กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 09-10-2015, 16:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้อาตมาถูกหวย ไม่รู้ว่ารางวัลอะไร อยู่ ๆ คุณจารุก็เอาล็อตเตอรี่มาให้ บอกว่าถูกหวยแต่ไม่ได้ไปเบิก ก็เลยถวายล็อตเตอรี่ให้อาตมาไปขึ้นเงินเอง ป้าจี๋รับไปแทน แต่ว่าให้มากี่สตางค์อาตมาก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน (ถูกเลขท้าย ๓ ตัวค่ะ) เคยมีคนถูกรางวัลที่ ๑ ควบเลขท้าย ๓ ตัว เพราะว่าเลขตรงกัน แต่เมื่อเอาไปขึ้นที่ร้านค้า เจ้าของร้านให้รางวัลเดียว ซึ่งความจริงต้องได้ ๒ รางวัล

สมัยเด็ก ๆ พี่ก้องเกียรติวิ่งจากโรงเรียนรวดเดียวถึงบ้านเลย ซื้อล็อตเตอรี่เอาไว้ ปรากฏว่าพอเขาประกาศผล จำได้ว่าตัวเองถูก อารามดีใจเกิดปีติขึ้นมาอีท่าไหนไม่รู้ วิ่งจากโรงเรียนรวดเดียวถึงบ้านเลย ปรากฏว่าพอไปดูแล้วไม่ถูก สลับกันเลขเดียว จำได้เพราะว่าตอนเขาประกาศรางวัลฟังดูตรงหมดทุกตัว คิดว่าใช่..เลยวิ่งกลับบ้าน อารามปีติจึงไม่เหนื่อย คาดว่าพอตรวจดูแล้วผิดนี่คงเหี่ยวไปเลย

สมัยอาตมาเด็ก ๆ ก็ไม่เข้าใจที่เขาเดินขายกัน “เรียงเบอร์ครับ เรียงเบอร์” คืออะไรวะ ? จะว่าเด็กก็ไม่เด็กมากหรอก เข้ากรุงเทพฯ มาใหม่ ๆ นี่เรียนจบ มศ. ๓ แล้ว แต่ไม่รู้หรอกว่าเรียงเบอร์คืออะไร มารู้ทีหลังว่าใบตรวจหวย ต้องบอกว่าทางโรงพิมพ์เขาฉลาด เปิดเสียงคนขานเลขพร้อมกับเรียงตัวเลขไปด้วย พอเขาประกาศเสร็จ ก็เรียงจบพิมพ์ได้เลย ต้องบอกว่าเก่งมาก ๆ เพราะเขาอ่านแค่ ๒ ครั้งเท่านั้น เพราะว่าอ่านซ้ำทางนี้ก็เรียงเสร็จพอดี

คนเรียงพิมพ์สมัยก่อนเก่งมาก เพราะไม่ใช่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่เป็นตัวอักษรตะกั่ว ต้องจับมาเรียงแถว ๆ เขาถึงได้ใช้คำว่าเรียงพิมพ์ จัดเรียงเป็นบรรทัด ต้องจัดอะไรให้พอดี ไม่เหมือนกับสมัยนี้ คอมพิวเตอร์สั่งจัดหน้าได้หมด เพราะฉะนั้น..คนสมัยก่อนเก่ง ที่เก่งมากเลยก็คือต้องเรียงกลับด้าน พอถึงเวลาเขาพิมพ์จะได้ตรงพอดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 09-10-2015, 16:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีคนบอกว่าประเทศไทยเราล้าหลังอาเซียนทั้งหมด ไม่น่าจะจริง เพราะตอนนี้เราเป็นผู้นำอาเซียนแล้ว ขนาดมาเลเซียยังเลียนแบบสีเหลืองสีแดงไปใช้เลย เพียงแต่อาตมาไม่ได้ติดตามข่าวว่าของเขาสีแดงฝ่ายไหน สีเหลืองฝ่ายไหน จะภูมิใจดีหรือเปล่าว่าเราเป็นผู้นำอาเซียนในสิ่งที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวสักเรื่อง ส่วนเรื่องดี ๆ กลับอวดชาวบ้านเขาไม่ได้ ไม่สามารถเป็นผู้นำเขา

ตอนบ้านเราเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ฝรั่งเรียกต้มยำกุ้งไครซิส คือวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง แล้วก็ลามไปทั่วโลก ประเทศเราเป็นประเทศเล็ก ๆ ยังทำเอาหลายประเทศเอียงกะเท่เร่ล้มตามไป ต้องให้ IMF มาช่วยดูแล ซึ่งการดูแลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในลักษณะบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าดี ทำให้ประเทศชาติเราเสียหายเป็นแสน ๆ ล้านบาท ที่อาตมาพูดนี่ก็คือว่า หากประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นมา จะมีผลกระทบขนาดไหน ? โดยเฉพาะยุโรปกับอเมริกาผูกขาติดกันโดยตรง แล้วเวลายักษ์ล้ม ประเทศเล็ก ๆ อย่างพวกเราจะพลอยแบนไปด้วยหรือเปล่า ?

สถานการณ์ประเทศชาติไม่ค่อยจะดี ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้มาก ๆ เข้าไว้ โดยเฉพาะภาวนาคาถาเงินล้านให้เป็นปกติ อย่างน้อยจะได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เรื่องเบาจะได้หาย ถ้าหากว่าเรื่องดีจะได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 09-10-2015, 16:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default



พระอาจารย์กล่าวว่า "เสื้อกระโถนข้างธรรมาสน์รุ่นนี้ อาตมาเลือกสีเอง หมอดูเขาบอกว่าสีนี้ถูกโฉลกกับวันเกิดอาตมา ลองดูว่าใส่กันเยอะ ๆ แล้วจะช่วยอะไรได้บ้าง

อาตมาไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ เชื่อบุญเก่า กรรมเก่าที่เราทำมา ถ้าเราทำบุญเอาไว้ดี เรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง ตำราพรหมชาติท่านดูเอาไว้ค่อนข้างจะแม่นยำ ท่านว่า
สิทธิการิยะ หญิงชายใดเกิดวันอาทิตย์ จิตนั้นพลันมักง่าย ทำบุญแก่ใครเหมือนไฟตกน้ำ สร้างบุญคุณไปเถอะ คนเขาไม่เห็นความดีหรอก
เจรจาเลิศล้ำ ไม่มีความผิด จะได้ดีเพราะคำพูด
น้ำใจซื่อตรง คงสัตย์ต่อมิตร รักง่ายใจจิต ไม่คิดเสียดาย เป็นคนรักเพื่อนฝูงมีน้ำใจซื่อสัตย์
ถ้อยความมาต้อง ถึงสองสามราย ร้ายแล้วกลับกลายคืนดีภายหลัง จะเกิดคดีความ เกิดเรื่องเกิดราวอย่างน้อย ๒-๓ ครั้งในชีวิต แต่ว่าจะเปลี่ยนจากร้ายเป็นดีทุกที
เมื่อน้อยไร้ทรัพย์ เมื่อโตกลับมั่งคั่งสมบูรณ์ แสดงว่าโตขึ้นแล้วถึงจะรวย เด็ก ๆ จะยากจน

แต่ถ้านับพื้นฐานดวงแล้ว คนเกิดวันอาทิตย์ที่อยู่ไม่ถึง ๘๐ ปีไม่รวยหรอก เพราะดาวศุกร์ที่เป็นดาวเงินมาทีหลังสุด ต้องเป็นอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส เสาร์ ราหู แล้วถึงจะศุกร์ ดาวศุกร์ที่เป็นดาวเงินมาช้าที่สุด คนที่เกิดมาแล้วรวยง่ายที่สุดคือวันศุกร์ เกิดมาดาวเงินก็เข้าเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 09-10-2015, 16:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของโหราศาสตร์อย่าเชื่อถือมากนัก ในขณะเดียวกันก็อย่าลบหลู่ เพราะว่าทางพราหมณ์เขาเก็บสถิติต่อเนื่องมาเป็นพัน ๆ ปี ว่าคนที่เกิดในวันเดือนปีอย่างนี้ ๆ ถึงเวลาถึงวาระอายุเท่านั้นเท่านี้ จะมีเรื่องอย่างนี้ ๆ ขึ้น ซึ่งก็คือเรื่องของบุญของกรรมที่เคยทำไว้ส่งผลนั่นแหละ คนที่เกิดมาใกล้เคียงกัน ก็ทำบุญทำบาปมาใกล้เคียงกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงคล้าย ๆ กัน

ในเมื่อสถิติที่เขาเก็บต่อเนื่องมาเป็นพัน ๆ ปี สรุปลงมาเป็นศาสตร์ก็คือโหราศาสตร์แล้ว ก็เป็นเรื่องที่พอจะเชื่อถือได้ แต่ว่าเต็มที่ก็ได้สัก ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าใช้ทิพจักขุญาณ มีความสามารถจริง ๆ ก็จะได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าถามว่าขนาดทิพจักขุญาณทำไมไม่ถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ? ก็เพราะว่ามี ๒๐ เปอร์เซ็นต์ที่กำลังใจเกินมนุษย์มนาทั่วไป เรื่องของคำทำนายทายทักไม่มีประโยชน์ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้บ้า ๆ บอ ๆ กำลังใจเกินมนุษย์มนา ต่อให้ใครบอกว่าไม่ดีก็จะเอาให้ดีให้ได้

ส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายเหล่านี้มาสายพุทธภูมิ ปรารถนาจะบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต กำลังใจจะมากล้นเกินคนปกติ วิชาโหราศาสตร์จึงใช้กับท่านเหล่านี้ไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 09-10-2015, 18:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รูปหลวงพ่อวัดท่าซุงรูปนี้เกิดจากหลวงพี่อาจินต์ อาตมาก็ทำรูปลักษณะนี้แหละ เป็นกล่องไฟเล็ก ๆ โตประมาณกระเป๋าเอกสาร พอช่างมาส่ง หลวงพี่อาจินต์ก็บอกว่า "เฮ้ยเล็ก...สวยจังว่ะ ขอพี่เถอะ" อาตมาก็ "อ้าว...ไหงเป็นอย่างนั้นล่ะ ?" "เออน่ะ...แกเอาของพี่ไป" แล้วท่านเอารูปที่ม้วนอยู่ส่งมาให้ ด้วยความซื่ออาตมาก็ไม่รู้ว่าท่านม้วนทางด้านกว้าง เห็นว่าใหญ่กว่าของเราไม่เท่าไร ก็ส่งให้ช่างเขาไปทำให้ใหม่

สรุปว่าช่างต้องเอารถกระบะขนรูปนี้มาให้ อาตมาเห็นก็ตกใจ เพราะว่าบรรทุกมารูปเดียวล้นคันเลย ถามทำไมใหญ่อย่างนี้ ? ช่างเขาบอกว่าก็ใหญ่เท่านี้แหละครับ ยังโชคดีที่อาตมาภาวนาคาถาเงินล้านขึ้นตั้งแต่แรก ก็เลยมีเงินจ่าย คิดดูว่าปลายปี ๒๕๓๕ ต้นปี ๒๕๓๖ รูปนี้ราคา ๓๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ ๕๐,๐๐๐ บาท ทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

นาน ๆ จะเปิดไฟเสียทีหนึ่ง ชมกันให้ชื่นใจ เพราะว่าข้างในมีหลอดสั้นตั้ง ๘ หลอด ขืนเปิดทุกวันจ่ายค่าไฟตายเลย"
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 4788.jpg (92.6 KB, 336 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 09-10-2015, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ให้ลูกกินนมเยอะ ๆ แม่จะได้ผอมลง ส่วนใหญ่ที่ท้องแล้วอ้วนเพราะไม่ให้ลูกกินนม เขาอ้วนเพราะว่าเตรียมให้ลูกกิน พูดง่าย ๆ คือธรรมชาติให้ร่างกายสะสมไว้เผื่อเด็ก แต่ปรากฏว่าคนเป็นแม่กลับไม่ให้ลูกกินนม ไปกินนมกระป๋องนี่บรรลัยเลย เด็กคลอดใหม่ ๆ มาอย่าให้กินนมกระป๋องเด็ดขาด เพราะถ้ากินนมกระป๋องแล้ว น้อยคนจะยอมกินนมแม่ เพราะนมกระป๋องหวานกว่า เด็กติดรสหวานไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 09-10-2015, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงวัตถุมงคลต่อไปที่จะสร้างว่า "บาตรน้ำมนต์ฉลองอายุ ๕ รอบที่จะสร้าง เอาขนาดปากบาตร ๖ นิ้ว จะได้ใหญ่สะใจหน่อย ทำสัก ๖๐ ใบเท่าอายุก็พอ ให้แย่งจนเหยียบกันตายไปเลย ครอบน้ำมนต์วัดอื่นเขาทำเล็ก ๆ ของเราจะไปขี้เหนียวทำไม ? ทำใบใหญ่ ๆ ไปเลย ใครอยากได้ก็เก็บเงินไว้ ราคาน่าจะเป็นแสนเพราะนวโลหะมีทองคำผสมเยอะ แล้วของมีน้อย ถึงเวลาแย่งกันจองให้หัวทิ่มอยู่ตรงนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 09-10-2015, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สรุปว่าปีนี้คุณเต้ยรับเป็นเจ้าภาพผ้ากฐินปลดหนี้ที่เนปาลกัน ใครจะร่วมบุญด้วยไปทำที่คุณเต้ย อาตมาจะได้ไม่ต้องเอาผ้าไปเอง ถ้าหากว่าลืมก็จะจับพวกเราที่ไปด้วยนั่นแหละ สละผ้าคนละชิ้นแล้วเย็บกันตรงนั้นเลย...!

งานนี้คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เจ้าของเอ็นซี ทัวร์ ไปสำรวจพื้นที่มาแล้ว แจ้งให้ทราบว่าเขาบูรณะจวนจะสมบูรณ์แล้วสำหรับสิ่งที่พัง ๆ ไปตอนแผ่นดินไหว ก็แปลว่าถ้าไปก็มีให้ดู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 09-10-2015, 20:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานวัดท่าขนุนเดือนนี้ก็มีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ ๑๗ ตุลาคม บวงสรวงตอน ๐๗.๓๐ น. เป่ายันต์รอบแรก ๑๐.๐๐ น. รอบบ่าย ๑๓.๐๐ น. คาดว่ารอบบ่ายคงแทบไม่มีใครเหลือ แต่ก็ต้องทำเพราะว่าท่านที่ไม่ได้มา เขารอรับกันตามเวลาอยู่ทางบ้าน

วันที่ ๒๘ ตุลาคม มีกฐินกับตักบาตรเทโวฯ ตักบาตรเทโวฯ ช่วงเช้า ทอดกฐินตอนบ่ายโมง อาตมาจะเข้ากรรมฐานก่อนกฐิน ๓ วัน ก็คงจะเป็นวัน ๑๓ –๑๕ ค่ำ ออกมารับบาตรเทโวฯ พอดี จะเดินไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ไม่เป็นไรหรอก...พระท่านสั่งก็ทำไป ถ้าตกเขาตายก็จบ ...(หัวเราะ)...

ต้องเริ่มเข้ากรรมฐานวันที่ ๒๕ ไปออกเช้ามืดวันที่ ๒๘ ที่อื่นเขาทำบุญถวายทานกับพระออกกรรมฐาน ของเราถวายกฐินกับพระออกกรรมฐาน จะเก็งกำไรเยอะไปหรือเปล่า ? กลัวอย่างเดียวว่าจะไปเป็นลม
ขายหน้าเขาตอนเดินรับบาตร ถ้ารับกฐินไม่กลัวหรอกเพราะนั่งอยู่กับที่ ตอนรับบาตรเดิน ๆ แล้วล้มตึงไปนี่ขายหน้าชาวบ้านเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 10-10-2015, 14:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ฉบับหน้าจะมี "อีหรอบเดียวกัน" ลงในกระโถนข้างธรรมาสน์ จนป่านนี้แล้วหลายคนยังไม่รู้เลยว่าอีหรอบคืออะไร ? ก็คือยุโรปนั่นแหละ แต่รุ่นปู่ย่าตาทวดเราสมัยรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ อ่านว่าอีหรอบ สมัยก่อนเขาออกเสียงไม่เหมือนเรา อย่างโทรเลข เทเลกราฟ เขาเรียก ตะแล็บแก๊บ สถานี สเตชั่น เขาเรียก กะเตชั่น แล้วสมัยนี้เขาเป็นอียู รวมกันเป็นประชาคมยุโรป ก็เลยเป็นอีหรอบเดียวกัน"

ถาม : อ่านอีหรอบเดียวกันไม่ทันใจเลย ?
ตอบ : คนเขียนก็เขียนปางตาย หนักแรงมาก เพราะต้องนึกภาพย้อนหลังไปว่าตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้น หลายคนบอกว่าใส่รายละเอียดได้เหมือนกับไปเห็นด้วยตนเองเลย ถ้าหากคุณเขียนอย่างผม คุณก็เห็นด้วยตัวเองเหมือนกันแหละ เรื่องพวกนี้หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนเอาไว้ บอกว่าเป็นการซักซ้อมอตีตังสญาณ ซักซ้อมทิพจักขุญาณ ให้หมั่นทำเอาไว้ จะได้แจ่มใสชัดเจน ก็ไม่เห็นลูกศิษย์ท่านจะทำสักกี่คนเลย

ไปนึกถึงปลัดน้อย (พระอภิชัย สุธมฺมธมฺโม) คือนายอภิชัย นุตาลัย ในปัจจุบันนี้ มาถึงก็ "เฮ้ยเล็ก...ยืมหนังสือเล่มนี้หน่อย" "มึงยืมไปแล้วกูจำได้" "นั่นแหละกูจะอ่านอีก" "แล้วอ่านไปทำไม ?" "กูลืมไปแล้ว กูอ่านแล้วไม่ได้จำ กูอ่านเมื่อไรก็สนุกเมื่อนั้น มึงอ่านแล้วจำได้ ไม่สนุกหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 10-10-2015, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอ่านเพชรพระอุมาสามรอบแล้วค่ะ ?
ตอบ : สมัยอาตมาทำงานที่โรงงานไทยญี่ปุ่นเมตัลอุตสาหกรรม พอหลังอาหารกลางวัน มีหน้าที่เล่าเพชรพระอุมาให้เพื่อนฟัง โอ้โห...ล้อมวงกันดีแท้ ถ้าเก็บเงินนี่รวยเลย คนงาน ๗๐-๘๐ คนนั่งฟัง อาตมาก็เล่าให้เขาฟังเหมือนกับอ่านหนังสือ เขาถามจำได้ขนาดนี้เลยหรือ ? ก็จำได้นี่หว่าจะให้ทำอย่างไรเล่า ?

เพราะว่าอ่านเพชรพระอุมาเป็นตอน ๆ ในจักรวาลรายสัปดาห์ อ่านเป็นเล่มเล็ก ๆ ขนาดใส่กระเป๋าเสื้อได้ เล่มละ ๖ สลึง ๒ บาท แล้วก็มาอ่านปกแข็งรวมเล่ม ๑๘ เล่ม ปกแข็งรวมเล่ม ๒๒ เล่ม ปกแข็งรวมเล่ม ๒๔ เล่ม อ่านทุกชุด ตอนช่วงนั้นปกแข็งรวมเล่มราคาหน้าปก ๓๕ บาท แล้วลดครึ่งราคาเหลือ ๑๗.๕๐ บาท ต้องเก็บเงินได้ค่าแรงวันละ ๒๕ บาท ถึงเวลาค่าแรงออกอาทิตย์หนึ่งก็ซื้อเล่มหนึ่ง บอกเจ้าของร้านไว้เลยว่า เล่มต่อไปห้ามขายให้ใครนะ อาทิตย์ต่อไปจะมาซื้อ เขาเห็นว่าติดตามจริงก็เลยเก็บไว้ให้ เพราะปกติถ้าเล่มไหนโดนดึงออกจากชุด คนซื้อยกชุดก็ไม่ซื้ออยู่แล้ว อ่านมากขนาดนั้นจะไม่ให้จำได้ทุกตัวอักษรได้อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 10-10-2015, 19:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดอยู่ทองผาภูมิหรือครับ ?
ตอบ : อยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไกลหน่อย วิ่งมาที่นี่อย่างเร็ว ๆ ก็ ๓ ชั่วโมงครึ่ง อย่างช้าก็ ๔ ชั่วโมงกว่า ประมาณ ๒๘๐ กิโลเมตร

สมัยก่อนธุดงค์ไปที่นั่นก็ชอบใจพื้นที่ แล้วไปศึกษาความรู้จากหลวงพ่ออุตตมะบ้าง หลวงปู่สายบ้าง หลวงพ่อลำใยบ้าง ท่านก็เมตตาสอนให้ ใครจะนึกว่าไป ๆ มา ๆ จะได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงปู่สาย หลวงปู่สายมรณภาพปีเดียวกับหลวงพ่อวัดท่าซุงเลย และก่อนเดือนครึ่งด้วย ท่านมรณภาพ ๑๔ กันยายน ช่วง ๑๐๐ วันของท่านอาตมาก็วิ่งไปวิ่งมาอยู่ ๒ วัด สวดพระอภิธรรมถวายหลวงพ่อวัดท่าซุงเสร็จตอน ๒ ทุ่มครึ่ง ก็วิ่งจากวัดท่าซุงมาวัดท่าขนุน ทำบุญเช้าวัดท่าขนุนเสร็จก็วิ่งกลับวัดท่าซุง คนจะไม่รู้เพราะว่าวิ่งตอนกลางคืน พอเจ้าอาวาสผ่านไป ๒ รูป ลูกศิษย์ที่ทันบวชกับหลวงปู่สายไม่มีเหลือแล้ว พอถามไปถามมา เออ...อาจารย์เล็กยังอยู่ เคยเรียนวิชากับหลวงปู่ เขาก็เลยมานิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาส


ถาม : ที่วัดเป่ายันต์เกราะเพชรด้วยหรือครับ ?
ตอบ : ก็ไม่นึกว่าจะได้ทำ เพราะตอนที่ครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรมีตั้ง ๙ รูป แล้วอาตมาอาวุโสเกือบน้อยที่สุด ตอนครอบครูเพิ่งจะ ๗ พรรษา มีรุ่นน้องอีกรูปหนึ่ง ๒ พรรษาเอง ปรากฏว่ารุ่นน้อง ๒ พรรษาสึกไปแล้ว รุ่นพี่ก็สึกไปหลายคน ที่อยู่ส่วนใหญ่ออกมาข้างนอกหมด อย่างหลวงพี่วิรัชออกมา อาตมาออกมา หลวงตาวัชรชัยออกมา ก็ ๓ รูปแล้ว ท่านน้อยก็สึก ท่านชาติชายก็สึก ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เหลือมีใครบ้าง ?

ถาม : หลวงพี่วัชรชัย ?
ตอบ : ท่านออกมาแล้ว ออกมาหลังอาตมาปีเดียว ท่านไปอยู่สระบุรีจนกระทั่งเป็นเจ้าคณะอำเภอ เพิ่งจะลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ อาตมาก็ลาออกจากเจ้าคณะตำบลมาทีหนึ่ง นี่โดนจับยัดให้เป็นใหม่อีกแล้ว

หลวงตาท่านลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเขาวง เจ้าคณะจังหวัดเซ็นให้ทันทีเลย นึกว่าใจดีปล่อยให้พัก ที่ไหนได้..ตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอต่อ ท้ายสุดก็ขึ้นเป็นเจ้าคณะอำเภอ

กลายเป็นว่าที่เหลืออยู่ในวัดแทบจะไม่มีตัวแล้ว อาตมาก็อาวุโสน้อยมาก แต่ทำไมท่านสั่งให้เป่ายันต์ฯ ? มาตอนนี้เลิกสงสัยแล้ว หลังจากที่เคยคุย ๆ กับบรรดาพี่ ๆ เขาบอกว่า คนที่หลวงพ่อจะใช้งานต้องติดต่อกับท่านได้ พวกที่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองท่านก็เลิกใช้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 10-10-2015, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นใหม่รู้หรือไม่ว่าสารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ ? โบราณเขาว่า "ตรุษ ๔ สงกรานต์ ๕ สารท ๑๐" ก็คือวันตรุษไทยจะตรงกับสิ้นเดือน ๔ สงกรานต์ตรงกับกลางเดือน ๕ สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ คราวนี้คนฟังไปตีความเพี้ยน ไปตีความว่าวันตรุษไทยให้ทำบุญ ๔ วัน สงกรานต์ให้ทำบุญ ๕ วัน สารทไทยทำบุญ ๑๐ วัน

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "โคตรแม่มึงทำไปคนเดียวเถอะ กูไม่ทำกับมึงหรอก ทำบุญตั้ง ๑๐ วัน พระไม่ต้องทำอะไรกันพอดี" คนที่ตีความผิดคืออดีตมัคคนายกวัดท่าซุง อาจารย์สง่า สาโรจน์ อะไรที่ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ เสียเวลาทำมาหากินชาวบ้านเขา จะทำบุญตั้ง ๑๐ วัน ก็ทำไปคนเดียวเถอะ การทำบุญนะดี แต่ถ้าทำลักษณะนั้นเดือดร้อนชาวบ้านเขา

สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทไทยก็คือกระยาสารท ที่ดังมาก ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นกำแพงเพชรหรือเปล่า ? เพราะว่าต้องคู่กับกล้วยไข่ กระยาสารทมักจะหวานมาก กินคู่กับกล้วยไข่จะตัดรสหวานได้ ส่วนตรุษไทยนั้นจะเป็นข้าวเหนียวแดง ถ้าสงกรานต์จะเป็นกาละแม เดี๋ยวนี้พวกขนมประจำสารทพวกเราจำกันไม่ได้แล้ว ที่อาตมาจำแม่นเพราะตอนเด็ก ๆ ต้องรอ ถ้าไม่มีตรุษ ไม่มีสารท ก็ไม่มีขนมกิน บ้านที่ฐานะไม่ดี ปีหนึ่งทำขนม ๒-๓ ครั้งก็ถือว่ามากแล้ว กว่าจะได้กินอีกทีก็โน่น หน้าลงแขกเกี่ยวข้าว ทำขนมเลี้ยงแขก ส่วนใหญ่ก็เป็นลอดช่องน้ำกะทิ ก็กินกันได้กินกันดีเหมือนกัน เพราะไม่มีอะไรจะกิน

ลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นประเพณีที่ดีงาม แสดงออกถึงความสามัคคีของชาวบ้าน ไม่ว่าจะหมู่บ้านเดียวกัน หรือหมู่บ้านอื่น สมัยก่อนเขาใช้คำว่า "เอาแรงกัน" เวลาบ้านเขาเกี่ยวข้าวเราก็ไปช่วย ถึงเวลาเวลาบ้านเราเกี่ยวข้าวบ้านเขาก็มาช่วยคืน ถึงได้เรียกว่า "ลงแขก" คือเรียกแขกช่วยกันลงนาเกี่ยวข้าว มะรุมมะตุ้มพักเดียวก็เสร็จ แต่ความหมายของคำว่าลงแขกสมัยหลัง กลายเป็นรุมข่มขืนผู้หญิงไป อะไรที่เก่า ๆ หลัง ๆ ก็กลายเป็นเพี้ยนไป โบราณถึงบอกว่า ของกินถ้าไม่ได้กินก็เน่า เรื่องเล่าถ้าไม่ได้เล่าก็ลืม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 10-10-2015, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติถ้าเป็นเดือนตุลาคมก่อนหน้านี้ ลมหนาวจะเริ่มมาแล้ว โบราณเขาเรียกว่าลมข้าวเบา ก็คือ ถ้าลมเย็นพัดมาข้าวจะเริ่มสุก ข้าวเบาคือข้าวที่มีอายุน้อย โตเร็ว สุกง่ายกว่า กระทบลมหนาวที่ยังไม่หนาวจริงก็เริ่มสุกแล้ว

สมัยเด็ก ๆ ชาวกรุงเทพฯ พอถึงเดือนตุลาคมก็ไปสักการะพระบรมรูปทรงม้าของในหลวงรัชกาลที่ ๕ ต้องใส่เสื้อกันหนาวไป งานพระบรมรูปฯ จึงเป็นงานอวดเสื้อกันหนาวของปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 12-10-2015, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม ท่านเส้นโลหิตในสมองแตกนอนอยู่โรงพยาบาลครับ ?
ตอบ : ไม่เห็นมีข่าวบ้างเลย ตอนปี ๒๕๓๒ ท่านยังเป็นพระมหาถาวร จิตฺตถาวโร ท่านไปกราบหลวงพ่อวัดท่าซุงในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มหาอำพัน พอท่านกราบลงหลวงพ่อวัดท่าซุงก็บอกว่า “มาถูกทางแล้ว ไปตามทางนั้นแหละ” รู้สึกว่าท่านดีใจมาก ท่านกราบแล้วก็ไปนั่งข้างหลังเลย ท่านคงตั้งใจมาจากวัดเลยเพื่อที่จะมาถาม พอกราบลงหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว พอหลวงพ่อวัดท่าซุงมรณภาพ ท่านเป็นพระเถระรูปแรก ๆ ที่ไปคารวะศพ

พออาตมาเจอหน้าท่าน รื้อฟื้นความหลังท่านก็จำได้ทันที แต่ก็อย่างว่า..อาตมาเดินคู่กับท่านแล้วน่าเกลียด เพราะท่านสูงไม่ถึงไหล่ ถ้าท่านนั่งอยู่จะรู้สึกว่าองค์ท่านใหญ่ แต่พอยืนแล้วเหลือนิดเดียว

ตอนนี้ท่านเส้นโลหิตในสมองแตก นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมาเป็นเดือนแล้ว ข่าวคราวก็ไม่ออกเลย ท่านไปสร้างวัดถวายในหลวงอยู่ที่สระบุรี ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อวัดมงคลชัยพัฒนา
อยู่ที่ ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เคยแวะเยี่ยมท่านที่โน่นครั้งหนึ่ง ครูบาอาจารย์ก็เจ็บไข้ได้ป่วยล่วงลับกันไปเรื่อย ๆ ที่เหลืออยู่ก็โตไม่ทันใช้ โดยเฉพาะทางกาญจนบุรี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 12-10-2015, 12:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่กาญจนบุรีเดี๋ยวนี้พระเกจิอาจารย์เด่น ๆ แทบจะไม่มีเลย พอสิ้นหลวงพ่อลำใย หลวงพ่ออุตตมะแล้วก็เงียบสนิท ที่ดังขึ้นมาก็ดังเฉพาะพื้นที่อย่างหลวงปู่ทองศุข วัดท่าตะคร้อก็เพิ่งมรณภาพไป พระอาจารย์วัชระ วัดถ้ำแฝดก็โดนอธิกรณ์จนต้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสไป พระอาจารย์วัชระนั่นอบรมเจ้าอาวาสรุ่นเดียวกับอาตมา

เรื่องของผู้หญิง ถ้าพระเราไม่รู้จักระมัดระวังจะเสียหายง่ายมาก เพราะคนมักจะจ้องจับผิดอยู่แล้ว ท่านเองไปเที่ยวต่างประเทศ ที่เขาถ่ายรูป คนถ่ายอ้างว่าเดินจับมือกันไป แต่จากรูปที่ออกมาเป็นรูปที่ถ่ายทางผู้หญิงซึ่งบังองค์ท่านอยู่ เห็นแต่ศีรษะ แล้วจะรู้หรือว่าจริงอย่างนั้นหรือเปล่า ? แต่ท่านก็ดี..พอมีเรื่องขึ้นมา เจ้าคณะอำเภอบอกให้ลาออกเสียก่อน พอเรื่องซาแล้วค่อยว่ากันเรื่องตำแหน่งใหม่ ท่านก็ลาออก ไม่อย่างนั้นวัน ๆ คนก็แห่ไปหาท่านเยอะแยะ เพราะว่าท่านสาวน้ำตาเทียนดูโชคชะตาให้

รู้สึกว่าถ้าเป็นพระหมอดูนี่คนจะขึ้นเยอะ เพราะต้องการที่พึ่ง อาตมาเลิกดูหมอได้นี่โล่งใจไปเลย ตอนนี้วัดใกล้ ๆ กันก็คือวัดอู่ล่อง แต่เดิมก็คือสำนักสงฆ์โชคผาสุกิจ ต้องบอกว่าเป็นคู่เขยกัน ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๑ อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ ตำบลอื่นอิจฉาเพราะว่าในอำเภอทองผาภูมิแล้ว ๒ รูปนี้มีโยมไปหามากที่สุด ทางด้านโน้นเขาจะดูหมอ พอดูแล้วท่านจะให้โยมมาแก้บนที่วัดท่าขนุน น่าฆ่าให้ตาย...!

ที่มาแก้บนวัดท่าขนุนก็คือต้องมาจุดเทียนบูชาพระที่วัดท่าขนุน แล้วน่าจะประมาณเทียนเท่าอายุ เขาก็จะปักเต็มถาดแล้วจุดไปวางไว้บนพรมในโบสถ์ อาตมาเห็นแล้วร้องจ๊ากเลย บอกพระที่วัดว่าคุณอย่าไปคิดว่าอยู่บนถาดแล้วจะไม่ไหม้นะ เพราะพรมส่วนใหญ่สมัยนี้เป็นพวกใยสังเคราะห์ โดนความร้อนหน่อยก็ไหม้เหมือนกัน ท่านก็ประหลาดคนดีเหมือนกัน ดูหมอที่วัดแต่ให้เขามาแก้บนที่วัดท่าขนุน
แต่ละวันทางเราก็เก็บเศษเทียนไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 15:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 12-10-2015, 14:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับพระที่จะไปเป็นอาจารย์สอนพระนิสิตว่า "ถ้าไปเป็นอาจารย์สอนก็ให้ใช้หลักแบบผม เรื่องวิชาการใครก็ยัดให้เขาได้ แต่เรื่องของคุณธรรมเราจะทิ้งไม่ได้เลย คุณจะสังเกตว่าทำไมถึงเวลาแล้วเขาเรียกร้องให้ผมไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ก็เพราะว่าเวลาผมสอนในชั่วโมง ผมจะไม่ลืมตบท้ายเกี่ยวกับเรื่องของความเป็นพระหรือพระธรรมวินัย จะเตือนสติพวกเขาไว้บ่อย ๆ เพราะว่าบางคนพอเรียนแล้วก็เหลิง เตลิดเปิดเปิงตามเพื่อนตามฝูง หรือไม่ก็ที่วัดตัวเองครูบาอาจารย์ไม่ได้อบรมเลย

ในเมื่อไม่ได้อบรมเลย พอถึงเวลาผมบอกว่าอะไรถูกอะไรควร อะไรไม่ถูกไม่ควร จะต้องปฏิบัติอย่างไร เขาเองได้ประโยชน์กันเยอะ ถึงเวลาก็ไม่อยากได้พระอาจารย์ท่านอื่น ถึงได้บอกว่าเวลาผมไปนี่ เรื่องสอนผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไรหรอก เพราะว่าวิชาการต่อให้ผมไม่สอนเขาก็ค้นคว้ากันเองได้ สำคัญที่สุดก็คือเน้นย้ำเรื่องความเป็นพระของเรา แต่ว่าถ้าไปเน้นมากก็กลายเป็นว่ายัดเยียดให้เขาจนเกินไป ทำอย่างไรที่จะพอเหมาะพอดีจึงจะสมควร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 12-10-2015, 15:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมอ่านในธรรมบท สำรับกับข้าวที่จัดไว้ถวายพระแล้วมีแมวแอบคาบไปกิน จะมีโทษแบบกากเปรตไหมครับ ?
ตอบ : ก็เป็นวิฬารเปรต เขามีกากเปรตอันนี้ก็ต้องเป็นวิฬารเปรต ดูท่าจะหนักกว่ากากเปรตนะ กากเปรตเขายังไม่ถวายพระ แต่กรณีนี้ถวายแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ..เรื่องของสัตว์โทษไม่หนักเท่าคน ถ้าเป็นคนก็ลงอเวจีมหานรกเลย สัตว์ไปแค่เปรต ถ้าเมตตาก็ช่วยกันให้เขาหน่อย เอาฝาชีอะไรมาครอบไว้

สัตว์เขาถือว่าสิ่งที่เขาเจอเป็นของเขา ซึ่งหลักการเป็นคนละเรื่องกับคนเรา ในเมื่อเขาเจอเขาเป็นเจ้าของเขาก็จัดการสิ กลายเป็นว่าไปกินของสงฆ์เข้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 12-10-2015, 15:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนกำลังฉันอยู่ โยมที่ดูแลเรื่องอาหารก็ยกพรวดออกไป อะไรวะ ? ถึงจะเป็นส่วนเกิน อาตมาไม่ได้ฉันก็เถอะ แต่พระยังฉันไม่เสร็จก็ไม่ใช่ของเหลือนะ ไม่ใช่ไปตีความว่า ไหน ๆ พระก็ไม่ได้ฉันแล้วจึงยกออกไปก่อน แบบนั้นก็หาเรื่องซวย ต้องฉันเสร็จแล้วจึงถือว่าเป็นวิทาสาโท คือเป็นของเหลือ แต่ถ้าฉันไม่เสร็จ เห็นว่าอย่างไรพระก็เอื้อมไม่ถึงแล้วยกออกเลย คนกินต่อก็ซวยไป

ทำอะไรไม่ค่อยจะถาม ตัดสินใจเอาเองโดยพลการ ตัดสินใจทีไรโดนทุกทีแหละ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 12-10-2015, 18:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,280 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระที่โดนอาบัติสังฆาทิเสสมาแล้วมาบอกเรา จะถือว่ายังปกปิดอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : เขาบอกเรา เราก็รายงานต่อสิครับ จริง ๆ แล้วมาบอกเราไม่ได้ ต้องบอกท่านที่รับผิดชอบคือพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ถ้าท่านไม่ใช่เจ้าอาวาสก็ต้องรายงานเจ้าอาวาส

ถาม : ถ้าโดนอาบัติสังฆาทิเสสแล้วระหว่างที่อยู่ปริวาสไปโดนซ้ำอีก ?
ตอบ : ปุนัปปุนัง เริ่มต้นนับใหม่

ถาม : บวชรอบหลังจะเป็นพระหรือครับ ?
ตอบ : ยังไม่ทันที่จะเก็บของเก่าเสร็จเลยก็ไปผิดซ้ำแล้ว เขาเรียกว่าปุนัปปุนัง คือโดนแล้วโดนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จักเข็ด ท่านก็ปรับหนักกว่าเดิมอีก ถ้าสึกไปแล้วบวชใหม่ก็ราคาดีกว่าเณรหน่อยเดียว บวชแล้วต้องรีบไปเข้าปริวาส ครบตามโทษที่ได้รับแล้ว คณะสงฆ์จะสวดอัพภานคืนความเป็นพระให้

ถาม : แล้วถ้านับใหม่ ก็คือ เอาโทษเก่ากับโทษใหม่รวมกันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ของเก่าเท่าไรบวกกับของใหม่อีก ๖ วัน ๖ คืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-10-2015 เมื่อ 10:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว