กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-12-2022, 19:57
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,563
ได้ให้อนุโมทนา: 216,949
ได้รับอนุโมทนา 748,071 ครั้ง ใน 36,431 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-12-2022, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,032 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ พวกเราก็เหลือกันอยู่ไม่ถึง ๒๐ รูปดีกระมัง ? อ้อ...เกินสิ ยังมีเวรยามอยู่ด้วย..ใช่ไหม ? เพราะว่าส่วนหนึ่งก็ลา ซึ่งการลานั้น ถ้าหากว่ากลับบ้านกลับช่องเมื่อไร ก็จะมีแต่เรื่องร้อนหู ร้อนตา ร้อนใจ มาให้เมื่อนั้น..!

ส่วนหนึ่งก็ไปปฏิบัติธรรมประจำปีของพระนิสิต มจร. อีกส่วนหนึ่งหนักกว่านั้นอีก ไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์คุมการปฏิบัติธรรมของพระนิสิต ก็ต้องบอกว่าแต่ละรูปล้วนแล้วแต่มีภาระหน้าที่มากขึ้น ๆ ตามอายุกาลพรรษาของเรา

ในส่วนที่ต้องระวังที่สุดก็คือ ทำอย่างไรที่จะให้กำลังใจของเรามั่นคง จะได้มีกำลังในการทำงานอย่างหนึ่ง จะได้รักษากำลังใจไม่ให้ฟุ้งซ่านอีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นปัญหาที่ท่านทั้งหลายจะต้องไปหาทางแก้ไขกันเอาเอง เพราะว่าต่อให้บอกวิธีการไปเท่าไร ถ้าพวกเราไม่เอาก็เหนื่อยเปล่า..!

เรื่องพวกนี้ไม่สามารถที่จะทำแทนกันได้ ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของพวกเราเอง ถ้าแค่ทำวัตรสวดมนต์ เจริญกรรมฐาน ยังมาตรงเวลาไม่ได้ ก็มองเห็นอนาคตแล้วว่าเป็นอย่างไร แสดงว่ากำลังใจเราไม่ได้ปักมั่นอยู่กับวัตรปฏิบัติเหล่านี้เลย

วัตรปฏิบัติเหล่านี้ก็คือเกราะที่จะกำบัง คุ้มภัย ไม่ให้เราโดน รัก โลภ โกรธ หลง ทำร้ายได้มากนัก ในเมื่อเราไม่สนใจที่จะใส่เกราะ ก็เท่ากับว่าเดินตัวเปล่าออกรบ โอกาสตายมีสูงมาก..!

วันนี้กระผม/อาตมภาพไปหาหมอตามนัด ส่วนหนึ่งที่โดนหมอตำหนิมาก็คือ พอเข้าเดือนที่สอง หมอให้ไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลใกล้วัด แต่ว่ากระผม/อาตมภาพเองไม่มีเวลา พวกท่านก็จะเห็นว่าแต่ละวัน
กระผม/อาตมภาพมีภารกิจมากมายมหาศาล แต่หมอบอกว่าช่วงนี้ ก็คือระหว่างเดือนที่สองกับเดือนที่สามเป็นช่วงวิกฤต เพราะว่าบาดแผลหายแล้ว เหลือแต่การฟื้นตัวของเส้นประสาท ซึ่งถ้าเราไม่ทำกายภาพบำบัดเอาไว้ช่วงนี้ ถ้าหากว่าเสียหายถาวรไปเลย ก็เป็นอันว่าไม่ต้องไปทำอะไรกันอีกแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2022 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-12-2022, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,032 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องติดต่อหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ หมอนุ้ยรู้ดีกว่าอีก ก็เลยไม่รอให้กระผม/อาตมภาพมีเวลาว่าง บอกว่า "หลวงพ่อยกเครื่องไปเลยค่ะ เดี๋ยวหาคนมาศึกษาในวันรุ่งขึ้นที่หลวงพ่อจะมากายภาพบำบัด พอเขาใช้เป็นแล้วก็เอาไปเลย" พูดง่าย ๆ ก็คือเอาไปใช้ให้พอใจแล้วค่อยเอาไปคืน..!

ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นการกล้าตัดสินใจของแพทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล น่าจะเกิดจากสาเหตุที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานโครงการพัฒนาโรงพยาบาลทองผาภูมิ รับหน้าที่มาหลายปี ต้องบอกว่าหน่วยราชการของเราแต่ละหน่วย ล้วนแล้วแต่น่าสงสารมาก อย่างโรงพยาบาลทองผาภูมิได้อาคารผู้ป่วยนอกมา ได้แต่ตัวอาคารเปล่า ๆ ข้าวของแทบจะไม่มีอะไรเลย..!

กระผม/อาตมภาพต้องบริจาคเครื่องปรับอากาศไปหลาย ๑๐ เครื่อง ต้องทอดผ้าป่าซื้อเครื่องมือแพทย์ให้ ต้องจัดสร้างห้องอภิบาลเด็กทารก ห้องฟอกไต ห้องศัลยกรรม พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าไม่มีพระคอยช่วยเอาไว้ ป่านนี้ก็คงไม่ต้องทำมาหากินอะไร เพราะว่าต้องรอจนกว่าที่จะได้งบประมาณมา แล้วหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

แต่ว่าหลายแห่งที่ขอความช่วยเหลือมา บางทีกระผม/อาตมภาพก็นึกตำหนิอยู่เหมือนกัน อย่างเช่น บางโรงเรียนขอเครื่องไม้เครื่องมือในการฝึกลูกเสือมา รวม ๆ แล้วราคาแค่ไม่กี่พันบาท ซึ่งถ้าหากว่าบรรดาครูบาอาจารย์ในโรงเรียน ๓๐ กว่าคน ช่วยกันควักกระเป๋าคนละร้อยสองร้อยก็ได้แล้ว แต่เขาใช้วิธีมักง่าย ก็คือขอให้หลวงพ่อเอาไว้ก่อน ถ้าลักษณะอย่างนี้ส่วนใหญ่แล้วกระผม/อาตมภาพไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือไปหรอก อย่างที่บอกแล้วว่าต้องพิจารณาดูก่อน ไม่ใช่ขออะไรมาก็ให้ไปหมด

อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงปู่จันทร์ (พระพุทธพจนวราภรณ์) วัดเจดีย์หลวง สมัยที่ท่านยังเป็นเจ้าคุณพระเทพกวี อยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ ท่านบอกว่า ถ้าเมตตาเกินประมาณก็จะเจอแต่คนพาลทั้งเมือง

ดังนั้น..หลายอย่างแม้ว่าจะน่าช่วยเหลือ แต่กระผม/อาตมภาพก็เอาเข้าคิวไว้ก่อน ก็คือถ้าไม่ถึงคิวก็ไม่ใช่ความช่วยเหลือ อย่างเมื่อวานนี้ที่เจอกับพระครูกฤติธี (พระครูโสภิตสุวรรณาภรณ์) นั่นก็ขอกฐินปลดหนี้มา แต่คิวอีกนาน บางทีเราทำงานของเราอยู่ แต่คนอื่นไม่ได้สนใจตรงจุดนั้น เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องการความช่วยเหลือ แล้วก็ขอมา ก็คือคุณจะทำอะไรผมไม่สนใจ ผมมีหน้าที่ขออย่างเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-12-2022, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,032 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีเจ้าคุณบางรูป เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดใหญ่มากทางภาคเหนือ ขอให้กระผม/อาตมภาพช่วยสร้างโบสถ์ให้ทั้งหลัง..! ก็เป็นเรื่องที่มักง่ายเกินไป เพราะว่าอันดับแรก ท่านเป็นเจ้าคุณชั้นราชด้วย เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดด้วย เรื่องของการหางบประมาณน่าจะง่ายกว่ากระผม/อาตมภาพอีก แต่ว่าท่านก็ส่งโครงการขอมาง่าย ๆ เหมือนกัน ซึ่งการขอลักษณะแบบนี้ กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นการขอแบบมักง่าย แต่ก็ว่ากันไม่ได้ เพราะว่าจริตนิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ระเบียบวัดของเราก็คือห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองรู้สึกไม่ดีตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นฆราวาส เพราะว่าบางทีเราไม่มีอารมณ์ที่จะทำบุญ แต่ก็โดนตื๊อ ส่งซองขอให้ทำบุญอยู่นั่นแหละ ในเมื่อรำคาญคนอื่นเขา ถึงเวลาตัวเองมาเป็นเจ้าอาวาส ก็เลยออกระเบียบ ไม่บอกบุญ ไม่เรี่ยไร ถ้าต้องขอเขาก็เป็นอันว่าเลิกทำงาน..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงได้บอกกล่าวกับพวกท่านทั้งหลายว่า ถ้าหมดกระผม/อาตมภาพไปแล้ว ใครมาเป็นเจ้าอาวาสต่อ ให้ใช้อำนาจเจ้าอาวาสยกเลิกระเบียบข้อนี้โดยด่วน ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะหน้าเหี่ยว ไม่มีใครทำบุญด้วย เพราะว่าศรัทธาคนเป็นของเฉพาะตน ไม่สามารถที่จะส่งต่อกันได้

กระผม/อาตมภาพสร้างวัดมา ๗ - ๘ วัดแล้ว มีทั้งที่ทำบางส่วน มีทั้งที่พื้นดินเปล่า ๆ ให้เราสร้างจนสำเร็จเป็นวัด ตรงจุดนี้จึงมีประสบการณ์ที่บอกเล่าต่อกันได้ อย่างชนิดที่เรียกว่า น่าจะมากพอที่จะเป็นข้อสรุปได้ว่า ศรัทธาของคนนั้นเป็นเฉพาะตัว

เนื่องเพราะว่าพอกระผม/อาตมภาพย้ายวัด ญาติโยมก็ตามไปทำบุญที่ใหม่ เขาก็ไม่ได้เกาะอยู่กับวัดเก่า จนกระทั่งบางท่านก็ถึงขนาดบ่นว่า "สร้างแล้วไม่อยู่สร้างไปทำไม ?" ก็ไม่ได้อยากจะสร้างหรอก แต่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ท่านเห็นว่าที่นั่นไม่ไหว สั่งให้ไปช่วยหน่อย ก็ต้องช่วยเขาตามคำสั่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 15-12-2022, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,032 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางอย่างก็ทำตามคำสั่งครูบาอาจารย์ อย่างหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านให้ช่วยสร้างวัดหนองบัวที่ประเทศพม่า ก็กราบเรียนหลวงปู่ว่า "ทำไมไปยุ่งอะไรกับพม่าด้วยละครับ ?" ท่านบอกว่า พม่าเป็นดินแดนพระพุทธศาสนาเช่นกัน ในฐานะของพระโพธิสัตว์ ท่านเองก็เกิดที่พม่ามานับครั้งไม่ถ้วน มีความผูกพันกับบางสถานที่

ท่านใช้คำว่า "ถ้ามีความสามารถก็ไปช่วยเขาหน่อย" แล้วหลวงพ่อฤๅษีฯ ก็อบรมกระผม/อาตมภาพมาว่า "อย่าพูดคำว่าไม่สามารถให้ผมได้ยิน..!" ก็เป็นอันว่าจบกัน หลวงปู่กับหลวงพ่อท่านนัดกันไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ? เพราะท่านหนึ่งก็อบรม
กระผม/อาตมภาพมาตลอดว่า "อย่าพูดคำว่าไม่สามารถให้ได้ยิน" อีกท่านหนึ่งบอกว่า "ถ้ามีความสามารถก็ไปช่วยทำให้เขาหน่อย" ก็เป็นอันว่าหมากบังคับดี ๆ นี่เอง แล้วก็เสียเวลาไปตั้ง ๖ ปี

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในพม่านั้น ข้าวของต่าง ๆ หายากมาก ตอนนั้นทั้งประเทศพม่ามีโถชักโครกอยู่แค่ ๒ ใบ ใบหนึ่งพลโทขิ่นยุ้นต์ เลขาธิการ SLORC ซื้อไป อีกโถหนึ่งก็อยู่ที่วัดหนองบัวนั่นแหละ ข้าวของหลายต่อหลายอย่าง "ราคาแพงจนจับไม่ติด"

กระผม/อาตมภาพสั่งซื้อกระเบื้องขนาด ๑.๒๐ เมตรอย่างหนาจากฝั่งไทยเข้าไป ตอนนั้นแผ่นหนึ่ง ๔๔ บาท ทางด่านพม่าคิดภาษีเถื่อนแผ่นละ ๑๐ บาท ก็เท่ากับ ๕๔ บาท กระผม/อาตมภาพสั่งไปที ๔,๐๐๐ แผ่นเพื่อมุงศาลาวัดหนองบัว จ่ายภาษีเถื่อนไป ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งคิดเป็นเงินพม่าแล้วเยอะมาก ขนาดนั้นยังถูกกว่ากระเบื้องที่ซื้อในพม่า..!

แล้วกระเบื้องพม่าแผ่นเท่าเตียงนอน..! กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาคิดอย่างไรถึงได้ผลิตแผ่นขนาดนั้น น่าจะมุงแล้วเต็มเร็วดีกระมัง ? ด้วยความที่แผ่นใหญ่แล้วก็บาง แค่เผลอเหยียบก็แตกแล้ว จึงได้ตัดสินใจซื้อจากทางด้านฝั่งไทยไปแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2022 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 15-12-2022, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,032 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ที่อยากจะบอกกับท่านทั้งหลายก็คือว่า เรื่องของศรัทธาเป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ ปลูกฝังไป แต่ละคนเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว บุคคลที่เคยร่วมบุญกันมาแต่อดีตมีอยู่ ถึงเวลาคนประเภทนี้ ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี จะศรัทธาเฉพาะเราเท่านั้น

ศรัทธาของเราจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราปฏิบัติ กาย วาจา ใจ อยู่ในกรอบของพระธรรมวินัย ปฏิบัติให้คนอื่นเขาเห็น โดยเฉพาะเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐาน คนใหม่ที่มาเห็นเข้าก็จะเกิดศรัทธา


ศรัทธาจึงเป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ สะสมกันไป ยิ่งนานก็ยิ่งมาก แล้วถึงเวลาก็จะเหนื่อยแบบกระผม/อาตมภาพเอง ขนาดไปหาหมอ ยังมีบรรดาพยาบาลแห่กันมาทำบุญ กระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้หรอก เดินไปก็มีแต่คนยกมือไหว้ หน้าตาคุ้น ๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะวันนี้เจอพี่ชาย (นายสุรกานต์ เพชรชื่นสกุล) กับน้องสาว (นางสาวกนกพร เพชรชื่นสกุล) ไปรักษาตัวอยู่ที่เดียวกันอีก โลกนี้กลมจนเกินไป..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2022 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว