กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-02-2024, 19:09
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 351
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 19,129 ครั้ง ใน 830 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-02-2024, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,192 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ตรงกับวันสิ้นปีของจีน ซึ่งพวกเรามักเรียกกันง่าย ๆ ว่า "วันไหว้" ทำให้มีเสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหวรอบวัดตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป แสดงว่ามีพี่น้องเชื้อสายจีนอยู่ในทองผาภูมิไม่น้อยเลย

แต่ว่าดูแล้วก็มีสิ่งที่ผิดเพี้ยนอยู่หลายต่อหลายประการด้วยกัน อย่างเช่นว่า โดยปกติแล้วการบวงสรวง หรือว่าไหว้แม่ย่านางรถนั้น เขานิยมทำกันในช่วงสารทจีน แต่ว่าตรุษจีนนี้ก็เห็นมีกระเซ็นกระสายมาหลายคันเช่นกัน แล้วมีข่าวออกทางสื่อเสียด้วยว่า บางคันจุดธูปเทียนไหว้แล้ว ไม่ได้อยู่เฝ้า ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายไปทั้งคันก็มี..!

ขณะเดียวกัน ในเรื่องของขนมก็มีส่วนเกินมามาก ไม่ได้เป็นขนมตามเทศกาลแบบก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดาคนขายก็ไม่น่าตำหนิ เพราะว่าถ้าทำมาแล้วขายได้ เขาก็ต้องทำอยู่แล้ว ในส่วนคนที่ซื้อต่างหาก ที่ควรจะศึกษาว่าในแต่ละเทศกาลนั้น จะต้องไหว้ด้วยอะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วเราจัดไหว้ไป บุคคลที่รู้จริงมาเห็นเข้าก็ได้แต่ถอนใจ โดยเฉพาะบรรพบุรุษ อาจจะถึงขนาดยืนปลงอนิจจัง ขณะที่เรามองไม่เห็นท่านเสียด้วย..!

โดยเฉพาะหลายต่อหลายแห่งในทองผาภูมิ มีการเซ่นผีไม่มีญาติด้วย กระผม/อาตมภาพเอง เจอมาด้วยตนเองตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ การเซ่นผีไม่มีญาตินั้น เขาจะทำในช่วงสารทจีน มีการจัดข้าวปลาอาหารอย่างดี ปูเสื่อไว้กลางแจ้ง ส่วนใหญ่แล้วทั้งข้าวปลาอาหาร เหล้า น้ำชา หรือว่าขนม ก็มีเป็นสิบ ๆ อย่าง

จากนั้นผู้ใหญ่ก็จะมอบหมายหน้าที่ให้เราจุดธูปไปเชิญบรรดาผู้ที่ไม่มีญาติ หรือว่าญาติลืมไปแล้ว ให้มาร่วมกินข้าวปลาอาหารในวันนี้ ก็คือเราต้องเดินไปทั้ง ๔ ทิศ แต่ละทิศไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ประกาศต่อบรรดาผีไร้ญาติทั้งหลายว่า "ตรงนี้มีข้าวปลาอาหารเลี้ยง ขอให้มากินกันให้อิ่มหนำสำราญ" หลังจากนั้น ก็ถือธูปเดินกลับมา ปักลงที่บริเวณที่ตั้งอาหาร ทั้ง ๔ ทิศก็ทำแบบเดียวกัน

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อได้รับการฝึกมโนมยิทธิในปี ๒๕๒๑ แล้ว กระผม/อาตมภาพก็พยายามซักซ้อมจนเกิดความคล่องตัว คราวนี้ก็มีการอาการเย็นสันหลังวาบ ๆ เพราะเห็นว่าบรรดาผีไม่มีญาตินั้น แต่ละทิศตามมาเป็นร้อย ๆ เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2024 เมื่อ 00:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-02-2024, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,192 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งว่า ตอนแรกได้ยินผู้ใหญ่บอกว่า "อาหารที่เซ่นผีแล้วจะไม่มีรสชาติ เพราะว่าผีกินไปหมด" เมื่อถึงเวลาเสร็จจากการเซ่นผี มีการจุดประทัดเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ลองนำอาหารที่เหลือมากินดู รู้สึกว่าไม่มีรสชาติจริง ๆ ก็คือจืดชืดไปหมด แม้กระทั่งเนื้อไก่ เคี้ยวเข้าไปก็รู้สึกเหมือนกับเคี้ยวกระดาษก็ไม่ปาน ก็ได้แต่คิดว่า อาจจะเป็นเพราะทำอาหารกันตั้งแต่ช่วงสาย ๆ กว่าที่จะทำพิธีเซ่นไหว้เสร็จก็หลายชั่วโมง อาหารที่เย็นแล้ว รสชาติก็อาจจะจืดชืดเป็นธรรมดา

แต่พอไปเจอบรรดาเปรตบ้าง อสุรกายบ้าง ที่ตะเกียกตะกายเสาะหาอาหารสำหรับตนเอง เห็นบรรดาอสุรกายทั้งหลายกินซากสัตว์ ก็กินในลักษณะที่ว่าแหว่งหายไปเป็นตัวเลย แต่ครั้นถึงเวลาเขาเห็นเราแล้ว ตกใจเตลิดหนีไป เมื่อใช้สายตาปกติมองดู ก็ยังเห็นซากสัตว์เป็นตัวอยู่เหมือนเดิม เมื่อไปกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่าพวกนี้เขากินในส่วนของนามธรรม ในเมื่อกินในส่วนของนามธรรม บางทีก็เป็นแค่กลิ่นหรือว่ารส ไม่ใช่เป็นรูปที่โดนกินลงไป ดังนั้น..รูปที่เหลืออยู่ บางทีก็ไม่มีรสอะไรเหลือเลย อย่างอาหารที่เขาไหว้ผีตอนสารทจีน เป็นต้น

กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งจะเข้าใจในตอนนั้นเองว่า ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บรรดาเปรต อสุรกาย ตลอดจนสัมเวสีทั้งหลาย เขากินในส่วนของนามธรรม จึงให้น้องชาย ซึ่งปัจจุบันคือพระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ ลองไปกินเหล้าที่เซ่นผีดู เนื่องเพราะว่าตอนนั้นน้องชายยังไม่เว้นของพวกนี้ ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นกินของพวกนี้ไม่ได้เลย น้องชายจัดการซดเหล้าขาวไป ๑ ถ้วย แล้วก็บอกว่า "กลิ่นยังมีนะครับ แต่รสเหมือนกับน้ำเปล่า ไม่รู้สึกว่าบาดคออะไรเลย"

กระผม/อาตมภาพถึงได้มั่นใจว่า บรรดาพวกผีที่มากิน ตามที่เราเห็นด้วยมโนยิทธิ กับข้าวปลาอาหารที่เป็นวัตถุซึ่งเราจับต้องได้นั้น เขากินในส่วนที่เราจับต้องไม่ได้ ก็คือในส่วนของนามธรรมไป ในส่วนของรูปนั้นยังคงอยู่ แต่ว่าก็มีรสชาติที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะว่าส่วนของนามธรรมนั้นหายไปแล้ว

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกกล่าวในที่นี้ก็คือ มีบางวัดตั้งโต๊ะไหว้เจ้าด้วย กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็งง ๆ
เนื่องเพราะถ้าหากเรายึดพระรัตนตรัยเป็นหลัก การที่ไปไหว้เจ้า ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้หลุดจากสรณคมน์ไปเลยก็ได้ เนื่องเพราะว่า "เจ้า" ส่วนมากที่กระผม/อาตมภาพเจอมานั้น ก็เป็นเทวดาชั้นต่ำ คำว่าเทวดาชั้นต่ำ ก็คือยังมีเทวดาที่มีศักดานุภาพเหนือกว่า คอยคุมเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2024 เมื่อ 00:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-02-2024, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,192 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างที่กระผม/อาตมภาพไปดูการแห่ "เจ้า" ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปรากฏว่ารอดูเท่าไร "เจ้า" ก็ไม่ยอมลงเสียที ทั้ง ๆ ที่ม้าทรงพร้อมแล้วพร้อมอีก จึงตั้งใจดู ปรากฏว่าเห็นเทวดาที่รักษาบริเวณนั้นยืมคุมอยู่ไม่ห่าง ถามว่า "ทำไมถึงไม่ลงเสียที ?" เขาบอกว่า "พวกนี้เกรงใจท่านครับ เลยไม่กล้าลง..!"

กระผม/อาตมภาพจึงบอกกับเทวดาซึ่งท่านคุมอยู่ว่า "บอกให้พวกนั้นลงได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ" เพราะว่ากระผม/อาตมภาพอยากดูว่า เมื่อลงแล้วเป็นอย่างไร ปรากฏว่าเมื่อได้รับอนุญาต บรรดาเทวดาชั้นต่ำก็ลงกันแหลกลาญ ลงจนกระทั่งคนที่คุมขบวนด้วย จนต้องไปให้หัวขบวนเป็นคนนำออกให้ เมื่อออกมาแล้ว จึงไปคุมขบวนต่อไปได้

กระผม/อาตมภาพถามเทวดาท่านว่า "ตรงส่วนนี้ได้อะไร ?" เขาบอกว่า "อย่างน้อยก็ช่วยให้ชาวบ้าน ที่เกิดศรัทธาในการแสดงออกต่าง ๆ ซึ่งดูแล้วเหมือนกับมีอภินิหาร ก็คือมีการแทงปาก เกี่ยวตัวเองด้วยตะขอเหล็ก เหล่านี้เป็นต้น เมื่อศรัทธาแล้วก็ได้ทำบุญกับทางโรงเจมา ทางโรงเจก็ได้นำไปช่วยในงานสาธารณประโยชน์ อย่างน้อยก็เป็นทานในเบื้องต้น"

"ท้าวมหาราชจึงให้พวกกระผมมาคอยดูแลอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาผีอื่น ๆ มาสิงมาแทรกแทน ถ้าหากว่าไม่มีพวกกระผมดูแลอยู่ บางทีม้าทรงเหล่านี้ก็อาจจะมีพวกผีเข้ามาสิงแทนได้ อย่างน้อย ๆ บรรดาเทวดาชั้นต่ำเหล่านี้ เขาก็ยังจัดอยู่ในส่วนของภุมมเทวดาบ้าง รุกขเทวดาบ้าง ไม่ใช่พวกผีทั่วไปที่อาจจะแปรเจตนาเป็นอื่น เนื่องจากว่าไม่มีหิริโอตัปปะคอยควบคุมอยู่"

ดังนั้น..การที่บางวัดไปจัดโต๊ะไหว้เจ้า กระผม/อาตมภาพขอแนะนำว่า ถ้าหากท่านต้องการจะไหว้เจ้า เพราะว่ามีเชื้อสายจีนจริง ๆ ก็ขอให้ไหว้ไปถึง "เจ้าที่ใหญ่ที่สุด" ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ก็คือให้ตั้งโต๊ะไว้หน้าพระพุทธรูปไปเลย หมดเรื่องหมดราว หรือว่าตั้งโต๊ะเอาไว้แล้ว ก็มีพระพุทธรูปตั้งไว้บนโต๊ะสักองค์หนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ว่าเราไหว้พระพุทธเจ้าลงมา แต่ว่าให้ยกเอาในส่วนที่เป็นสุราออกเสีย อย่าให้มีอยู่ในพิธี ไม่เช่นนั้นแล้วคนอาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2024 เมื่อ 00:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-02-2024, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,192 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือ วันนี้มีข่าวพระสงฆ์ไปไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมด้วย ท่านจะไปถือว่าเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน กระผม/อาตมภาพขอเรียนถวายว่าไม่เหมือน เจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ว่าเป็นพุทธศาสนามหายาน โดยเฉพาะท่านอยู่ในรูปของสตรี พระภิกษุเราจะไปแสดงความเคารพ โดยการกราบ การไหว้นั้นไม่สมควร คนที่ไม่เข้าใจอาจจะตำหนิเอาได้

ขณะเดียวกัน ก็เป็นการลดคุณค่า ลดราคาของพุทธศาสนาเถรวาทของเราลงไปอีก เนื่องเพราะว่าญาติโยมส่วนใหญ่พอเห็นว่า พระสงฆ์ยังไปไหว้ไปกราบเจ้าแม่กวนอิม ก็เห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าหาวัดวาอารามในพระพุทธศาสนาเถรวาทก็ได้ เพราะว่าพระสงฆ์เถรวาท ยังไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ของมหายานอยู่เลย..!


สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่เรื่องของการลดมานะ ไร้มานะ แล้วท่านจะไปกราบไปไหว้ใครก็ได้ เพราะว่าสิ่งที่ท่านทำนั้น จะสร้างความเข้าใจผิด และสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา

พระภิกษุสามเณรนั้นเป็นปูชนียบุคคลที่คนเขาเคารพบูชาเป็นปกติ สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำ จะมีอิทธิพล อย่างน้อย ๆ ก็ต่อคณะศิษย์ของเราเอง ถ้ามีคนเคารพนับถือมาก ก็จะมีอิทธิพลต่อพระพุทธศาสนาส่วนรวมไปด้วย เราจึงต้องระมัดระวังในการกระทำ ในคำพูด ตลอดจนกระทั่งในความคิดของเราเอง อย่าให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาได้

ถ้าท่านไม่มั่นใจ ว่าจะทำให้เกิดความเสียหาย หรือว่าเสื่อมเสียหรือไม่ ก็ให้สอบถามจากครูบาอาจารย์ หรือว่าบุคคลที่ท่านรู้จริง เมื่อได้รับการชี้แจงแล้ว จะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2024 เมื่อ 00:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว