กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 29-10-2012, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเรื่องของการปฏิบัติระยะแรก ๆ พอเริ่มเข้าปีติก็เท่ากับเริ่มเห็นผล เพราะเป็นไปตามที่ครูบาอาจารย์บอก หรือที่ตำราบอกไว้ ก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว

แต่ปีติเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะคนที่เข้าถึงตรงจุดนี้ จะไม่อิ่มไม่เบื่อในการปฏิบัติ บางทีไม่ยอมกินไม่ยอมนอน ภาวนาไปเรื่อย โยมที่ภูเก็ต นั่งตั้งแต่ ๗ โมงเช้าจนถึง ๑๐ โมงครึ่ง..ไม่เลิก อาตมาต้องเคาะกบาลให้เลิก บอกว่าพอได้แล้ว การนั่งสมาธิก็เหมือนกับการทำงาน ถ้าโหมงานหนักในวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำงานไม่ไหว

เขาเองพอนั่งแล้วกำลังใจเขาสบาย ก็ภาวนายาวไปเลย จะว่าไปแล้วเป็นการฉวยโอกาสที่ถูก แต่ระยะเวลานานเกินไป สภาพจิตที่ไม่เคยถูกควบคุมนาน ๆ พอถึงเวลาดิ้นจะดิ้นแรงมาก แล้วจะพังไปนาน ดังนั้น..จึงต้องค่อย ๆ ผ่อนสั้นผ่อนยาว เอาแค่พอเหมาะพอดี

ไม่ใช่วันนี้ทำเต็มที่เลย ๓ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมง ๖ ชั่วโมง พอพรุ่งนี้หรือมะรืนก็พังกระจาย ทำอะไรไม่ได้ สภาพจิตไม่ยอมให้ควบคุม เพราะเข็ดแล้ว เข็ดที่โดนจับให้นิ่ง ๆ ก็ดิ้นเต็มที่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-10-2012 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 31-10-2012, 07:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพุทธเจ้าตรัสว่า..อานันทะ ดูกร..อานนท์ เธอได้เห็นภิกษุทั้งหลายที่คลุกคลีอยู่กับพระสารีบุตรบ้างหรือไม่ ? อานันทะ..ดูกร อานนท์ เธอได้เห็นภิกษุทั้งหลายที่คลุกคลีอยู่กับพระปุณณมันตานีบุตรหรือไม่ ? ฯลฯ พระอานนท์กราบทูลว่า เห็นพระพุทธเจ้าข้า

นั่นแหละ..อานนท์..หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระสารีบุตรเป็นผู้ประกอบไปด้วยปัญญามาก หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระโมคคัลลานะเป็นบุคคลที่ปรารถนาในฤทธิ์อภิญญา หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระปุณณมันตานีบุตรเป็นผู้ยินดีในธรรมกถึก

เช่นเดียวกัน ลักษณะที่พวกเราจับกันเป็นกลุ่ม ๆ ก็คือชอบใจแบบไหนก็ไปแบบนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 31-10-2012, 07:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการเมือง ฟังมากไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการฟังความข้างเดียว พอฟังความข้างเดียว ถึงเวลาก็ตัดสินความข้างเดียว แล้วจะลำบาก

ตอนเขาทะเลาะกันเหมือนกับเขาตีกันจนฝุ่นตลบ ให้เราถอยไปให้ห่าง ๆ วงเลย รอให้ฝุ่นจางก็จะรู้ว่าใครเป็นใคร ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเราจะโดนม้วนเข้าไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 31-10-2012, 08:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าเป็นนักการเมืองไม่ควรไปต่อความยาวสาวความยืดกับใคร ทำงานไปก่อน เขาอยากทะเลาะปล่อยให้เขาทะเลาะไป ถึงเวลาชาวบ้านเขาตัดสินด้วยผลงานที่เขาเห็น

ภาษาบาลีเขาเรียกว่า มุโขโลกนะ ถ้ามีความลำเอียง อคติก็ย่อมมี พระพุทธเจ้ากล่าวถึงคติว่ามี โทสาคติ ลำเอียงเพราะโกรธ ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรัก ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลงผิด บางคนรักฝังใจ อย่างไรก็ต้องเชียร์พรรคการเมืองนี้ ไม่เปลี่ยนใจ จึงกลายเป็นฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรักไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 31-10-2012, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมมีความคิดว่า .....(ไม่ได้ยิน)...
ตอบ : มีจริง แต่เขาไม่ได้เอามาใช้ มีแต่คนที่ศึกษาไม่ครบก็เลยไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็นอัตตาธิปไตย โลกาธิปไตยหรือธรรมาธิปไตย จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับคนใช้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักการ หรือหลักธรรมนั้น ๆ

อย่างอัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเผด็จการ คุณดูสิว่าเผด็จการอย่างรัชกาลที่ ๕ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช สั่งให้ใครตายก็ได้ แต่ทำไมบ้านเมืองเจริญมาก ? ช่วงนั้นเราเจริญกว่าญี่ปุ่นอีก

ปัจจุบันโลกาธิปไตย ถือโลกเป็นใหญ่ ถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ เรามาเรียกอีกอย่างว่า ประชาธิปไตย ดูสิว่าเละขนาดไหน ? ฉะนั้นไม่ใช่หลักการไม่ดี แต่อยู่ที่คน

อย่างในหลวงของเราปัจจุบัน ต้องบอกว่าพระองค์ท่านถือธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่ อาศัยหลักธรรมในการปกครองประเทศ อย่างเศรษฐกิจพอเพียงก็ถือหลักสันโดษ แล้วยังมีหลักทศพิธราชธรรม หลักจักรวรรดิวัตร หลักพรหมวิหาร

เพียงแต่ว่าพระองค์ท่านทำอยู่คนเดียว คนอื่นไม่ให้การสนับสนุน พระองค์ท่านก็ทำได้เต็มที่แค่กำลังของพระองค์เอง ถ้าไม่ได้อยู่ในฐานะอย่างพระองค์ท่านก็ทำไม่ได้เท่านี้ ฉะนั้น..หลักการต่าง ๆ จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่คนใช้

อัตตาธิปไตยกับโลกาธิปไตยขึ้นกับคนใช้เต็ม ๆ ธรรมาธิปไตยนี่หลักการดีแน่ ถ้าคนใช้อยู่ในศีลในธรรมก็ยิ่งเสริมความดีเข้าไปใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 31-10-2012, 08:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสสนับสนุนการปกครองแบบไหนเลย แต่พระองค์ท่านตรัสในส่วนของธรรมาธิปไตย ก็คือ ไม่ว่าจะมีการปกครองแบบไหน จะต้องประกอบไปด้วยหลักธรรม อย่างเช่น อัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ คุณก็ต้องปราศจากอคติ ๔ ประกอบไปด้วยพรหมวิหาร ๔ เป็นต้น

ถ้าโลกาธิปไตย คุณจะถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ คุณก็ต้องประกอบด้วยความยุติธรรม ถ้าเป็นอัตตาธิปไตยแบบพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก็ต้องมีทศพิธราชธรรม

พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้ตรัสสรรเสริญหลักการปกครอง แต่พระองค์ท่านตรัสถึงธรรมะที่จะไปประกอบกับหลักการนั้น ๆ เพราะพระองค์ท่านทราบดียิ่งกว่าเราหลายเท่านักว่า หลักการดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคนเอาไปใช้ด้วย ถ้าคนเอาไปใช้เป็นคนไม่ดี เขาก็พยายามดัดแปลงหลักการให้เกิดประโยชน์แก่พวกพ้องและตัวเองจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 31-10-2012, 08:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนในครอบครัวเดียวกัน ใช้หลักการเดียวกันตัดสินหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจไม่เท่ากัน จะตัดสินต่างกัน ฉะนั้น..กำลังใจต้องเท่ากัน

ถาม : ถ้าเกิดเราใช้ธรรมาธิปไตย อะไรถูกอะไรผิดว่ากันตามหลักการ
ตอบ : จริง ๆ จะว่าไปแล้ว กฎพื้นฐาน คือ ศีล ๕ ถ้าละเมิดศีล ๕ นี่ผิดทั้งนั้น คุณลองดูว่าโลกปัจจุบันของเรา ข่าวคราวที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร ?

ละเมิดข้อที่ ๑ ก็ฆ่ากัน ฝังอยู่เต็มไร่ ขุดหายังไม่เจอ ศีลของที่ ๒ ลักขโมย ช่วงชิง ปล้นฆ่ากัน ละเมิดศีลข้อที่ ๓ เสี่ยง้อภรรยาไม่ได้ ๘ ปีผ่านไปตามไปยิงตายเลย ละเมิดศีลข้อที่ ๔ โกหกหลอกลวง ฉ้อโกงกัน ละเมิดศีลข้อที่ ๕ เมาสุราก็ละเมิดศีลข้ออื่นไปด้วย

เราจะเห็นว่าถ้ามีศีล ๕ กำกับอยู่ บรรดากฎหมายไม่ต้องมีหรอก ถ้าจะเอาจริง ๆ ก็คือหลักมนุษยธรรมคือการมีศีล ถัดไปคือหลักเทวธรรม ก็คือ มีหิริโอตัปปะ ละอายชั่วกลัวบาป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเรายึดถือเป็นปกติ ไม่ต้องไปสนใจกฎหมายอื่น ๆ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากมายนักหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 31-10-2012, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะมีพวก....
ตอบ : นั่นเป็นเรื่องปกติของคน คนเราเกิดมาสร้างเวรสร้างกรรมไม่เท่ากัน มีอยู่สมัยหนึ่งในยุคคอมมิวนิสต์ ที่เขาจะทำให้ทุกคนเท่ากันหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเขาเองสร้างความดีความชั่วมาไม่เท่ากัน ถึงเวลาจะให้รับผลดีผลชั่วเท่า ๆ กันนั้นเป็นไปไม่ได้ หลักการผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าเป็นสังคมในอุดมคติ เขาคิดว่าถ้าทุกคนเสมอภาคกัน มีส่วนในทรัพยากรเท่าๆ กัน โลกนี้จะสงบสุข เขาคิดผิดตั้งแต่แรกแล้ว

เราลองดูว่า ถ้าหากว่าโลกปัจจุบันมีคนรวยคนจน คนจนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี คนรวยมีทรัพยากรมากเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันให้มา ทุกคนก็จะอยู่อย่างมีความสุข เพราะทุกอย่างต้องประกอบด้วยหลักธรรม ถ้าไม่มีหลักธรรมโลกก็วุ่นวาย..อยู่ไม่ได้หรอก

ที่ในหลวงตรัสเอาไว้ เป็นเรื่องที่ชัดเจนที่สุดเลย คือ พยายามส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจ และอย่าให้คนชั่วมีอำนาจขึ้นมา เมื่อคนดีมีอำนาจในการปกครอง คนชั่วก็ไม่เดือดร้อน เพราะคนดีที่มีอำนาจไม่ไปเบียดเบียนคนชั่วอยู่แล้ว แต่ถ้าคนชั่วมีอำนาจในการปกครองแม้แต่คนเดียว คนดีจะเดือดร้อนเป็นร้อยเป็นพัน พระองค์ท่านตรัสมาตั้งกี่สิบปีแล้วก็ไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 31-10-2012, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าคนเราไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนและมีความยุติธรรม รู้จริง ๆ ว่าธรรมะคืออะไร ไม่ต้องไปพึ่งพาคนอื่นหรอก มโนธรรมของตัวเองจะบอกเอง ต่อให้เด็กที่เกิดขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าความดีความชั่วเป็นอย่างไร ถ้าเขาฆ่าสัตว์สักตัวหนึ่ง เขาจะรู้สึกไม่สบายใจทันที นั่นแหละคือมโนธรรม เป็นหลักการที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สามารถรู้ได้โดยไม่ต้องให้คนอื่นเขาบอก

แต่สมัยนี้มโนธรรมโดนรัก โลภ โกรธ หลง กลบกลืนไปหมด ถึงเวลาแล้วตัวกูต้องถูกไว้ก่อน ถึงเวลาต้องไปฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ให้ศาลฎีกาตัดสิน บ้าชัด ๆ อย่างพระในปัจจุบันหลงประเด็นกันเยอะมาก เวลาละเมิดศีลต้องอาบัติปาราชิก ต้องรอให้ศาลสั่งก่อน กูถึงจะยอม ความจริงเจ๊งตั้งแต่ตอนทำแล้ว จะไปรอให้ศาลสั่งได้อย่างไร

ถึงได้บอกว่ามโนธรรมโดนรัก โลภ โกรธ หลง กลบกลืนไปหมด มีอยู่ทางเดียวคือเราต้องเข้าถึงธรรมให้มากที่สุด เวลามีอำนาจหน้าที่บริหารหมู่คณะ จะเล็กจะใหญ่ก็ตาม ต้องใช้หลักธรรมในการบริหาร ให้เกิดความยุติธรรมให้มากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 31-10-2012, 09:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่สมัยหนึ่งเพื่อนชวนไปสมัครส.ส. อาตมาก็บวชมาตั้งหลายพรรษาแล้ว แต่ก็ยังมาชวน เขาใช้คำพูดว่า ถ้าคนดีเข้าวัดบวชกันหมด แล้วประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร ? อาตมาก็ว่าถ้าคนดีบวชกันหมด ประเทศชาติน่าจะดีขึ้น เพราะอย่างน้อย ๆ มีโอกาสสั่งสอนคนอื่นได้อีกมาก

เราต้องเข้าใจศิลปะในการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านว่า สิปปัญจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง การมีศิลปะถือเป็นอุดมมงคล ศิลปะอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ ศิลปะการในดำรงชีวิต ก็คือ ต้องรู้กาลเทศะ กาละคือเวลาที่เหมาะสม เทศะคือสถานที่ที่เหมาะสม

ถ้ามีแต่พวกโกงกินกันทั้งหมด แล้วเราไปพูดเรื่องปราบคอร์รัปชั่น คงจะมีคนสนับสนุนเราหรอก เรื่องพวกนี้เราต้องค่อย ๆ ศึกษาไป แล้วท้ายสุดก็จะปรับตัวเองให้อยู่ในลักษณะไม่โดนเบียดเบียนมากนัก สามารถที่พอจะอยู่ได้ในโลกที่สับสนวุ่นวายขนาดนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 31-10-2012, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไม่เข้าใจว่า การพยากรณ์มรรคผลเป็นอย่างไร ?
ตอบ : การพยากรณ์มรรคผลเป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น คนทั่ว ๆ ไปอย่าไปยุ่ง เรารู้ไม่จริงหรอก

การฝึกมโนมยิทธิทั่ว ๆ ไป เวลาเราดูให้คนอื่นจะแม่น แต่ดูให้ตัวเองจะไม่แม่น เพราะการดูให้คนอื่นส่วนได้เสียไม่มี แต่พอดูให้ตัวเองเวลาเห็นว่าไม่ดี เราก็จะคิดว่าน่าจะดีนะ ทีนี้จะเริ่มผิด และพอเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ก็จะทำให้ใจก้าวเข้าไปสู่รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็จะผิดยาวเลย

อย่างเช่น แทนที่จะไปดูว่าตัวเองเกิดมากี่ชาติกี่ภพแล้ว มาชาตินี้ควรจะเข็ดหรือยัง ? ก็ไปดูว่าหวยจะออกอะไร ? ถ้าอย่างนั้นจะโดนกิเลสอุปาทานหลอกเอา

ถาม : ถ้าบอกว่าคนนี้เป็นพระอรหันต์แล้ว คนนี้เป็นพระสกิทาคามี ?
ตอบ : จะเรียกว่าการพยากรณ์มรรคผลก็ได้ บุคคลที่อยู่ระดับเดียวกันจะรู้บุคคลในระดับเดียวกันและต่ำกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็จะไม่พูดถึง การพูดถึงจะพูดในลักษณะของการยกย่อง พูดถึงในส่วนความดีงามของเขา จะไม่มีการพูดในลักษณะไปกดข่มคนอื่น ฉะนั้น..ต้องดูกำลังใจของคนพูดด้วยว่าอยู่ในระดับไหน

เหมือนคนเรียนจบปริญญาตรีย่อมรู้ว่าคนจบปริญญาตรีเขาเรียนอะไรมา ขณะเดียวกันก็รู้ว่าคนที่ความรู้ต่ำกว่าว่าเรียนอะไรมา แต่ไม่รู้ว่าคนจบโทหรือเอกเขาเรียนอะไรกัน เพราะตัวเองยังเรียนไม่ถึง ฉะนั้น..เรื่องพยากรณ์มรรคผลหรือดูกำลังใจคนอื่น ดูได้ในระดับที่เท่ากันและต่ำกว่าเท่านั้น สูงกว่าดูเขาไม่ได้


ถาม : คนใดเรามองว่าเป็นอริยบุคคล แต่ในบางกิริยาที่ท่านทำ เราอาจจะมองว่าไม่น่าใช่
ตอบ : แปลว่าคุณยังขาดความมั่นใจในตัวท่าน ถ้ามีความมั่นใจในตัวท่านจริง จะไม่สงสัยเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 31-10-2012, 09:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับลูกศิษย์ว่า "เรามีหน้าที่อะไรก็ไปทำ ในเรื่องของการรับงานเพื่อส่วนรวม ต้องประกอบไปด้วยเสียสละ ไม่ใช่ถึงเวลากูจะอยู่ใกล้ ๆ ครูบาอาจารย์ แล้วงานส่วนอื่นก็เสียหมดเพราะไม่มีใครไปดูไปแล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 31-10-2012, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จากที่เคยเห็นมา ใครเคยทำไม่ดีกับพ่อกับแม่อย่างไร เวลามีลูกแล้วได้คืนหลายเท่า เป็นกรรมอย่างเดียวที่ทันตาเห็นจริง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราไม่แสบจริงก็ไม่มาเกิดกับพ่อแม่เราหรอก ฉะนั้น..ถ้าอยากจะมีลูกดี ตัวเราเองต้องดีก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 01-11-2012, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมควรจะไปฝึกเรื่องทิพจักขุญาณที่ไหนครับ ?
ตอบ : ถ้าของเก่ามีแล้ว เราภาวนาไปจนกำลังใจเริ่มนิ่ง ของเก่าก็จะกลับมาเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกที่ไหนหรอก เพียงแต่ระวังไว้อย่างหนึ่งว่า ถึงเวลาเขาทดสอบจะเล่นแรง

ให้จำไว้ให้แม่นว่าสิ่งที่เราเห็น เราเห็นจริง ๆ แต่เรื่องที่เรารู้เห็นไม่แน่ว่าจะจริง ส่วนใหญ่ที่เสียไป เนื่องจาก “เชื่อเพราะเราเห็น” เพราะฉะนั้นต่อให้เห็นเองก็ยังเชื่อไม่ได้ ต้องรอเวลาพิสูจน์ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 01-11-2012, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่ เราจำเป็นต้องโค่นทิ้งต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตั้งศาลให้เขาในที่ที่เหมาะสม แล้วตัดกิ่งไม้นั้นมากิ่งหนึ่ง ประมาณ ๑ ศอก ตั้งไว้ในศาล หันทางด้านปลายขึ้น เขาจะได้อาศัยต่อได้

ถาม : ต้นไม้ใหญ่ ๆ จะมีเทวดาอาศัยอยู่ทุกต้นไหมครับ ?
ตอบ : เฉพาะต้นไม้ที่มีแก่น ถ้าไม่มีแก่นท่านก็ไม่ได้อาศัย พวกไม้ไม่มีแก่นอย่างพวกนุ่น สำโรง เป็นต้น

ถาม : ผมไม่ได้ตัดทั้งต้น ตัดแค่กิ่งก้านออก
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตัดทั้งต้นไม่เป็นไร แต่ถึงไม่ตัดทั้งต้นก็ควรจะบอกเล่าเก้าสิบกันก่อน ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ไปตัดเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 01-11-2012, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระเครื่องของหลวงปู่โหน่งเป็นของดีราคาถูก เพราะท่านทำเอาไว้มาก วัดไหนขอ ท่านให้เขาเป็นลำเรือเลย ก็เลยกลายเป็นว่าของดี แต่ราคาถูกเพราะของมีมาก

อาตมามีขุนแผนหน้าค่ายอยู่องค์ครึ่ง เพราะองค์หนึ่งแหว่งไป แล้วก็มียอดขุนพล ส่วนองค์ที่เป็นพิมพ์สมเด็จนั้น ตอนแรกใคร ๆ เขาก็ตีว่าเป็นวัดระฆัง อาตมาบอกว่าไม่ใช่ แต่ว่าสมเด็จรุ่นแรก ๆ ของท่านเนื้อแกร่งมาก พอมารุ่นหลัง ๆ แล้วเน้นเอาดินมาทำ ความต่างจึงเห็นชัด เพราะเป็นเนื้อดินเผา

วิธีเสกพระของหลวงปู่โหน่งไม่เหมือนใครหรอก ตั้งบายศรีคู่ ปูผ้าขาว มีดอกไม้ธูปเทียนไหว้พระเสร็จสรรพ ท่านเดินจงกรมรอบเตาเผา ภาวนาเสกพระไปเลย"


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่รู้ยังเหลือหรือเปล่า ? สมัยหลวงพ่อแดง แค่วัดพวกเรายังไม่กล้าเดินผ่านเลย ท่านดุมาก พอมานึกถึงสมัยนี้ที่พวกชาวบ้านบอกว่าอาจารย์เล็กดุ ลองเจอหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ไอ้เด็กเซียน ๆ อย่างเราไม่กล้าเดินผ่านวัด นึกเอาก็แล้วกันว่าท่านดุขนาดไหน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 01-11-2012, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หนังสือประวัติหลวงพ่อปานของหลวงพ่อวัดท่าซุง ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ปานกับหลวงปู่โหน่งดังขึ้นมาอีกมาก ลำพังท่านดังอยู่แล้ว แต่คราวนี้พอลูกศิษย์เก่งแล้วยกย่องครูบาอาจารย์ด้วยก็เลยดังกันไปใหญ่ แต่วัดเก่า ๆ สายครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่จะโทรม มีหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอที่ทางวัดปากน้ำฯ ไปสนับสนุนทำให้ ก็ดูว่าเจริญขึ้นมา วัดอื่น ๆ ค่อนข้างจะทรุดโทรม

แม้กระทั่งวัดบางนมโค สมัยพระครูวิหารกิจจานุยุต ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเป็นพระอาจารย์คู่สวด คราวนี้หลวงพ่อท่านก็ตั้งใจจะสนับสนุนวัดบางนมโค ถ้าจำไม่ผิดเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ หลวงพ่อท่านไปวัดบางนมโค ญาติโยมตามไปทำบุญวันนั้นได้สี่แสนบาท ท่านบอกพระครูอุไรว่า ให้เอาเข้าเป็นกองทุนหลวงปู่ปาน แต่ปรากฏว่าถึงเวลาแล้วท่านเอาไปใช้อย่างอื่น หลวงพ่อท่านก็เลยตัดขาด ไม่ไปวัดบางนมโคอีกเลย ท่านบอกว่า “ในเมื่อไม่ฟังกันแล้วจะไปทำไม ?”

ถาม : รูปหล่อหลวงปู่ปานที่วัดใหญ่มาก ?
ตอบ : จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เพียงแต่ให้ทำในลักษณะส่งเสริมครูบาอาจารย์ ไม่ใช่ทำเพราะอาศัยชื่อเสียงครูบาอาจารย์ไว้หากิน เจตนาต่างกันนิดเดียว ผลจะออกไปคนละโลกเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 02-11-2012, 08:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดบางปลาหมออยู่ใกล้นิดเดียว ?
ตอบ : วัดบางปลาหมอ วัดน้ำเต้า วัดเจ้าเจ็ด วัดหน้าต่างนอก ก็อยู่ละแวกนั้นแหละ ถ้าวัดหน้าต่างนอกไม่ได้หลวงพ่อนิลสืบต่อมาก็คงโทรมเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่พอสิ้นครูบาอาจารย์แล้ว ที่เหลือก็มักจะอาศัยวัดเฉย ๆ ไม่ได้อยู่ให้วัดได้อาศัยบ้าง

เรื่องของเจ้าอาวาสเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เจ้าอาวาสใหม่ต่อให้เก่งเท่าเจ้าอาวาสเก่า ญาติโยมก็ยังนึกถึงแต่เจ้าอาวาสเก่า ถ้าเก่งสู้เจ้าอาวาสเก่าไม่ได้ก็จมหายไปเลย วัดวาโทรมทันตา ยังดีว่าหลวงปู่จ้อย วัดบ้านแพน ยังมีสืบสายมาจนปัจจุบัน อย่างหลวงปู่พูนก็ทำให้วัดวาอารามเจริญรุ่งเรืองได้ ถ้าไม่มีสืบสายต่อกันมาก็หมด

เจ้าอาวาสวัดบางนมโคจากหลวงปู่คล้ายมาหลวงพ่อปาน มาหลวงพ่อเล็ก มาหลวงตาเจิม แล้วก็มาหลวงพ่อฉัตร แล้วมาหลวงพ่อวัดท่าซุง พอสิ้นรุ่นหลวงพ่อมาแล้วที่เหลือก็ไปไม่รอด พอหลวงพ่อท่านออกมาอยู่วัดสะพาน จังหวัดชัยนาท วัดบางนมโคก็โทรมไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 02-11-2012, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่มีปัญหาตรงพวกบรรดามัคคนายก ที่มีอำนาจมักจะเป็นญาติเจ้าอาวาส คนอื่นไม่กล้าว่ากล่าว อาตมาไปอยู่ที่ไหนถึงได้ออกระเบียบวัดว่า ถ้าใครอ้างว่าเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องของเจ้าอาวาสแล้วมาทำผิดระเบียบ ให้ไล่ออกจากวัดแล้วห้ามเข้าตลอดชีวิตเลย ไม่อย่างนั้นถ้าเอาญาติตัวเองไม่อยู่ก็ปกครองคนอื่นไม่ได้

ไม่ได้แวะเข้าไปดูวัดพิกุล
พอสิ้นหลวงปู่ปั้นแล้วไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง ยังมีหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ครูบาอาจารย์สมัยนั้นสุดยอดทั้งนั้นเลย ไปตกอยู่ยุคสมัยไล่ ๆ กันหมด มีหลวงปู่จงที่อายุยืนกว่าเพื่อน ต้องบอกว่าหลวงปู่จงท่านทำปาณาติบาตน้อย แล้วก็เมตตาเหลือล้นจริง ๆ

ญาติโยมมาถึงเสือกหัวเรือพรวด ล่ามเรือเสร็จสรรพเรียบร้อย ตะโกนว่า “หลวงตา..เฝ้าเรือให้หน่อยนะ จะไปกราบหลวงพ่อหน่อย” แล้วก็วิ่งขึ้นกุฏิท่าน สักพักวิ่งหน้ากระเรี่ยกระราดกลับมา พระท่านบอกว่าหลวงพ่ออยู่ที่ท่าน้ำนั่นแหละ ใช้ท่านให้เฝ้าเรือไปเรียบร้อยแล้ว ท่านก็นั่งอยู่นั่นแหละ

เขาถามว่าทำไมท่านไม่ไปกุฏิ ? ท่านบอกว่า “ก็โยมใช้ให้ฉันเฝ้าเรือ ก็เฝ้าให้โยมก่อน” หลวงปู่จงท่านอายุ ๙๐ กว่าเกือบร้อยปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 02-11-2012, 08:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,320 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้เวลานั่งสมาธิรู้สึกกำลังใจรวมตัวได้ง่ายมากเลย เป็นเพราะว่าเราเริ่มขยันหรือเป็นเพราะว่าช่วงระยะเวลานี้ทำได้ดี ?
ตอบ : หลายอย่างรวมกัน สำคัญที่สุดก็คือต้องทำให้ต่อเนื่อง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็พังอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว