กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-05-2023, 19:17
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,653
ได้ให้อนุโมทนา: 216,941
ได้รับอนุโมทนา 748,065 ครั้ง ใน 36,447 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-05-2023, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,832 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ยังคงเป็นควันหลงจากการ "ไปหาที่ตายในชมพูทวีป" ตอนที่ ๒

ในที่นี้อันดับแรกเลย กระผม/อาตมภาพขอกล่าวถึงตนเอง เนื่องจากว่ามีโรคมาลาเรียเรื้อรังติดตัวมา ๔๐ กว่าปีแล้ว เป็นสิ่งที่แสลงความเย็นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอากาศหนาวระดับติดลบ มีโอกาสที่มาลาเรียจะกำเริบสูงมาก แต่ปรากฏว่ามีอาการเหมือนกับมาลาเรียจะกำเริบแค่เล็กน้อยเพียง ๒ รอบเท่านั้น หลังจากที่ฉันยาแล้วก็ปกติทุกอย่าง

แต่พอกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว คืนนั้นกลับรู้สึกว่าเดินไม่ถนัด เพราะว่าแผลผ่าตัดที่ฝ่าเท้าอักเสบขึ้นมา ด้วยความรำคาญ บวกกับเป็นคนผู้ไม่เกรงกลัวความเจ็บปวด จึงแกะเอาปากแผลที่แข็งกระด้างออกมา ผลปรากฏว่าดีกว่าที่คิด ก็คือทันทีที่เปิดแผลออกมา หนองก็ทะลักออกมาก้อนใหญ่ แสดงว่าแผลอักเสบเป็นหนองอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าปากแผลปิดอยู่จึงไม่รู้ ยังดีที่ตัดสินใจแกะออกมา จึงทำให้อาการอักเสบลดลง วันนี้เมื่อฉันยาแก้อักเสบลงไปแล้ว อาการทุกอย่างก็ดีขึ้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของกรรมนั้น ไม่ว่าจะเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ท้ายที่สุดเขาก็จะตามทวงจนได้ ไม่ช้าก็เร็ว กรรมที่เราทำไว้ย่อมต้องแสดงผล จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วว่า ลุงเซอร์ริง โจลเดนทำแต่กรรมที่ดี ๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลากรรมดีแสดงผลขึ้นมา ย่อมทำให้ลุงได้รับสิ่งตอบแทนแต่ในส่วนที่ดีเท่านั้น

ลำดับต่อไปของกล่าวถึง "พี่นวล" ของทุกคน และคุณเอ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ
"พี่นวล" "พี่นวล" คือคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม ผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็นซีทัวร์ ส่วนคุณเอคือคุณฉัตตริน เพียรธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีทัวร์ คนปัจจุบัน

"พี่นวล" นั้นเป็นผู้หญิงแกร่ง ที่ต้องบอกว่าแข็งแรงสุด ๆ เนื่องจากว่าอายุถึง ๘๑ ปีแล้ว ยังทำงานทำการทุกอย่างคล่องแคล่วมาก โดยเฉพาะรักการทำบุญและรักการท่องเที่ยวเป็นที่สุด โดยที่ "พี่นวล" สรุปว่า "ที่พี่มีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะการท่องเที่ยว ดังนั้น..ขอให้พี่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปจนกว่าจะวาระสุดท้ายของชีวิต"

แม้ว่าจะขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัทไปแล้วก็ตาม ถ้าหากว่ามีคณะทัวร์ที่ถูกใจตนเอง
"พี่นวล" ก็จะลงมาคลุกคลีตีโมงด้วย โดยเฉพาะงานนี้ นอกจากไปเป็นลูกทัวร์ด้วยตนเองแล้ว "พี่นวล" ยังเป็นเจ้ามือควักกระเป๋า จ่ายให้กระผม/อาตมภาพทุกบาททุกสตางค์..!

"พี่นวล" นอกจากอายุมากแล้ว ยังประกอบด้วยความสามารถหลากหลาย ชนิดที่เป็นที่ยอมรับของทุกคน โดยเฉพาะการติดต่อประสานงานต่าง ๆ พวกเราจึงยินดีมากถ้าหากว่า "พี่นวล" ร่วมขบวนไปด้วย เนื่องเพราะว่าข้าวปลาอาหารทุกอย่างจะอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะถ้าใครใช้บริการของเอ็นซีทัวร์ จะสรุปได้เลยว่า "กินหรู อยู่สบาย" แต่ท่านทั้งหลายต้องทำใจสักนิดหนึ่งว่า "ของดีย่อมราคาสูงกว่าที่อื่นอยู่สักหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2023, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,832 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) นั้น ตอนแรกปฏิเสธไม่ไปกับทริปนี้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าคุณเอเป็นคนแพ้พื้นที่สูง ระดับสูงสุดที่เคยไปก็คือประมาณ ๓,๐๐๐ เมตร แล้วก็ต้องกอดถังออกซิเจนกลับลงมา ครั้งนี้โดนแรงยุจากพวกกระผม/อาตมภาพทุกคน ว่าถ้าหากคุณเอซึ่งจบโบราณคดีมาโดยตรง ไม่ไปเป็นผู้คอยอธิบายชี้แจงแสดงเหตุต่าง ๆ ให้ พวกเราก็คงจะขาดรสชาติในการท่องเที่ยวไปเป็นอย่างมาก

ท้ายที่สุด ปรากฏว่าแรงเชียร์สู้แรงกตัญญูไม่ได้ เนื่องเพราะว่า
"พี่นวล" ไปงานอื่นมา แล้วสภาพร่างกายค่อนข้างจะโทรม ลูกชายสุดที่รักจึงจำเป็นจะต้องมาด้วย เพื่อทำหน้าที่แทนคุณแม่ของตนเอง แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก เพราะว่าพวกเราขยับขึ้นมาในที่สูง ๓,๐๐๐ กว่าเมตร ๔,๐๐๐ กว่าเมตร ๕,๐๐๐ กว่าเมตร คุณเอที่เคยแพ้ที่สูงถึงขนาดกอดถังออกซิเจนอยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าไปถึงระดับนั้นแล้วยังสามารถทำการทำงานได้

เพียงแต่ว่าต้องใช้หน้ากากดมออกซิเจนเป็นระยะไปเท่านั้น ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องถือว่าคุณเอสามารถ "ทะลุขีดจำกัดร่างกายของตนเอง" ได้ ต่อไปถ้าที่สูงไม่เกิน ๕,๖๐๐ เมตร ต้องบอกว่าสบายมาก เพราะว่าไปติดอยู่กับพวกเราที่ช่องเขา Gardung La Pass มาแล้ว ๒ ชั่วโมงกว่า..!

คุณเอนั้นบอกว่า น่าจะเป็นเพราะสิ่งที่ได้รับการแนะนำจากท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) มากกว่า ที่ให้เคี้ยวใบฝรั่ง แล้วคุณเอก็สรุปเลยว่า ใบฝรั่งนั้นสามารถช่วยได้ฉุกเฉินในขณะที่อาการแย่มาก ๆ เมื่อเพิ่มออกซิเจนภายในแล้ว ก็ต้องเพิ่มภายนอกด้วยการหายใจจากออกซิเจนกระป๋องบ้าง ออกซิเจนท่อใหญ่ประจำรถบ้าง จึงทำให้รอดมาได้ แต่พวกเราก็ถือว่าคุณเอสามารถฝ่าขีดจำกัดของตนเองไปได้ กลายเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับครอบครัวต่อไปที่อยากจะพูดถึงก็คือคุณยายมหัศจรรย์ของเรา คือคุณยายภัทริณ จันทรนิภาพงศ์ ซึ่งมากับลูกสาว ๒ คน ก็คือคุณกอล์ฟ (ศริณยา จันทรนิภาพงศ์) และคุณแบงค์ (ศรินธร) ที่เปลี่ยนนามสกุลตามสามีเป็น เซ็นภักดี และลูกเขยคือคุณหนึ่ง (บัญชา เซ็นภักดี) ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวอบอุ่น ไปไหนไปกัน ไม่เคยเห็นทอดทิ้งหรือแตกแยกกันเลย เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากสำหรับสภาพสังคมในปัจจุบันที่คนในครอบครัวรักใคร่กันแน่นแฟ้นแบบนี้

โดยเฉพาะคุณยายนั้นเป็นคนแก่มหัศจรรย์อีกคนหนึ่ง เพราะว่าอายุมากกว่าพี่นวลเสียอีก ก็คืออายุ ๘๒ ปีแล้ว แต่ว่าทุกทริปที่เราไป ไม่ว่าจะที่สูงที่อันตรายขนาดไหนก็ตาม คุณยายนอกจากจะไปด้วยกำลังใจกำลังกายเฉพาะตัวแล้ว ยังไปด้วยกำลังบุญอีกต่างหาก จึงทำให้อยู่รอดปลอดภัยเสมอมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-05-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,832 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่างานนี้นั้นทุกคนอยู่รอดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นคุณยาย คุณกอล์ฟ หรือว่าคุณแบงค์ก็ตาม แต่ที่ไม่ปลอดภัยกลายเป็นคุณหนึ่ง เพราะว่าเมื่อกลับมาแล้ว รู้สึกว่าตนเองไอผิดปกติ จึงไปทำการตรวจ ATK ผลออกมาว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙..! ทำเอากระผม/อาตมภาพและทุกคนตกใจตาเหลือกไปตาม ๆ กัน เนื่องจากว่าเราใช้ออกซิเจนท่อใหญ่ท่อเดียวกัน ใช้หน้ากากใบเดียวกัน..!

แต่สรุปท้ายทุกคนเมื่อตรวจแล้ว ไม่มีผลบวก โดยเฉพาะ
"พี่นวล" เอง ตรวจแล้วไม่มีผลบวก พวกเราก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจ เพราะว่าถ้าขืนเป็นเช่นนั้น เราเองก็คงจะต้องมาเดือดร้อนกักตัวเองเมื่อกลับถึงเมืองไทยแล้ว แสดงว่าทุกคนสร้างบุญมาดี

แม้ว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้นจะไม่รุนแรงเหมือนสมัยก่อน ติดเชื้อขึ้นมาก็ไม่น่ากลัว รักษาตามอาการเหมือนกับไข้หวัดก็เอาอยู่แล้ว แต่ว่าในส่วนที่เชื้อนี้มักจะทำลายปอด ก็อาจจะทำให้เกิดอาการ Long Covid เป็นคนที่เหนื่อยง่าย เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย เป็นต้น จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่พวกเราจะเป็นกัน ดังนั้น..ในกลุ่มไลน์จึงมีแต่คนส่งกำลังใจให้คุณหนึ่งกันอย่างล้นหลามทีเดียว

รายต่อไปที่จะกล่าวถึงคือป้ามุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) พี่สาวของกระผม/อาตมภาพเอง ป้ามุกดาเป็นคนแรกเลยที่ร่วงทั้งยืน..! ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ช่วงนั้นอยู่ที่ประมาณ ๓,๗๐๐ เมตรเท่านั้น เพราะว่าไม่เคยชิน และไม่เคยไปในสถานที่แบบนั้นมาก่อน

พวกเราคนอื่น ๆ ยังเคยไปถึงด่านคุนจีรับ ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างปากีสถานและเมืองจีน ในความสูงประมาณ ๓,๕๐๐ เมตรมาแล้ว และขณะเดียวกัน ก็เคยไปค้างที่อุทยานย่าติง มณฑลเสฉวนตะวันตก ซึ่งอยู่ในความสูงประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร ที่สำคัญกว่านั้นก็คือไปทิเบตกันมาแล้ว ความสูงในระดับ ๕,๐๐๐ เมตร สำหรับพวกเรานั้น เขตจำกัดสูงสุดที่เคยพบมาก็คือทะเลสาบยัมดร๊อกโซ ซึ่งเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต ที่นั่นความสูง ๕,๕๐๐ เมตร ในเมื่อผ่านศึกเหนือเสือใต้มาอย่างโชกโชนแล้ว มีเพียงป้ามุกดาเท่านั้นที่มาเจอเป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่เข้าใจว่าอาการแพ้ที่สูงนั้นเป็นอย่างไร จึงมีอาการร่วงทั้งยืนแบบที่เห็น

ตรงนี้จะว่าไปแล้ว เกิดจากว่าอายุกาลผ่านวัยมากอย่างหนึ่ง ไม่เคยเจอกับสภาพอากาศที่โหดร้ายรุนแรงขนาดนั้นอย่างหนึ่ง และไม่เข้าใจอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเอง ว่าเป็นอาการแพ้ที่สูงอย่างหนึ่ง จึงทำให้ต้องกลายเป็นคนป่วยไปชั่วคราว แต่เมื่อได้รับออกซิเจนแล้ว ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ไม่ว่าอย่างไร ถ้าเคราะห์กรรมมาถึง ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องรับไปจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-05-2023, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,832 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนต่อไปที่ต้องกล่าวถึงก็คือป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ป้ามอยนั้นอายุเท่ากับกระผม/อาตมภาพพอดี ก็คือเกิดปีเดียวกัน อายุ ๖๔ ปี ย่าง ๖๕ แล้ว ป้ามอยดูรู้สึกว่าสบายที่สุด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตอนอยู่วัดนั้น ป้าต้องทำความสะอาดวัด โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างสำนักงานเจ้าอาวาสกับแดนสงบทางด้านล่าง ซึ่งเป็นหน้าผาค่อนข้างจะชัน ความสูงประมาณ ๓ เมตรเศษ ป้ามอยจะต้องกวาดบริเวณนั้นจนหมดทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นพิเศษ

แต่คนเราเมื่อถึงเวลาก็ต้องโดนจนได้ เวรกรรมไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่าย ๆ เจ้ากรรมนายเวรในประเทศอินเดียจะมากจะน้อยก็ขอเล่นเสียหน่อย ดังนั้น..ในวินาทีสุดท้าย ป้ามอยก็โดน ตม.อินเดียสุ่มตัวไปตรวจ กลายเป็นที่ห่วงใยของพวกเราว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องเพราะว่าพาหายเข้าไปเลยโดยที่ไม่สามารถจะติดต่ออะไรกันได้ จนกระทั่งเห็นป้าเดินยิ้มแบบ "ชิลด์ ๆ" ออกมา พวกเราถึงได้ถอนหายใจโล่งอก

ดังนั้น
..ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นก็ตาม เรื่องเล็กเรื่องน้อยเหล่านี้จะมากวนใจเราอยู่เสมอ สร้างบุญสร้างกุศลมาดีขนาดไหน ท้ายที่สุดก็ต้องมีจังหวะที่วาระกรรม ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กเข้ามาแทรกได้อยู่ดี จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหมดไม่ควรที่จะประมาท อย่างไรเสียก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ เพียรพยายามสร้างกุศลใน ทาน ศีล ภาวนา ให้ต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลาบุญกุศลส่งผลให้ ความดีก็จะได้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ความชั่วไม่สามารถที่จะแทรกได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-05-2023 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว