กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 22-02-2013, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เงินที่หยอดกระปุกทุกวันเหมือนการใส่บาตร เวลาถวายต้องเจาะจงบอกหลวงพ่อหรือไม่ว่าเป็นการใส่บาตร หรือว่าถวายได้เลย ?
ตอบ : ถ้าเป็นที่อื่นให้บอกท่านด้วยจ้ะ ถ้าเป็นของวัดท่าซุง ท่านรู้อยู่แล้วว่าเงินใส่บาตรถือว่าเป็นค่าภัตตาหารพระหรือว่าสังฆทาน ถ้าจะเอาไปทำบุญอะไรต้องทำไม่ต่ำกว่าสังฆทาน อย่างเช่น ทำเป็นวิหารทาน หรือธรรมทาน เป็นต้น ถ้าเป็นวัดของอาตมาหรือสายวัดท่าซุง ไม่ต้องเสียเวลาบอก ท่านรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นวัดอื่น เราเอาไปถวายก็ช่วยบอกท่านด้วยว่าเป็นเงินใส่บาตร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 22-02-2013, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "พอมีตัวเล็ก ๆ เป็นภาระแล้วรู้สึกลำบากขึ้นไหม ? ต้องกัดฟันทนเลี้ยงไป ไหน ๆ ก็เกิดมามีกรรมร่วมกันแล้ว เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หน้าที่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ท่านว่า เลี้ยงดู ให้การอบรมสั่งสอน ให้การศึกษา หาคู่ครองให้ และมอบทรัพย์สมบัติให้เมื่อระยะเวลาที่สมควร เฮ้อ..ลำบากอีกนานเลยนะ (หัวเราะ)

หน้าที่ของลูก ท่านบอกว่า เมื่อพ่อแม่เลี้ยงเรามา เรามีโอกาสให้เลี้ยงท่านตอบ ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระการงานของท่าน รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทำตัวให้สมกับที่ได้รับมรดก เมื่อท่านตายก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้

ไปดูในสิงคาลกสูตร จะมีบอกไว้ชัดเจนว่า ต้องปฏิบัติต่อสมณชีพราหมณ์ ต่อพ่อแม่ ต่อครูบาอาจารย์ ต่อบุตรภรรยา ต่อเพื่อนฝูง ต่อข้าทาสบริวารอย่างไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 22-02-2013, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฤกษ์บวชเมื่อไรดี ?
ตอบ : ฤกษ์บวชไม่ต้องดู ดูแต่ฤกษ์สึกก็พอ ฤกษ์บวชคือจากที่ร้อนไปที่เย็น ไปเร็วเท่าไรยิ่งดี ส่วนฤกษ์สึกจากที่เย็นมาที่ร้อนต้องดูให้ดีหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 22-02-2013, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสมาธิแล้วเห็นแสงสว่างเป็นคลื่น ๆ จ้องดูแล้วปวดศีรษะ ?
ตอบ : พอเริ่มเข้าอุปจารสมาธิ พวกแสงพวกสีจะมาเอง เราทำไม่รู้ไม่ชี้ ภาวนาดูลมหายใจเราไปเรื่อย ๆ อย่าไปดูแสง

ถาม : ถ้าปวดศีรษะ ทำอย่างไรจะหายคะ ?
ตอบ : ตั้งใจว่าเราจะทำต่อไป จะตายก็ช่าง พวกที่มากวนเขาเรียกว่าขันธมาร พอเห็นว่าเราไม่ถอยจริง ๆ เขาก็เลิก บอกไปเลยว่าอยากปวดก็ปวดไป ให้หัวระเบิดไปเลย ข้าจะภาวนา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 22-02-2013, 20:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจ้าที่ศาลพระภูมิมีผู้หญิงหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : น้อยที่จะเป็นผู้หญิง เจ้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นเทวดา นางฟ้าที่เป็นเจ้าที่ไม่ค่อยมี แต่อย่าให้มีนะ...ผู้หญิงที่ทำหน้าที่แทนผู้ชายได้นี่ต้องห้าวสุดชีวิตเลย ถ้ามีต้องระวังให้ดี ถ้าผิดท่าเดี๋ยวจะเจอหนัก

ถาม : ที่บ้านมีต้นตะเคียน โยมขอท่านให้มาบอกว่าจะย้ายต้นอย่างไร สักพักก็เห็นภาพผู้หญิงแต่งเป็นชุดชาวบ้าน ?
ตอบ : บอกท่าน ถ้าท่านไม่คัดค้านก็ใช้ได้แล้ว

ถาม : ไม่แน่ใจว่าที่เห็นของจริงหรือเปล่า ?
ตอบ : จะเห็นอย่างไรก็ช่างเถอะ ให้เห็นได้ก็แล้วกัน มัวแต่สงสัยก็ไม่ต้องทำมาหากินอย่างอื่นพอดี เรื่องของมโนมยิทธิต้องไม่กลัว ไม่อยาก ไม่ขี้สงสัย และต้องมั่นใจในตนเอง ไม่อย่างนั้นจะไม่ก้าวหน้า คำว่า "กลัว" คือกลัวว่าออกไปแล้วจะเจอในสิ่งที่ไม่ดี ก็เลยไม่กล้าไป ไม่อยากคือถ้าอยากก็ออกไม่ได้ ไม่ขี้สงสัย คือซักถามมาก ๆ เทวดาพรหมบางท่านจะดุเอาตรง ๆ เลย

อาตมาแค่ถามซ้ำ ท่านว่าเลย "ไอ้ที่โกหกก็มีแต่พวกท่านเท่านั้นแหละ" โอ้โห...หงายท้องตึง เพราะฉะนั้นไม่ต้องย้ำ ที่ต้องมั่นใจในตัวเองคือการรู้เห็นเป็นอย่างไร เราต้องมั่นใจในการรู้เห็นของเรา ถ้าไม่มั่นใจให้พิสูจน์ในสิ่งที่รู้ได้ในระยะใกล้ อย่างเช่น ดูว่าเบอร์รถของท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์งวดนี้จะออกไหม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 22-02-2013, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราบวชพระมีสิทธิ์ตกนรกมากกว่าฆราวาส แล้วถ้าเราเป็นฆราวาสแล้วทำให้ได้พระโสดาบันก่อนค่อยบวชเป็นพระ ปลอดภัยกว่าหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อาตมาเคยคิดแบบนี้แหละ จะบวชทั้งทีให้เป็นพระอริยเจ้าก่อนแล้วค่อยบวช ปรากฏว่าทำอยู่ ๑๑ ปี ไม่ได้สักที พระโสดาบันยังไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร พระอนาคามีไปแล้วปลอดภัยแน่ ไม่รักไม่โกรธกับใครแล้ว

ถาม : การที่เราจะรู้ว่าเราได้ขั้นไหนแล้ว เราจะรู้เองหรือมีพระมาบอกครับ ?
ตอบ : ถ้าได้วิชชาสามขึ้นไปพระท่านจะมาบอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 22-02-2013, 21:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะบวช มีจำกัดไหมครับว่าไม่ควรเกินอายุเท่าไร ?
ตอบ :ไม่มี...แต่ว่าระยะหลังมติมหาเถรสมาคมออกมาว่า ไม่ควรให้เกิน ๖๐ ปี ถ้าเกิน ๖๐ ปี จะไม่ออกหนังสือสุทธิให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2013 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 22-02-2013, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้ใจหนูไม่รู้สึกเหมือนเมื่อก่อนที่อยากอยู่ใกล้ท่านมาก ๆ หรืออยากเจอหน้าท่านตลอด รู้สึกเฉย ๆ เสียมากกว่า ไม่ทราบว่าจะเป็นการประมาทไปหรือเปล่า ?
ตอบ : เป็นไปได้ ๓ ทาง ทางแรกก็คือวางได้ อีกทางหนึ่งคือถูกเขาหลอก อีกส่วนหนึ่งจะชัดที่สุด คือกรรมที่ผูกกันอยู่นั้นขาดลง ฉะนั้น..เป็นไปได้ทั้ง ๓ ทาง แต่อย่าไปประมาท

ถาม : ในใจไม่อยากเอาอะไรเข้ามา ใจปฏิเสธหมด รู้สึกเฉยมาก ๆ ไม่อยากฝืน หรือไปกำหนดหรือไปเรียกสิ่งใด เพราะว่าหนักและเหนื่อยกับตัวเราเอง ซึ่งหนูไม่รู้ว่าตรงนี้เป็นส่วนของวิปัสสนาหรือสมาธิ ?
ตอบ : เป็นไปได้ทั้ง ๒ อย่าง ถ้าสมาธิทรงตัวก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง อีกส่วนหนึ่งก็คือถ้ากำลังปัญญาเรามีพอ สติสมาธิเรามีอยู่ รู้ว่าถ้าไปยุ่งกับเรื่องนี้จะมีโทษอย่างไร แม้แต่คิดถึงก็ไม่อยากคิด

ฉะนั้นต้องระมัดระวังด้วยว่าจะไปทางไหน ที่แน่ ๆ ก็คือเป็นส่วนที่เพิ่งจะไปแตะถึง หรือว่าก้าวเข้าไปอยู่ในจุดนั้นแล้ว อารมณ์ใจจะใกล้เคียงกันมาก ถ้าเราแยกไม่ออก ที่เราเพิ่งแตะถึงนั้นก็หลุดได้ แต่ถ้าเราเหยียบมั่นคงแล้ว เราก็สามารถจะรักษาไว้ได้ ฉะนั้น..มีหน้าที่อย่างเดียวก็คือ เคยทำอย่างไรมา ก็ให้ทำอย่างนั้นต่อ


ถาม : ใจอยู่ข้างใน ไม่ส่งส่ายวอกแว่กหรือไปรับรู้ข้างนอก เพราะเรารู้เหตุและผลข้างนอกว่าไม่มีความสำคัญแล้ว ?
ตอบ : ถ้าวางจริง ๆ จะเหลือแค่ผู้รู้ตัวเดียว แต่คราวนี้ผู้รู้ตัวเดียว เขาปล่อยหมดทุกอย่างประเภทที่ว่า โลกส่วนโลก ธรรมส่วนธรรม ตรงจุดนี้ต่อให้งานที่เราทำอยู่หนักแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ
ฉะนั้น..ต้องระมัดระวังด้วยว่าโลกกับธรรมมีเพียงแค่เส้นผมบาง ๆ กั้นอยู่ ก้าวผิดก็ติดโลก ก้าวถูกก็รอดไป ตอนนี้ให้เดินต่อด้วยความระมัดระวังสุดชีวิต


ถาม : คงต้องระวังสุดชีวิตค่ะ ถ้าอารมณ์ทรงตัวจะเป็นช่วงที่มีอะไรเข้ามาขวางตลอด ?
ตอบ : ฝ่ายที่ถ่วงเขาก็พยายามจะถ่วง แต่เรามีหน้าที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-02-2013 เมื่อ 09:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 24-02-2013, 11:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า " วันก่อนอ่านประวัติหลวงปู่จาม ท่านมรณภาพเมื่อไม่กี่วัน ปรากฏว่าท่านทำนายไว้ว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ของท่านจะไปบรรลุมรรคผลในสมัยไหน บอกเลยว่าน้องคนนี้จะต้องไปเกิดในสมัยพระพุทธเจ้ามีนามว่าพระราม คนนี้ต้องไปเกิดในสมัยพระพุทธเจ้ามีนามว่าพระนรสีหะ มีอยู่ท่านหนึ่งต้องไปเกิดในสมัยของพระพุทธเจ้ามีนามว่าพระติสสะ

แต่ละคนปรารถนาจะเป็นมหาสาวกทั้งนั้น บางคนอยากจะเป็นแบบพระอนุรุทธ บางคนอยากจะเป็นแบบพระอานนท์ บางคนอยากจะเป็นแบบพระทัพพมัลลบุตร หลวงปู่จามท่านเป็นชาวผู้ไทย หรือภูไท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 12:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 24-02-2013, 11:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านวิริยบารมีช่วงที่มีคนน้อย ๆ แล้วสบายสุด ๆ ต้องให้พวกที่ตาในดี ๆ ดูถึงจะรู้ ไหนจะต้องคอยระมัดระวังว่าใครจะเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า ต้องคอยดูว่าจะประคับประคองอย่างไรถึงจะไปตรงทาง โอ๊ย..เหนื่อยตาย..!

ตอนไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีได้น่าจะเกือบปี เห็นหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมา ท่านใส่สบงกับอังสะ ถือไม้เท้าเดินไล่เคาะประตูบ้านเขา บ้านนั้นก๊อก ๆ บ้านนี้ก็ก๊อก ๆ อาตมาเข้าไปกราบท่าน เห็นเหงื่อท่วมก็เลยขำ “หลวงพ่อครับ..ตายแล้วยังเหนื่อยขนาดนี้อีกหรือครับ ?” ท่านบอกว่า “โห..ตายแล้วเหนื่อยกว่าตอนเป็นอีก ตอนเป็นนี่เขาเรียกเรายังทำไม่รู้ไม่ชี้ได้ ตอนตายเขาเรียกทีไรได้ยินทุกคนเลย..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 13:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 24-02-2013, 11:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงอาตมาคิดถึงหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศมาก แต่ว่าไม่กล้าไปรบกวนท่าน ทั้งที่ท่านสั่งว่าให้ไปอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทันทีที่ท่านต้องนั่งรถเข็นอาตมาก็เลิกไปเลย ไปกราบท่านเฉพาะวันเกิด ไปในลักษณะถึงเวลาก็ไหลตามเขาเข้าไปถวายของเสร็จก็ออกมาเลย

เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดพิชัยญาติฯ อายุ ๗๒ ปี แต่หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศอายุ ๘๕ ปีเต็มขึ้น ๘๖ ปีแล้ว หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ ๘๗ ปีเต็มขึ้น ๘๘ ปีแล้ว เพราะท่านห่างกัน ๒ ปี ถ้าหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงครามอยู่ ก็จะมีอายุ ๘๙ ปี ปรากฏว่าหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงครามไปก่อนเพราะเป็นมะเร็ง แต่หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงครามท่านไปสบาย ไปดีไปชอบแล้ว

พอข่าวว่าท่านมรณภาพ อาตมาก็รีบตีรถมาจากทองผาภูมิ มาถึงก็น้อมใจกราบ เห็นท่านสว่างโร่อย่างกับดวงอาทิตย์เลย ก็เลยฉวยโอกาสว่า “หลวงพ่อครับ ผมจะมาถวายน้ำสรงหลวงพ่อ ขอที่จอดรถที่หนึ่งครับ” ไม่อย่างนั้นพระผู้ใหญ่เขามากันทั่วกรุงเทพฯ อาตมาจะไปจอดรถที่ไหน ปรากฏว่าพอมาถึงตรงข้างกำแพง ตำรวจเขาเอาแผงกั้นกันเอาไว้ที่หนึ่ง อาตมาก็เลยได้ที่จอดพอดี

หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดชนะสงคราม ท่านเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปเดียวที่มีรอยสัก ท่านบอกว่า “ลูกผู้ชายโบราณของเราก็อาศัยของพวกนี้แหละปกบ้านป้องเมืองมา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 12:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 24-02-2013, 11:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันนี้งานเผาหลวงปู่ครูบาอ่อน พระสำคัญก็ล่วงลับไปทีละองค์สององค์ หลวงปู่ครูบาผัดเผาเสร็จกระดูกเป็นพระธาตุให้เห็น ๆ เลย ต้องดูว่าหลวงปู่ครูบาอ่อนท่านจะเอาอย่างไร ส่วนของหลวงปู่จามนี่คงต้องรอนาน หลวงปู่จามท่านบอกให้รีบเผาทิ้งเลย ไม่อยากให้มาเมาศพเมาขี้เถ้ากัน ถ้าลักษณะอย่างนั้นดีไม่ดีท่านก็ไม่อธิษฐานให้แบบหลวงปู่มั่น กว่าจะเป็นพระธาตุก็ต้องรอพระท่านสงเคราะห์ เล่นเอาสามสี่สิบปีให้หลังถึงเป็นพระธาตุ"
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 488115_340658962701344_1471398137_n (1).jpg (103.3 KB, 134 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 13:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 24-02-2013, 11:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระเจ้าสีหนุท่านนับว่าโชคดีที่สวรรคตตามอายุ อย่างของเราในหลวงรัชกาลที่ ๘ จะลงสมัครผู้แทนราษฎร โดนลอบปลงพระชนม์เลย พระองค์ท่านวางแผนว่าจะสละราชสมบัติแล้วลงสมัครผู้แทนราษฎร เป็นนายกรัฐมนตรีจะได้บริหารประเทศได้ตามรัฐธรรมนูญ เพราะว่าอยู่ในฐานะของกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญลักษณะเหมือนอย่างกับเป็นแค่เครื่องหมายที่เขาเคารพเฉย ๆ จะทำงานทำการอะไร ถ้ารัฐบาลไม่เห็นด้วยก็ทำไม่ได้ ถ้าพระองค์ท่านตั้งพรรคคนอื่นก็คงไม่ได้รับเลือกหรอก

ฉะนั้นเรื่องที่สวรรคตก็เพราะเหตุที่เขากลัวว่าอำนาจจะหลุดมือ เรื่องของอำนาจพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าฆ่าคนโง่จริง ๆ บุคคลที่มืดบอด โง่เขลา ก็จะยึดเกาะอำนาจไม่ยอมปล่อย เพราะรู้สึกว่าผู้อื่นจะมาช่วงชิงไป ก็ต้องต่อต้าน ไปนึกถึงพระเจ้าพิมพิสาร วงศ์นั้นลูกฆ่าพ่อมาตลอด ๒๐๐ กว่าปี ไม่มีลูกคนไหนใจเย็นพอที่จะรอให้พ่อเกษียณอายุก่อน ตั้งแต่ต้นยันปลายอายุราชวงศ์ ๒๐๐ กว่าปีลูกฆ่าพ่อมาตลอดทุกรัชกาลเลย"


ถาม : พระพุทธเจ้าในอนาคตองค์หนึ่ง คือ พระเจ้าปเสนทิโกศลที่เป็นองค์พ่อใช่ไหมครับ หรือลาแล้ว ?
ตอบ : กษัตริย์แคว้นโกศลทุกพระองค์ก็ชื่อปเสนทิโกศล ในเมื่อทุกพระองค์ก็ชื่อปเสนทิโกศลก็แปลว่าจะเป็นองค์ไหนก็ได้ แบบเดียวกับกษัตริย์ของแคว้นพาราณสีกี่พระองค์ก็ชื่อพระเจ้าพรหมทัต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-02-2013 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 24-02-2013, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระฉัพพรรณรังสี บางครั้งไม่ได้เป็นเหมือนกับในรูป ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วไม่ใช่จ้ะ กระเพื่อมเหมือนกับคลื่นแผ่ออกไป พระพุทธเจ้าของเราฉัพพรรณรังสีแคบที่สุด แผ่ออกไปแค่เป็นวาเท่านั้น อย่างสมเด็จพระมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นแผ่ไปหมื่นโลกธาตุ ของพระองค์อื่นอย่างน้อย ๆ ก็เป็นโยชน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2013 เมื่อ 13:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 24-02-2013, 19:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถามโยมว่า "ทิดตู่ยังได้ติดต่อกับทิดรัตน์บ้างหรือเปล่า ? ไม่รู้ทิดรัตน์เป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ตอนนี้การปฏิบัติของภรรยาทิดรัตน์แซงหน้าไปแล้ว เป็นเรื่องแปลก เจอมาหลายต่อหลายคน ตอนแรกสามีนี่ทำท่าประเภท “กูไปแน่เลย” แล้วคงเกิดลักษณะที่ว่าภรรยาก็คงทุกข์ใจ กลุ้มใจ พอท้ายสุดไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไรก็เลยปฏิบัติด้วย คราวนี้ภรรยาเจอทุกข์มามากจึงวางได้เร็ว ก็เลยแซงหน้าไปเลย


สมัยก่อนที่หลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่ก็มีคุณสุวิทย์กับคุณประภา ครอบครัวนี้เข้าวัดทั้งคู่ คราวนี้คุณสุวิทย์เขาเป็นลูกคนจีน แล้วลูกคนจีนสมัยก่อนถือสาที่สุดก็คือไม่มีหลานอุ้ม แต่คุณสุวิทย์จ้องจะไปพระนิพพานอย่างเดียว เขาจับให้แต่งงานแกก็แยกห้องนอนกับเมีย แล้วจะทำอย่างไรคราวนี้ คุณประภาเสกลูกเองไม่ได้นะสิ ก็โดนแม่ผัวด่าอยู่ทุกวัน ท้ายสุดคุณประภาเครียดขึ้นมา แกก็เลยเข้าวัดปฏิบัติธรรมบ้าง

ไป ๆ มา ๆ คุณประภาไปพระนิพพาน คุณสุวิทย์ยังย่ำต๊อกอยู่จนทุกวันนี้ ไม่รู้จะสมน้ำหน้าดีหรือเปล่า ต้องบอกว่าเกิดมาส่งเสริมให้เขาไปพระนิพพาน ถ้าไม่ไปเล่นเขาหนักขนาดนั้น เขาก็คงยังไม่อยากปฏิบัติธรรม สมัยก่อนเวลาตามหลวงพ่อวัดท่าซุงไปทำบุญ ถ้านั่งรถคันเดียวกันคุณประภาจะมานั่งคุยด้วย แกนินทาคุณสุวิทย์ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง อาตมาก็เลยเห็นว่า “เออ..ความทุกข์ต่าง ๆ ที่รับมา พออยู่ในลักษณะว่าถึงขีดสุดแล้ว คนเราจะแสวงหาทางออกเอง”

เพียงแต่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงโชคดีตรงที่ว่า ทางออกที่หานั้นเป็นทางที่ถูก ถ้าเป็นสายอื่นนี่ยังไม่แน่ ในเมื่อทางออกเป็นทางที่ถูก เมื่อปฏิบัติก็เลยไปพระนิพพานกัน กรณีคุณสุวิทย์นั้นไม่เหมือนตาตั้มของพวกเราหรอก ตาตั้มเป็นประเภทไปต่อต้านทีละเล็กละน้อย คุณสุวิทย์แกไม่สนใจหรอก แต่งได้แต่งไป กูไม่อยู่ห้องเดียวกันเลย แกแยกห้องไปนอนห้องพระ ภาวนาของแกไป แกจะไปพระนิพพานท่าเดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2013 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 24-02-2013, 19:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้หลวงตาวัชรชัยก็อายุ ๗๐ ปีแล้ว ตอนแรกอาตมาก็เป็นห่วงวัดเขาวง บอกกับหลวงตาว่าให้แต่งตั้งท่านเอ๊ดเป็นรองเจ้าอาวาสไว้ก่อน เพราะตามระเบียบมหาเถรมหาคม ก็คือ ถ้าเจ้าอาวาสสิ้นไป เขาให้พิจารณารองเจ้าอาวาสก่อน ถ้าไม่มีรองเจ้าอาวาสก็พิจารณาจากผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้งหมดที่มีอยู่

ตอนนี้หลวงตาแต่งตั้งท่านเอ๊ดเป็นปลัดของเจ้าคณะอำเภอด้วย และเป็นรองเจ้าอาวาสด้วย เป็นอันว่ามีผู้สานต่องานได้แล้ว ตอนแรกหลวงตาเกรงว่าเขาจะครหาว่าตั้งลูกชายตัวเองเป็น อาตมาบอกหลวงตาว่า “มองสิ..รอบข้างมีใครเขาทำงานหรือเปล่า ไปทางไหนก็มีแต่ท่านเอ๊ด” ปลัดเอ๊ดทำงานตายอยู่คนเดียว ก็สมควรที่จะให้ เจ้าคณะอำเภอสามารถแต่งตั้งพระปลัด พระสมุห์ พระใบฏีกาช่วยงานได้ ๓ รูป ก็เลยแต่งตั้งท่านเอ๊ดเป็นพระปลัด สมุห์กับใบฏีกาไม่ได้ถามว่าให้ใครไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2013 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 24-02-2013, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้มีหนังที่เขากล่าวถึงเสือไท เสือไทขนาดฝึกจนเป็นมหาอุตม์ ใครจะลอบยิงเวลาไหนไม่ได้ทั้งนั้น จะยิงตอนล้างหน้า จะยิงตอนกินข้าว จะยิงตอนเข้าส้วม ยิงไม่ออกทั้งนั้น แต่เสือไทพกมีด พ่อปู่ขุนพันธ์ถามว่า “เก่งขนาดนี้แล้ว ทำไมยังต้องพกมีดอีก ?” เสือไทบอกว่า “คนเราไม่ใช่สัตว์ จะได้มีเขี้ยวมีเล็บเป็นอาวุธ เพราะฉะนั้น..อย่างน้อย ๆ ก็ให้มีมีดติดตัวไว้บ้าง”

เสือไทจริง ๆ เป็นมหาดเล็กในเสด็จในกรมหลวงชุมพร โดนเขากล่าวหาว่าฆ่าคนตายต้องหนีคดี พ่อปู่ขุนพันธ์ไปเจอตอนที่ขึ้นไปเป็นผู้กำกับที่จังหวัดพิจิตร หนีคดีไปไกลเลย จากกรุงเทพฯ หนีไปอยู่ป่าพิจิตร

เรื่องของอาวุธอาตมาชอบจนเป็นนิสัย ตั้งแต่เด็ก ๆ มาก็ใช้เป็น หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่าให้ฟังว่าสมัยเด็ก ๆ ท่านย่าใช้ให้ไปสอยหัวปลี ไม่เคยใช้ไม้ขอกับใครหรอก ถึงเวลาก็เอามีดทำครัวไป ๓ - ๔ เล่ม ใช้ขว้างตัดขั้วเอา ท่านบอกว่าฝึกจนกระทั่งจะเอาแบบไหนก็ได้ จะขว้างให้ปลายแทง คมฟัน สันตี ด้ามตี ได้ทั้งนั้น ส่วนอาตมาสั่งได้แค่ ๓ - ๔ จังหวะ จังหวะที่ขว้างยากที่สุดก็คือลักษณะเหมือนกับทอยขึ้น ฝึกอยู่ตั้งนานกว่าจะชำนาญ ปกติอาตมาถนัดขว้างตรงเลย ขว้างตรงนี่ระยะ ๗ ก้าว ๑๒ ก้าวนี่ตายเด็ดขาดแน่นอน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2013 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 27-02-2013, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าจะรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยธรรมโอสถ จะว่าเป็นการฝืนกฎแห่งกรรมก็ไม่ได้ เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสมมุติ ที่กินร่างกายที่เป็นสมมุติด้วยกันอยู่ ถ้าเราเข้าไปถึงธรรมในส่วนที่เป็นปรมัตถ์ เหมือนกับยืนคนละฝั่งคลองแล้ว ไม่มีสะพานวิ่งไปหากัน ฉะนั้น..อาการโรคที่กินร่างกายก็คือกินฝั่งนั้น ไม่ได้กินฝั่งนี้ เมื่อข้ามฝั่งมาไม่ได้ก็ขาดออกจากกัน

บุคคลที่ข้ามกระแสได้ ความสว่างของธรรมที่เกิดขึ้น จะกลบกลืนในส่วนที่เป็นสมมุติไป กลายเป็นปรมัตถ์ทั้งหมด อาการป่วยก็เลยหาย โรคเหมือนอย่างกับกาฝากที่กินต้นไม้อยู่เท่านั้น ถึงเวลาแล้วกาฝากก็อยู่ส่วนกาฝาก ต้นไม้ก็อยู่ส่วนต้นไม้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ถ้าแยกออกชัดเจนเมื่อไรก็ต่างคนต่างอยู่ ลองทำดู..ถ้าแยกสังขารเห็นชัด ๆ ได้ ดีไม่ดีอาการป่วยจะหายไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2013 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 27-02-2013, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การปฏิบัติสำคัญที่สุดตรงเอาไปใช้ในชีวิตจริง เพราะฉะนั้น..ทำอย่างไรที่เราจะเลื่อนไหลไปตามกิจกรรมต่าง ๆ โดยที่ใจยังนิ่งเป็นปกติได้ ต้องพยายามฝึกฝนตรงนี้ให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 27-02-2013, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,070 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การทำบุญ..ถ้าทำด้วยตนเอง ไม่ชักชวนคนอื่นทำ เกิดมาก็รวยคนเดียว ถ้าชักชวนคนอื่นทำบุญ แต่ตัวเองไม่ได้ทำ เกิดมาบริวารมากแต่จน ดังนั้น..การทำบุญต้องทำด้วยตนเองด้วย ชักชวนคนอื่นทำด้วย นอกจากรวยแล้วยังมีบริวารมาก จะทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2013 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว