|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อก่อนผมเคยบวชวัดหนึ่ง ตอนนั้นผมไปสั่งน้ำอัดลม ๑ ขวด ราคา ๑๒ บาท เนื่องจากว่าคนขายทอนเงินช้า มัวแต่วุ่นกับธุระอย่างอื่นอยู่ ผมเกิดความรำคาญเลยเดินหนีมา ไม่จ่ายเงินค่าน้ำอัดลมนั้น ไม่ทราบว่าผมโดนอาบัติปาราชิกข้อลักทรัพย์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : โดนไปเต็ม ๆ อย่างรำคาญ ถาม : ไปจ่ายเงินคืนจะหายไหมคะ ? ตอบ : ไม่มีประโยชน์เพราะขาดไปแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:30 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : การโอนเงินเข้าบัญชีวัดท่าขนุนโดยมิได้ระบุว่าใช้เพื่อการอันใด ถือว่าเป็นสังฆทานหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ที่วัดต่ำสุดจะใช้เป็นสังฆทาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:30 |
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : พระขุนแผนของสำนักฆราวาส ที่มีการบรรยายถึงส่วนผสมของมวลสาร ผง ว่าน น้ำมัน ราก ดอก ใบของพืช ตลอดจนการลงอักขระ คาถา และรูปภาพในเชิงสังวาส พร้อมกับสรรพคุณในลักษณะทำให้คนรักคนหลง เรียกจิตผูกจิตเพศตรงข้าม ให้หลงหมกมุ่นอยู่กับกาม อยู่กับตน ของเหล่านี้มีอิทธิคุณจริงและมากน้อยเพียงใด ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับคนทำ ถ้าคนทำมีความสามารถจริงก็เกิดอิทธิคุณจริง ๆ ถาม : เพราะอะไรครับ ? ตอบ : ก็เพราะเขามีความสามารถพอ ถาม : หากเราไม่ต้องการให้ลูกหลานของเรา ตกอยู่ในสภาพที่ถูกผู้ที่มีของเหล่านี้ กระทำเพื่อผลดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว เด็ก ๆ หรือลูกหลานของเราควรทำอย่างไร ? ตอบ : ไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุนวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ นี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:30 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : มีกรณีที่พระกล่าวโทษฆราวาสให้เสียหาย โดนที่พระรูปนั้นไม่มีหลักฐานว่าฆราวาสผิด แต่ทางฆราวาสนั้นมีหลักฐานว่าทางพระองค์นั้นผิด กรณีตัวอย่างพระรูปนั้นพูด "ว่าไม่แหกตาดูหรือไร ?" คำพูดนี้สุดท้ายพระรูปนั้นมาดูทีหลังก็รู้ว่าฝั่งตัวเองเป็นคนผิด แต่ได้กล่าวโทษฆราวาสนั้นออกมาก่อนแล้ว แบบนี้มีความผิดหรือไม่ประการใดครับ ?
ตอบ : ถ้าปรับอาบัติพระก็เป็นข้อทุพภาสิต ก็คือกล่าววาจาที่ไม่สมควร เป็นอาบัติที่เล็กที่สุดในโลกที่จะพึงมีพระวินัยของสงฆ์ ต้องบอกว่าเล็กกว่าจับเงินอีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:31 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
ถาม : ขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยแนะนำวิธีการที่ถูกต้องในการนำเอาวัตถุมงคล ทั้งที่เป็นพระพุทธรูป เทวรูป และเครื่องรางของขลัง เข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุน ในวันที่ ๙ กรกฎาคมนี้ เพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่วัตถุมงคลเหล่านั้น และแก่ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีด้วยครับ ?
ตอบ : แบกขึ้นไปไว้บนพระเจดีย์วัดท่าขนุน...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:31 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
ถาม : ลูกนั่งสมาธิช่วงเช้า พอจะออกจากห้องพระ ลูกมักสังเกตเห็นเทวดาองค์หนึ่งชัดเจนมาก ท่านสวมเครื่องทรงเป็นเพชร สวมชฎาในมือถือดาบ เทวดาองค์นี้ลูกเห็นประจำ ครั้งหนึ่งตอนที่ลูกเคยไปกราบเรียนหลวงพ่อเรื่องของวิธีหนีการเป็นร่างทรง พอกลับจากหลวงพ่อ ลูกก็เข้าวัดสร้างความเพียรอย่างหนัก วันหนึ่งขณะเดินจงกรมแก้ความกลัว เห็นเทวดาองค์นี้ลอยลงมาพุ่งชนลูก ลูกมีอาการเหมือนถูกชนอย่างรุนแรง ไปนั่งสมาธิก็เห็นท่านมาพุ่งชนลูกอีก หลังจากนั้นก็เห็นเทวดาองค์นี้เป็นประจำ จึงขอกราบเรียนถามหลวงพ่อ ลูกควรจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ควรบูชาท่านอย่างไรจึงจะเหมาะควร ?
ตอบ : อันดับแรกขอ ID Line ของท่านให้ได้ก่อน แล้วส่งข้อความไปถามท่านว่ามาด้วยธุระอะไร ? ถ้าหากท่านไม่เลิกชนก็ติดกันชนไว้ด้วย...! เจอกันนานเนกาเลขนาดนั้นก็ถามท่านสิ ว่าทำอะไรควรเหมาะสำหรับท่าน เดี๋ยวท่านก็บอกเอง ถาม : หลายวันก่อน ลูกได้ทราบว่า ญาติธรรมเข้ารับการผ่าฝีครั้งที่ ๑๐ เมื่อทราบเช่นนี้ พลันมีภาพพระและหลวงพ่อผุดขึ้น บอกวิธีแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องของการขอขมาพระ และขอขมากรรม และการแนะนำให้สร้างบุญกุศล ลูกได้เห็นดังนั้นจึงทบทวนสิ่งหลวงพ่อสอน ว่าถ้าใครไม่ล้มทับเท้าหลวงพ่อ หลวงพ่อจะไม่ยุ่งเรื่องกรรมของใคร ลูกตัดสินใจเงียบ แต่ในช่องอกของลูกมีอาการเหมือนมีพัดลมหมุนอย่างรุนแรงจนลูกจะเป็นลมและ อาเจียน จึงได้บอกวิธีเขาไป อาการดังกล่าวก็พลันหาย ลูกมักมีอาการแบบนี้เสมอ ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะวิธีต่อต้านพัดลมในอกที่ทำให้ลูกต้องเกี่ยวข้องกับกรรม ของผู้อื่นด้วยเจ้าค่ะ ? ตอบ : ปิดสวิทช์...! คนบางประเภทจำเป็นต้องยุ่งเพราะเป็นหน้าที่ตัวเอง ฝืนไม่ได้ ลองดื้อดูก็ได้ว่าไหวไหม ? ถ้าไม่ไหวก็ยอมทำให้เขาเสียแต่โดยดี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:33 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของคำถามที่เมื่อครู่ใช้คำพูดของลุงเท่งว่า "กูจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือวะ ?" เพราะบางท่านเจตนาในการถามคำถามมีน้อย แต่เจตนาที่จะอวดผลการปฏิบัติของตัวเองมีมาก ก็เล่าไปเรื่อยเปื่อยจนออกทะเล บางทีก็ลืมไปว่าตนเองจะถามเรื่องอะไร ซึ่งถ้าถามว่าสมควรที่จะเล่าถึงขนาดนั้นไหม ? ก็ไม่จำเป็น แต่ขณะเดียวกันก็โดนกิเลสดันปากให้พูดออกมา ถือเป็นเครื่องวัดกำลังใจได้ว่า กำลังใจของเรายังต่ำมาก กิเลสสามารถจูงจมูกได้อยู่ จึงต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:34 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
"เมื่อครู่มีคำถามว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยในหลวงได้มากกว่านี้ ถ้าจะช่วยจริง ๆ พอวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ ก็ไปลงประชามติ จะได้มีการเลือกตั้งเสียที นี่เป็นครั้งแรกที่กล่าวสนับสนุนรัฐบาลนี้ เพราะฉะนั้น...จงเอาหน่วยทหารออกจากวัดท่าขนุนได้แล้ว...! ส่งไปก็คุมเจ้าอาวาสไม่อยู่ แล้วจะส่งไปทำไมให้เปลืองเงิน...?
มีใครไปวัดท่าขนุนแล้วเจอบ้างไหม ? สรุปก็คือ พวกเราเข้าไปไหว้พระที่ศาลาตีนเขาไม่ได้ อาตมายังแกล้ง ๆ บอกพวกลูกศิษย์วัดสาว ๆ ว่า ถึงเวลาให้พรวดพราดเข้าไปสัก ๔-๕ คน บอกว่าหนูจะมาไหว้พระ ดูว่าเขาจะกระโดดออกมาไหม ? เพราะเขาเอาตาข่ายพรางคลุมรอบศาลาเลย อาตมาก็ยังงง ๆ ว่าเขาตั้งกองบัญชาการลักษณะนี้ได้อย่างไร ? กลายเป็นชี้เป้าไปหรือเปล่า ? แบบเดียวกับที่สามจังหวัดภาคใต้ จะมีการตั้งด่านและเอาเครื่องกีดขวางมาวางเพื่อให้รถไปช้า ๆ ถ้าเป็นอาตมาพวกทหารตายยับเยินแน่นอน ถึงเวลาขับรถกระบะมา ให้พรรคพวกนอนอยู่ข้างหลังสักสามคน วิ่งมาถึงเขากำลังเผลอก็ขว้างระเบิดและกราดยิง แล้วก็วิ่งต่อไป ซึ่งทหารจะไม่ผิดสังเกต เพราะรถทุกคันมาต้องชะลออยู่แล้ว แต่ถ้าเราปล่อยรถไปได้ตามปกติ ไม่ไปสร้างสิ่งกีดขวางไว้ รถคันไหนจะก่อเหตุ มาถึงต้องชะลอ เราจะผิดสังเกตและระวังตัวได้ทัน สรุปว่าไปทำอะไรโง่ ๆ เปิดโอกาสให้เขาเล่นงานได้ตลอด แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโง่..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:37 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
"ช่วงนี้ทางต่างประเทศมีการก่อการร้ายกันหนักมือขึ้น บ้านเราถ้ามัวแต่มาไล่จับบุคคลที่เห็นต่างกับตนเองอยู่ ระวังว่าถ้าเขาก่อเหตุแล้วจะป้องกันไม่ทัน ถ้าเราสามารถทุ่มเททรัพยากร ในการติดตามผู้ก่อการร้ายที่จะเข้ามาในประเทศของเราได้ เหมือนกับทุ่มเททรัพยากรในการสืบข่าวเก็บข่าวจากฝ่ายตรงข้าม อาตมายืนยันว่าต่อให้สุดยอดผู้ก่อการร้ายก็ทำอะไรบ้านเราไม่ได้ ต้องบอกว่าเรื่องฉลาด ๆ ไม่ทำ แต่เรื่องโง่ ๆ ขยันกันนัก...!
ในการปกครองประเทศเราต้องดูตัวอย่างในหลวง พระองค์ท่านเอาปากท้องประชาชนเป็นใหญ่ โครงการพระราชดำริทุกโครงการเป็นไปเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนทั้งนั้น ทุกรัฐบาลก็เห็นอยู่ ก็แค่เอาแนวพระราชดำริมาปฏิบัติให้เกิดผลเท่านั้นเอง เราไม่สามารถที่จะบังคับให้คนทุกคนเห็นเหมือนกับเรา คิดเหมือนกับเราได้ เพราะความต่างของสภาพจิต ตลอดจนกระทั่งประสบการณ์ และในสิ่งที่ตนเองโดนกระทำมา ย่อมทำให้คนคิดต่างกันได้ แต่ถ้ายึดถือตามกฎเกณฑ์กติกา ถึงเวลาเลือกตั้งกันใหม่ ถ้าหากอีกฝ่ายหนึ่งมีคนเห็นด้วยจำนวนมาก เขาชนะเข้าไปปกครอง เรื่องก็จบ เพียงแต่ปัจจุบันนี้เราฉีกกฎเกณฑ์กติกาทิ้ง แล้วมาตั้งกฎเกณฑ์กติกาเองเสียใหม่ โดยอ้างว่าในขณะนี้ไม่ใช่ระยะเวลาปกติ ก็ที่ไม่ปกติเพราะคุณไปทำให้ไม่ปกติ แทนที่จะปล่อยให้เป็นปกติไว ๆ กลับพยายามที่จะอยู่ต่อไปเพื่อให้ไม่ปกติยิ่ง ๆ ขึ้น ฟังแล้วเพลียจิต...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:35 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
"วันก่อนเด็กวัดที่มาเรียนหนังสือ บอกว่าข้าวแกงจานละ ๔๕ บาท ตักไม่กี่ทีก็หมดแล้ว อาตมาจำได้ว่าเคยบอกไว้หลายปีแล้วว่า ถ้าบ้านเราข้าวแกงจานละ ๑๐๐ บาท ก็ไม่ใช่ของแปลก ตอนนี้เริ่มมีแล้วนะ แพงกว่าร้อยด้วย โดยเฉพาะในสโมสรทหารบกขายก่อนเพื่อน จานละ ๑๕๐ บาท แสดงว่าเขาต้องมั่นใจว่าชาวบ้านอยู่ดีกินดี มีเงินไปซื้อกินแน่นอน..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมระวังเรื่องของน้ำไว้บ้างนะ ปีนี้ "น้องน้ำ" คิดถึงมาก รับรองว่ามาเยี่ยมแน่นอนโดยเฉพาะปักษ์ใต้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีหลายคนถามอาตมา โดยเฉพาะเพื่อนพระด้วยกัน ว่ามานั่งอยู่ตรงนี้เบื่อไหม ? ต้องบอกว่าเกินเบื่อไปแล้ว เกินเบื่อนี่ก็คือเคยชินจนตายด้านไปแล้ว ในเมื่อเป็นหน้าที่ก็ทำไปเรื่อย หมดหน้าที่เมื่อไรก็เลิก
เมื่อครู่ตอนเลิกจากที่นี่ขึ้นไปที่พัก เดินขึ้นบันไดไปก็บ่นไป เพราะชักจะขึ้นบันไดไม่ไหว ตั้งใจว่าถ้าอายุ ๖๐ แล้วจะอยู่วัด ใครอยากเจอก็ไปหาที่วัดก็แล้วกัน แล้วก็มีผู้คัดค้านว่าเป็นไปไม่ได้แน่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:38 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่ขึ้นไปก็คิดว่าจะควักวัตถุมงคลในตลับสีผึ้งลงมาให้เขาลงจำหน่ายในเว็บ แต่ดันลืม เอาไว้พอเขาเอาลงแล้วไปประมูลกันเอง ที่อยากจะควักออกมาเพราะตอนนี้วัตถุมงคลชักจะเยอะกว่าสีผึ้งแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:39 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ นี้ หากใครไม่ได้ไปวัด จะตั้งใจอธิษฐานรับยันต์ที่บ้านของตนเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดถ่ายทอดสด ให้ใช้ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม นั่งภาวนาตรงเวลาสัก ๓๐ นาที ถ้ารอบเช้าก็ ๑๐.๐๐ น. - ๑๐.๓๐ น. ถ้ารอบบ่ายก็ ๑๓.๐๐ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นต้น ภาวนาพุทโธง่าย ๆ ก็แล้วกัน หรือถ้าใครรู้สึกว่าสั้นไป จะใช้ อิติปิ โสฯ ทั้งบทก็เอา ตั้งใจว่าบารมีที่พระท่านสงเคราะห์มา เราขอรับทั้งหมด
แต่ท่านทั้งหลายที่ทำแบบนี้แล้วได้ผล แทนที่จะอยู่บ้านแล้วทำต่อไป ครั้งต่อไปก็มักจะวิ่งไปวัดอีก อาตมาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันในเมื่ออยู่บ้านก็รับได้ แต่กลับอยากจะไปรับที่วัด คงอยากจะไปกินบรรยากาศว่าโดนเขาเหยียบจะเป็นอย่างไร อุตส่าห์สร้างศาลาใหม่เสียใหญ่เบ้อเร่อ ไม่พอใช้อีกแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เทียนพรรษาวัดท่าขนุนระยะหลังนี้ไม่พอใช้งาน เพราะเอาไปใช้ผิดประเภท ถึงเวลาก็สับเป็นท่อน ๆ หล่อทำผางประทีปหมด หล่อผางประทีปแต่ละครั้งใช้ประมาณตันเศษ ๆ ที่ญาติโยมถวายมา ขอยืนยันว่าใช้หมดเกลี้ยง ไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งด้ายไส้เทียน เพราะว่าด้ายไส้เทียนเวลาหลอมแล้วเอาไปทำเชื้อเพลิงได้ดีมาก
ตอนนี้ก็มีท่านอ๊อด (พระพีระวิทย์ ชิตมาโร) เป็นหัวแรงใหญ่ ทำเตาหลอมเทียน แล้วก็มีทิดสึกใหม่รุ่นนี้อาสาว่าจะทำเตาหลอมเทียนให้ หลอมได้ทีละเป็น ๑๐๐ กิโลกรัม แล้วก็บอกว่าทำให้หลายวัดมาแล้ว อาตมาก็ยังงง ๆ เพราะยังไม่ได้ยินว่ามีวัดไหนหลอมเทียนเพื่อทำผางประทีป แต่ยังไม่ได้ยินจากไอ้ทิดด้วยตนเองก็เลยไม่ได้ซักถาม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 16:45 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ ๕ นอกจากพุทธาภิเษกพระขุนแผนเกราะเพชรแล้ว อาตมายังทำเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๒ เป็นเหรียญเล็ก เหรียญรุ่นแรกใหญ่บางคนบ่นว่าหนัก แต่เสี่ยตือบอกว่าเล็กไป แสดงว่าการสร้างเหรียญต้องดูน้ำหนักคนแขวนด้วย คนแขวนตัวใหญ่ยังบ่นว่ารุ่นเก่าเล็กไป ส่วนคนแขวนตัวเล็กบ่นว่ารุ่นเก่าใหญ่ไป ก็เลยทำรุ่นใหม่ โตประมาณเหรียญสิบบาท น้ำหนัก ๑ บาทถ้วน
เหตุที่น้ำหนัก ๑ บาทถ้วน เพราะว่าด้านหลังมียันต์มหาสะท้อน ถ้าเป็นทองคำหรือเงินไม่ถึง ๑ บาท เดี๋ยวจะไม่มีผลตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกำชับเอาไว้ สร้างแค่ไม่กี่เหรียญ สร้างเอาดังเฉย ๆ ถึงเวลาก็ไปแย่งกันเองก็แล้วกัน กะว่าจะไม่เปิดจองในเว็บ จะให้ไปหัวทิ่มกันที่วัด พระขุนแผนเกราะเพชรรุ่นนี้ตั้งใจทำจริง ๆ เพราะว่าเมืองกาญจน์เป็นบ้านขุนแผน ต้องบอกว่าไม่ใช่บ้านเกิดก็เป็นบ้านญาติ ไม่ใช่บ้านญาติก็เป็นบ้านที่ท่านไปครองเมืองอยู่ แล้วลูกหลานก็เป็นเจ้าเมืองต่อเนื่องกันมา อาราธนาท่านไว้แล้ว คาถาตอนปลุกเสกก็ได้มาแล้ว ถึงเวลามีหน้าที่รอว่าท่านจะให้ทำอะไรเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:49 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ปีนี้พระและฆราวาสของวัดท่าขนุนเรียนปริญญาโทเพิ่มอีก ๖ รูป/คน เป็นการเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องไปผจญภัยกันเอง คำว่าผจญภัยกันเองก็คือ เรื่องที่พักจะลำบากนิดหนึ่ง เพราะว่าที่วัดศรีสุดารามที่พักเต็ม ไปขอเจ้าหน้าที่แล้ว เขาบอกว่าอนุญาตให้นอนในห้องเรียนได้
แต่คราวนี้นางสาวภัทรวรรณเธอเป็นผู้หญิง จะไปนอนห้องเรียนกับพระก็ไม่ได้ ท้ายสุดก็เลยไปขอที่นอนที่วัดไร่ขิง ถึงเวลาก็นั่งรถเมล์จากวัดไร่ขิงเข้าไปเรียนที่วัดศรีสุดาราม บางทีเห็นเด็กวัดหรือพระภิกษุสามเณรเขาเรียนหนังสือแล้ว ตั้งใจเรียนกันมาก เพราะว่าทุกคนอยากเรียน พยายามดิ้นรนจนมีโอกาสได้เรียน ในขณะเดียวกันลูกชาวบ้านทั่ว ๆ ไป พ่อแม่ทุ่มเทชนิดทูนหัวทูนเกล้าให้ กลับไม่ค่อยอยากจะเรียน ต้องบอกว่าน่าตายมาก...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:50 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันแม่ปีนี้ขาดหลวงพ่อยิ้มไปหนึ่งองค์ หลวงพ่อยิ้ม วัดบ้านไร่ ปีนี้ไปสมัครเป็นนักเรียน ป.บส. อาทิตย์ที่ ๑ อาตมาไม่เจอหน้าก็บ่นเอาไว้ อาทิตย์ที่ ๒ ไม่โผล่มาอีกก็เลยด่าเลย “เห็นว่าอาจารย์เป็นเพื่อนหรืออย่างไรวะ ? ถึงไม่มาเรียน” ปรากฏว่าเพื่อนนักเรียนบอกว่า “อาจารย์ยิ้มตาย เผาไปแล้วครับ” อาตมาก็คาดว่าคงจะไปดี ถึงได้มัวแต่เพลิดเพลินเจริญใจอยู่ แม้กระทั่งเพื่อนฝูงก็ไม่มาบอกมากล่าว
ผิดกับวันก่อน น้องเล็กวิ่งรถกลับวัด มีหมาวิ่งตัดหน้ากะทันหัน เสียงดังกร๊อบ..! แหง็ก..! แล้วก็ยื่นหน้ามาเสนอหน้าว่าตายไปแล้ว แสดงว่าหมาดีกว่าอาจารย์ยิ้มหน่อยหนึ่ง พอตายปุ๊บก็มารายงานตัวปั๊บ...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:51 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาร่างกายไม่ค่อยดี ต้องฉันยาฟื้นฟูใหม่ ปีนี้อายุเข้า ๕๘ ปีแล้ว ปรากฏว่าคูณธาตุออกมา ธาตุไฟเหลือศูนย์ หมดสิทธิ์มีเมียโดยเด็ดขาดและสิ้นเชิง ไม่มีธาตุไฟก็คึกไม่ไหว ยางวดนี้ที่หมอให้มาเผ็ดกระโดดเลย มีพริกไทย มีดีปลี มีสะค้าน มีกานพลู ฯลฯ ประเภทถ้าคนทั่วไปกินลงไปแล้วอาจจะร้อนในตาแดง หรือไม่ก็เลือดกำเดาไหล แต่คนแก่ฉันลงไปแล้วก็ยังเฉย ๆ อยู่
ธาตุดินเหลือ ๒ ส่วน ธาตุไฟเหลือศูนย์ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าไม่ตายสักทีก็ทนอยู่ไปเรื่อย ไปนึกถึงอาจารย์มหาทรงกลด (พระมหาทรงกลด กุสลจิตฺโต) วัดกลางบางแก้ว ป่วยเป็นมะเร็งตับ ความจริงก็บวชพรรษาเดียวกัน แต่ท่านแก่กว่า ๒ เดือน เพียงแต่ว่าอายุท่านแซงหน้าไป ๘ ปี ไปวัดท่าขนุน บอกว่าขอมาฝากผีฝากไข้ด้วย ก็คือตั้งใจไปตาย ตอนนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก อาตมาก็พิจารณาแล้วว่า แม้ว่าเมรุวัดท่าขนุนยังไม่เสร็จดี แต่ว่าเตาเผาเรียบร้อยแล้ว อาจจะได้ทดสอบคุณภาพเร็ว ๆ นี้...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:53 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
"วันก่อนช่างเทคนิคมาแนะนำวิธีการใช้เตาเผาปลอดมลพิษ มีทั้งหมด ๑๒ ขั้นตอน ถ้ารวมตั้งแต่ยกคัตเอาต์ สับสวิทช์ก็ ๑๔ ขั้นตอน พอแนะนำเสร็จ อาตมาก็ลองเป็นคนแรก ทวนทำตามขั้นตอนให้ดู ช่างก็ชมว่าพระอาจารย์จำแม่นมากเลยครับ บอกครั้งเดียวก็ทำได้เลย ใคร ๆ เขาก็บอกตูครั้งเดียวตลอด ไม่เห็นเขาบอกซ้ำสักที...!
ตอนนี้ในส่วนที่ยากของเมรุก็คือ เรื่องของลายไทยและยอดเมรุ ยอดเมรุตามที่ช่างออกแบบมาจะเป็นฉัตร ๙ ชั้น แต่ช่างที่ทำฉัตรบอกว่า ในเรื่องของฉัตรนั้นโดยปกติแล้วเป็นเครื่องราชูปโภค ควรเปลี่ยนแบบเสียดีกว่า อาตมาก็เฉลียวใจคิดตอนเขาทักนี่แหละ ตอนก่อนหน้านั้นก็ลืมไป จึงตกลงเปลี่ยนเป็นยอดพุ่มข้าวบิณฑ์แทน ส่วนในเรื่องของลาย ช่างก็กำลังปั้นลายอยู่ แล้วก็บอกว่าให้รีบทำหน้าบันเพื่อติดลายก่อน เพราะว่าช่างปูนมัวแต่ทำงานส่วนอื่น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ออกพรรษาน่าจะเรียบร้อยใช้งานได้ ตอนนี้กำลังรอประเดิม ช่างเทคนิคเขาบอกว่าจะนัดวันเผาต้นกล้วยให้ดู ก็คือต้นกล้วยจะมีน้ำมากคล้าย ๆ กับร่างกายคน ลองเผาเพื่อจับเวลา แล้วก็ตรวจสอบว่าใช้น้ำมันเท่าไร แต่อาตมาอยากได้เผาจริงมากกว่า กำลังรอท่านอาจารย์มหาทรงกลดว่าจะตัดใจสิ้นลมวันไหน...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:55 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|