง ผมกราบขอคำแนะนำจากพระอาจารย์ว่าควรปฏิบัติเช่นใดในกรณีนี้ครับ

๖. ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ขึ้น โยมได้ตั้งใจที่จะขอขมาพระรัตนตรัยและขออโหสิกรรมโดยมีพานดอกไม้ธูปเทียนแพต่อหน้าพระภิกษุรูปนั้น แต่ด้วยเหตุบางประการ ทำให้ไม่มีจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมอีกแล้วที่จะพบกับพระภิกษุรูปนั้นอีกต่อไป รวมถึงพฤติกรรมส่วนองค์หลายประการที่ไม่สามารถพูดถึงได้ของพระภิกษุรูปดังกล่าว ทำให้โยมไม่สามารถกราบไหว้เคารพขอขมาได้อย่างเต็มหัวใจ โยมจึงนำพานนั้นมาขอขมาพระพุทธรูป, รูปหลวงปู่ และหลวงพ่อที่บ้านแทน และหลังจากนั้นทุกคืน โยมได้จับภาพพระตอนเจริญพระกรรมฐานและได้ภาวนาคำขอขมาพระรัตนตรัยในใจต่อพระเครื่องประจำตัวก่อนนอนตลอดทุกคืน โยมอยากทราบว่าการทำเช่นนี้ถือว่าการขอขมาพระรัตนตรัยมีผลสมบูรณ์หรือไม่ครับ ? และหากไม่สมบูรณ์ โยมกราบขอคำชี้แนะที่ถูกต้องจากพระอาจารย์ด้วยครับ

ขอนมัสการด้วยความเคารพ

กนกวลี พึ่งบารมีพระธรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2015 เมื่อ 11:30
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-11-2017, 13:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,563
ได้ให้อนุโมทนา: 216,949
ได้รับอนุโมทนา 748,070 ครั้ง ใน 36,431 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default

ถาม : หากพระภิกษุรูปหนึ่งได้รับว่าตนครอบครองทรัพย์สินของโยมที่มีมูลค่าเกิน ๑ บาท โดยรับปากว่าจะคืนทรัพย์สินนั้น พร้อมกับโยมได้มีการทวงถามทั้งด้วยตนเองและฝากผู้อื่นไปทวงนับสิบครั้ง แต่พระภิกษุเล่นแง่ไม่ยอมคืนทรัพย์สินโดยอ้างหลากหลายเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งปรากฏชัดถึงไถยจิตที่ต้องการกลั่นแกล้งหรืออะไรก็ตามที่มิใช่กิจของสงฆ์ โดยระยะเวลาผ่านมาร่วมหนึ่งเดือนกว่า โยมก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าใด ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง โยมปลงตกกับพฤติกรรมของพระภิกษุรูปนั้น จึงเลิกติดตามและตัดสินใจทอดธุระทรัพย์สินทั้งหมดนั้นโดยเด็ดขาด ในกรณีนี้ถือว่าพระภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ในเรื่องของการตัดสินตามพระธรรมวินัยเขาเรียกว่า สัมมุขาวินัย ต้องพร้อมหน้ากันทั้งโจทก์ จำเลย ผู้ตัดสินที่รู้ในพระธรรมวินัยอย่างแท้จริง และคณะสงฆ์ ฉะนั้น...คำถามนี้ถ้าตอบไปถือว่าผิดมารยาท เพราะว่ามีแต่โจทก์ฝ่ายเดียว ถ้าเขาหาโจทก์ จำเลย และคณะสงฆ์มาพร้อมกันได้แล้วค่อยถามใหม่

การระงับอธิกรณ์หรือตัดสินพระธรรมวินัยข้อที่นิยมใช้มากที่สุด เรียกว่า สัมมุขาวินัย ท่านใช้คำว่า ถึงพร้อมด้วยโจทก์ ด้วยจำเลย ด้วยผู้ตัดสินและคณะสงฆ์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น คำถามบางอย่างที่เกี่ยวกับการตัดสินอธิกรณ์ ไม่สามารถที่จะว่ากล่าวโดยบุคคลฝ่ายเดียวได้ และที่สำคัญที่สุด ถ้าเป็นอาบัติหนักตั้งแต่สังฆาทิเสสขึ้นไป ห้ามอนุปสัมบันอยู่ในสถานที่นั้นด้วย แปลว่าสามเณร หรือฆราวาส ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ฟังได้ ดังนั้น...ปัญหาที่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องปาราชิกจึงไม่สามารถตอบในที่นี้ได้
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว