กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 03-12-2012, 09:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจอเรื่องน่ากลัวอยู่ตลอดเวลา ?
ตอบ : เป็นคนที่โชคดีต่างหาก ไม่ใช่คนแปลกประหลาด คนที่เจอเรื่องน่ากลัวอยู่ตลอดเวลาแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้จนทุกวันนี้ ต้องถือว่าเป็นกำไร ส่วนใหญ่ถ้าไม่ช็อกตายก็จะตายไปในเหตุการณ์เลย ถือว่าเราสร้างบุญเอาไว้ดี ถึงเวลาได้ทดสอบอยู่เรื่อย ๆ ว่าบุญยังรักษาอยู่หรือเปล่า

อาตมาเองเป็นคนแปลกประหลาด พยายามตะเกียกตะกายไปหาเรื่องร้าย ๆ เพราะถ้าไม่มีอะไรร้าย ๆ บ้าง ชีวิตก็น่าเบื่อตายชัก เจออะไรพิลึก ๆ บ้างก็ดีจ้ะ เป็นรสชาติของชีวิตดี บันทึกเอาไว้บ้างเผื่อลูกหลานจะได้อ่าน


ถาม : เป็นเพราะในอดีตทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ ?
ตอบ : เป็นเรื่องธรรมดาจ้ะ อย่าลืมว่าผลในปัจจุบันนี้เกิดแต่เหตุในอดีตที่เราทำไว้ ในเมื่อเราทำแบบนี้ เส้นชีวิตเราก็เดินแบบนี้ ถ้าเราไม่ต้องการแบบนี้ เราก็สร้างเส้นชีวิตใหม่ อยู่ในศีล ในสมาธิ ในปัญญาของเรา หรือทาน ศีล ภาวนา เดี๋ยวทางเดินเปลี่ยนก็ไม่เจอเอง แล้วเราก็จะเบื่อ ถึงเวลาก็ต้องตะกายไปหา ไม่เจอเรื่องโหด ๆ ในชีวิต รู้สึกเฉาบอกไม่ถูก

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เรื่องปกติจ้ะ เพราะถ้าคนเราสั่งสมศีล สมาธิ ปัญญาไปถึงระดับหนึ่ง จะรู้เรื่องพวกนี้โดยอัตโนมัติ แล้วน่าเบื่อด้วย เพราะเราก็ไม่ได้อยากรู้ เรื่องไหนที่เราต้องการรู้ ก็ใส่ใจนิดหนึ่ง เรื่องไหนไม่ต้องการรู้ ก็เหมือนกับลมผ่านไป รับรู้ก็ทำเหมือนไม่รับรู้ก็จบแล้ว ทีแรกเราเองยังไม่เคยชินก็จัดการไม่ถูก จะงง ๆ ว่าทำไมถึงต้องเป็นเราด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2012 เมื่อ 18:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 03-12-2012, 09:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ความคิดของทุกคนที่เข้ามา มีแต่แย่ ๆ ?
ตอบ : เก็บไว้เป็นบทเรียนว่าเราจะไม่คิดอย่างนั้น ไม่พูดอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนั้น คนอื่นเขายังไม่รู้ว่าเป็นทุกข์เป็นโทษอย่างไร เขาถึงคิด ถึงพูด ถึงทำอย่างนั้น

ถาม : ไม่ได้ต้องการจะฟัง แต่ควบคุมไม่ได้ ?
ตอบ : ถึงได้บอกว่าฟังไว้เฉย ๆ อย่าไปคิดต่อ อย่าไปฟุ้งซ่านต่อ อย่าไปตำหนิใคร ถือเป็นธรรมดา รู้ก็คือรู้ ในเมื่อเราทำไว้อย่างนี้ เราจำเป็นต้องรู้ก็รู้ไว้ รู้แล้วอย่าไปใส่ใจก็หมดเรื่อง ถ้าไปใส่ใจไปครุ่นคิดเข้าเดี๋ยวเราจะไปเครียดเอง ไปแบกโลกแทน มีคนเขาบอกว่าโลกมีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก ไปแบกโลกแทนคนอื่นเขาเราก็หนัก

เราแก้ไขคนอื่นไม่ได้ ต้องแก้ที่ตัวเอง ในเมื่อเราเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้ เราก็ไม่ต้องไปใส่ใจความคิดเขา ก็หมดเรื่องแล้ว น่าจะมีเครื่องมือที่จับครอบเอาไว้ได้ จะได้ไม่ต้องไปฟังความคิด


ถาม : ทำอย่างไรที่เราจะไม่ไปฟังความคิดเขา ?
ตอบ : เราลองนึกถึงเรดาร์สนามบิน เขาเอาไว้ควบคุมการบินของเครื่องบินใช่ไหม ? นกกากี่ตัวเข้ามาก็รู้หมด แต่เขาเจาะเอาเฉพาะเครื่องบิน ถ้าไปสนใจนกพวกนั้นก็ประสาทกินตายพอดี เราก็ต้องใช้วิธีนั้นแหละ เลือกเฉพาะสิ่งที่เราสนใจ ในเมื่อเราไม่สนใจอย่างอื่น พอความชำนาญมีมากขึ้น ก็จะรู้ว่าควรจะละอันไหน ควรจะรับอันไหน อันไหนที่ดีเหมาะสมควรกับกาลเวลานั้นก็รับไว้ อันไหนไม่ดีเราก็ทิ้งไป

ฉะนั้น..ท่องไว้ว่า อันไหนเราจะรับ อันไหนเราจะละ เดี๋ยวพอทำได้คล่องตัวก็จะสนุก เหมือนกับเลือกเพชรพลอย อันไหนดีเราชอบก็เก็บไว้ อันไหนไม่ดีก็ทิ้งไป มีเฉพาะพวกนกกาก็ยังดี บางทีดันมีคนโยนถุงขยะมาอีก เครื่องดีก็รับได้หมดแหละ

อารมณ์ใจตอนนี้ ให้จำไว้ว่า เป็นอารมณ์ที่เราไม่รับข้างนอก แต่ถ้าเราตั้งใจมากกว่านี้นิดเดียวจะรับได้ทันทีเลย มี ๒ อย่าง ก็คือ ถอยออกมาให้อยู่ในช่วงนี้ หรือไม่ก็พุ่งเข้าไปลึกกว่านี้ เหมือนอยู่คนละช่องคลื่นก็รับกันไม่ได้แล้ว


ถาม : ถ้าตั้งใจเมื่อไรจะหายไปหมดเลย ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจลึกเกินไปจะไม่รู้ ถ้าตื้นเกินไปก็จะไม่รู้ เราต้องปรับของเราเอง ที่ผ่านมาเรายังปรับไม่เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 04-12-2012, 14:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เด็กเขายังไม่รู้เหตุผล บางทีเขาซน ฟังไม่รู้เรื่อง ควรจะทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ห้ามเขาก่อนว่าอย่าทำอย่างนั้น ถ้าทำอีกจะตี ถ้าบอกไว้ก่อน ถึงเวลาเขาทำแล้วตี เขาจะรู้ว่าห้ามทำอย่างนั้น

ถาม : เขาจะไม่ก้าวร้าวหรือคะ ?
ตอบ :ไม่หรอก..ตีถวายเจ้าไปเลย..! จะเอาอะไรมาก้าวร้าวไหว

ถาม : หลวงปู่ทวดคือพระศรีอาริยเมตไตรยหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : หลายคนคิดว่าท่านคือพระศรีอาริยเมตไตรย จริง ๆ ใช่หรือเปล่าอาตมาก็ยังไม่ได้ถามท่าน แต่หลวงปู่ทวดท่านนิรันตราย ใครมีท่านอยู่จะปลอดภัยจากอันตราย ต้องอาราธนาด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่มีไว้เฉย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 14:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 04-12-2012, 14:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนที่เพ่งกสิณน้ำ พอปฏิภาคนิมิตเกิดขึ้น บางทีตัวเองตกใจคิดว่าน้ำท่วม อุคหนิมิตของน้ำนั้นจะเป็นไปตามภาชนะที่ตัวเองใช้เพ่งกสิณ แต่พอเป็นปฏิภาคนิมิตจะขยายใหญ่เต็มไปหมด คนที่เผลอสติคิดว่าน้ำท่วมจริง ๆ ลืมไปว่านิมิตนั้นตัวเองควบคุมได้ นึกให้มาก็ได้ นึกให้หายก็ได้ เล่นเอาถลอกปอกเปิก เพราะไปว่ายน้ำหนีบนบก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 14:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 04-12-2012, 14:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พรุ่งนี้จะเป็นวันทอดกฐินของวัดเขาวง หลวงตาก็ถือว่าลงรากปักฐานมั่นคงแล้ว แต่สำคัญตอนถ่ายโอน ถ้าไม่ได้เตรียมการไว้แต่เนิ่น ๆ จะมีปัญหา จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พระที่ท่านอยู่วัดไหนก็มักจะยอมรับแต่เจ้าอาวาสคนเดียว ถ้าเจ้าอาวาสไม่มีการเตรียมการไว้ก่อน ถึงเวลาปุบปับสิ้นไปก็มักจะลายออก

อย่างวัดท่าขนุนจะมีรองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เลขานุการเจ้าอาวาส ให้เขาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำหน้าที่ ช่วงที่อาตมาไม่อยู่จะมีคนสั่งการแทน เพื่อที่จะรู้ว่าควรจะฟังใครต่อ ถ้าปุบปับสิ้นอาตมาไปเขาก็อยู่กันได้

หลวงพ่อวิรัช ยังไม่นับว่ามั่นคง เหตุที่ยังไม่นับว่ามั่นคงเพราะว่า เจ้าคณะปกครองตามสายงานของเขายังไม่ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ก็แปลว่ายังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อวิรัชเวลาท่านนิมนต์ก็มักจะไปนิมนต์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง ความจริงเจ้าถิ่นนั้นสำคัญ ต่อให้เล็ก ๆ แค่เจ้าอาวาสใกล้เคียงก็สำคัญ อย่าว่าแต่เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งโดยสายการปกครองแล้วเขาเป็นเจ้านายโดยตรง ท่านทั้งหลายเหล่านี้จำเป็นต้องนิมนต์ท่านมาเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน ให้เกิดการยอมรับกัน

แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อแล้วไปอยู่ที่ไหนเขามักจะยอมรับได้ง่าย เพราะเขาเห็นว่าบริวารมาก บริวารมากแปลว่ามีคนสนับสนุนมาก ถึงเวลาเขาก็จะให้การสนับสนุนไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 14:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 04-12-2012, 14:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องบางอย่างเป็นศิลปะของการดำเนินชีวิต ต่อให้คุณอยากทำหรือไม่อยากทำก็ต้องทำ สมัยก่อนพระที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านนิมนต์ไปงานเป็นประจำ ๆ จะมีประมาณ ๘๐ รูป อาตมากราบเรียนถามหลวงพ่อว่า “หลวงพ่อครับ..พระที่นิมนต์มา ผมเห็นว่าเฮงซวยห่วยแตกก็เยอะมาก หลวงพ่อนิมนต์มาทำไมครับ ? ทำไมเราไม่นิมนต์พระอย่างหลวงปู่สมเด็จฯ วัดสามพระยา หลวงปู่มหาอำพัน หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ล้วน ๆ”

ท่านบอกว่า “พระที่เอ็งบอกว่าไม่ได้เรื่อง ต่อไปท่านจะเป็นใหญ่เป็นโตในสายการปกครองภายหน้า ถ้าเอ็งรู้จักเอาไว้ก่อน ต่อไปทำอะไรก็สะดวก” ปัจจุบันนี้เห็นจริงแล้วเพราะบรรดาพระผู้ใหญ่ส่วนหนึ่ง ท่านก้าวเข้าไปสู่ตำแหน่งสำคัญ ๆ ทั้งนั้น ถึงเวลาท่านให้ความรู้จักมักคุ้นทักทาย จนกระทั่งคนอื่นเขายังงงว่าไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไร

ในเมื่อรู้จักมักคุ้นกัน ถึงเวลาเรานิมนต์งานของเราท่านก็มา คนอื่นเขาเห็นว่าพระผู้ใหญ่ระดับนั้นยังมา เขาก็เกรงใจ จะเห็นว่ากุศโลบายของหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้นยอดเยี่ยมที่ว่า ท่านเอาพระทองคำอย่างหลวงปู่สมเด็จฯ วัดสามพระยาก็ดี หลวงปู่มหาอำพันก็ดี มาเป็นหลัก ส่วนที่เหลือก็เป็นคณะสงฆ์ในการรับสังฆทานที่ท่านถวาย ไม่ว่าท่านจะมีความบกพร่องอย่างไร แต่ว่าในเมื่อนับเป็นสังฆทาน นับเป็นส่วนหนึ่งของคณะสงฆ์แล้ว อานิสงส์ของเราก็ได้เต็มร้อยส่วน

อย่างวัดท่าขนุนช่วงงานหลวงปู่สาย ก็จะเป็นในส่วนของเจ้าคณะปกครองตั้งแต่ระดับภาค ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล ระดับเจ้าอาวาส แต่ถ้างานทำบุญวันแม่ อาตมาก็เลือกเฉพาะพวกที่มั่นใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย งานนี้ญาติโยมอยากทำบุญก็ว่าให้เต็มที่ไปเลย งานนั้นถ้าจะทำบุญก็ตั้งใจเป็นสังฆทานไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 15:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 04-12-2012, 14:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนหลวงพ่อวัดท่าซุงละสังขาร ฟ้ามืดมัวไป ๗ วันเต็ม ๆ ลูกศิษย์หลวงพ่อส่วนใหญ่ช่างสังเกต จะเห็นว่าฟ้าไม่ได้มัวเฉย ๆ แต่หนาวเยือก ๆ บอกไม่ถูก เขาก็เลยบอกว่า แม้กระทั่งฟ้าก็ยังอุตส่าห์แสดงความเศร้าโศกเสียใจด้วย อาตมารู้สึกว่าหลวงพ่อท่านดีใจต่างหากที่ท่านไป ไม่ต้องทรมานลากสังขารอยู่ต่อ ทำงานในสภาพความเป็นทิพย์สบายกว่า นึกจะเคาะกบาลใครเป็นการเฉพาะก็โผล่ไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 15:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 04-12-2012, 15:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พุทธภูมิที่เข้าเขตปรมัตถ์ การเกิดเป็นหญิงจะมีหรือไม่ครับ
ตอบ : ตั้งแต่อุปบารมีขั้นปลายส่วนมากจะเกิดเป็นผู้ชายตลอด แต่ถ้าเจ้าชู้มากก็เกิดเป็นผู้หญิงสักชาติสองชาติ เอาให้เข็ด จะได้รู้บ้างว่าเวลาเขาอกหักช้ำใจนั้นเป็นอย่างไร

ถาม : พุทธภูมิเวลาลงนรกหรืออเวจี จะมีใครเหลียวแลไหมครับ ?
ตอบ : มี..นายนิรยบาลจะคอยดูแลให้..!

ถาม : ไม่มีใครคิดช่วยเหมือนฮิตเลอร์บ้างเลยหรือ ?
ตอบ : จะไปช่วยอย่างไรเล่า ? หลวงพ่อไปช่วยท่านฮิตเลอร์ เพราะท่านหลุดจากอเวจีแล้ว ท่านออกจากอเวจีมาจะลงอุสสทนรก ช่วงระหว่างกลางนิดเดียวเท่านั้น ถ้าคนไม่รู้จังหวะก็ช่วยไม่ทัน แต่หลวงพ่อท่านลงไปดักตรงนั้น บอกว่าจะบวชพระ ให้โมทนาด้วย ท่านฮิตเลอร์ก็กลายเป็นเทวดา พ้นนรกไปเลย ช่วงนิดเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้รู้ระดับหลวงพ่อก็ดักไม่ทันหรอก

แต่ที่หลวงพ่อท่านไปช่วยเพราะว่าถ้าท่านฮิตเลอร์ไม่หลุดขึ้นมา ก็ไม่ทันระยะเวลาที่จะต้องเกิด จึงจำเป็นที่จะต้องไปช่วยขึ้นมา ส่วนคนที่เหลือก็ต้องปล่อยวาง ตัวใครตัวมันต่อไป ดูอยู่ห่าง ๆ เอาใจช่วยอย่างห่วง ๆ ไม่รู้จะลงไปให้โดนเผาด้วยทำไม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 15:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 04-12-2012, 15:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เหรียญทำน้ำมนต์ พอทองลอก ก็เลยเอาไปชุบไมครอน ?
ตอบ : แล้วก็เอามาเสกใหม่ด้วยอิติปิโส ฯ ๓ ห้อง กว่าจะครบ ๑๐๘ จบก็เหนื่อยจนลิ้นห้อย เหรียญทำน้ำมนต์ต้องการคนขยัน ถ้านั่งเสกเองได้จะดีที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-12-2012 เมื่อ 15:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 04-12-2012, 15:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะที่คนกำลังจัดพานดอกไม้อยู่ พระอาจารย์กล่าวว่า "สาระไม่ได้อยู่ที่ของประดับชิ้นเดียวหรอก ต้องทั้งหมดรวมกันนั่นแหละ องค์ประกอบจะขาดไม่ได้แม้แต่เม็ดทรายเม็ดเดียว ขาดเมื่อไรก็ไม่สมบูรณ์

เรื่องของหมู่คณะก็เหมือนกัน คนเดียวเป็นหมู่คณะไม่ได้ ๒ คนก็เป็นได้แค่เพื่อนร่วมทาง ต้อง ๓ คนขึ้นไป คราวนี้การที่หมู่คณะเดินทางร่วมกันสำคัญที่สุดก็คือถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เรื่องของกาย วาจา ใจ บางทีหนักนิดเบาหน่อย เราไม่ได้อยู่ร่วมกันมาตลอด มีการพลั้งเผลอผิดพลาดบ้างก็อภัยให้กัน ถ้าอย่างนั้นก็จะเหนียวแน่น อยู่ด้วยกันนาน ถ้าเป็นคนประเภทคิดเล็กคิดน้อย คนพูดไม่ทันคิดอะไร เราคิดแทนไป ๓ ชั่วโมงแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็อยู่กับใครยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2012 เมื่อ 16:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 04-12-2012, 15:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพุทธพลังจิตทองคำเป็นแรงบันดาลใจให้อาตมาสร้างพระทองคำบ้าง อาตมาจึงตั้งโครงการจะสร้างพระทองคำฉลองอายุ ๖๐ ปี สอบถามช่างแล้วเขาบอกว่าใช้ทองคำประมาณ ๔๐ กิโลกรัม เริ่มสะสมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทองคำเป็นโลหะที่มีน้ำหนักมาก ถ้าเอาเงินกับทองมาเปรียบกัน ทองคำจะหนักกว่าเกือบสองเท่า ทองคำ ๒ บาทปริมาณจะเท่ากับเงิน ๑ บาท พระทองคำที่จะสร้างกำลังตัดสินใจอยู่ ๒ แบบ คือ สมเด็จองค์ปฐมแบบพระพุทธชินราช อีกแบบหนึ่งเป็นพระพุทธลีลาประทานพรแบบหลวงพ่อพระประธานพุทธมณฑล

แต่คราวนี้พระปางลีลาช่างคำนวณทองคำไม่ถูก เขาเคยแต่หล่อพระนั่ง พระยืนช่างยังคำนวณทองคำไม่ได้ ตอนนี้หัวหงอกไปแล้ว เขาบอกว่าอาจจะต้องหล่อเงินสักองค์หนึ่งก่อน เพื่อที่จะได้คำนวณได้ว่าใช้ทองประมาณเท่าไร ถ้าหล่อเงินอีกสักองค์อาตมาก็หมดอีกเป็นล้าน วันก่อนคำนวณคร่าว ๆ ว่า โครงการนี้น่าจะต้องใช้เงินถึงสามสิบล้านเศษ ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 26-02-2019 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 04-12-2012, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง ช่วงที่วัดมีงาน ก็จะมีระยะเวลา ๒ วันเป็นอย่างน้อย เพราะว่าต้องเตรียมงานล่วงหน้าด้วย แต่มีอยู่งานหนึ่งที่เป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชร วันรุ่งขึ้นเป็นงานประจำปี จึงมีคนนอนค้างอยู่วัดประมาณสองแสนคนเห็นจะได้

ปรากฏว่าพระในวัดต้องฉันยาชูกำลัง บางท่านเอายาชูกำลังผสมกาแฟเลย..! สรุปว่าอาตมายืนด้วยกำลังของตัวเองจริง ๆ ไม่เอาพวกของแบบนี้เลย จนงานเสร็จผ่านไป อาตมาได้นอนคืนหนึ่งก็ลุกขึ้นบิณฑบาตได้ นอกนั้นสลบไสลหมดทั้งวัดเลย..! เพราะเขาใช้ทุนสำรองจนหมดเกลี้ยงแล้วอาตมาไม่ยอมใช้ทุนสำรองหรอก งานอย่างนี้ไปใช้ทุนสำรอง ถึงเวลาหมดแล้วหมดเลยก็ตายสิ..!

หลวงพ่อเองท่านก็ไม่ไหว ท่านแอบทำมือกับหลวงพี่ประทีป ทำท่าให้รู้ว่าเอายาชูกำลังใส่ลงไปในกาแฟให้ด้วย ยังไม่รู้ว่าถ้าเจอแบบนั้นตอนอายุเท่าหลวงพ่อนี้อาตมาจะไหวไหม เห็นท่านแอบทำมือแล้วยังขำ ๆ หลวงพี่ประทีปก็รู้ทันพนมมือรับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2012 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 06-12-2012, 10:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการมีบุตร พระพุทธเจ้าบอกว่า ๑. ชายหญิงอยู่ร่วมกัน ๒. หญิงนั้นอยู่ในวัยมีระดู ๓. สัตว์ที่จะเกิดนั้นมีอยู่ ฟังดี ๆ นะ..ชายหญิงอยู่ร่วมกัน ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ได้ ตัวอย่างเช่นพ่อแม่ของสุวรรณสาม ต่างบวชต่างถือศีล ๘ ทั้งคู่ ในอดีตพ่อแม่ของสุวรรณสามเป็นหมอยารักษาตามีชื่อเสียงมาก รักษาใครต้องหายทุกราย

แต่มีเศรษฐีคนหนึ่งขี้โกง ตอนที่รักษาให้เศรษฐีสัญญาว่าจะให้เงิน พอถึงเวลารักษาหายแล้วกลับไม่อยากเสียเงิน จึงแกล้งบอกว่าไม่หาย พ่อแม่ของสุวรรณสามรักษาครบตามกระบวนการของตัวเองก็รู้ว่าเศรษฐีต้องหายแน่ บอกว่าไม่หายแสดงว่าตั้งใจโกง ก็เลยบอกว่า ถ้าท่านมาเอายาตำรับสุดท้ายไปหยอด คราวนี้น่าจะต้องหาย เศรษฐีเอายาไปหยอดก็ตาบอดไปเลย

พอมาเกิดเป็นพ่อแม่ของสุวรรณสามได้ออกบวชเป็นฤๅษีทั้งคู่ พระอินทร์ท่านเล็งเห็นว่า ถ้ากรรมเก่าที่ทำเศรษฐีตาบอดตามมา ดาบสทั้งสองก็จะต้องตาบอดตอนแก่ แล้วจะลำบากเพราะไม่มีใครดูแล พระอินทร์จึงลงมาแนะนำว่าให้มีลูกสักคนหนึ่ง แต่พ่อแม่ของสุวรรณสามบอกว่าตัวเองเป็นดาบสถือศีล ๘ อยู่ อย่างไรเสียก็ไม่ยอมทำลายศีล

พระอินทร์บอกว่า แค่เอามือสัมผัสหน้าท้องของดาบสินีก็พอ ดาบสบอกว่า ถ้าเพียงเท่านั้นก็ได้ พอเอามือแตะท้องของดาบสินีก็ตั้งท้องเลย เพราะฉะนั้น..ฟังให้ดี ๆ ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า การที่จะตั้งครรภ์มีบุตรได้นั้น คือ สามีภรรยาอยู่ร่วมกัน ๑ ภรรยาอยู่ในวัยมีระดู ๑ สัตว์ที่จะเกิดมีอยู่ ๑ ถ้าครบสามส่วนนี้ก็สามารถตั้งครรภ์ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 06-12-2012, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เพราะฉะนั้น..ถ้าใครมาจ้องหน้าเรานาน ๆ ก็อย่าเผลอให้เขาแตะตัวของเรานะ เดี๋ยวจะท้องเป็นปลากัด เราลองนึกถึงว่าแค่เหงื่อมือเราก็มีดีเอ็นเอส่วนหนึ่งของเราแล้ว คราวนี้เรื่องของการเกิดนั้นมีความพิลึกพิลั่น มีความเป็นไปได้ของกรรม พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่าพุทธวิสัย ๑ ฌานวิสัย ๑ กรรมวิบาก ๑ โลกจิณไตย ๑ ไม่ควรคิด บุคคลที่คิดพึงมีส่วนของความเป็นบ้า

ดูอย่างคุณมงคลของเรา พ่อก็ทำหมันแม่ก็ทำหมัน แต่ก็ยังเกิดมาได้ จะว่าอย่างไรได้ บอกแล้วว่าพ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน แม่อยู่ในวัยมีระดู สัตว์ที่จะเกิดนั้นมี ก็เกิดมาจนได้แหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 06-12-2012, 10:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การเวียนว่ายตายเกิดสูงกว่า ?
ตอบ :สัตว์โลกปัจจุบันนี้ยิ่งเกิดยากเข้าไปอีก เพราะมีการคุมกำเนิด ดูอย่างคุณแม่ที่มีลูกแฝดแปด เขาไม่รู้จะเกิดที่ไหนก็ต้องประดังลงไปที่เดียว เพราะว่าเวรกรรมทำให้แปดคนนี้มาอยู่แถว ๆ นั้น แล้วก็เจอกรรมในลักษณะอย่างนั้น ๆ ในเมื่ออาศัยท้องคนข้างเคียงไม่ได้ คนนี้โอกาสเปิดเขาก็ลงพรวดเดียวเลย ทางการต้องยื่นมือเข้าไปช่วย ไม่อย่างนั้นก็เลี้ยงลูกไม่ไหว ได้ยินข่าวว่าตายไปคนหนึ่งแล้ว

แทนที่จะมาเป็นคู่หรือเป็นเดี่ยว กลับมาเป็นครอกเลย ครอกนะไม่ใช่คอก คอกหมายถึงที่ขังหมูขังหมา คำว่าครอกหมายถึงจำนวนสัตว์ที่เกิดมามาก ๆ ในชุดหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 06-12-2012, 10:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๕ พฤศจิกายน ลาวจะประกาศใช้ ๔ จีอย่างเป็นทางการ ช่วยกันโมทนากับเขาด้วยนะ ไม่รู้เขมรจะใช้เมื่อไร แต่เมื่อประมาณเดือนเมษายน อาตมาไปเขมรก็มีโฆษณาเตรียมใช้ ๔ จีแล้วเหมือนกัน พอดีลาวจัดประชุมอาเซม ก็เลยฉวยโอกาสประกาศใช้ ๔ จีให้โลกรู้ว่าเขาทันสมัยแล้ว

สรุปว่ารอบบ้านเราเปลี่ยนแปลงหมดแล้ว แต่เมื่อเช้าชื่นใจหน่อย รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ประกาศยอมรับผลการวิจัยที่ว่า ประเทศไทยพูดภาษาอังกฤษได้แย่ที่สุดในอาเซียน เขาก็เลยจะหาทางกระตุ้นเด็ก ๆ ใช้ฝึกซ้อมภาษาอังกฤษให้ดีกว่านี้

อาตมาเองเพิ่งจะฝากหมอทศพร เสรีรักษ์ ไปว่า ช่วยคืนไม้เรียวให้ครู แล้วก็ให้เด็กสอบตกได้ เอาร้อยละ ๕๐ เป็นเกณฑ์ ไม่อย่างนั้นเด็กสอบตกไม่ได้ก็จะไม่สนใจเรียน แล้วดันไปยึดไม้เรียวจากครู ครูก็ตีเด็กไม่ได้อีก ฉะนั้น..การศึกษาเราจึงห่วยแตกจนรั้งท้ายสุดของอาเซียน ต่อไปจะรั้งท้ายสุดของโลกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ตราบใดที่ไม่คืนไม้เรียวให้ครูแล้วไม่ให้เด็กสอบตก ก็มีแต่จะบรรลัยไปเรื่อย

ถ้าเด็กสอบแล้วมีตก อย่างไรเขาก็ต้องอ่านหนังสือ จะเห็นว่าเด็กรุ่นอาตมาเกเรขนาดไหนก็ตามแต่มีความรู้ เพราะบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ ไม่อย่างนั้นจะสอบตก เด็กรุ่นใหม่พอสอบไม่ตกก็ไม่ใส่ใจแล้ว เวลาสอนครูสอนอยู่ข้างหน้าก็สอนไป ท้ายห้องก็นั่งแต่งหน้าทาปากไป รุ่นของอาตมามีแปรงลบกระดานบินได้ แต่รุ่นนี้ไม่มี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 06-12-2012, 10:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความคิดที่จะให้ทุกคนจบมาเสมอหน้ากันเป็นความคิดที่ดี แต่ทำให้เด็กส่วนหนึ่งไม่รับผิดชอบตัวเองเลย เด็กเราสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิก ได้มา ๑๒ เหรียญทอง แต่ขณะเดียวกันอีกจำนวนมากเลยเรียนชั้น ป.๖ แล้วยังอ่านหนังสือไม่ออก เพราะฉะนั้น..อย่างไรก็ต้องให้ตก รุ่นที่อาตมาเรียน เข้าเรียนตอนอายุ ๘ ขวบ มีเพื่อนร่วมชั้น ป.๑ อายุ ๑๗ ปี แปลว่าเขาตกมา ๙ ปีแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 06-12-2012, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จังหวัดลำปางมีพระพุทธรูปสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้ ก็คือพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ท่านพระราชทานให้ ๔ ทิศ ทิศเหนืออยู่ที่จังหวัดลำปาง ทิศตะวันออกอยู่ที่สระบุรี ทิศตะวันตกอยู่ราชบุรี ทิศใต้อยู่ที่พัทลุง ที่จังหวัดลำปางเขาเอาไว้บริเวณเดียวกับศาลหลักเมือง ฉะนั้น..ถ้าไปไหว้หลักเมือง เดินเลยไปหน่อยก็ได้ไหว้หลวงพ่อนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศด้วย

พระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้พระราชทานพระแสงราชศาสตราให้แก่เมือง ซึ่งก็คือจังหวัดต่าง ๆ การพระราชทานพระแสงราชศาสตราครั้งสุดท้ายอยู่สมัยในหลวงรัชกาลที่ ๗ ผู้ที่รับพระแสงราชศาสตราไปเท่ากับถืออาญาสิทธิ์แทนในหลวง เพราะฉะนั้น..จะต้องเป็นคนที่ทรงคุณธรรมจริง ๆ ถ้าเป็นสมัยโบราณนี้สามารถประหารได้ค่อยกราบทูล

พอมารัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านทรงสร้างพระพุทธนวราชบพิตรพระราชทานแทน จนบัดนี้ยังได้ไม่ครบทุกจังหวัด คราวนี้การสร้างพระพุทธนวราชบพิตรไม่ได้ยาก ไปยากตรงพระผงกำลังแผ่นดิน ที่พวกเราเรียกว่า สมเด็จจิตรลดา พระพุทธนวราชบพิตร ๑ องค์ ในหลวงจะติดพระกำลังแผ่นดินไว้ที่ฐานบัว ๑ องค์ ก็เลยไปช้าตรงนั้น

เมื่อต้นปีเพิ่งจะได้ข่าวสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร แสดงว่ายังได้ไม่ครบทุกจังหวัด จังหวัดเกิดใหม่ก็ยังไม่มี สรุปว่าพระพุทธนวราชบพิตรเป็นการพระราชทานแทนพระแสงราชศาสตรา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2014 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 06-12-2012, 13:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่ละจังหวัดก็ไม่ค่อยที่จะได้ทำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้เพื่อไปกราบไหว้ อาจจะเป็นเพราะว่าถ้าไว้ในที่เปิดหรือที่สาธารณะ อาจจะหายได้ ส่วนใหญ่ก็เก็บไว้ที่ศาลากลางจังหวัด อย่างจังหวัดกาญจนบุรีเขาเก็บอยู่ที่กองคลัง เก็บใส่ตู้เซฟไว้เลย แล้วจะไปไหว้กันอย่างไร ?

จริง ๆ แล้วน่าจะมีการอาราธนาให้ชาวบ้านได้บูชาได้สรงน้ำสักปีละ ๒ - ๓ ครั้ง ช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรือถ้าจังหวัดไหนมีความกระตือรือร้นหน่อย ก็รวมวันสำคัญทางศาสนาไปด้วย แห่เทียนพรรษาก็เอาพระพุทธนวราชบพิตรแห่นำขบวนไปเลย คนจะได้รู้กันทั่วมากกว่านี้ หรือไม่ก็เวลาสรงน้ำพระก็เอาพระพุทธนวราชบพิตรใส่รถแห่ทั่วเมือง เอาพระประธานองค์ใหญ่ใส่รถแห่ไปด้วย เอาพระสำคัญ ๆ ของจังหวัดแห่ไปด้วย

แต่พระพุทธนวราชบพิตรควรที่จะเป็นรถต่างหากคันหนึ่งไปเลยเพราะเป็นพระสำคัญที่ในหลวงพระราชทาน อาจจะเป็นเพราะว่างานของผู้ว่าแต่ละท่านล้นมืออยู่แล้ว งานของมวลชนพวกนี้ก็เลยไม่ได้ทำ งานมวลชนนี่ต้องให้นายก อบจ. ทำหนังสือขอยืมพระพุทธนวราชบพิตรไปแห่ให้ญาติโยมได้บูชากันบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 06-12-2012, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ควายธนูเขามีเคล็ดลับว่า ให้ใช้ไม้ไผ่ที่ล้มขวางทางช้าง และไม่ถูกช้างเหยียบแตก เขาถือว่าแคล้วคลาด เป็นไม้เคล็ดอยู่ในตัว เพราะปกติแล้วช้างจะดึงไม้ไผ่เอง ดึงลงมารูดใบกินหมด

เขาให้กลั้นใจฟันทีเดียวให้ขาด แล้วเอามาจักตอกสานเป็นควายธนู หรือสานเป็นวัวธนู แล้วแต่ใครจะมีฝีมือ ถ้าฟันทีเดียวไม่ขาดก็ใช้ไม่ได้ อย่างหลวงปู่ภู ไม้ครูของท่านก็ใช้ไม้ไผ่แบบนี้เหมือนกัน แต่ต้องเอาไปทิ่มศพที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคารให้ได้ ๗ ศพ ก็หายากมาก กว่าจะทำได้ต้องใช้เวลานาน ไม้ครูหลวงปู่ภูจึงกลายเป็นของหายาก บางคนเขาเรียกว่า นิ้วเพชรพระอิศวร ถ้าได้ไปนี่ห้ามแช่งคนอื่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว