กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-08-2021, 20:21
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,629
ได้ให้อนุโมทนา: 216,939
ได้รับอนุโมทนา 747,972 ครั้ง ใน 36,427 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 20-08-2021, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,726 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อสักครู่นี้ผมประชุมเสร็จ ก็ส่งงานทางไลน์ให้ท่านปู (พระพงษ์สิทธิ์ สนฺตจิตฺโต) ทำ clipping news คราวนี้ด้วยความที่ผมเหนื่อยมาก ก็ได้หน้าลืมหลัง แก้แล้วแก้อีก จึงต้องขออภัยคนทำงานไป ท่านปูบอกว่า "ปัจจุบันนี้งานนี้ไม่มีใครช่วยผมแล้วครับ" พูดง่าย ๆ ก็คือกลัวโดนว่าถ้าผิดพลาดแล้ว จะโดนผมตำหนิหรือกลัวว่าจะโดนผมด่า ผมก็ไม่นึกว่ากำลังใจของพวกท่านจะห่วยแตกได้ขนาดนี้..!

แต่จะว่าไปแล้ว สมัยที่ผมอยู่วัดท่าซุงก็เป็นแบบนี้นะครับ ก็คือบรรดาพระเถระที่อยู่เวรยามหน้าห้องทำงานของหลวงพ่อวัดท่าซุง พอมีอะไรผิดพลาด..โดนท่านด่า ก็เตลิดเปิดเปิงหมด..อยู่ไม่ได้ มีผมนี่แหละครับ..ที่โดนส่งเข้าไปแล้วเขาหวังว่า "มึงตายคาที่แน่นอน..!" แต่ปรากฏว่าผมอยู่นานที่สุด อยู่จนกระทั่งหลวงพ่อวัดท่าซุงมรณภาพไปเลย

เพราะผมมีความคิดว่า ถ้าหลวงพ่อด่าก็คือผมผิด ผมต้องแก้ไขตรงจุดนั้นและจะไม่ให้ผิดอีก ซึ่งพวกท่านเองอาจจะไม่มีกำลังใจอย่างนี้ แล้วบรรดาพี่ ๆ ที่เตลิดเปิดเปิงไปหลังจากหลวงพ่อท่านด่าแล้ว ก็คงไม่ได้คิดอย่างนี้ ความคิดของผมก็คือ ไม่มีพ่อที่ไหนอยากฆ่าลูกหรอก ยกเว้นว่าลูกนั้นเหลือเข็นจริง ๆ ถ้าท่านด่าแปลว่าเรายังแก้ไขได้

ถ้าท่านที่อยู่กับผมนานหน่อย จะได้ยินผมบอกอยู่ประโยคหนึ่งว่า "แม้แต่การทำความดี เราก็ต้องหน้าด้าน เพราะว่าถ้าคุณหน้าไม่ด้านไม่ทนพอ คุณจะทนทำต่อไม่ได้ครับ"

พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนเลยว่า "อานันทะ...ดูก่อนอานนท์ เราจักไม่ปฏิบัติต่อพวกเธอด้วยความทะนุถนอม เหมือนกับช่างหม้อที่ปฏิบัติต่อหม้อดินที่ยังเปียกยังดิบอยู่ แต่เราจักกระหนาบแล้วกระหนาบอีก ชี้โทษแล้วชี้โทษอีก บุคคลที่มีมรรคผลเป็นแก่นสารเท่านั้นจึงจักทนอยู่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 20-08-2021, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,726 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ผมกล่าวตรงนี้เพราะว่า ท่านปูขออนุญาตไปจำพรรษาที่วัดวังปะโท่ แล้วก็อีกหลายท่านนับสิบรูปที่ขอไปจำพรรษาที่อื่น ผมอยากจะบอกว่า กำลังใจแบบนี้เป็นกำลังใจที่หนีปัญหา ท่านจะไม่มีวันมีความก้าวหน้าขึ้นมาเลย เพราะว่าเจอปัญหาแล้วไม่แก้ไข แต่ใช้วิธีหนีห่าง..!

การอยู่ร่วมกัน การกระทบกระทั่งกันย่อมมีเป็นปกติ แม้กระทั่งเรื่องของการจัดเวรจัดยาม แบ่งปันหน้าที่กัน ก็มีการกระทบกระทั่งกัน แต่พวกท่านทั้งหลายลืมอะไรไปหรือเปล่าครับว่า เราเป็นพระภิกษุสามเณร ต้องอยู่ด้วยพระธรรมวินัย ผู้อาวุโสกว่าก็คือพี่ ล่วงเกินเมื่อไร ก็โดนอาบัติแดกเมื่อนั้น...!

ลองนึกถึงพระมหากัสสปะสิครับ พระพุทธเจ้าให้โอวาท ๓ ข้อว่าอย่างไร ? "ดูก่อนกัสสปะ...ขอเธอจงเข้าไปตั้งอยู่ในความเกรงใจต่อพระภิกษุผู้เป็นนวกะ มัชฌิมะ และพระเถระอย่างแรงกล้า"

ทำไมถึงต้องกล่าวแบบนั้น ? เพราะว่าพระมหากัสสปะเป็นผู้ใหญ่ อายุมาก เป็นเศรษฐี บุคคลที่มากด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ แถมยังร่ำรวยด้วย อดไม่ได้หรอกครับที่จะติดนิสัยมา ก็คือไม่ค่อยที่จะเห็นหัวใคร แต่พระมหากัสสปะท่านตั้งใจบวชเพื่อเอาดีจริง ๆ ท่านรับฟังโอวาท ๓ ข้อแล้วปฏิบัติตามตลอดชีวิต ใครอยากรู้ว่าอีก ๒ ข้อมีอะไร ให้ไปหาอ่านเอาเอง แล้ว
ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ พวกท่านคิดว่าทำได้ไหมครับ ?

หลายท่านที่ขอไปอยู่ที่อื่น บางท่านก็ชื่นชมแนวประพฤติปฏิบัติของสายวัดป่าแบบธรรมยุต แต่ตัวเองนี่ไม่ได้สะเก็ดฝุ่นของเขานะครับ..ผมขอยืนยัน เพราะว่าท่านเองไม่เข้าใจเลยว่ากิจวัตร วิธีวัตร อาคันตุกะวัตร อุปัชฌายาจริยวัตรเป็นอย่างไร ??
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 20-08-2021, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,726 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้นจะต้องบอกว่า ผมเองเป็นส่วนทำให้ท่านบกพร่องด้วย เพราะว่าผมเป็นคนขี้รำคาญครับ อุปัชฌายาจริยวัตร คือวัตรปฏิบัติที่เราต้องกระทำต่อพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ตามที่ได้ปฏิญาณตนไว้ในวันบวชว่า "อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร" แม้แต่พระเถระก็เป็นภาระของกระผมด้วย ก็คือไม่ใช่แต่กระผมเป็นภาระของท่านเท่านั้น

ลองไปดูพระธรรมยุตสิครับ หรือไม่ก็ข้ามไปฝั่งพม่าดู ทันทีที่พ้นจากมัชฌิมะก้าวเข้าสู่ความเป็นพระเถระ ทุกรูปจะมีพระติดตามคอยดูแลรับใช้ พูดง่าย ๆ ก็คือว่าทำงานทุกอย่างแทน แม้กระทั่งสรงน้ำ เตรียมน้ำใช้น้ำฉัน เตรียมไม้สีฟัน เตรียมบาตรตอนออกบิณฑบาต รับบาตร ล้างบาตร ล้างเท้า เช็ดเท้า นวดถวาย แม้กระทั่งถูตัวให้ตอนสรงน้ำ ลองไปศึกษาดูครับ มีอยู่ในหนังสือวินัยมุข เล่ม ๒

แต่คราวนี้ที่ผมรำคาญเพราะว่า พระติดตามมักจะทำอะไรไม่ทันผม แทนที่ไปแล้วจะช่วยผม กลายเป็นผมต้องช่วยพวกท่านแทน ดังนั้น..แม้กระทั่งแก่จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อยากให้มีพระอนุจรติดตามเพราะว่ารำคาญ เนื่องจากท่านขาดไหวพริบปฏิภาณ มองงานข้างหน้าไม่เป็น ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วแต่ละคนก็ดันแบกกิเลสท่วมหัวอีก กูเก่ง กูใหญ่ เรื่องนี้กูรู้ดี แล้วจะบวชมาทำ "เหี้ย" อะไรครับ ก็มึงรู้ขนาดนั้นแล้ว..!

การบวชเข้ามาก็เพื่อขัดเกลา กาย วาจา ใจ ตามที่ครูบาอาจารย์สั่งสอน อาจารย์คือใคร ? ก็คือรุ่นพี่ แต่พวกคุณ "เป็นคนคิดบวก" ผมก็ดีใจครับ ถ้าคุณเป็นคนคิดบวก แต่ไอ้ของคุณนั้น "พร้อมที่จะบวก..!" โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองกิเลสท่วมหัวขนาดไหน แบกเอาสักกายทิฐิและมานะมาเต็ม ๆ แต่เสือกทะลึ่งคิดว่าตัวเองดี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 17:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 20-08-2021, 22:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,726 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าเราไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กาย วาจา ใจ ของเราล่วงเกินรุ่นพี่อยู่ตลอดเวลา ก็เท่ากับอาบัติกินหัวอยู่ทุกวัน ศึกษาพระวินัยแล้วต้องรอบคอบ ไม่มีใครเขามาชี้แจงให้ทุกซอกทุกมุม ลองไปอยู่กับพระธรรมยุตสิครับ พวกท่านจะลำบากแค่ไหน ? แม้กระทั่งจะลุกไปเปิดพัดลม ต้องถามก่อนว่ารุ่นพี่เห็นด้วยไหม ? ถ้าท่านไม่ต้องการ ก็ไม่มีทางที่จะได้เปิดหรอกครับ ไม่ใช่อย่างพวกเรา นึกจะเปิดพัดลม กูก็ลุกขึ้นยืนค้ำหัวรุ่นพี่ ดึงปั้บ ๆ เลย..!

ผมบอกแล้วว่ายิ่งอยู่ไป ยิ่งปฏิบัติไป ต้องยิ่งละเอียด ไม่ใช่ยิ่งอยู่ยิ่งกิเลสมาก เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ผมเป็นคนผิด เพราะผมคิดว่าพวกท่านจะฉลาดพอที่จะศึกษาตำรา เมื่อสงสัยตรงไหนก็สอบถามครูบาอาจารย์ แต่ปรากฏว่าโง่บรรลัยเลย..! ถ้าต้องให้บอกทุกอย่าง คุณคิดว่าผมจะมีเวลาพอไหม ? คุณก็เห็นอยู่ว่าภาระงานแต่ละวันของผมขนาดไหนบ้าง ??

พระภิกษุสามเณรของเราปกครองกันด้วยธรรมวินัย คือปกครองกันแบบผู้ใหญ่ ปกครองโดยรุ่นพี่เอื้อเฟื้อรุ่นน้อง มีอะไรก็บอกกล่าวกัน เรารู้ว่าผิดพลาดตรงไหนก็แก้ไข ปลงอาบัติอยู่ทุกวันแต่ไม่เคยจำ นะ ปุเนวัง กะริสสามิ กระผมจะไม่ทำเช่นนี้อีก นะ ปุเนวัง ภาสิสสามิ กระผมจะไม่พูดเช่นนี้อีก นะ ปุเนวัง จินตะยิสสามิ กระผมจะไม่คิดเช่นนี้อีก ตกลงว่าไอ้ที่ว่าอยู่ทุกวัน แปลออกบ้างไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 20-08-2021, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,726 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผมตั้งให้แต่ละคนมีหน้าที่ ก็เพื่อที่จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระ ช่วยให้การบริหารจัดการวัดให้เป็นไปด้วยดี ไม่ใช่ตั้งให้มีหน้าที่เพื่อที่จะเอาไปทะเลาะเบาะแว้งกัน

อย่างในเรื่องของเวรยาม หัวหน้าเวรคือผู้รับผิดชอบ ถ้าหากว่ามีอะไรบกพร่องขึ้นมา พอถึงเวลา เขาบอกกล่าวอะไร แทนที่จะพูดกันดี ๆ ไม่ได้หรอก..กูจะบวกท่าเดียว แล้วคิดบ้างหรือไม่ว่าอาบัติที่กินตัวอยู่ทุกวัน ถ้าหากว่าตายลงไปตอนนั้น แล้วจะเดือดร้อนขนาดไหน ?

ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า เราเป็นพระ เป็นเณร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพระธรรมวินัย ถ้าพระธรรมวินัยที่เป็นแค่ส่วนของศีล เรายังไม่สามารถทำได้ ไม่ต้องไปหวังความสำเร็จในเรื่องของสมาธิ ไม่ต้องไปคิดว่าเราจะมีปัญญารู้เท่าทัน แล้วตัดกิเลสได้ เพราะว่าของหยาบเรายังทำไม่ได้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าถึงความละเอียดที่มีมากกว่านั้น

ขอฝากทุกท่านเอาไว้เป็นการบ้านด้วย ญาติโยมที่ฟังอยู่อาจจะไม่ได้ประโยชน์ แต่ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะว่าปัญหาเกิดขึ้น เราจะปล่อยให้คาราคาซังไม่ได้ หลายเรื่องแม้ว่าผมรู้ แต่ว่าต้องรอ ก็คือรอให้มีเหตุที่จะบอกกล่าวให้แก้ไขก่อน แต่คราวนี้พวกท่านทั้งหลาย บางทีพอเห็นผมเฉย ๆ ก็คิดว่ากูชั่วได้ จึงทำไปเรื่อยเปื่อย..!

ไปลองนึกดูก็แล้วกันว่าตอนแรกเราตั้งใจบวชมาเพื่ออะไร ? แล้วปัจจุบันนี้ เรายังทำได้สมดังความตั้งใจหรือเปล่า ? ก็ขอฝากทุกท่านเอาไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2021 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว