กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-04-2023, 01:36
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,651
ได้ให้อนุโมทนา: 216,903
ได้รับอนุโมทนา 747,799 ครั้ง ใน 36,430 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-04-2023, 22:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,407 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพตื่นขึ้นมาด้วยความหนาวเหน็บเป็นพิเศษ เพราะว่าอากาศที่นี่แค่ ๘ องศาเซลเซียสเท่านั้น แล้วระบบไฟฟ้าอุ่นเตียงอะไรก็ใช้ไม่ได้เลย แม้กระทั่งน้ำร้อนที่จะอาบ ถ้าหากว่าเปิดเมื่อไร ไฟฟ้าก็จะดับไปด้วย จึงได้แต่ล้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้น แล้วออกไปเดินดูฟ้าดูดินทางด้านนอกตั้งแต่ยังไม่ทันจะสว่างดี ปรากฏว่าพี่น้องมุสลิมได้ทำการละหมาดเช้าอยู่แล้ว กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะได้พบเสียงสวดมนต์ที่ไพเราะเป็นอย่างยิ่งของพี่น้องมุสลิมก็ที่นี่เอง

เมื่อทุกคนตื่นแล้วก็ออกมารอเวลาว่าเมื่อไรอาหารถึงจะมา ปรากฏว่าคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็นซีทัวร์ ได้นำมาขนมจีบซาลาเปามาแบ่งให้ก่อน หลังจากนั้นทางเจ้าของเรือถึงได้นำอาหารมาให้ ซึ่งประกอบไปด้วยข้าวต้ม ที่ไม่รู้ว่าจะให้ฉันกับอะไร ? ขนมปังปิ้งก็มีแต่เนยอย่างเดียว แล้วก็มีไข่เจียวกับกล้วยหอม ทางด้านเจ้าของเรือถามว่า "ต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ ?" เมื่อถามว่า "คุณมีอะไรบ้าง ?" เขากลับตอบว่า "ไม่มี" พวกเราก็ยังงงว่าตกลงคุณถามเพื่ออะไรกันวะ ? จึงก้มหน้าก้มตาฉันอาหารไปตามมีตามเกิดอย่างนั้น

เมื่ออิ่มเรียบร้อยแล้ว พวกเราในลำนี้ที่ประกอบด้วย
กระผม/อาตมภาพ ดร.พระครูโรจน์ น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ลูกปุ๊ก (นางสาวสุมาลี ตีรเลิศพานิช) ก็ยกกระเป๋าออกมาวางรออยู่ที่ห้องโถงรับแขก ปรากฏว่ารอแล้วรอเล่า เรือที่จะมารับก็ไม่มา จนกระทั่งเรือลำอื่นมารับคนอื่น ๆ ไปกันจนหมดแล้ว พวกเราทนรอไม่ไหว จึงยกกระเป๋าออกมาตั้งทางด้านนอก ทางเจ้าของเรือเมื่อเห็นเรายกกระเป๋าออกมาตั้งทางด้านนอกแล้ว จึงได้โทรศัพท์เรียกให้เรือที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งมารับ ถ้าหากรู้ว่าต้องรอให้เรายกกระเป๋าออกมาแล้วถึงจะโทรศัพท์เรียกเรือให้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้พวกเราก็คงไปได้ครึ่งประเทศแล้ว..!

เมื่อเขายกกระเป๋าขึ้นเรือให้ ยังมีการเรียกทิปอีก กระผม/อาตมภาพไม่มีแบงค์ย่อย จึงต้องให้ไปคนละ ๒๐๐ รูปี ตกลงว่าตัวเองยกฟรีเพราะเป็นหน้าที่ของเขา ในเมื่อเขาแค่ยกลงเรือให้เท่านั้น แต่ว่ารับค่าแรงไปเสียมากมายทีเดียว

เจ้าของเรือพายเรือพาพวกเราค่อย ๆ ลัดเลาะไปตามเรือพักต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งร้านค้าลอยน้ำ มีเรือขายสินค้าเข้ามาทักทายและจำหน่ายสินค้าเป็นระยะ แต่ว่าพวกเราก็ปฏิเสธไป เพราะไม่ใช่ของที่ต้องการ ตามที่สังเกตดูก็คือบรรดาบ้านเรือนต่าง ๆ นั้น เขาอยู่กันเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาก็เปิดจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ หลายร้านก็มีการควบคุมจากทางรัฐบาลด้วย

มีเรือท่องเที่ยวจำนวนมากที่พายสวนกับเราไป แม้ว่าเป็นคนแปลกหน้าแต่ว่าพูดภาษาไทยทุกลำ จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่าเราออกมาช้ากว่าคนอื่นเขา ถ้าขืนไปจนสุดทาง มีหวังคนอื่นรอกันแย่ จึงบอกให้คนแจวเรือทำการกลับเรือ ตรงมายังฝั่งซึ่งพวกเรามารอกันอยู่ที่นี่แล้วทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 30-04-2023, 22:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,407 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อขึ้นรถเรียบร้อย ก็วิ่งตรงไปเส้นทางสู่เมืองโซนามาร์ก วิ่งมาได้ประมาณ ๒๐ นาที รถทุกคันก็แวะเข้าร้านเพื่อให้พวกเราซื้อผลไม้ตากแห้งและบรรดาถั่วต่าง ๆ แต่ปรากฏว่าทางร้านพยายามเสนอขายแต่ "หญ้าฝรั่น" ซึ่งเป็นของหายากในบ้านเรา แต่ว่าที่นี่ราคาค่อนข้างจะสูง กระผม/อาตมภาพอาศัยเข้าห้องน้ำของเขา ก็เลยซื้อมะเดื่อตากแห้งมาครึ่งกิโลกรัมในราคา ๘๐๐ รูปี แล้วปล่อยพวกเราต่อรองกันอย่างสนุกสนาน

กระผม/อาตมภาพเดินออกมาทางด้านนอก เจอฝูงสุนัขจรจัด ซึ่งนอนอยู่ทางชายทะเลสาบร่วม ๑๐ ตัว ทุกตัวตอนแรกเมื่อเห็นกระผม/อาตมภาพก็แทบจะพุ่งเข้ามากัดเลย แต่พอถามว่า "จำกันไม่ได้แล้วหรือ ?" เขาก็ชะงัก แล้วคราวนี้ก็พุ่งเข้ามาใหม่ แต่ว่ามาตะเกียกตะกายจนจีวรแทบจะขาด..! เห็นแล้วก็น่าสงสารที่พวกเขาเกิดมาเป็นหมาที่นี่ เพราะว่าพี่น้องมุสลิมนั้นไม่เลี้ยงหมา ทุกตัวจำเป็นต้องหาอาหารประทังชีวิตกันเอง..!

เมื่อไปตามน้องเล็กมาให้ถ่ายรูป ทุกคนก็เห็นว่าหมานั้นทำหน้าเศร้าเป็นอย่างมาก

เมื่อบอกลาพรรคพวกเพื่อนฝูงเก่า ๆ แล้ว พวกเราก็เดินทางเลาะตามขอบทะเลสาบไปเรื่อย ๆ เป็นระยะทางค่อนข้างจะไกล หลังจากนั้นก็วนอ้อมไปทางขวามือ มุ่งตรงไปยังเมืองโซนามาร์ก ระยะการเดินทางนั้นค่อนข้างจะไกลมาก พวกเราจึงไปถึงตอนเวลาเที่ยงกว่า แต่ว่าก่อนช่วงที่จะเข้าเมืองนั้น ก็มีภูเขาหิมะให้ตื่นเต้นกันแล้ว

พวกเราแวะรับประทานอาหารแล้วก็ต้องรีบเดินทางต่อ เพราะว่ากว่าจะถึงเมืองคาร์กิลซึ่งเป็นจุดหมายของวันนี้นั้น ยังต้องไปอีกหลายชั่วโมง ถ้าหากว่ามัวแต่ไปขี่ม้าชมธารน้ำแข็ง ก็มีหวังถึงที่พักดึกอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าวิ่งไปไม่ไกล ก็มีด่านตรวจสกัดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้พวกเราย้อนกลับมาทางเดิมทั้งหมด เพราะว่ามีหิมะถล่มปิดทางไปคาร์กิลเป็นระยะทางที่ยาวมาก ทางด้านรถเกรดและเจ้าหน้าที่สามารถที่จะเปิดทางให้รถวิ่งได้แค่ทางเดียวเท่านั้น..!

ดังนั้น..วันนี้จึงเป็นเวลาของรถทางด้านโน้นจะวิ่งมา ไม่ใช่รถทางเราจะวิ่งไป จนกว่าจะบ่าย ๓ โมงไปแล้ว พวกเราจึงย้อนกลับมา ทำการเช่าม้าเพื่อขี่ไปชมธารน้ำแข็งกันในราคาตัวละ ๑,๑๐๐ รูปี แต่ว่าม้าที่กระผม/อาตมภาพขี่นั้น ดูท่าว่าจะมีภาวะผู้นำสูงมาก เพราะว่าไม่ยอมให้ตัวอื่นเดินนำหน้า แล้วขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะเดินทับรอยตัวอื่น มักจะเปิดเส้นทางใหม่อยู่เสมอ แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวคณะอื่นที่นำหน้าอยู่ ก็ยังพยายามที่จะแซงเขาไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-04-2023, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,407 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไปถึงบริเวณธารน้ำแข็ง พวกเราก็ลงไปถ่ายรูปจนกระทั่งเป็นที่พอใจ แล้วจึงได้ขี่ม้าย้อนกลับมาทางเดิม แต่ว่าไม่ได้จ่ายค่าเช่าม้าให้กับทางเจ้าของ เพราะได้รับคำเตือนว่าให้จ่ายกับไกด์ท้องถิ่นของเรา ซึ่งช่วงนี้ไกด์ท้องถิ่นคือคุณมุสตาฟา จ่ายแล้วไกด์จะไปเคลียร์กับทางด้านเจ้าของม้าเอง ไม่เช่นนั้นแล้วเคยมีการจ่ายซ้ำจ่ายซ้อนมา และทางเจ้าของม้าก็รับไปหน้าตาเฉย..!

พวกเรากลับเข้ามารอเวลาอยู่ในโรงแรมที่รับประทานอาหารกลางวันก่อนเดินทางไป จนกระทั่งได้เวลาบ่ายสามครึ่งก็นำรถตรงไปยังด่านอีก แต่ทางตำรวจยืนยันขันแข็งว่าให้ย้อนกลับทางเดิมเท่านั้น..! พวกเราตั้งใจจะมาหาที่พักกัน เมื่อโทรศัพท์ติดต่อแล้ว มีโรงแรมที่ห่างจากเมืองโซนามาร์กนี้ประมาณ ๘ กิโลเมตรที่ยังว่างอยู่

แต่ว่าทางด้านผู้ติดต่อประสานงานของเราไม่สิ้นความพยายาม ไปถามเขาอีกรอบหนึ่งว่าจะสามารถเดินทางได้เมื่อไรกันแน่ ? คราวนี้ได้ความจากตำรวจที่เป็นหัวหน้าด่านตรวจว่า น่าจะเปิดให้วิ่งได้ในเวลาประมาณ ๕ โมงเย็น พวกเราจึงทนนั่งตากแดดรอกันอยู่ ยังไม่ทันจะ ๕ โมงเย็น ก็เห็นคนวิ่งกันพึ่บพั่บ แสดงว่าด่านเปิดแล้ว แต่ว่าคนอินเดียก็อยู่ในลักษณะของการแก่งแย่งชิงดี ต่างคนต่างไป ดังนั้น..จึงไปติดกันเป็นอันมากอยู่ทางด้านหน้า เมื่อผ่านไปได้แล้วก็ยังมีการเหยียบแข่งกันไปอีก..!

ระหว่างทางนั้นก็มีทิวทัศน์ภูเขาหิมะงาม ๆ ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ถ่ายรูปส่งให้พวกเราดูกันเป็นระยะไป แต่คาดว่าเมืองในบริเวณนี้นั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะว่ามีเครื่องบินรบบินลาดตระเวนอยู่เป็นระยะ ๆ จึงมีการบล็อกสัญญาณโทรศัพท์เป็นระยะไปเหมือนกัน

เมื่อวิ่งมาได้จนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ปรากฏว่ารถติดกันยาวเหยียดอยู่ที่นี่ เมื่อ
กระผม/อาตมภาพเดินลงไปดูถึงได้เห็นสิ่งที่น่าตกใจ ก็คือมีหิมะถล่มมาปิดทางจนมิด แต่ที่โชคดีที่สุดก็คือรถของเราทั้ง ๓ คันนั้นอยู่ในบริเวณฝั่งนี้ทั้งหมด เนื่องเพราะว่าคันที่นำหน้านั้น อีกเพียง ๔ คันก็จะวิ่งหลุดไปแล้ว ถ้าหากว่าหลุดล่วงหน้าไปก่อน ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อประสานงานกันได้ เหตุเพราะว่าบริเวณนี้นั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ พวกเราจึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ลงไปถ่ายรูปบ้าง ถ่ายวิดีโอกันบ้าง รอจนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่นำรถมาเกรดเปิดทางชั่วคราวให้ กว่าจะเสร็จก็ผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 30-04-2023, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,407 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อผ่านไปได้ทุกคนก็เหยียบกระจาย เพราะว่าเวลาก่อนจะถึงเมืองคาร์กิลนั้นยังอีกหลายชั่วโมงเหลือเกิน ที่ไหนที่มีรูปภาพสวยงามเพียงพอที่จะถ่าย ก็แทบจะไม่เหลือความน่าสนใจอีกแล้ว แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือว่าระยะทางหลายกิโลเมตรนั้น พวกเราต้องวิ่งไปในซองแคบ ๆ ซึ่งเป็นน้ำแข็งทั้งสองฝั่ง แปลว่าหิมะได้ถล่มลงมาปิดทางเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรตั้งแต่เดือนเมษายน ที่เขาบอกก็คือประมาณช่วงสงกรานต์ จนป่านนี้ก็สามารถเคลียร์ทางให้แค่รถวิ่งได้คันเดียว จึงได้กำหนดให้ว่า วันนี้รถทางโน้นวิ่งมาจนหมดแล้ว รถทางด้านนี้จึงจะวิ่งสวนไปได้ เป็นต้น

พลขับของเราเหยียบกระจาย แทบจะบินไป โดยไม่ได้สนใจว่าผู้โดยสารจะกระเด้งกระดอนเมารถกันขนาดไหน..!? กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะถ่ายภาพได้ จึงใช้วิธีถ่ายวิดีโอให้เห็นว่า พวกเรามุดเข้าไปในซองน้ำแข็งแคบ ๆ เป็นระยะทางที่ยาวไกลเท่าไร..!

จนกระทั่งเวลาเกือบจะค่ำแล้ว จึงมาถึงด่านตรวจเมืองคาร์กิล ซึ่งเราจะต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ในการเดินทางให้เขา แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่ด่านตรวจกินยาผิดหรืออย่างไร ยังกรอกไม่ทันจะเสร็จก็บอกว่าพอแล้ว เก็บเอกสารทั้งหมดไป แล้วปล่อยพวกเราเดินทางผ่าน แม้กระทั่งตอนที่มาเจอด่านที่สองในตอนค่ำมากแล้ว ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน จนระแวงสงสัยว่าโดนเจ้าแม่นภิสราเทวีเขกกบาลเอาหรืออย่างไร ?

พลขับของเราขออนุญาตเพิ่มพลังด้วยการดื่มชานมกะลัมไจ พวกเราก็เลยพลอยได้เข้าห้องน้ำห้องท่าและดื่มชาตามไปด้วย หลังจากนั้นก็บินไปท่ามกลางความมืด จนกระทั่งมาถึงโรงแรมที่พักของเราในเวลาเกือบจะ ๕ ทุ่มของทางด้านนี้ เมื่อเข้าที่พักเสร็จเรียบร้อย สิ่งแรกที่กระผม/อาตมภาพทำก็คือ มาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ ในเวลาประมาณ ๕ ทุ่มของอินเดีย ซึ่งก็คือเที่ยงคืนครึ่งของบ้านเรา..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2023 เมื่อ 03:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว