กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-07-2023, 19:39
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,659
ได้ให้อนุโมทนา: 216,968
ได้รับอนุโมทนา 748,305 ครั้ง ใน 36,459 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-07-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,063 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพตั้งใจว่าจะไปร่วมงานศพหลวงพ่อจอน (พระอธิการพรพจน์ (ฐกฤต) กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดดงโคร่ง แต่เจอฝนทั้งวันแบบนี้ ก็เป็นอันว่าไปไม่รอด มาลาเรียขึ้นเสียก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ตอนช่วงบ่าย ดร.หนึ่ง (พระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร.) ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี มารับเงินค่าติดตั้งจุดเช็คอินตลาดริมแควเมืองท่าขนุน บอกว่า "หลวงพ่อหน้าแดงมาก" ก็ได้บอกกับท่านไปว่า "มาลาเรียกำลังขึ้นสมอง" ถ้ามาลาเรียขึ้นสมอง ความดันจะสูง หน้าแดงเป็นปกติ พอลดแล้วก็เหมือนกับไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ถ้าลงกระเพาะ ปกติก็จะอาเจียนหนัก

แต่เนื่องจากว่าสมัยที่เป็นใหม่ ๆ กระผม/อาตมภาพยังอายุน้อย ร่างกายแข็งแรง ตอนนั้นอายุแค่ ๒๒ ปีเท่านั้น พอจะอาเจียนก็ไปกลั้นเอาไว้ แล้วด้วยความที่แข็งแรงมากก็เลยกลั้นอยู่ กลายเป็นว่าอาเจียนไม่ได้ ร่างกายจึงเปลี่ยนเป็นถ่ายหนักแทน เพราะฉะนั้น..ระยะนี้ถ้าหากว่ามาลาเรียลงกระเพาะ ก็จะต้องวิ่งส้วมกันทีหนึ่ง ๔ รอบ ๕ รอบ..!

วันนี้ช่วงบ่ายเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิมารับรางวัล ที่ไปประกวดการสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ชิงถ้วยรางวัลสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แล้วได้รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยมาทั้งทีมหญิง ทีมชาย ต้องบอกว่าเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับเด็ก ๆ

แต่ว่าส่วนหนึ่งที่ได้เตือนไปก็คือว่า การขึ้นที่สูงว่ายากแล้ว การรักษาระดับนั้นยากกว่า ถ้าขาดการฝึกซ้อมเมื่อไร คนอื่นจะแซงเราทันที แล้วโดยเฉพาะให้มองหารุ่นน้องที่มีแวว ฝึกซ้อมสำรองเอาไว้ด้วย เพราะว่าทุกคนโตขึ้นไปทุกวัน ท้ายที่สุดพอเรียนจบที่นี่แล้ว ก็ต้องไปต่อโรงเรียนอื่น ไม่สามารถที่จะรวมทีมกันได้เหมือนเดิมอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-07-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,063 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ เราท่านทุกคนต้องตระหนักไว้ให้ดี คือการประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่ของยาก ใครที่มีความพากเพียร มีความอดทน ประสบความสำเร็จได้ทุกคน แต่ทำอย่างไรจะรักษาความสำเร็จนั้นให้ยาวนาน เป็นเรื่องที่ยากมาก เราจะเห็นว่า บรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จ เอาง่าย ๆ แค่ในวงการกีฬา พอมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา หลายต่อหลายคนก็เสียผู้เสียคนไปเลย เนื่องเพราะว่าจัดการกับตัวเองไม่ถูก หลงระเริงไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่เข้ามา แล้วก็จะมีปัญหากันทุกคน

อยากจะยกตัวอย่างดาราคนหนึ่งก็คือ คีอานู รีฟส์ เป็นดาราที่ประสบความสำเร็จมาก ไม่ว่าจะในเรื่อง เดอะ เมทริกซ์ หรือว่า จอห์น วิค ก็ตาม แต่คีอานู รีฟส์นั่งรถเมล์ นั่งรถไฟ เดินเท้า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อข้าวของอะไรแพง ๆ เลย

ขณะเดียวกัน นักกีฬาบางคน พอประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงโด่งดัง ซื้อรถหรูราคาแพง ๆ คนหนึ่งสามคันสี่คัน คีอานู รีฟส์ เอาเงินไปทำอะไร ? เขาบริจาคช่วยสารพัดเรื่อง บางทีก็เอาไปให้ทีมช่างแต่งหน้า แต่งผม ทีมสตันท์แมนที่ช่วยงานเขา อยู่ในลักษณะเป็นเงินพิเศษให้กับทีมงานที่ค่อนข้างจะได้เงินน้อย แต่ตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ เล่นหนังเรื่องหนึ่งรับเงินมา ก็ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดอยู่แล้ว

หรือไม่ก็มีนักฟุตบอลอยู่คนหนึ่ง กระผม/อาตมภาพจำชื่อไม่ได้ เพราะไม่ใช่แฟนบอล ใช้โทรศัพท์หน้าจอแตกยับเยิน ลายเป็นใยแมงมุม แต่ค่าตัวเดือนละ ๓๐๐,๐๐๐ ปอนด์..! เพื่อนถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนโทรศัพท์ ? เขาบอกว่าไม่มีความจำเป็น ยังใช้งานได้อยู่ เขาเอาเงินไปช่วยเด็ก ๆ ทางบ้านเขาให้ได้เรียนหนังสือ แจกเงินเดือนคนหมู่บ้านเดียวกันกับเขาทั้งหมู่บ้าน แม้ว่าจะแค่ ๗๐ ปอนด์ต่อคน ต่อเดือนก็ตาม แต่ว่าช่วยให้เศรษฐกิจของทั้งหมู่บ้านดีขึ้น

เขาบอกว่าเขาเป็นคนจนมาก่อน เพราะฉะนั้น..เรื่องข้าวของหรูหราอะไรไม่มีความจำเป็นสำหรับเขา หากแต่ว่าการช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นจากความลำบากยากจน จึงเป็นหน้าที่ที่เขาควรจะทำ กำลังใจพวกนี้ ท่านจะเห็นว่ามาสายพระโพธิสัตว์แน่ ๆ แต่ว่าเขาทั้งหลายเหล่านี้จะรู้ตัวหรือว่าไม่รู้ตัวก็ตาม เขาได้ทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-07-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,063 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ก็มาวัดกับพวกเราที่ถือว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว กลับสู้เขาไม่ได้ เพื่อนของกระผม/อาตมภาพบางคนนี่ เปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ทุกครั้งที่ออก เปลี่ยนรถใหม่ป้ายแดงเกือบทุกปี อย่าลืมว่านักบวชของเรา พระพุทธเจ้าจัดสถานภาพให้อยู่ในลักษณะของขอทาน ปัจจัย ๔ ได้มาจากการขอจากผู้อื่น ขอทานถ้าร่ำรวย ก็ไม่มีใครสนใจให้ทาน

เพราะฉะนั้น..พวกท่านอาจจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพช่วยที่นั่นช่วยที่นี่ ช่วยไปเรื่อย จนกระทั่งเพื่อนพระสังฆาธิการหลายต่อหลายรูปมาขอยืมเงิน แล้วกระผม/อาตมภาพบอกว่าไม่มี โดยบอกกับเขาไปว่า "ผมเป็นคนใช้เงินไม่คิด พรุ่งนี้จะมีหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในหัวเลย ส่วนใครที่ไม่ได้ใช้เงินลักษณะแบบผม พูดง่าย ๆ ว่า ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีเงินทุกคนแหละ ไปยืมเขาตรงโน้นเถอะ"

เมื่อวานนี้เถ้าแก่ยุง (นายพยุง เพ็งเลา) เจ้าของร้านทองผาภูมิอิงค์เจ็ท มาเก็บค่าป้ายประชาสัมพันธ์คร่อมถนน ก็คงจะซาบซึ้งดี เพราะว่ากระผม/อาตมภาพควักแทบจะบาทสุดท้าย วันนี้แม่ชีชื่นเบิกค่าไฟฟ้า ยื่นบิลมาก็คือ ๔๘,๐๐๐ กว่าบาท แต่ขอเบิกแค่ ๓๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะเอาเงินที่ได้จากตู้สังฆทานไปผสม แล้วท่านบางคนก็จะเห็นว่า ๓๙,๐๐๐ บาท ที่กระผม/อาตมภาพให้ไปนั้น แทบจะเป็นแบงค์ยี่สิบล้วน ๆ..! พูดง่าย ๆ ว่าควักให้จนหมดตัว..!

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพทำแบบนี้คนเดียว ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิต - พระธรรมวชิรมุนี วิ., รศ.ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ.๙) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านก็ทำแบบนี้

ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตท่านหนักกว่าอีก ก็คือถ้าเงินมาวันนี้ต้องใช้ให้หมดในวันนี้ ท่านไปที่ไหนก็ควักกระเป๋าร่วมงานบุญกับเขาเท่าที่มี ได้มากก็ให้มาก ตรงนั้นก็โชคดีไป ได้น้อยก็ให้น้อย แล้วท่านยังเป็นพระเถระระดับเจ้าคุณชั้นธรรม เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ที่ออกบิณฑบาตทุกวันอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-07-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,063 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนเอาไว้ว่า "อย่าให้มีเงินเหลือ เงินปีนี้อย่าให้มีข้ามไปถึงปีหน้า ถ้ามีเงินเหลือข้ามถึงปีหน้า ให้คิดหางานที่มากกว่าเงินทำเข้าไว้ เวลาเงินมาถึง เราจะได้ไม่คิดว่าเป็นของเรา" ไม่เช่นนั้นแล้วพระภิกษุสามเณรของเรา เสียหายไปเท่าไรไม่รู้เท่าไรก็เพราะเรื่องเงิน

ท่านจะเห็นว่าอดีตเจ้าคุณวัดป่าที่ถูกฟ้อง เสียหายเรื่องเงินไปชนิดที่เรียกว่ามีเป็นร้อยล้าน นั่นท่านใช้เงินไม่เป็น ถ้าใช้เงินเป็นเหมือนกระผม/อาตมภาพ จะไม่พลาดแบบนั้นหรอก

หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า เสือสองตัว คือ สตางค์กับสตรี พาพระเณรเสียง่ายที่สุด มีสตางค์เมื่อไรสตรีจะมา ถ้ามีแต่บัญชีติดตัวแดงอย่างกระผม/อาตมภาพ เขาไม่มาให้เสียเวลาหรอก มาก็ไม่ได้เงิน ที่อื่นนี่เขาถึงขนาดวางแผน ทำอย่างไรที่จะส่งคนของตัวเองเข้าไป ถึงขนาดตั้งกันเป็นขบวนการ แล้วก็มาใช้คำว่า "นารีพิฆาต" ไม่จริงหรอกครับ..ถ้าหากว่าเราไม่มีเงิน เขาไม่มาให้เสียเวลาหรอก

เรื่องพวกนี้เราที่เป็นนักปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ต้องตระหนักเอาไว้ ครูบาอาจารย์ที่ท่านทำตัวเป็นตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว ส่วนเราท่านทั้งหลายจะทำอย่างไรก็เชิญเลือกกันเองตามอัธยาศัย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว