กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-09-2023, 18:08
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,652
ได้ให้อนุโมทนา: 216,903
ได้รับอนุโมทนา 747,835 ครั้ง ใน 36,431 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-09-2023, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,473 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) บ้านวัดราษฎร์ หมู่ที่ ๒ ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เช้า เพื่อทำการตรวจประเมินหมู่บ้านวัดราษฎร์ เพื่อยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ไปถึงก็ต้องทึ่งกับความอลังการของการจัดสถานที่

ในเรื่องของบุญของกุศล โดยเฉพาะในเรื่องของความรักใคร่สามัคคีนั้น ต้องยกให้กับพี่น้องชาวมอญ เนื่องเพราะว่าหมู่บ้านวัดราษฎร์นี้เป็นพี่น้องชาวมอญเกือบทั้งสิ้น แค่นางรำที่ยกมาต้อนรับคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็มีถึง ๑๕๐ คน ทำเอาประธานกรรมการของเราตีหน้าบอกไม่ถูก เนื่องเพราะว่าถ้าแจกรางวัลเป็นรายตัว ก็มีหวังได้ล่มจมกันแน่..! ท้ายที่สุดก็ทราบว่าของเขามีชมรม จึงได้มอบเงิน ๕,๐๐๐ บาทให้ทางชมรมเอาไว้สนับสนุนงานต่าง ๆ

กระผม/อาตมภาพที่ไม่ได้ไปฉันเช้ากับใคร เมื่อกราบทักทายบรรดาพระเถรานุเถระแล้ว ก็เดินดูนิทรรศการต่าง ๆ ของเขา โดยเฉพาะการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแม ซึ่งการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแมในสมัยก่อนนั้น เป็นเวลาที่หนุ่มสาวจะสามารถพบปะกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่หวงห้าม หนุ่ม ๆ มักจะไปช่วยบ้านที่มีลูกสาววัยกำดัดในการกวนกาละแม เนื่องเพราะว่าต้องกวนให้ข้าวเหนียวและกะทิเข้าเป็นเนื้อเดียวกันก่อนที่จะเติมน้ำตาล กว่าที่กะทิจะงวดให้เติมน้ำตาลได้ อย่างน้อย ๆ ก็ใช้เวลา ๗ - ๘ ชั่วโมง..!

ดังนั้น..สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ จึงมีผู้ใหญ่บางบ้านกล่าวว่า "มาขอลูกสาวบ้านข้า ไม่เรียกร้องสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก เอากาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกมาให้ข้าก็พอ" ซึ่งถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเห็นว่ากาละแมแต่ละถาด ซึ่งหนาประมาณ ๑ นิ้ว กว้างสัก ๑๒ นิ้ว ยาวสัก ๒๐ นิ้วนั้น ต้องใช้ทั้งกะทิ ทั้งข้าวเหนียว ทั้งน้ำตาลจำนวนมากขนาดไหน ก็คงพอจะนึกออกว่า กาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกนั้น ต้องใช้ทรัพยากรขนาดไหนถึงจะกวนขึ้นมาได้ ไม่ใช่เฉพาะมีวัสดุเท่านั้น ยังต้องมีบารมีขนาดคนทั้งตำบลมาช่วยกันทำด้วย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด..!

ก็พอ ๆ กับที่บางคนบอกว่า "มาขอลูกสาวข้า ไม่ต้องการสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาให้ข้าสักตัวก็พอแล้ว ข้าจะยกลูกสาวให้เลย" ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนโบราณช่างสังเกตขนาดนั้น เนื่องเพราะว่าแมวที่มีสามสีนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าดีเอ็นเอ หรือโครโมโซมไปลงตัวอีท่าไหน จึงมีแต่ตัวเมียทั้งสิ้น..!

กระผม/อาตมภาพเองสังเกตมามากต่อมากด้วยกันแล้ว แต่หลังจากที่อายุ ๕๐ กว่า ๖๐ ปีมา ก็มีคนบอกว่า มีแมวสามสีตัวผู้อยู่ตัวหนึ่ง แต่ว่าเป็นหมัน ก็คือไม่สามารถที่จะสืบพันธุ์ได้ แปลว่าไอ้เจ้านี่แหกคอก ประมาณ ๑ ในหลายล้าน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า โครโมโซมหรือว่าดีเอ็นเอของแมวสามสีนั้น มักจะไปตกเป็นตัวเมียเสียทั้งหมด

ดังนั้น..หนุ่มบ้านไหนที่จะไปขอสาว ได้ยินว่าที่พ่อตาบอกว่า แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาแลกก็จะยกลูกสาวให้ อย่าได้ดีอกดีใจเป็นอันขาด ท่านแสวงหาทั้งชีวิตก็อาจจะหาแมวสามสีตัวผู้ไม่ได้ พูดง่าย ๆ ว่า ว่าที่พ่อตาปฏิเสธไม่ยกลูกสาวให้นั่นแหละ เพียงแต่ไม่ได้บอกตรง ๆ เท่านั้นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2023 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-09-2023, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,473 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อดูนิทรรศการเสร็จสรรพเรียบร้อยทุกอย่าง ก็ขึ้นไปสู่ศาลาของวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) ซึ่งเป็นวัดธรรมยุต ตัวเจ้าอาวาสคือท่านเจ้าคุณศักดา (พระรามัญมุนี) ถือว่าเป็นบุคคลที่คุ้นเคยกัน เนื่องเพราะว่าความเป็นมอญนั้น รักใคร่เหนียวแน่นในชาติพันธุ์ของตนเองมาก มอญทางด้านไทรโยค ทองผาภูมิจัดงาน ก็ยังนิมนต์มอญทางด้านสมุทรสงคราม สมุทรสาครไปร่วมงานด้วย จึงทำให้กระผม/อาตมภาพกับท่านเจ้าคุณศักดาคุ้นเคยกัน เมื่อได้ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยังรื้อฟื้นความหลังครั้งล่าสุด ซึ่งได้พบกันที่วัดอู่ล่อง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อได้เวลา ทางด้านพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม รองประธานอำนวยการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ก็เป็นประธานในพิธีเปิด

เมื่อเห็นความพร้อมเพียงของข้าราชการจังหวัดสมุทรสาครแล้ว กระผม/อาตมภาพยังชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่านี่เป็นวัดที่ ๑๒ ซึ่งทางคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลางได้ไปตรวจประเมินในปีนี้ แต่เป็นที่แรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอมากันครบถ้วน โดยเฉพาะนายอำเภอมาครบถ้วนทั้ง ๓ อำเภอ ไม่ใช่มาเฉพาะอำเภอบ้านแพ้วที่เป็นเจ้าภาพเท่านั้น

นอกจากนั้น บรรดาหัวหน้าหน่วยราชการสำคัญ ๆ อย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ก็มากันครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้การประเมินในครั้งนี้ สามารถที่จะให้คะแนนได้ง่ายมาก โดยเฉพาะในหมวดที่ ๓ เรื่องของการปฏิบัติธรรม วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) นอกจากจัดปฏิบัติธรรมของตัวเองแล้ว ยังมีการร่วมปฏิบัติธรรมกับบรรดาวัดอื่น และขณะเดียวกันก็มีสำนักปฏิบัติธรรมที่เป็นของเอกชนมาร่วมด้วย

เมื่อถึงเวลา พวกเราสอบถามอะไรก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาศีล ๕ มีการให้ศีลแบบภาษามอญ ซึ่งกระผม/อาตมภาพยังปรารภกับหลวงพ่อพระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗ เจ้าอาวาสวัดโชติทายการาม รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรีว่า ทั้ง ๆ ที่เป็นมอญเหมือนกัน แต่สำเนียงไม่เหมือนกัน อย่างมอญทางทองผาภูมิ ถึงเวลาก็จะออกเสียงว่า "พุทธ็อง สะระณ็อง กิดสาม่อย" แต่มอญทางด้านสมุทรสาครออกเสียงว่า "พุทธ็อง สะระณ็อง กิดสาเม่ย" ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามีความต่างกันอยู่เหมือนกัน

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านช่างสังเกตก็จะสามารถที่จะเห็น หรือว่ามีประสบการณ์จนนำไปบอกกล่าวกับคนอื่นได้ โดยเฉพาะการเขียนศีล ๕ นั้น แทนที่จะเขียนเป็นอักษรมอญ กลับเขียนเป็นภาษาพม่า ซึ่งกระผม/อาตมภาพอ่านได้ทั้งหมด ตั้งแต่สมัยไปประเทศพม่าใหม่ ๆ ก็ยังปรารภกับครูบาน้อย (พระนาวิน สจฺจญาโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว ประเทศพม่าว่า "ทำไมผมถึงอ่านภาษาพม่าออกก็ไม่รู้ ?" ว่าแล้วก็ลองอ่านให้ฟัง แม้ว่าจะแปลออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็อ่านได้จริง ๆ

ครูบาน้อยก็ยอมรับ เมื่อกระผม/อาตมภาพสังเกตต่อไป ถึงได้เห็นว่า ความจริงแล้วอักษรพม่าก็คืออักษรขอม แต่ว่าตัดหางออกเท่านั้นเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงสามารถที่จะคลำทางได้ แล้วก็อ่านออกไม่ยากนัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2023 เมื่อ 01:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-09-2023, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,473 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่มาตลกตรงที่ว่า วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) นอกจากเป็นวัดธรรมยุตแล้ว ยังเป็นวัดมอญ แต่ตัวหนังสือที่เขียนอยู่กลับเป็นตัวหนังสือพม่า ซึ่งความจริงแล้วมอญมีหนังสือเฉพาะของตน ซึ่งกระผม/อาตมภาพอ่านไม่ออก เนื่องเพราะว่าเคยอ่านแล้ว อ่านไม่ได้ ปรารภกับครูบาน้อยแล้ว ครูบาน้อยบอกว่าตนเองก็อ่านไม่ออกเช่นกัน เพราะว่านี่เป็นอักษรมอญ แล้วก็ยังมีอักษรกะเหรี่ยงที่กระผม/อาตมภาพอ่านไม่ออกอีกเช่นกัน แต่ว่าฟังได้มากอยู่

ดังนั้น..ในส่วนนี้เมื่อพวกเราทำการประเมินเสร็จสรรพเรียบร้อย ทางด้านเจ้าภาพก็ถวายของที่ระลึกให้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือกระยาสารทและกาละแมที่กวนมาสด ๆ ร้อน ๆ จัดใส่กล่องมาให้เดี๋ยวนั้นเลย โดยเฉพาะในส่วนของผักสดจากสวน ซึ่งดูจากการบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เรียบร้อยสะอาดมาก และมีตัวหนังสือญี่ปุ่นแล้ว คาดว่าส่งขายที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ดังนั้น..ในเรื่องของสัมมาชีพ ซึ่งตรงกันข้ามกับข้ออทินนาทาน ทางด้านวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) หรือว่าหมู่บ้านวัดราษฎร์ จึงมีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

เมื่อประเมินเสร็จสรรพ กระผม/อาตมภาพลงไปเดินดูนิทรรศการต่าง ๆ โดยเฉพาะปล่อยพันธุ์ปลา ๕๐,๐๐๐ ตัว กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบ ๑ ถุง ไม่ทราบเหมือนกันว่ากี่พันตัว แต่ว่ามีหลายตัวที่ร้อนจนกระทั่งเสียชีวิตไปก่อน เมื่อปล่อยปลาเสร็จสรรพเรียบร้อย มีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน หลังจากนั้นก็เป็นการถวายภัตตาหารเพล พวกกระผม/อาตมภาพนั่งฉันไป ก็วิจารณ์กันไปว่า กับข้าวอร่อยขนาดนี้ มีหวังกรรมการตรวจหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ กว่าที่จะตรวจเสร็จ ๒๓ จังหวัดก็คงน้ำหนักขึ้นไปตาม ๆ กัน..!

หลังจากนั้นแล้วพระเดชพระคุณพระมงคลพัฒนาภรณ์ หรือหลวงพ่อเจ้าคุณดิเรก เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครรูปปัจจุบัน ก็ชวนคณะกรรมการทุกท่านลงเรือเพื่อที่จะไปดูยังสถานที่ต่าง ๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพก็เหมือนเดิม เนื่องเพราะว่าตนเองประเมินในด้านการปฏิบัติธรรม จึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการไปดูงานใด ๆ ทั้งสิ้น

และวันนี้กรรมการที่เดินทางไกล อย่างเช่นหลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เศรษฐีเรือทอง เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ก็คงไปพักค้างคืนกันที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) แต่กระผม/อาตมภาพสละสิทธิ์ เนื่องเพราะว่าวัดอุทยานก็ไม่ได้อยู่ไกลนัก จึงขออนุญาตคณะกรรมการเดินทางกลับก่อน

เมื่อมาถึงก็ปรากฏว่าไข้จับอีกแล้ว น่าจะเกิดจากการฉันของดีสมุทรสาคร ก็คือมะพร้าวน้ำหอมที่ทำส่งนอกเข้าไป รู้อยู่ว่าฉันเข้าไปแล้วจะต้องเจ็บไข้ได้ป่วยแน่นอน เพราะว่าน้ำมะพร้าวนั้นเป็นธาตุเย็นจัด ฉันเข้าไปเมื่อไรมาลาเรียมีหวังกำเริบแน่..! แต่ที่จำเป็นต้องฉันก็เพราะว่า เจ้าภาพนั่งมองตาปริบ ๆ อยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ยอมรับกฎของกรรม ฉันให้ดูเพื่อให้เจ้าภาพชื่นใจ แล้วเรากลับมาที่พักเมื่อไร ก็มาฉันยากันต่อไปก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2023 เมื่อ 23:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว