กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-11-2022, 18:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,653
ได้ให้อนุโมทนา: 216,941
ได้รับอนุโมทนา 748,038 ครั้ง ใน 36,447 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-11-2022, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,819 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ภารกิจสำคัญในวันนี้ของกระผม/อาตมภาพก็คือ บรรยายให้กับนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุอำเภอทองผาภูมิ (รุ่นที่ ๓) ซึ่งมารับฟังการบรรยายและทัศนศึกษานอกที่ตั้ง โดยหัวข้อที่ต้องบรรยายก็คือ หลักธรรมสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

กระผม/อาตมภาพก็เน้นในเรื่องของความมีสติ เพราะว่าผู้สูงอายุหลายท่านมักจะลืมไปว่าตนเองนั้นชรามากแล้ว โดยเฉพาะตัวกระผม/อาตมภาพ ดังนั้น..อาจจะเผลอไปทำอะไรหนัก ๆ โดยคิดว่าตนเองยังหนุ่มยังสาวอยู่ ทำให้มีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย หรือว่าเกิดอาการสภาพร่างกายรวนขึ้นมาได้ อีกส่วนหนึ่งก็คือให้เน้นในเรื่องของสังคหวัตถุ ๔ ก็คือ ๑. ต้องรู้จักแบ่งปันกับคนอื่น ๒. รู้จักทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ๓. มีวาจาที่เหมาะสมกับกาลเทศะ และท้ายที่สุดก็คือ ๔. เอาใจเขามาใส่ใจเรา

หลังจากนั้นก็ได้นำพานักเรียนผู้สูงอายุเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธเจติยคีรี ซึ่งมีบันได ๒๙๓ ขั้น จากที่ผู้สูงอายุไม่เคยคิดจะขึ้นไปกันเลย เมื่อได้รับกำลังใจจากกระผม/อาตมภาพว่าให้ขึ้นไปดูว่า ทองผาภูมิของเรานั้น หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดไหนแล้ว ? หลายคนเมื่อขึ้นไปถึงก็ตื่นเต้นมาก

บางคนก็บอกว่า ไม่นึกเลยว่าหลวงพ่อจะพัฒนาวัดท่าขนุนและรอบบริเวณได้ถึงขนาดนี้ บางท่านก็บอกว่า เคยขึ้นมาครั้งเดียวในสมัยที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ ๆ แล้วก็ไม่ได้ขึ้นมาอีกเลยจนถึงวันนี้ ก็แปลว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้ขึ้นมาเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว เพราะว่าพระพุทธเจติยคีรี สร้างเสร็จและฉลองในปี ๒๕๓๔ ปีนี้เป็นปี ๒๕๖๕ แล้ว

เมื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเรียบร้อย ทุกคนก็เดินทางลงจากยอดเขา สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ขาลงเป็นเรื่องที่ยากกว่าขาขึ้น เพราะว่าต้องอาศัยกำลังขาในการยั้งตัวเองลงมาทีละขั้น บุคคลที่กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงอาจจะมีการอ่อนล้า หัวเข่าพับลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุตกบันไดได้ กระผม/อาตมภาพจึงย้ำกับทุกคนว่าให้เกาะราวบันได้ลงด้านข้างทั้ง ๒ ฝั่ง อย่าได้เลียนแบบกระผม/อาตมภาพที่เดินลงตรง ๆ เพราะว่าความแข็งแรงนั้นต่างกัน

กระผม/อาตมภาพเดินขึ้นยอดเขาพระพุทธเจติยคีรีใช้เวลาประมาณ ๔ นาทีครึ่งเท่านั้น แต่ว่าในวันตักบาตรเทโว ๒๕๖๕ เนื่องจากว่าอดข้าวมาจากการเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ครั้งล่าสุดที่ผ่านมาจึงใช้เวลาในการเดินขึ้นไปจนถึงด้านบนเกือบ ๗ นาที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2022 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-11-2022, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,819 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อลงมาข้างล่าง ยังไม่ทันที่จะพักให้เหงื่อแห้ง เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ก็คือพระพัฒน์ ฐิตาจาโร มาเรียนว่า "เสธ.นิดกับคณะมาถึงแล้วครับ" เสธ.นิดในที่นี้ก็คือ พลตรีศรชัย มนตริวัตร อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย อดีต ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรีหลายสมัย ซึ่งเคยร่วมงานกันมาอย่างใกล้ชิดในสมัยที่กระผม/อาตมภาพได้ช่วยเหลืองานพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ.๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม

โดยเฉพาะตอนที่ตั้งใจจะพัฒนาวัดราษฎร์ประชุมชนาราม หรือว่าวัดท่ามะขาม แล้วมีความเห็นตรงกันว่า "ควรที่จะรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ทั้งวัด..!"

แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินไปถึงศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย สิ่งที่เห็นก็คือคณะของคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ซึ่งคุณหญิงกอแก้ว ก็คือภริยาของพลตำรวจเอกพจน์ บุณยะจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเห็นหน้ากระผม/อาตมภาพ คุณหญิงกราบด้วยความดีใจ กระผม/อาตมภาพต่อว่า "เหตุใดถึงต้องใช้ชื่อเสธ.นิดด้วย ?" คุณหญิงตอบแบบคนรู้จริงว่า "ถ้าใช้ชื่อคณะของดิฉันขอพบ ถ้าท่านไม่หนีไปเลย ก็คงจะอ้างว่าติดงาน ไม่ว่างที่จะพบ" กระผม/อาตมภาพ
ได้ฟังแล้ว ฉิวก็ฉิว..ขำก็ขำ..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วญาติโยมทั้งหลายที่ไปวัดท่าขนุนนั้น โอกาสที่จะได้พบตัวกระผม/อาตมภาพนั้นน้อยมาก เนื่องเพราะว่าตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ที่บรรดาผู้บังคับบัญชาก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ตาม ประเดประดังจัดสรรถวายมานั้น รวมแล้วถึง ๓๐ กว่าตำแหน่ง ทำให้ต้องวิ่งทั้งงานการคณะสงฆ์ ตลอดจนกระทั่งงานกึ่งราชการอยู่ด้านนอก แทบจะไม่มีเวลาให้ญาติโยมได้พบที่วัดเลย

บุคคลที่ไปวัดต้องเสี่ยงดวงเอาเองว่าจะมีโอกาสได้พบหรือไม่ เพราะว่าต่อให้มีการนัดหมาย ถ้าหากว่าเป็นงานคณะสงฆ์ หรือว่างานในรั้วในวังมา กระผม/อาตมภาพก็จะต้องทิ้งการนัดหมายของท่านทั้งหลายไปโดยปริยาย เพราะว่าลำดับความสำคัญให้กับงานเหล่านั้นมากกว่า

โดยเฉพาะบุคคลที่มาจำนวนหนึ่ง ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปเอาข่าวมาจากไหน จึงตั้งใจมาเพื่อให้กระผม/อาตมภาพรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวอย่างชัดเจนหลายครั้งแล้วว่า "ไม่ใช่หมอ ไม่สามารถที่จะรักษาได้ ถ้าหากว่าต้องการจะรักษาโรค ก็ให้ไปหาแพทย์แผนปัจจุบัน หรือว่าไปหาครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความถนัดในด้านนี้" แต่บางคนก็ต่อว่ามารุนแรงมาก ด่าขนาดขึ้น "ไอ้เหี้_" "ไอ้สัตว์" เลยก็มี กล่าวหาว่ากระผม/อาตมภาพ "ไม่ใช่พระ" "ขาดเมตตาจิต"..!!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2022 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-11-2022, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,819 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยอยู่ว่า ท่านทั้งหลายจะหลงประเด็นหรือเปล่า ? เพราะว่าเมื่อไม่มีความสามารถที่จะรักษาโรค ต่อให้มีความเมตตาขนาดไหน ก็คงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้ ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า "การที่เราจะไปบอกกับควายว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ ก็มีควายน้อยตัวนักที่จะเข้าใจภาษาคนอย่างแท้จริงได้ ก็มักจะเอานิสัย หรือว่าความคิด ตลอดจนกระทั่งการกระทำแบบควาย มาคิดว่าแนวทางในการประพฤติปฏิบัติของครูบาอาจารย์หรือว่าของพระ จะต้องเป็นควายอย่างนั้น จะต้องเป็นควายแบบนี้ตามใจของตนเองถึงจะใช่ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่ใช่พระ..!"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สงสารว่า คนทั้งหลายเหล่านี้ช่างเป็นบุคคลที่ปัญญาน้อย ห่างไกลคุณความดีเหลือเกิน เพราะว่าอันดับแรกเลย ที่ไปวัดก็คือตั้งใจไปใช้พระ ต้องการให้พระรักษาโรคให้ตนเอง เมื่อพระไม่รักษาให้ เพราะไม่มีความชำนาญ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็กล่าวหาว่าพระขาดความเมตตา มีการทั้งด่าว่า ทั้งต่อว่า ดังที่กระผม/อาตมภาพเคยเจอมาด้วยตนเอง โดยที่ไม่ได้คิดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ว่ามีเมตตาก็จะช่วยเหลือได้ เป็นการพูดแบบเห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุด ถ้าไม่ได้อย่างใจของกู ก็แปลว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นไม่ใช่พระ..!

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สงสาร และรออยู่ว่า วันใดวันหนึ่งที่กำลังใจของท่านทั้งหลายสูงกว่านี้ สามารถที่จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหลายมากกว่านี้ ไม่เอาความคิดเฉพาะตนมาเป็นเครื่องวัดบุคคลอื่น โดยเฉพาะนักปฏิบัติ แล้วท่านทั้งหลายก็คงจะมีโอกาสในการขอขมาพระรัตนตรัยด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะได้แบกกรรมทั้งหลายเหล่านี้ไป โอกาสที่จะลงสู่อบายภูมิก็มีสูงมาก..!

หลังจากที่รับคณะของคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา แบบลวก ๆ จนกระทั่งคุณหญิงถามว่า "เตรียมไล่กันแล้วใช่ไหม ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่บอกว่า วัดท่าขนุนนั้นฉันเพลเวลา ๑๑ โมงครึ่ง คุณหญิงนัดมาตอน ๑๑ โมง ความจริงถ้าเป็นวัดอื่นก็คงไม่มีใครรอรับอยู่แล้ว แต่ว่าวัดท่าขนุนโชคดีที่ฉันเพลตอน ๑๑ โมงครึ่ง มีเวลาในการฉันแค่ ๓๐ นาที ถ้าให้เวลากับคณะของคุณหญิงมากไปกว่านี้ พระก็คงจะต้องอดเพลเช่นกัน

อำนวยอวยพรและถ่ายรูปกันเสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวไปฉันเพล โดยเฉพาะไปดูแลผู้สูงอายุทั้งหลายที่ทำตัวเป็นเด็กวัด มารอรับข้าวก้นบาตรอยู่ด้วย หลังจากเรียบร้อยแล้วก็ต้องเก็บข้าวของขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปยังภารกิจที่รัดตัวต่อไป

โดยที่อยากจะเรียนกับบรรดาแขกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายว่า ถ้าหากว่ามีบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์กัน ท่านทั้งหลายไปวัดก็มีโอกาสพบเจอเอง ถ้าหากว่าวาระบุญวาระกรรมยังไม่เปิดให้ ต่อให้นัดแนะกันไว้ ท่านทั้งหลายก็ไม่มีโอกาสได้พบ แบบเดียวกับคนทองผาภูมิ เห็นกระผม/อาตมภาพบิณฑบาต ก็ดีใจว่า "วันนี้หลวงพ่ออยู่วัด" พอสายหน่อยมาถึงวัด ปรากฏว่าหลวงพ่อข้ามไปหลายจังหวัดแล้ว..! เนื่องจากว่ากลับจากบิณฑบาต ฉันเช้าเสร็จ ก็ต้องรีบเดินทางไปตามภารกิจของตน

จึงเป็นเรื่องที่ต้องกล่าวคำขอโทษขออภัยต่อท่านทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้ เพราะว่ากิจการงานของคณะสงฆ์ก็ดี งานที่ครูบาอาจารย์สั่งให้ทำก็ตาม กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญกว่าการที่จะมานั่งรับญาติโยมอยู่กับวัด ทำให้ท่านทั้งหลายเดินทางไปไกลแล้วไม่มีโอกาสได้เจอเป็นส่วนมาก ได้แต่หวังว่าโอกาสหน้า ถ้าท่านทั้งหลายไม่ท้อใจเสียก่อน พยายามไปอีก ก็คงได้พบได้เจอกัน


สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2022 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว