กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-12-2023, 17:51
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,630
ได้ให้อนุโมทนา: 216,949
ได้รับอนุโมทนา 748,057 ครั้ง ใน 36,431 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-12-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,896 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปร่วมงานทำบุญวันบูรพาจารย์วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ตั้งแต่เช้า แต่ว่าไม่ได้อยู่ร่วมฉันเพลด้วย

เนื่องเพราะว่าเมื่อสวดพระพุทธมนต์เสร็จ รับไทยธรรมและให้พรเรียบร้อยแล้ว ต้องรีบเดินทางไปยังวัดหนองทราย ตำบลหนองราชวัตร อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งพระครูธรรมธรอดิเรก อนุตฺตโร ท่านได้นิมนต์กระผม/อาตมภาพ ให้มาร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เพื่อฉลองศาลาที่ท่านเพิ่งจะสร้างเสร็จไม่นาน ถึงขนาดรีบเดินทางไป ฉันภัตตาหารบนรถไป แต่ว่าก็ยังไปเกือบจะไม่ทันเวลา ไปถึงวัดหนองทรายแล้ว เจ้าหน้าที่นำไปเข้าห้องน้ำห้องส้วม เสร็จสรรพเรียบร้อย ก็นิมนต์ขึ้นอาสนะ

กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ข้างท่านเจ้าคุณอ่าง (พระนันทวิริยาภรณ์) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ พระมหานาคก็เริ่มให้ศีล และนำสวดพุทธาภิเษกพอดี เหลือบดูรอบข้าง เห็นท่านเจ้าคุณชำนาญ (พระมงคลวโรปการ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์อยู่ที่หัวแถว มีหลวงพ่อสมชาย (พระราชพัฒนากร) วัดปริวาสราชสงคราม เป็นผู้จุดเทียนชัย ทางด้านหลังก็คือพ่อท่านสูติ วัดในเตา หรือว่าวัดถ้ำพระพุทธโกษีย์

อีกด้านหนึ่งที่เยื้องไปก็หลวงพ่อแป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) เจ้าคณะตำบลบางกระเบา เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) หลวงพ่อต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค เจ้าอาวาสวัดพุตะเคียน เป็นต้น จึงได้ตั้งใจกราบขอบารมีพระ ช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ในการปลุกเสกเหรียญฉลองศาลาของพระครูธรรมธรอดิเรกในครั้งนี้ด้วย

เมื่อพระมหานาคสวดไป ๑ จบ ทางด้านพิธีกรก็บอกว่า "ขอให้พระเถระทุกรูปถอนจากสมาธิจิตออกมาพักผ่อนก่อน เนื่องเพราะว่าต้องรอการสวดรอบสอง ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม จะมาร่วมพิธีด้วย"

กระผม/อาตมภาพลืมตาขึ้นมาก็เห็นพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ พระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ ก็มากันพร้อมหน้า จึงกราบเรียนหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ไปว่า "กระผมเห็นเจ้านายวิ่งแซงหน้าไปลิบ ๆ แต่ว่าตามไม่ทัน เพราะว่าไม่มีรถนำ" ทำเอาท่านเจ้าคุณแย้มถึงขนาดหัวเราะ เนื่องเพราะว่าความจริงต่อให้มีรถนำ กระผม/อาตมภาพก็ไม่เคยวิ่งเร็วเกินกว่าที่ทางหลวงกำหนดให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2023 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-12-2023, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,896 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าสมัยก่อนที่รอดมาได้ ทั้ง ๆ ที่โชเฟอร์แต่ละท่านตีนหนักมาก..! ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของดวงล้วน ๆ เมื่ออายุมากขึ้น จึงให้ขับรถช้าลง ต่อให้เร่งรีบขนาดไหนก็ไม่เกิน ๑๐๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็จะแช่อยู่ที่ ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง

แต่เนื่องจากว่าพลขับ ก็คือน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นั้น กะระยะในการเข้าออกได้แม่นยำมาก จึงทำให้แทบจะไม่เสียความเร็วไปเลย ดังนั้น..บางทีท่านที่เหยียบถึง ๑๒๐ หรือว่า ๑๔๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ว่าเหยียบแล้วก็ต้องไปเบรค เพราะว่าติดรถคันหน้า บางทีอาจจะทำความเร็วเฉลี่ยสู้กระผม/อาตมภาพไม่ได้ เพราะว่าของเราแทบจะไปเฉลี่ย ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ว่า
การขับรถเร็วนั้น ไม่แน่ว่าจะถึงที่หมายเร็ว หากแต่คนที่รู้จังหวะเข้าออก ขับรถตามกฎจราจร อาจจะไปถึงที่หมายได้เร็วกว่า

เมื่อพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีมาถึง ได้ทำการเจิมและจุดเทียนชัยหลัก ตลอดจนกระทั่งเทียนมหามงคลซ้ายขวา แล้วก็ไปเพื่อที่จะจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย ท่านเดินผ่านหน้าแล้วบอกว่า "ขอดูชื่อหน่อย" เนื่องเพราะว่าทุกอาสนะจะมีชื่อผู้นั่งติดเอาไว้ กระผม/อาตมภาพจึงกราบเรียนว่า "พระครูวิลาศกาญจนธรรม วัดท่าขนุนครับ"

ท่านเองก็พยักหน้ารับทราบ แต่เชื่อเถอะว่าเดินผ่านไปสามก้าวก็ลืมแล้ว..! ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นบุคคลที่จำแม่นมาก แต่กระผม/อาตมภาพเองตั้งใจที่จะให้เป็นเช่นนั้น เนื่องเพราะว่าการเป็นที่จดจำของระดับครูบาอาจารย์ก็ดี หรือว่าเป็นที่จดจำของผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ตาม กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น..หลายเรื่องหลายราวที่ไม่ต้องการ จึงต้องทำให้คนอื่นลืมไปเสียเลย..!

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายรู้จักพระคาถาพญาเต่าเรือน สามารถที่จะใช้ในวิธีการเดียวกันนี้ได้ เนื่องเพราะว่าคำว่าเต่าเรือน คือเต่าตัวใหญ่เท่าเรือนยอดนั้น มีคำพ้องว่า "เลือน" ก็คือ เลือนลางจืดจางไปจากคนอื่น หรือว่าไปจากที่นั้น ๆ

ดังนั้น..โบราณาจาย์ถ้าหากว่ามีคดีความ ก็มักจะภาวนาคาถาพญาเต่าเรือนนี้ เพื่อที่ขอให้คดีความนั้น เลือนลางจืดจางไปจากตนเอง กระผม/อาตมภาพก็นำมาปรับใช้ โดยการให้ตนเองเลือนลางจืดจางไปจากสายตาผู้บังคับบัญชาหรือครูบาอาจารย์ เวลาที่ไม่ต้องการจะให้ท่านจดจำ


คาถานั้นเป็นการภาวนาสลับกันไปสลับกันมา ก็คือ "นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ" ภาวนาจนกระทั่งจิตของเราทรงตัวแล้ว ตั้งใจจะให้เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น..!

เรื่องของคาถาเป็น "บาท" คือพื้นฐานของอภิญญา ใครที่สามารถทำได้บทหนึ่ง บทอื่น ๆ ก็ใช้กำลังในระดับเดียวกัน เมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น จดจำอารมณ์ได้แม่นยำว่า เราวางกำลังใจแบบไหน จึงสามารถใช้คาถาได้ผล ก็ให้วางกำลังใจแบบนั้น แล้วพระคาถาทุกบทก็จะใช้ได้ผลเหมือนกัน เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของการฝึกซ้อมกำลังสมาธิล้วน ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2023 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-12-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,896 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยจากพิธีการพุทธาภิเษกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางกลับมายังที่พัก ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน และตรวจสอบรายจ่ายที่จะต้องจ่ายให้กับบรรดาผู้ที่ทำงานให้กับตนในช่วงสิ้นเดือนนี้ อันดับแรกเลยก็คือ รายจ่ายงวดที่ ๑๒ และงวดที่ ๑๓ ของการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน รวมแล้ว ๑๖ ล้านบาท..! อีกส่วนหนึ่งก็คือค่าแม่พิมพ์ และค่าปั๊มเหรียญเสริมปัญญาเนื้อทองคำ ซึ่งเฉพาะค่าปั๊มเหรียญอย่างเดียว ก็เหรียญละ ๑,๐๐๐ บาทแล้ว จึงต้องพยายามต่อรองให้ลดลงมาให้ได้

บางทีท่านทั้งหลายอาจจะไม่ทราบว่า การสร้างวัตถุมงคลแต่ละชิ้นนั้นราคาแพงขนาดไหน ค่าปั๊มเหรียญ ถ้าหากว่าเหรียญละ ๑,๐๐๐ บาท เราปั๊มไป ๓๐๐ เหรียญ ท่านก็ลองคูณดูว่าเป็นเงินเท่าไร (๓ แสนบาท) แล้วขณะเดียวกันเนื้อทองคำที่จะต้องใช้ในการสร้างอีกเหรียญละเท่าไร ดังนั้น..รวม ๆ แล้ว รายจ่ายตรงนี้ เฉพาะเหรียญเนื้อทองคำอย่างเดียว ก็อยู่ที่ประมาณ ๑๕,๖๐๐,๐๐๐ บาท..!

บางท่านได้ยินแล้วก็สะดุ้งว่ากระผม/อาตมภาพ จะได้ทุนคืนหรือไม่ ? เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้หนักใจ เพราะว่าถึงเวลาแล้ว
ท่านที่มีบุญสัมพันธ์มีกรรมสัมพันธ์กันมา ท่านก็จะมาช่วยเหลือในตรงจุดนี้เอง ทำให้ทุกครั้งก็สามารถที่จะหาเงินได้พอที่จะใช้หนี้ทัน โดยที่ไม่ต้องหนักใจเหมือนกับที่อื่นเขา แล้วค่อยไปหาเงินจ่ายค่าปั๊มเหรียญเนื้อเงิน เหรียญเนื้อทองเหลือง เหรียญเนื้อทองแดง และเหรียญเนื้อชินตะกั่วกันอีกทีหนึ่ง

เรื่องพวกนี้อยู่ในลักษณะที่โบราณกล่าวว่า "ตำข้าวสารกรอกหม้อ" แต่สำหรับกระผม/อาตมภาพแล้ว ไม่น่าจะเป็นการตำข้าวสารกรอกหม้อ หากแต่ว่าเป็นการ "สีข้าวสารใส่เรือส่งไปต่างประเทศ" เพราะว่าสามารถที่จะหาเงินได้จำนวนมาก แต่ว่ารายจ่ายก็มากพอกัน หรืออาจจะมากกว่าด้วย..!

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลาย เมื่อมีสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านมอบเอาไว้ให้ คือพระคาถาต่าง ๆ โดยเฉพาะ "พระคาถาเงินล้าน" ก็ได้โปรดทำให้ขึ้นใจ แล้วท่านทั้งหลายก็จะเห็นคุณเองว่า พระคาถาแต่ละบทนั้น สามารถที่จะช่วยเราได้อย่างไรบ้าง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2023 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว