กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-08-2012, 19:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยไปฝึกมโนมยิทธิมา ระหว่างที่เรากลับมาฝึกที่บ้าน หลวงพี่ท่านหนึ่งเคยบอกว่าเรานั่งอยู่ ให้เรานึกว่าเราไปที่วัดท่าซุง แต่ผมจำวัดท่าซุงไม่ได้ ผมจึงนึกถึงวัดสระเกศ ขึ้นไปที่พระบรมบรรพต ใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ใช้ได้..แรก ๆ ให้เอาสถานที่ซึ่งเราจำได้ก่อน หลังจากนั้นค่อยไปสถานที่ซึ่งเราจำไม่ได้ ระหว่างที่ใจของเราค่อย ๆ ไปทีละน้อย ๆ ก็เก็บรายละเอียดไปเรื่อย ถ้าที่เราจำไม่ได้ ไม่รู้จักมาก่อน อยู่ ๆ ก็เห็นชัด ให้จำว่าลักษณะเป็นอย่างไร แล้วไปดูด้วยตัวเอง ถ้าหากว่าตรงกับที่เห็นก็แปลว่าใช่ เราวางกำลังใจได้ถูกต้องแล้ว ให้ใช้กำลังใจอย่างนั้นทุกครั้ง

ถาม : ตอนแรกที่เราฝึก อย่างไปวัดสระเกศ เรารู้ว่าห้องไหนมีอะไรบ้าง หลังจากนั้นที่เราฝึก.. ?
ตอบ : หลังจากนั้นก็ลองวน ๆ ดูที่ซึ่งไม่เคยไปแถว ๆ นั้น พอได้รายละเอียดมากขึ้น ความเห็นชัดเจนปรากฏขึ้น เราก็จำเอาไว้แล้วก็ไปดูด้วยตาว่าใช่หรือไม่

ถาม : เรื่องเห็นหรือไม่เห็น ไม่ผิดปกติใช่ไหมครับ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเป็นห้วงนึก ถามว่าเห็นใช่ไหม ? ไม่เห็น..เพราะไม่ได้เห็นด้วยตา แต่ว่าเห็นด้วยใจ เหมือนกับเรานึกถึงบ้าน เราเห็นบ้านชัด ๆ แต่ตาเห็นไหม ? ไม่ได้เห็นหรอก..หรือว่านึกถึงคนที่เรารู้จัก เห็นชัด ๆ เลยในห้วงนึกแต่ก็ไม่ใช่ตาเห็น

ถาม : ปกติถ้าเรานึกถึงภาพพระ อย่างผมจะนึกถึงสมเด็จองค์ปฐมปางนิพพานครับ นึกถึงท่านอยู่เหนือศีรษะ ?
ตอบ : ดีแล้ว..นึกว่าท่านอยู่เหนือศีรษะเราตลอดเวลา พระนิพพานก็อยู่แค่นั้นแหละ ไม่ได้ไกลเกินกว่านั้นหรอก

ถาม : บางทีท่านไม่ได้อยู่เหนือศีรษะ บางทีท่านอยู่ด้านหน้า ?
ตอบ : จะอยู่ที่ไหนก็ไม่เป็นไร ให้เรานึกได้ก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-08-2012 เมื่อ 09:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-08-2012, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวสอนแม่ของเด็กว่า "เคยได้ยินคำว่า "ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ" ไหม ? อย่าไปใส่ใจ พักเดียวเดี๋ยวเขาก็เลิก ถ้าไปให้ความสนใจทุกเรื่อง เด็กเขาเรียกร้องความสนใจด้วยการทำไปเรื่อย ถ้าเราทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจ คุยกับคนอื่นไป เดี๋ยวเขาก็กลับแล้ว เราเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว แต่ยังไม่รู้ธรรมชาติของเด็กเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2012 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 09-08-2012, 05:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การขัดแต่งสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกนั้น มีอยู่ ๒ จุดที่ต้องสกัดออก แล้วเสริมใหม่ พวกบรรดาวิศวกรที่มาบวชเขาแนะนำว่าให้ใช้กัมกรีตแทน เพราะนอกจากจะปิดรอยต่อแล้ว ยังรับน้ำหนักได้ด้วย ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางวัสดุอย่างหนึ่ง

คราวนี้ที่เทคอนกรีตแล้วออกมาไม่ดีเพราะว่าคนช่วยเยอะเกินไป แทนที่จะยกตรง ๆ ขึ้นไปยังองค์พระแล้วเทเลย กลับต้องวนรอบองค์พระแล้วค่อยเลื้อยขึ้นไป กลายเป็นว่าหินตกลงก้นถัง ปูนกับน้ำก็ลอยหน้าไป ถ้าเทปูนออกมาจากรถโม่แล้วยกขึ้นเลยจะไม่มีปัญหา คนที่มาช่วยงานอยากได้บุญกันทุกคน ก็เลยใช้วิธีวนให้ครบทุกมือก่อน จึงทำให้เทพระออกมาไม่ได้ดีอย่างใจ ต้องมาซ่อมกัน

แต่เห็นแล้วก็ปลื้มใจอยู่อย่างว่า คนที่ยินดีในบุญยังมีมากมหาศาล แต่ละคนที่มานั้นไม่ต้องเรียกร้อง ตอนแรกพระท่านบอกว่า ให้ไปขอแรงทหารตำรวจมาช่วยกันเท อาตมาบอกว่าไม่ต้อง ถ้าหากว่าเป็นงานของ "พระท่าน" คนจะไม่ขาด แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พวกบรรดาญาติโยมที่ขับรถผ่านไปผ่านมา พอเห็นก็จอดรถทิ้งไว้ มาเทปูนกันก่อน รถเกะกะหน้าวัดเต็มไปหมด

อาตมาเห็นว่าทำให้การจราจรไม่สะดวก แต่พอออกเสียงตามสายว่าไป ตำรวจบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ
อาจารย์..เดี๋ยวผมดูแลให้" สรุปว่าตำรวจเขายินดีให้เกะกะ ก็เลยช่วยกันทำ ช่วยกันเท ช่วยกันมากจนเกินเหตุ น่าจะเป็นองค์เดียวที่เสร็จภายใน ๙ วัน เพราะที่อื่นเทกันเป็นเดือน ๆ ทั้งนั้นเลย

ที่อื่นเรื่องวัสดุก่อสร้างกับแรงงานไม่เต็มที่เหมือนของวัดเรา อย่างคอนกรีตเราสั่งแค่ข้ามถนนมาเอง เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าวัด แรงงานที่เกินมามากคือเด็กนักเรียน จะไปใช้งานหนักกับเด็ก ๆ ก็ไม่กล้า ต้องให้ไปหิ้วกระป๋องเปล่าแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2012 เมื่อ 11:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 09-08-2012, 05:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก ต้องบอกว่าบรรจุไปนับองค์ไม่ถ้วน เฉพาะของส่วนตัวที่ใส่โถเบญจรงค์ไปก็ ๔ โถ แล้วยังของญาติโยมที่ถวายมาทั้งเจดีย์อีก แต่ว่าของมีค่าที่ถวายเป็นพุทธบูชานั้น ต้องบอกว่าอลังการมาก เสียดายไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปเพราะมีจำนวนมากจนเกินไป นอกจากพวกแก้วแหวนเงินทองแล้ว ก็ยังมีพระสำคัญ ๆ อีก

คุณกิจพัฒน์ ศรีสุโข ถวายสมเด็จวัดระฆังกรอบทองมา ๑ องค์ ลูกสาวคือคุณจิตรัตน์ ศรีสุโข ถวายสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ เลี่ยมทองมา ๑ องค์ คุณปิยมงคล โชติกเสถียร นอกจากเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการสร้างองค์พระแล้ว ยังถวายเหรียญพระแก้วมรกตทองคำเลี่ยมทอง ๑ เหรียญ ผอบทองคำ ๑ ใบ และพระแกะสลักจากอัญมณีอีกหลายองค์ ป้าติ๋มถวายพระนาคปรกทองคำ ๑ องค์ ส่วนทิดจิตรถวายพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๒ เนื้อทองคำเลี่ยมทองด้วย ปลดจากคอมาถวายเดี๋ยวนั้นเลย เห็นกำลังใจแล้วน่าโมทนาอย่างยิ่ง

พระพุทธรูปที่บรรจุลงไปน่าจะหลายคันรถกระบะ ตอนแรกเห็นเขาวางตั้ง ๆ ไว้ คิดว่ารถสิบล้อไม่พอขนแบบนี้จะบรรจุไหวหรือ ? ปรากฏว่าลงไปหมดแล้วยังเหลือที่ว่างอีกตั้งเยอะ แสดงว่าพระเศียรท่านมโหฬารมาก ดูจากข้างล่างเห็นว่าเล็กนิดเดียว พระพุทธรูปนาคปรกฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตี ลงไปทั้ง ๒ รุ่นเลย นาคไทยลงไป ๒ องค์ และนาคขอมลงไปองค์หนึ่ง ไม่รู้ว่าของใครบ้าง รู้สึกว่ามีลูกกวางเป็นเจ้าของนาคไทยองค์หนึ่ง

พี่น้องมอญพม่าไปบูชาพระอุปคุตในลักษณะที่เรียกว่าพระบัวเข็ม
หน้าตัก ๙ นิ้ว บรรจุลงไปน่าจะ ๔๐ - ๕๐ องค์เห็นจะได้ ต้องบอกว่านั่นเขาตั้งใจบูชามาเพื่อบรรจุโดยตรงเลย ส่วนอาตมาจะเก็บเอาพระสังฆทานทั้งหมดที่ญาติโยมถวายมาบรรจุลงไป ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะหมด ปรากฏว่ายังเหลือพอให้ลงไปได้อีกเป็นคันรถกระบะเลย แต่ของหมดเสียก่อน จึงทำการผูกเหล็กปิดแล้วเทคอนกรีตทับไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2012 เมื่อ 11:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 252 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-08-2012, 05:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีอยู่ส่วนหนึ่งที่บรรจุไป ก็คือ พวกเพชรพลอยที่ญาติโยมถวายมาบูชาพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว อาตมาตั้งบูชาให้เขามาเป็นปี ๆ แล้ว คราวนี้การที่จะเก็บข้าวของพวกนี้ไว้ก็เก็บยาก จะบรรจุลงในเจดีย์ร่วมกับพระบรมธาตุก็ไม่มีสถานที่ ไม่เหมือนกับสร้อยทองคำซึ่งแขวนได้ ท้ายสุดก็เลยคิดว่าในเมื่อบูชาท่านมานานเนกาเลแล้ว ก็ถือว่าสมเจตนาของเขาแล้ว ที่เหลือจึงเอาบรรจุสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ไปเลย ไม่ได้แปรเจตนาของเขาหรอก แค่ย้ายที่เก็บเท่านั้น..!

โดยเฉพาะเพชรถ้าหลุดไปสักเม็ดหนึ่ง อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะหาคืนมาอย่างไร มีโยมท่านหนึ่งถวายมา ๑๐๘ เม็ด เม็ดละ ๑ กะรัต อีกท่านหนึ่งถวายพลอยเขียวส่องของจันทบุรีมา ๒๐ เม็ด ของราคาสูง ๆ แบบนี้ต้องรีบลงบรรจุเสียก่อน ถ้าอยู่กับอาตมานานไปเดี๋ยวดูแลรักษายาก ตอนนี้ก็เหลือแต่ตกแต่งและทำสถานที่ ก็คือแท่นตั้งองค์พระให้เรียบร้อยเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2012 เมื่อ 11:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 09-08-2012, 15:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ที่วัดกำลังสั่งสร้างกุฏิมือถือ ไม่ได้แปลว่าถือได้นะจ๊ะ แต่หมายถึงกุฏิสำเร็จรูปที่ประกอบง่าย ๆ เพราะว่าปีนี้พระเกินจำนวนกุฏิ หลวงปู่สายท่านสร้างกุฏิไว้แค่ ๔๐ ห้อง แต่ปีนี้พระของเรา ๕๑ รูป เณรอีก ๑ รูป ล้นจนต้องไปนอนที่ตึกแดง ก็เลยสั่งกุฏิมือถือเขาไป ๑๐ หลัง

เขาบอกว่าแต่ละหลังใช้เวลาประกอบประมาณ ๔ วัน แต่ว่ามาแล้วไม่ใช่พระใหม่จะได้ ตามพระวินัยต้องให้พระเก่าก่อน ส่วนพระใหม่ก็รอ ถ้าพระเก่า ย้ายออกจากห้องแถวเมื่อไรก็เสียบแทนไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 09-08-2012, 16:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "งานวันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้มีหนังสือใหม่แจก ๑ เล่ม ถ้าไม่ไปก็ต้องไปซื้อเอาทีหลัง หนังสือชื่อ สัพเพเหระ ๑ จะมีเล่มต่อไปเรื่อย ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 10-08-2012, 11:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนมีโยมส่งรูปงูกินงูมาให้ดู เขาบอกว่าตกใจ..ไม่เคยเห็น แสดงว่าเกิดมาไม่เคยอยู่บ้านนอกเลย งูกินงูนี่เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะงูจงอางจะเลือกกินงูพิษด้วย เวลางูจงอางอยู่ที่ไหน งูอื่นไม่ค่อยเหลือหรอก โดนกินเกลี้ยงเลย

ตอนนี้ที่วัดท่าขนุนไม่ต้องไปหางูอื่นหรอก เหลือแต่งูจงอางกับงูเห่า คู่นี้ก็ไม่รู้เมื่อไรจะกินกันเองเสียที..!

เวลางูกินกัน บางตัวก็สู้ อยู่ในลักษณะต่างคนต่างงับหางอีกฝ่ายได้ ปกติเวลางูจงอางกินงูอื่นจะกัดเขาก่อน ถ้าพิษออกเร็ว งูอื่นจะหมดแรงแล้วก็ตายให้งูจงอางกิน แต่บางทีเป็นงูพิษต่องูพิษด้วยกัน ต่างคนต่างงับอีกฝ่ายหนึ่งได้ กินจากปลายหางเข้าไป กินไป ๆ จนกระทั่งสุด ก็กลายเป็นวงกลม

ทางพวกเล่นของขลังธรรมชาติเขาหากันนักหนา เรียกว่า นาคบาศ นาคบาศเขาถือว่าเป็นบ่วงบาศที่เกิดจากพญานาค
เป็นอาวุธของท้าวเวสสุวรรณ เอาไว้ปราบผี เขาจะเอามาลงเลขลงยันต์ปลุกเสกตามตำรา แล้วก็เอาไว้กันผี ก่อนจะทำก็ต้องไปปิ้งให้แห้งก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 14:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 10-08-2012, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เคยดูคลิปวิดีโองูจงอางกินงูเหลือม งูเหลือมเสร็จงูจงอางเพราะพิษสู้เขาไม่ได้ งูจงอางกัด งูเหลือมรัด งูจงอางไม่สนใจหรอกว่าจะโดนรัด กัดคาไว้แล้วนอนนิ่งเลย สักพักหนึ่งพิษออกฤทธิ์ งูเหลือมหงิก ก็โดนจงอางเขมือบ

ถาม : เคยเห็นเขาจับงูเหลือม เอาเชือกกล้วยคล้องแล้วงูเหลือมตัวใหญ่ทีเดียว หมดแรงไปเลย แต่ไม่เคยเห็นคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นเพราะอะไร ?
ตอบ : อธิบายไม่ได้ ของแพ้ทางกัน แบบเดียวกับอีแร้งกับไม้โสน แร้งเป็นนกที่อึดมาก ต่อให้ตีด้วยกระบองเต็ม ๆ ก็เอาไม่อยู่ แต่พอโดนไม้โสนตีแล้วอยู่หมัด เป็นของที่แพ้กัน เด็กบ้านนอกจะรู้

เด็กบ้านนอกสมัยก่อนซนวิตถารทั้งนั้นแหละ เอากลอยมาตำผสมน้ำแล้วไปราดไว้ที่หมาตาย พอแร้งมากินหมาก็เมา ค่อยเอาไม้โสนไปไล่ตี ถ้าเอาไม้อื่นตีนกแร้งจะหนีไปได้ ถ้าเอาไม้โสนตีจะเสร็จอยู่ตรงนั้นแหละ เด็กก็ตีไปเรื่อย หกล้มหกลุก ตอนนั้นเอาแต่สนุกอย่างเดียว ไม่รู้เรื่องของบาปบุญอะไรหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-08-2012 เมื่อ 12:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 10-08-2012, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก..แสดงว่าบ้านเราเย็นดี เขาเลยมาอาศัยอยู่ โบราณเขาว่าสัตว์เข้าบ้านเป็นมงคล เพียงแต่ถ้าไม่อยากให้เขาเข้าบ้านก็ดูแลรอบบ้าน ถ้าโล่งเตียนเขาก็ไม่มารบกวน ถ้ารอบบ้านรกเขาจะมาถึงที่เลย วันก่อนที่บ้านวิริยบารมีก็เพิ่งจะตัดต้นโสนไป พอกิ่งพาดขึ้นบนกำแพงแล้ว งูฝั่งนั้นก็เลื้อยข้ามมาเที่ยวบ้านเราอยู่ทุกวัน ถ้าบ้านไม่รกเขาก็ไม่มาหรอก ถ้ารกเมื่อไรก็มาเมื่อนั้น

แล้วที่อัศจรรย์ก็คือ งูเหลือมที่กรุงเทพฯ ตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น มีหมามีแมวเป็นอาหาร ที่นี่วันก่อนก็มีงูเหลือมมาตัวหนึ่ง ใหญ่ประมาณแขน ถือว่าเป็นลูกงูเหลือมอยู่ แต่ตัวขนาดนี้รัดคนตายได้สบาย

มีชาวบ้านที่เขาจับงูเหลือมได้ โดยที่เขาไม่รู้ว่างูเหลือมจริง ๆ แล้วมีนิสัยดุ จับได้แล้วเอามาพันคอเล่น งูก็เลยรัดเสียตายเลย ทั้ง ๆ ที่งูเหลือมตัวประมาณแขนนี่แหละ ที่เขาเอามาพันคอเล่นส่วนใหญ่เป็นงูเลี้ยง แต่นี่เป็นงูธรรมชาติ โดยเฉพาะกำลังตื่นเต้นที่คนไปไล่จับ มีโอกาสก็รัดเลย

ปกติแล้วงูมักจะนอนเกือบทั้งวัน งูที่นอนอยู่เราเอาไปพันอะไร ก็พันอยู่นั่นแหละ เพราะว่ายังหลับอยู่ แต่คนไม่รู้ว่างูหลับเพราะว่างูไม่มีเปลือกตา อย่างมากก็มีหนังบาง ๆ อยู่ชั้นหนึ่ง ถึงเวลาเลื่อนลงมาปิดตา ถ้าไม่สังเกตคนก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น..ตอนงูหลับเราจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถึงเวลาลูบ ๆ ให้รู้ตัวหน่อยแล้วค่อย ๆ ดึง พาไปไหนก็ไปได้ เขาจะเลื้อยตามไปเรื่อย แต่ถ้างูตื่นอยู่เต็ม ๆ นี่ไวอย่าบอกใครเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 12:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 10-08-2012, 12:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อช่วงที่อาจารย์สมพงษ์ยังเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนอยู่ งูเหลือมใหญ่เข้ามากินไก่ รัดไก่ตายไป ๔ ตัว พระจะเข้าไปจับงู ปรากฏว่าโดนงูไล่ฉกจนต้องเผ่นกันหมด ท่านแป๊ะกับท่านไก่เผ่นเข้ากุฏิอาจารย์สมพงษ์แล้วดันล็อกประตูไว้ คนอื่นเข้าไม่ได้ก็วิ่งกันกระเจิง

พระครูน้อยวิ่งไปเรียกอาตมาที่กุฏิเรือนไทย บอกว่า "อาจารย์ครับ..งูเหลือมไล่..!" อาตมาก็เลยต้องออกมาจับงูใส่กระสอบ เวลาที่คนไปวิ่งสับสนแล้วงูจะตกใจ พออาตมาไปถึง งูยกหัวขึ้นจะฉก อาตมาเอามือตบหัวงูทีหนึ่งแล้วก็วางกระสอบลง งูเห็นมืด ๆ ก็มุดเข้าไป ท่านวสันต์เห็นตอนที่งูยกหัวขู่ อาตมาก็ยกมือตบบอกว่า “ทะลึ่ง..! เข้าไป” งูก็มุดเข้าไป ท่านวสันต์บอกว่า “ผมรู้คาถาของอาจารย์แล้ว คาถาอาจารย์คือ ทะลึ่ง..! เข้าไป”

ขนาดเอางูไว้ในกระสอบแล้วเขายังไม่กล้าหิ้วกันเลย เพราะตัวใหญ่มาก ถ้าเราไปพรวดพราดโดยคิดจะทำอันตราย งูเขาสัมผัสได้ เขารู้เขาจะป้องกันตัว ถ้าเราไม่คิดร้ายเขา อาการเคลื่อนไหวจะเป็นคนละอย่างกัน แต่งูเขารู้ สัตว์ทุกชนิดจะดูออก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 12:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 10-08-2012, 12:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระคำข้าวของหลวงพ่อ ท่านบอกว่ากันรังสี..(ไม่ได้ยิน)..จะกันคลื่นโทรศัพท์ด้วยไหมครับ ?
ตอบ : ก็อธิษฐานขอเอาสิ อย่างอื่นยากกว่านั้นยังป้องกันได้เลย อยู่ที่เราอธิษฐานขอให้ช่วยป้องกันให้ด้วย

ถาม : สร้างพระแล้ว...(ไม่ได้ยิน)...แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : คงแก้ไม่ได้แล้วเพราะสร้างเสร็จไปแล้วนี่ เหลืออย่างเดียวก็คือ หาทางชำระหนี้สงฆ์เอาก็แล้วกัน เพียงแต่ว่าโทษย้ายเจดีย์โดนไปเต็ม ๆ แล้ว

ถาม : ถ้าสร้างพระหน้าตัก ๔ ศอกแทน จะแก้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : แก้ได้ไม่หมด ส่วนที่เป็นหนี้สงฆ์แก้ได้ แต่ส่วนที่เป็นโทษการย้ายเจดีย์ ที่เราเอาเงินเขาไปทำอย่างอื่นนั้นแก้ไม่ได้

ถาม : โทษย้ายเจดีย์ปรับเฉพาะพระหรือฆราวาสด้วยครับ ?
ตอบ : ใครทำก็โดนทั้งนั้น

ถาม : สองคนก็เกี่ยงกันว่าหน้าที่ใคร
ตอบ : ปล่อย..เดี๋ยวลงข้างล่างก็รู้เอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 10-08-2012, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงพระไพรีพินาศว่า "ถ้าหนังสืออนุญาตจากวัดบวรฯ มาถึงก็จะสร้างเลย จะสร้างฉลองสมเด็จพระสังฆราชครบ ๑๐๐ พรรษา ซึ่งจะครบรอบปีหน้า คราวนี้กาญจนบุรีเป็นชาติภูมิ ก็คือเป็นที่เกิดของสมเด็จพระสังฆราช เพราะฉะนั้นวัดต่าง ๆ ของกาญจนบุรีก็ได้รับการขอร้องว่า ถ้ามีความสามารถพอให้ทำโครงการถวายสมเด็จพระสังฆราช ๑๐๐ ปีด้วย

คิดว่าทำขนาด ๙ นิ้ว , ๓ นิ้วก็พอนะ องค์ ๙ นิ้วทำไว้กันผีหลอกสัก ๑๐๐ องค์ก็พอ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 14:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 10-08-2012, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา การเข้าพรรษานั้น คือ การที่พระจะต้องอยู่ประจำที่ ในช่วงฤดูฝนตลอด ๓ เดือน แต่บ้านเราถือฤดูกาลตามอินเดีย ซึ่งทำให้ไม่ตรงกัน เพราะว่าฤดูฝนของอินเดียจะมาช้ากว่าของเรา เนื่องจากประเทศอินเดียแล้งมาก ประเทศเราฝนมาตั้งแต่เดือน ๖ แล้ว แต่อินเดียฝนมาเดือน ๘ ก็เลยช้ากว่ากันไป ๒ เดือน

คราวนี้การที่พระจำพรรษา ถ้ามีกิจจำเป็นพระพุทธเจ้าอนุญาตให้ไปได้ แต่ว่าไปได้ไม่เกิน ๗ วัน ก็คือ ถ้าพ่อป่วย แม่ป่วย ครูบาอาจารย์ป่วย ไปช่วยรักษาพยาบาล ช่วยดูแลได้ เพื่อนสหธรรมิกที่อยู่ต่างวัดจะสึก ไปเพื่อห้ามปรามได้ ข้อนี้หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า ปัจจุบันนี้ไม่ต้องไปห้ามหรอก ปล่อยให้สึกไปเถอะ ที่พระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระไปห้ามในครั้งนั้น เพราะท่านทราบว่าพระรูปนั้นถ้าบวชอยู่ต่อไปจะบรรลุอรหัตผล
สมัยนี้อยากสึกให้เขาสึกไป

ข้อต่อไปคือ วัดชำรุด ไปหาทัพพสัมภาระมาเพื่อซ่อมวัด สมัยนี้ไม่ต้อง โทรศัพท์สั่งร้านวัสดุก่อสร้างก็มาส่งถึงที่เลย ข้อสุดท้ายคือ ได้รับกิจนิมนต์ไปเพื่อเจริญศรัทธา เพราะสมัยก่อนเดินทางกันไกล เดินเท้าเป็นส่วนใหญ่ อย่างดีก็ขี่เกวียนไป แล้วระยะเวลาบางทีหลายวัน อย่างการมารับสังฆทานนี่ก็ถือว่าอยู่ในการมาเจริญศรัทธาญาติโยม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 14:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 10-08-2012, 13:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีบางอย่างที่ปัจจุบันนี้พระขอสัตตาหะ แล้วเกิดการสงสัยว่าไม่ได้อยู่ในพระบรมพุทธานุญาต อย่างเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วไปอยู่โรงพยาบาล และการลาไปเพื่อศึกษาเล่าเรียน ความจริงพระพุทธเจ้าท่านมอบมหาปเทส ๔ ก็คือข้ออ้างใหญ่ ๔ อย่าง ไว้สำหรับตีความพระธรรมวินัย เหมือนกับการตีความกฎหมาย

มหาปเทส ๔ ท่านกล่าวไว้ว่า
สิ่งใดที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร
สิ่งใดไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร
สิ่งใดสมควร พิจารณาแล้วสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร
สิ่งใดสมควร แต่พิจารณาแล้วไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร


เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล โดยสัตตาหะกรณียะ เราพิจารณาดูว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้อนุญาต แปลว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร แต่พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร ก็คือควรที่จะไปได้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวตายคาวัด..!

การลาไปศึกษาเล่าเรียน ส่วนใหญ่พระไปศึกษาเกี่ยวกับหลักธรรมวินัยต่าง ๆ เพื่อเอามาปฏิบัติเองบ้าง ศึกษาเข้าใจแตกฉานแล้วไปสอนคนอื่นต่อบ้าง เป็นการเกื้อพระศาสนาด้วย ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ได้อนุญาตไว้ ถือว่าไม่สมควร แต่พิจารณาแล้วว่าทำไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ดังนั้นก็สมควรที่จะอนุญาตให้ไปได้

แต่ปัจจุบันนี้พระไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าจะไปก็สัตตาหะไว้ก่อน กลายเป็นว่าผิดพระวินัยโดยเจตนา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2012 เมื่อ 14:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 11-08-2012, 07:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยอยู่วัดท่าซุงมีเรื่องตลกอยู่ ก็คือ ในพรรษาพระอยากกลับบ้าน คิดถึงบ้าน แต่ไปไม่ได้เพราะข้ออ้างไม่มี ก็เลยเขียนจดหมายไปบอกทางบ้านว่า ให้ส่งจดหมายมานิมนต์ด้วย เพราะสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ พอพระไปขออนุญาตลา หลวงพ่อท่านก็พูดดักคอเอาไว้ พระก็อายจนกระทั่งไม่กล้าไป เพราะหลวงพ่อรู้ว่าไปขอให้ทางบ้านเขียนจดหมายมานิมนต์

สมัยนั้นอย่างดีก็มีโทรศัพท์บ้าน แล้วโทรศัพท์บ้านก็ขอยากเย็นเข็ญใจมาก วางมัดจำไป ๓,๐๐๐ บาท รอไป ๗ ชั่วโคตรกว่าจะได้ โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่มาใหญ่ประมาณกระเป๋าเอกสาร มีตัวโทรศัพท์เกาะอยู่ข้างกระเป๋า จำได้ว่าเป็นยี่ห้อฮ็อตไลน์ ของอิริกสัน ตอนนั้นเครื่องละ ๘๐,๐๐๐ บาท ต้องตั้งเสาที่วัดก่อนถึงจะมีสิทธิ์ใช้ได้

ตอนที่ตั้งเสา พอช่างตั้งเสร็จสรรพเรียบร้อยก็จะบอกวิธีใช้ ซึ่งวิธีใช้สลับซับซ้อนมาก จำเป็นที่จะต้องมีคนศึกษาและจดจำเอาไว้ให้ได้ เพื่อถึงเวลาจะได้ไปกราบเรียนหลวงพ่อวัดท่าซุงให้ทราบว่าเครื่องนี้ใช้อย่างไร พระทั้งวัดก็ชี้นิ้วมาที่อาตมา “เอ็งจำแม่น..ไปเลย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 11-08-2012, 07:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาก็ไปฟังเจ้าหน้าที่อธิบาย เสร็จเรียบร้อยก็ทวนวิธีใช้ แล้วก็ทำให้เขาดูว่าถูกต้องหรือไม่ พอเขาก็ยืนยันว่าถูกต้อง เขาก็กลับกรุงเทพฯ ไป พอหลวงพ่อท่านรับสังฆทานที่กรุงเทพฯ วันอังคารเดินทางกลับมา อาตมาเห็นท่านพักผ่อนพอแล้ว จึงเข้าไปกราบเรียนท่านว่า ช่างเขามาติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แล้ว จะขออนุญาตกราบเรียนบอกวิธีใช้งานให้ หลวงพ่อท่านก็ “เออ..ว่าไป”

อาตมาก็ทวนวิธีใช้งานแต่ละอย่าง ๆ ให้ท่านทราบ เสร็จสรรพเรียบร้อย “ไหน..ว่าใหม่อีกทีซิ” ก็
เสร็จทวนเรียบร้อยอีกรอบ “เออ..ใช้ได้ ช่างไปบอกข้าที่สายลมแล้ว” เกือบตาย..! ช่างไปกราบเรียนบอกวิธีใช้ให้หลวงพ่อที่บ้านสายลมเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านเองมาทดสอบว่าอาตมาจำได้จริงหรือไม่ เจอไป ๒ รอบ ถ้าบอกผิดนี่โดนแน่ ๆ เลย มานึกถึงตอนนี้แล้วยังรู้สึกว่าน่าสยดสยองมาก ว่าถ้าเกิดลืมนี่แย่แน่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 11-08-2012, 07:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเล่นหวยใต้ดินผิดไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเล่นตรงก็ไม่ผิด ถ้าเล่นไม่ตรงก็ผิด อย่างเช่นงวดที่ผ่านมา ถ้าเล่น ๕๐ หรือ ๙๐ ก็ไม่ผิด..(หัวเราะ)..ถามมาพระก็ตอบตรงไปตรงมา

ถ้าพระเล่นหวยเขาปรับอาบัติปาจิตตีย์ ไม่เอื้อเฟื้อพระวินัยได้ ปรับกระทำสิ่งประหนึ่งฆราวาสได้ ปรับข้ออเนสนา หาเลี้ยงชีพในทางมิชอบได้ เพราะฉะนั้น..ศีลขาดไปแล้ว

อาตมาเองโดนโยมเขาชวนซื้อหวยออกจะบ่อยไป ก็บอกโยมว่าซื้อไม่ได้หรอก เจ้าอาวาสวัดนี้โหดมาก ถ้าหากว่าพระเล่นหวยนี่ไล่ออกจากวัดเลย ญาติโยมก็มักจะถามว่าวัดไหน ? อาตมาก็บอกวัดท่าขนุน เขาก็อยากรู้จักเจ้าอาวาส อาตมาก็บอกว่าลองไปวัดดู..เดี๋ยวก็เจอเองแหละ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 11-08-2012, 08:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมจะมีอาจารย์ร่วมสายบุญ ที่สามารถสั่งสอนให้ถึงมรรคผลได้เมื่อไรครับ ?
ตอบ : ชอบใจหลักธรรมอะไรทำไปก่อนจ้ะ เพื่อให้เป็นพื้นฐานส่งเราไปเจออาจารย์ที่ดี ๆ ไม่ใช่รอจนกว่าจะเจอแล้วค่อยทำ ถ้ารอจนกว่าจะเจอแล้วค่อยทำ บางทีตายฟรีไปชาติหนึ่ง ฉะนั้น..ให้เร่งทำไว้ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 11-08-2012, 08:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงเรื่องการออกธุดงค์ว่า "เมื่อสิบกว่าวันที่ผ่านมา มีพระธุดงค์คณะหนึ่งประมาณ ๓๐ รูป เดินทางจากสำนักสงฆ์ที่นนทบุรีมาขอค้างคืนที่วัด อาตมาก็ถามว่าจะเดินธุดงค์เข้าทุ่งใหญ่หรือเปล่า ? เขาบอกไม่ใช่ เขาเดินไปด่านเจดีย์สามองค์ แล้วอาจารย์จะเอารถทางวัดมารับกลับ

อาตมาก็เลยบอกว่า ส่วนใหญ่พระที่มาที่นี่ ท่านมักจะเดินเข้าทุ่งใหญ่ หรือไม่ก็เดินลัดทุ่งใหญ่เข้าไปอุ้มผาง ส่วนจะตัดลงห้วยขาแข้งหรือไม่ก็แล้วแต่ว่าเวลามากน้อยเพียงพอหรือเปล่า แต่ถ้าเดินตามถนนอาตมาก็ไม่ต้องห่วงเขา เพราะอย่างไรก็ไม่หลง ถ้าเดินป่าจะได้บอกทางให้

สอบถามดูแล้วปรากฏว่า หัวหน้าทีมแค่ ๒ พรรษา ที่เหลือเป็นพระเพิ่งจะบวช สมัยนี้เขาเข้มข้นขนาดนี้แล้วหรือ ? ยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรก็ออกธุดงค์กันแล้ว..!

วัดท่าขนุนอุปสมบทหมู่เมื่อวันที่ ๑๙ ที่ผ่านมา แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นพอบวชเสร็จแล้วจะขอไปอยู่ที่อื่น อาตมาบอกว่าที่นี่ไม่มีนโยบายอย่างนั้น เพราะพระใหม่บวชแล้วจำเป็นต้องอยู่กับครูบาอาจารย์อย่างน้อย ๕ พรรษา ตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติเอาไว้ ไม่อย่างนั้นออกไปอยู่ที่อื่น ไปทำผิดพลาด คนที่ส่งไปคือครูบาอาจารย์ก็ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย ท่านก็เลยขอกลับไปบวชวัดแถวบ้านตัวเอง จึงหายไปหลายรูปเหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว