กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-12-2009, 16:03
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,487 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ปริศนาธรรม

ถาม : แล้วนั่งบนอาสนะ ?
ตอบ : สมัยนั้นเขานึกไม่ทัน เพราะแปลปากเปล่า การแปลปากเปล่านี่ สมเด็จพระสังฆราชสา ปุสเทโว ท่านแปลปากเปล่า ๙ ประโยค ท่านอยากจะใช้ชีวิตทางโลก ท่านก็สึก รัชกาลที่ ๔ สั่งจับขังคุกเลย เอาผ้าไตรวางไว้หน้าประตู ถ้าออกมาก็ต้องบวช ถ้าอยากสึกอยู่ในคุกต่อไป

ท่านเลยต้องบวช พอบวชเสร็จท่านก็คิดว่า... เราสึกมาระยะหนึ่ง ความรู้จะแน่นเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ จึงเข้าแปลใหม่ แปลได้ ๙ ประโยคอีก เขาเลยเรียกท่านว่ามหาสา ๑๘ ประโยค ตอนหลังได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชสา ปุสเทโว มีองค์เดียวในประวัติศาสตร์ ที่ได้ ๑๘ ประโยค เก่งขนาดนั้น รัชกาลที่ ๔ จึงเสียดาย สึกไปจะได้ประโยชน์อะไรกับทางโลกนักหนา เอาทางธรรมดีกว่า จนท่านได้เป็นพระสังฆราช

เรื่องของรัชกาลที่ ๔ ท่านมีเยอะ โดยเฉพาะงัดข้อกับหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆัง (หลวงพ่อโต วัดระฆัง) ต่างคนต่างเป็นนักปราชญ์..ใช่ไหม ? ถึงเวลาท่านสร้างวังสระปทุม ที่ปัจจุบันเป็นวัดปทุมวนาราม มีหลวงพ่อพระเสริม พระพุทธรูปที่ได้จากลาว เมื่อสร้างขึ้นมา สนมกำนัลก็เพลิดเพลินจำเริญใจ พายเรือเที่ยวในสระบัว หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์แจวเรือเข้าไปรับบาตร รัชกาลที่ ๔ ภูมิใจว่าสร้างวังได้สวย ก็ตรัสถามว่า..."เป็นอย่างไร..ขรัวโต งามมากไหม ?"

หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านทูลว่า "งามมากมหาบพิตร..งามประดุจราชรถ" โอ้โฮ..! รัชกาลที่ ๔ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย ต่างคนต่างรู้กัน เพราะมีบาลีอยู่บทหนึ่งว่า เอตถะ ปัสสะถิมัง โลกัง จิตตัง ราชะระถูปะมัง แปลความว่า สูเจ้าทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้ที่งามประดุจราชรถ ซึ่งคนเขลาทั้งหลายหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องเกี่ยวไม่ ...(หัวเราะ)... ท่านบอกงามมากมหาบพิตร งามประดุจราชรถ รัชกาลที่ ๔ โกรธไฟแลบเลย แต่ท่านเป็นบัณฑิต ท่านรู้ว่าโดนลองของ พอถึงเวลาเลิกโกรธ ท่านก็นิมนต์เข้ามาใหม่

ลองกันหนัก ๆ อย่างนี้ บางทีโกรธขึ้นมาท่านสั่งถอดออกจากตำแหน่งเลย ยึดพัดยึดอะไรเกลี้ยงเลย ท่านก็เดินฉับ ๆ ของท่านกลับ สังฆการีวิ่งมานิมนต์ บอกว่า ทรงหายกริ้วแล้ว เอาพัดมาถวายคืน ท่านบอกไม่ได้ พัดนี้ต้องเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้เท่านั้นไม่ใช่คุณ อาตมาไม่รับ รัชกาลที่ ๔ ต้องนิมนต์ท่านเข้าวังไปรับพัดใหม่ เสียผ้าไตรอีกชุดหนึ่ง ...(หัวเราะ)... ปราชญ์ท่านเล่นกันนะ เสร็จแล้วองค์อื่นทำตามไม่ได้ เคยมีเจ้าคุณรูปหนึ่งเลียนแบบ..โดนเลย..เกือบจะสั่งเฆี่ยนไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นพระ

ตอนที่เจ้าจอมประสูติเจ้าฟ้า พอดีเป็นวันทรงศีล(วันพระ) หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆังท่านก็เทศน์ไปเรื่อย พระองค์ท่านก็อยากรู้เต็มทีว่าเป็นลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย ผุดลุกผุดนั่ง จะไปดูหน้าก็ไม่ได้ดูสักที เทศน์ไม่รู้จบ จนกระทั่งท่านทำใจว่า เอาละ..เดี๋ยวฟังเทศน์จบแล้วค่อยไปดูก็ได้ ใจเย็นลง ตั้งใจฟังเทศน์ หลวงพ่อโตท่านก็..เอวังด้วยประการฉะนี้

แหม..! เจ็บใจมาก วันพระหน้านิมนต์ใหม่ ตั้งใจเต็มที่เลย ทรงผ้าไปเพื่อเตรียมฟังเทศน์โดยเฉพาะ ท่านขึ้นธรรมาสน์เสร็จ "ใด ๆ มหาบพิตรก็ทรงทราบดีอยู่แล้ว เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้.." รัชกาลที่ ๔ ก็..อะไร ? วันพระที่แล้วนี่อยากจะไปดูหน้าลูก ไปไม่ได้สักที วันพระนี้ตั้งใจฟังเทศน์ มาจบเอาง่าย ๆ ตอนที่ไม่อยากฟังเทศน์เสียยาวเลย ท่านบอกว่า การฟังเทศน์ก็เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ให้เยือกเย็น มหาบพิตรร้อนพระทัยอยู่ ก็ต้องเทศน์ให้เย็นให้ได้ถึงจะเลิก แต่วันนี้ดีอยู่แล้วจะไปเทศน์ทำไม ? ...(หัวเราะ)...

เจ้าคุณรูปนั้นเลียนแบบบ้าง พอขึ้นธรรมาสน์ก็ "ใด ๆ มหาบพิตรก็ทรงทราบดีอยู่แล้ว.." เกือบโดนจับเฆี่ยน พระองค์ตรัสว่า "ยกให้ขรัวโตรูปเดียว.." พระองค์ท่านทรงทราบว่า หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆังท่านเป็นพระดีขนาดไหน สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านให้มาเป็นข้อคิด ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นปริศนาธรรม แล้วก็เป็นเรื่องที่เจตนาที่จะสงเคราะห์พระองค์ท่านโดยเฉพาะ พระองค์ท่านรับได้ โกรธแค่ไหนก็รับได้ แต่รูปอื่นอย่ามาเลียบแบบ เลียนแบบแล้วจะสั่งจับเฆี่ยนทั้งที่เป็นพระ ...(หัวเราะ)...

ถาม : หมายถึงท่านไม่นับถือพระรูปไหนเลยหรือ ?
ตอบ : ไม่ใช่ว่าไม่นับถือ นับถืออยู่ แต่ว่า...ลักษณะอย่างนี้ยกให้รูปเดียว จนกระทั่งคนเขาลือกันว่า ขรัวโตเป็นปาปมุติ ปาปมุติ หมายถึงผู้พ้นจากบาปทั้งปวงแล้ว หมายถึงพระอรหันต์เท่านั้น ทำอะไรก็ไม่ผิด

ขนาดสั่งเนรเทศออกจากแผ่นดินนี่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านไปนอนเขลงอยู่ในโบสถ์ ไม่ไปไหนหรอก สังฆการีไปถึงก็บอก "นิมนต์ไปได้เลยครับเพราะว่าทรงไม่ให้อยู่ในแผ่นดินแล้ว.." ท่านบอกว่านี่ไม่ใช่แผ่นดิน นี่เป็นเขตสงฆ์ เขาเรียกว่า พัทธสีมา เป็นเขตของสงฆ์ ไม่ใช่เป็นเขตของพระเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้นท่านอยู่ของท่านได้ จนกระทั่งต้องยอมยกโทษให้ ก็จริงของท่าน พระราชทานให้เป็นพุทธาวาสไปแล้ว..ใช่ไหม ? ไม่ใช่เขตในพระราชอำนาจของพระองค์ท่านแล้ว ไม่ใช่เขตการปกครองของพระองค์ท่านแล้ว เป็นเขตของวัด เขตของพระ นอนตีพุงสบาย ไล่ก็ไม่ไปหรอก

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2014 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
ขรัวโต, ปริศนาธรรม, ราชรถ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว