กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-03-2023, 18:33
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,898 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-03-2023, 21:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องออกจากที่พัก คือมวกเหล็กพฤกษารีสอร์ตตั้งแต่ตี ๔ เพื่อเดินทางไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตามโครงการเพิ่มทักษะ (Upskill) การสอนวิชาพระพุทธศาสนา ซึ่งมีการเริ่มสวดมนต์ไหว้พระกันตั้งแต่ตี ๕ ตรง

ดูอาการร่างกายของตัวเองแล้ว มาลาเรียเรื้อรังทำท่าว่าจะกำเริบได้ทุกเวลา แต่ก็อาศัยกำลังใจข่มเอาไว้ ประมาณว่า "เอ็งอย่าเพิ่งโผล่มา ข้ายังต้องทำงานอยู่" ซึ่งหลายต่อหลายงานก็เช่นกัน
เมื่อร่างกายประท้วงว่าไม่ไหวแล้ว แต่ในเมื่อใจยังไหว ร่างกายก็ต้องทนเอา โดนลากถูลู่ถูกังไปจนกว่างานนั้นจะเสร็จลงไป

สำหรับวันนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการทำวัตรและเจริญกรรมฐานรอบเช้าแล้วก็เป็นการบิณฑบาต ซึ่งบรรดาพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ ที่ต้องไปอยู่ประจำเป็นเดือนนั้น ได้รับคำสั่งให้นำบาตรไปด้วย เพราะว่ามีการฉันในบาตร ส่วนพวกกระผม/อาตมภาพนั้น มีแค่บางท่านเท่านั้นที่นำบาตรมา ที่เหลือจึงต้องอาศัยฉันในถาดหลุมแทน แต่ก็เป็นการดี เพราะว่าหลุมของถาดนั้นเล็กกว่าบาตรมาก ทำให้ตักอาหารนิดหน่อยก็รู้สึกว่าได้มากแล้ว เป็นต้น

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้อยากจะมาพูดนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เริ่มพิธีในช่วงสาย ก็คือจะมีการจัดเตรียมสถานที่ แล้วก็มีการซักซ้อมการปฏิบัติในการรับวุฒิบัตรของทั้งพระภิกษุและฆราวาส ตลอดจนกระทั่งพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ ในการที่จะสวดมนต์ฉลองกุฏิกรรมฐาน และการมอบถวายกุฏิกรรมฐานแก่ท่านเจ้าคุณอธิการบดี พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอกล่าวเป็นลำดับไปก็คือว่า

อันดับแรกเลย บรรดาญาติโยมที่นำเอาพระพุทธรูปมา เพื่อที่จะมอบให้แก่ท่านผู้เป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิกรรมฐานนั้น องค์พระพุทธรูปหล่อมาจากเรซิ่น สิ่งแรกเลยก็คือไม่ได้ระมัดระวัง หอบมาแบบชนิดไม่เกรงอกเกรงใจ ทำให้พระพุทธรูปกระทบกันจนกระทั่งพระเกตุหักไป ๒ องค์ ต้องไปใช้กาวอีพ็อกซี่ต่อเสียใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2023 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-03-2023, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่สองก็คือ เมื่อจะยกจะย้ายโต๊ะเก้าอี้ที่วางพระพุทธรูปของเจ้าภาพทั้ง ๑๐ องค์นั้น หลายท่านก็จิตหยาบถึงขนาดย้ายพระพุทธรูปลงไปวางบนพื้น..! บางท่านที่จิตละเอียดหน่อยก็วางไว้บนเก้าอี้ ยิ่งเห็นกระผม/อาตมภาพก็อยากจะใช้สำนวนภาษาจีนที่ว่า "เห็นแล้วหนาวใจ" ก็คือสภาพจิตของท่านหยาบจนขนาดนี้ทั้งที่เป็นพุทธศาสนิกชน แม้แต่พ่อใหญ่ของตน คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ได้มีการแสดงออกซึ่งความเคารพตามสมควร

แม้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ได้เรียกร้องการเคารพจากพุทธศาสนิกชนก็ตาม แต่บุคคลที่จิตใจละเอียดเพียงพอ เมื่อทราบว่าตนเองปฏิบัติธรรมแล้วได้ดีอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากการปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะให้ความเคารพในฐานะกตเวทิตาบุคคล ก็คือเมื่อผู้อื่นสร้างคุณแก่เราก่อน เราก็ควรที่จะรู้คุณและตอบแทนท่านด้วย

ลำดับต่อไปก็คือ เมื่อเชิญท่านเจ้าภาพมาทำการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เนื่องจากว่าโต๊ะหมู่บูชานั้นเป็นโต๊ะหมู่ ๗ ขนาดเล็ก เมื่อถึงเวลาแทนที่ท่านจะคุกเข่าแล้วจุดธูปเทียนบูชาพระ ท่านก็ไปยืนค้ำหัวพระเพื่อจุดธูปเทียน แล้วเมื่อถึงเวลากราบ แทนที่จะกราบลงกับพื้นเพื่อที่จะให้ครบองค์ของเบญจางคประดิษฐ์ ท่านก็ไปกราบแปะ ๆ กับขอบโต๊ะหมู่ ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่งาม

ท่านเองเป็นผู้มีจิตศรัทธาถึงขนาดเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิกรรมฐาน แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า การกระทำของท่านนั้นยังเป็นที่ขัดหูขัดตาคนอื่นอยู่ เพราะว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นการแสดงออกซึ่งความหยาบกระด้างในจิต ไม่รู้แม้แต่ว่าควรที่จะปฏิบัติต่อพระรัตนตรัยอย่างไร..!?


ในปัจจุบันนี้มีมากต่อมากด้วยกัน โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ไม่รู้กาลเทศะ เข้าวัดแล้วก็ยังแต่งตัวตามสบายเหมือนอยู่กับบ้าน บรรดาผู้ชายผู้หญิงสมัยนี้ที่ไปวัด หลายต่อหลายคนนุ่งสั้นตามใจตนเอง ผู้ชายก็นุ่งกางเกงขาสั้น บอกว่าสบายดี ทำอะไรคล่องตัว ผู้หญิงบางคนก็นุ่งกางเกงขาสั้น รัดติ้วจนกระทั่งเห็นอะไรต่อมิอะไรเด่นไปหมด บางท่านก็นุ่งกระโปรง แต่ว่าเป็นกระโปรงที่นั่งลงก็เปิดแก้มกันขึ้นมาเลย โดยที่ท่านทั้งหลายไม่รู้สึกเลยว่าตนเองกำลังอยู่ในวัด อยู่ในสถานที่พึงแสดงออกด้วยความเคารพ จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2023 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-03-2023, 22:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายท่านก็แต่งตัวมาแบบผู้ที่มีจิตใจเปิดเผยเป็นอย่างยิ่ง..! มีอะไรที่สมควรเปิดเผยก็เปิดเผย คงจะเห็นว่าพระภิกษุสามเณรไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้บ่อยนัก ท่านก็เลยแต่งตัวเข้าไปในลักษณะ "ช่วยทำบุญ" ให้พระเณรได้เห็นของที่เห็นได้ยากบ้าง..!

บางท่านก็แต่งตัวมาในลักษณะที่กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะว่าสิ่งที่ท่านใส่อยู่นั้นเหมือนอย่างกับเอาผ้าผืนเดียวมาผูกรัดไปข้างหลัง ส่วนทางด้านบนก็แค่อ้อมไปคล้องคอเท่านั้น แล้วก็อยู่ในลักษณะที่ไม่ได้ใส่ "เปลนม" อย่างสำนวนของรงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) นั่นอีกต่างหาก สมัยนี้เขาเรียกกันว่า "โนบรา" แม่เจ้าประคุณใส่เพียงแค่นั้น แถมกางเกงขาสั้นรัดติ้ว ก็ยังอุตส่าห์เดินอย่างสบายอกสบายใจอยู่ในวัด ไม่ได้กลัวหมาจะไล่ฟัดเลยแม้แต่น้อย..!

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าห่วงใย บางวัดถึงขนาดต้องติดป้ายห้ามเอาไว้เลย แต่
กระผม/อาตมภาพคาดว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้อ้างว่าจะต้องไปงานอื่นต่อ แต่กระผม/อาตมภาพก็เห็นหลายท่านที่ต้องไปงานอื่นต่อ ท่านก็ใส่เสื้อของผู้ปฏิบัติธรรมตัวหลวม ๆ แล้วก็ใส่กางเกงขายาว แบบที่เรียกว่า "กางเกงเล" ทับนอกมา เมื่อถึงเวลาจะไปงานอื่นต่อ ก็แค่ถอดกางเกงและเสื้อปฏิบัติธรรมเก็บเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ไม่ทำ

เมื่อเสร็จพิธีการสวดมนต์ฉลอง ตลอดจนกระทั่งอนุโมทนาแก่บรรดาท่านเจ้าภาพกุฏิแล้ว พระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อธิการบดีก็ได้นำพาพวกเรา ตลอดจนกระทั่งผู้เข้าอบรมคณะธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ เดินทางไปเพื่อทำพิธีเจิมกุฏิกรรมฐานให้แก่ท่านเจ้าภาพทั้งหลาย แล้วหลังจากนั้นก็ยังพาพวกเราไปวางศิลาฤกษ์ ยกเสาเอกเสาโทกุฏิกรรมฐานอีก ๑๓ หลังที่มีเจ้าภาพแล้ว

กระผม/อาตมภาพขณะที่กำลังเดินตามคณะธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ อยู่ ก็มีบุคคลเข้ามาสะกิดสะเกาฝ่ามือที่เก็บเรียบร้อยเอาไว้ด้านหลัง ในลักษณะเดินจงกรม หันกลับมาก็เจอท่านเจ้าคุณวัลลภ - พระศรีธรรมภาณี, ดร. (วัลลภ โกวิโล ป.ธ.๘) ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันมานาน เพราะว่าท่านเป็นนักเทศน์ นักปาฐกถา อีกท่านหนึ่งก็คือท่านอาจารย์พระมหาเมธา ที่รู้จักกันเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ปัจจุบันท่านก็คือพระครูภาวนาสารบัณฑิต, ดร. (เมธา จนฺทสาโร ป.ธ.๔)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2023 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-03-2023, 22:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทักทายกันด้วยความดีใจแล้ว ท่านอาจารย์พระมหาเมธาก็ยังบ่นว่า "ไม่ทราบว่าหลวงพ่อเล็กทำได้อย่างไร ? งานยุ่งยากขนาดนี้ ยังอุตส่าห์ปลีกตัวมาได้ แม้กระทั่งรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมทุกวันอาทิตย์ ผมเองเป็นเจ้าของรายการแท้ ๆ ยังต้องมีขาดอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าเข้าไปเมื่อไร ก็เห็นชื่อพระครูวิลาศกาญจนธรรมปรากฏหราอยู่พร้อมกับใบหน้าแล้วทุกครั้ง"

กระผมเองก็ได้แต่ชี้ให้ดูพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อธิการบดี เจ้านายของเราที่เดินตัวปลิวอยู่ข้างหน้า เพราะว่าท่านผอมมาก ชี้ให้ดูว่า อันดับแรกเลย ถ้าหากว่าใจรักก็ทำได้ อันดับที่สอง ก็ต้องเลียนแบบท่านเจ้าคุณอธิการบดี ก็คืออยู่กันด้วยกรรมฐาน ท่านเจ้าคุณอธิการบดีขยันสวดมนต์ทำวัตร เจริญกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมทุกวันอาทิตย์ช่วงเช้า ท่านเหมายาวโดยที่ไม่แบ่งปันให้ใครเลย เท่ากับว่าท่านขัดเกลาฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น..ไม่ว่าในภาระหน้าที่ของท่านที่เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ดี เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญก็ดี เป็นผู้ช่วยแม่กองบาลีสนามหลวงก็ดี ตลอดจนกระทั่งเป็นรองเจ้าคณะภาคก็ตาม ท่านก็สามารถที่ทำได้อย่างเต็มที่ เพราะว่ากำลังใจที่มั่นคง ทำให้สามารถที่จะกระทำกิจการงานทุกอย่างได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตรงส่วนนี้กระผม/อาตมภาพนั้นก็แค่เดินตามรอยครูบาอาจารย์เท่านั้นเอง

เมื่อวางเสาเอกเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่กลับมาฉันเพลเสร็จ ก็มีการซักซ้อมการรับวุฒิบัตร เมื่อรับวุฒิบัตรและถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้ว
กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกลาทุกท่านและแยกย้ายกันไป โอกาสหน้าถึงจะได้พบกันใหม่

กระผม/อาตมภาพเองระหว่างที่เดินทางกลับก็สอบถามไอ้ตัวเล็ก ปรากฏว่าวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เอาไปลงนั้น ส่วนใหญ่มีผู้มีบุญได้บูชาไปแล้ว ไอ้ตัวเล็กแจ้งว่าเหลือเพียงมีดหมอรุ่นแรกของหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ยังไม่มีใครบูชา กระผม/อาตมภาพยินดีเป็นอย่างมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2023 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 19-03-2023, 22:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีดหมอรุ่นแรก ๆ ของหลวงพ่อบุญมีนั้นหาได้ยากมาก เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นต้องค่อย ๆ ทำมือทีละเล่ม จนกระทั่งท่านมีชื่อเสียงเกียรติคุณใหญ่โตขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะว่ามีคนเอามีดหมอท่านไปทดลองยิง แล้วปืนแตกใส่มือได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเลื่องลือกันไป ถึงได้มาขอบูชามีดหมอจากท่านกันมาก จนต้องสั่งโรงงานผลิตออกมาให้เพียงพอกับความต้องการของญาติโยม

ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงงานผลิตก็ตาม แต่ก็ยังมีการตอกลายด้วยมือทีละเล่ม ซึ่งต้องขอชมเชยว่า ช่างที่ตอกลายมีดหมอให้หลวงพ่อบุญมีนั้น มีจิตที่ละเอียดและสมาธิดีมาก เพราะว่าลายทุกลายล้วนแล้วแต่สม่ำเสมอ แสดงออกซึ่งความมั่นคงของกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันก็ยังมีการถักเชือกเพื่อที่จะแสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นมีดหมอที่ออกจากวัดเขาสมอคอนจริง ๆ ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าในระยะเวลาที่คนต้องการมากบางทีก็ถักไม่ทัน แต่ถ้าท่านสงสัยว่าทำไมมีเชือกแดงเล็ก ๆ ในมีดหมอรุ่นที่ผลิตออกจากโรงงาน ก็ขอให้ทราบว่านั่นเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงออกว่า มีดหมอเล่มนี้มาจากวัดเขาสมอคอน

ในขณะเดียวกัน มีดหมอจากโรงงานทุกเล่มนั้น จะมีการปิดทองมาจากวัด แม้ว่าทองนั้นจะลอกจนหมด แต่ถ้าหากว่าส่องกล้องดู จะเห็นว่ามีรอยปิดทองเหลืออยู่ เป็นในลักษณะด่างของโลหะตรงจุดนั้น จึงทำให้บรรดาผู้ที่เสาะหามีดหมอของหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ใช้เป็นจุดพินิจพิจารณามีดหมอที่ใช้งานมาอย่างโชกโชน ว่าใช่ของแท้หรือไม่แท้ได้อีกจุดหนึ่ง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพเมื่อกลับถึงที่พักแล้ว ก็คงต้องรีบเสาะหาวัตถุมงคลชุดใหม่ เพื่อที่ให้ไอ้ตัวเล็กนำลงกระทู้กันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-03-2023 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว