กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-02-2024, 18:24
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,649
ได้ให้อนุโมทนา: 216,903
ได้รับอนุโมทนา 747,739 ครั้ง ใน 36,428 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-02-2024, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,332 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษีแต่เช้ามืด เพื่อทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับพระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร. เหตุที่ต้องรีบไปตั้งแต่เช้ามืดเช่นนั้น ก็เพราะว่ายังมีภารกิจต่อเนื่องอีกหลายแห่ง เมื่อเสร็จจากการปลุกเสกวัตถุมงคลแล้ว พระวินัยธรจิตศิลป์, ดร.ถวายปัจจัยมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพรับมาก็ไม่ได้รู้สึกดีใจนัก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ต่าง ๆ นั้น ต่างก็พยายามที่จะช่วยกันแบ่งเบาภาระของกระผม/อาตมภาพ ตามกำลังที่ตนทำได้ การถวายปัจจัยในครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเกรงว่า
ในเมื่อตนเองไม่บอกบุญ ไม่เรี่ยไร ผู้อื่นไปดำเนินการแทนในลักษณะอย่างนี้ จะทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นในหมู่ลูกศิษย์หรือไม่ ?

จะว่าไปแล้ว ก็อาจจะเป็นการฟุ้งซ่านไปล่วงหน้าของกระผม/อาตมภาพเองก็ได้ เพราะว่าบรรดาลูกศิษย์แต่ละท่าน ก็ได้อยู่รับการอบรมสั่งสอนไปหลายปี กว่าที่จะออกไปเป็นเจ้าสำนักต่าง ๆ แต่ว่าส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น "ยังไม่สุกงอม" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่จะทำผิดทำพลาดก็ย่อมมีอยู่ กระผม/อาตมภาพจึงค่อนข้างที่จะเป็นห่วง เมื่อเห็นในสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นคิดจะแบ่งเบาภาระ ด้วยการหาเงินหาทอง
มาถวาย เพื่อกระผม/อาตมภาพจะได้นำไปใช้จ่ายในง่านต่าง ๆ แบบนี้

เมื่อออกมาจากเกาะพระฤๅษีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดตะคร้ำเอน ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมงานวันบูรพาจารย์ของวัดตะคร้ำเอน โดยนำปัจจัย ๑๐๐,๐๐๐ บาท ไปถวายแก่หลวงพ่อโท (พระครูวิสาลกาญจนกิจ) เจ้าอาวาสวัดตะคร้ำเอน รองเจ้าคณะอำเภอท่ามะกา เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถไม้หลังใหม่ของวัดตะคร้ำเอน

หลวงพ่อโทนั้น อายุกาลผ่านวัยก็มาถึง ๗๖ ปีแล้ว ท่านตั้งใจจะสร้างเป็นผลงานชิ้นสุดท้าย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเสาอุโบสถซึ่งทั้งสูงทั้งใหญ่นั้น เป็นไม้สักทองทั้งสิ้น กระผม/อาตมภาพเมื่อได้คุยกับท่านเมื่อวันก่อน ปรารภมาถึงเรื่องนี้ ก็บอกว่า กระผม/อาตมภาพจะร่วมบุญในการสร้างอุโบสถไม้หลังประวัติศาสตร์กับท่านด้วย วันนี้จึงนำเอาปัจจัยจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท มาถวายให้กับท่านตามที่ได้ตั้งใจไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-02-2024, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,332 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่พิจารณาผ้าไตรบังสุกุลในงานวันบูรพาจารย์ของวัดตะคร้ำเอนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางต่อไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) นำเอาปัจจัยอีก ๑๐๐,๐๐๐ บาท ไปถวายต่อพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เพื่อสนับสนุนงานอบรมบาลีก่อนสอบประจำปี ๒๕๖๗

เนื่องเพราะว่างานอบรมบาลีนั้น มีการถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสามเณรผู้เข้าอบรม รวมทั้งพระวิทยากร ประมาณ ๕๐๐ รูป ถือว่าเป็นมหาสังฆทานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเราควรจะฉวยโอกาสได้ทำบุญในครั้งนี้ไว้ แล้วในขณะเดียวกัน ก็ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บังคับบัญชา ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ซึ่งหลายท่านเรียกกันง่าย ๆ แบบนี้ด้วยความเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว

เนื่องจากว่าแต่ละมื้อ แต่ละงานนั้น ล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายในระดับเป็นแสนบาท แล้วการอบรมบาลีก่อนสอบนั้นก็มีถึง ๑๗ วันด้วยกัน แต่ละวัน ถ้าหากว่าจ่ายค่าอาหาร ๑๐๐,๐๐๐ บาท ท่านต้องคิดว่าเป็นเงินเท่าไร ต่อให้วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) มีมูลนิธิอยู่ แต่ว่าการเบิกเงินจากมูลนิธิ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปโดยยาก เพราะว่าไม่สามารถที่จะเบิกเงินต้นได้ แล้วการเบิกดอกผลออกมา เพื่อทำการบุญต่าง ๆ นั้น ก็ต้องมีคณะกรรมการที่จะประชุมลงความเห็นว่า งานนี้จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้เบิกจ่ายได้เท่าไร เป็นต้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นบุคคลที่ใช้เงินไม่คิด เพิ่งจะรับมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท ยังไม่ถึงครึ่งวัน ก็จ่ายออกไป ๒๐๐,๐๐๐ บาทแล้ว..!
เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านที่เป็นฆราวาส จะต้องยั้งคิดว่า การทำบุญของเรานั้น ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อนหรือไม่ ? ส่วนกระผม/อาตมภาพ ในฐานะของพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้น จะว่าไปแล้ว เงินเป็นส่วนเกินในชีวิต มีแต่จะสร้างภาระให้เสียด้วยซ้ำไป กระผม/อาตมภาพเองจึงมักจะใช้เงินแบบไม่คิดอย่างนี้

ยังดีที่ว่าวันนี้ในช่วงบ่ายมีการประชุมคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้น ตัวกระผม/อาตมภาพซึ่งได้รับการประสานงานจากท่านเจ้าคุณอาจารย์มีชัย - พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ ป.ธ.๙, ผศ.ดร.) เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ซึ่งท่านเองเป็นครูบาอาจารย์ในสังกัดของวิทยาลัยสงฆ์บาฬีพุทธโฆส ได้ติดต่อขอนำพระนิสิตโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สาขาวิปัสสนาภาวนา ไปเดินธุดงค์ธรรมยาตราที่ทางอำเภอทองผาภูมิ เป็นเวลา ๑ อาทิตย์ ก็คือตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ถึงวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗ นี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-02-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,332 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงจัดให้เดินธุดงค์จากวัดท่าขนุนไปวัดวังปะโท่ จากวัดวังปะโท่ไปวัดนพเก้าทายิการาม จากวัดนพเก้าทายิการามเข้าไปยังสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง แล้วหลังจากนั้นก็เดินธุดงค์ย้อนรอยถอยหลังกลับมา ทำการปิดโครงการที่วัดท่าขนุน

โดยได้รับความเมตตาจากทางท่านพระครูสุตกาญจนวัฒน์. ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ เป็นกำลังใหญ่ในการถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในช่วงที่อยู่ที่วัดวังปะโท่

ได้รับความเมตตาจากพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพล ในขณะอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง

พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ และพระครูกิตติกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม รับภาระถวายภัตตาหารเช้า - เพลในช่วงอยู่ที่วัดนพเก้าทายิการาม

พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ จะถวายน้ำปานะทั้งขาไปและขากลับ ช่วงผ่านวัดเขื่อนวชิราลงกรณ จึงทำให้กระผม/อาตมภาพนั้น เบาในเรื่องภาระไปเป็นอันมาก รับผิดชอบภาระเฉพาะช่วงที่ท่านมาพักอยู่ที่วัดท่าขนุน ในช่วงวันที่ ๕ และขากลับในวันที่ ๑๑ เท่านั้น

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า แม้แต่คณะสงฆ์ของเรา ก็ยังมีการสร้างกองบุญการกุศลเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุข

แม้แต่หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราช (ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ก็ได้กล่าวเอาไว้เป็นอมตวาจาว่า "ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ตราบนั้นเรายังจำเป็นต้องสร้างบุญกุศลให้มากเข้าไว้ เนื่องเพราะว่าบุญกุศลนั้น จะส่งผลแต่ในด้านดีอย่างเดียวต่อชีวิตของเราในทุกชาติทุกภพ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-02-2024, 00:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,332 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ญาติโยมทั้งหลายที่ได้เห็นพระภิกษุสามเณร ได้กระทำกองบุญการกุศล ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือวัดวาอารามอื่นในการสร้างถาวรวัตถุก็ดี ช่วยในการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ด้วยการสนับสนุนปัจจัยหรือว่าภัตตาหารก็ดี ตลอดจนกระทั่งสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เช่นโครงการธุดงค์ธรรมยาตราในครั้งนี้ก็ตาม ในเมื่อท่านเป็นนักบวช เป็นปูชนียบุคคล ยังเพียรสร้างบุญสร้างกุศลขนาดนี้ แล้วเราท่านทั้งหลายจะอยู่ในความประมาท ไม่ยอมสร้างบุญกุศลแล้วหรือ ?

บุคคลเป็นจำนวนมากต่อมากด้วยกัน ที่ชีวิตเห็นผิดเป็นชอบ อย่างเช่นว่ามีความต้องการแก้กฎหมายเพื่อความเป็นธรรมต่าง ๆ จนกระทั่งไปละเมิดสถาบันเบื้องสูง ซึ่งแนวคิดทั้งหลายเหล่านี้ เคยมีปรากฏในลัทธิคอมมิวนิสต์มาแล้ว ซึ่งลัทธินั้นต้องการให้เกิดความเสมอภาค แต่ไม่ได้คำนึงถึงว่า แต่ละคนสร้างกรรมดีกรรมชั่วมาไม่เท่าเทียมกัน จะให้ทุกคนได้รับความเสมอภาคเหมือนกันนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ ประกอบกับมีกำลังจากภายนอกที่ไม่หวังดีปรารถนาดีต่อประเทศชาติของเรา แอบให้การสนับสนุน เพื่อสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น แล้วก็จะมาแสวงหาประโยชน์จากประเทศชาติของเรา

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราเดินอยู่ถูกที่ถูกทาง มีความเป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะว่าเรามีบุญเป็นเครื่องหนุนเสริม เราก็จะไม่พลาดไปทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามอย่างที่ทุกท่านเห็นอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็เป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายปกครอง เราท่านทั้งหลายทำแค่เพียรสั่งสมบุญกุศลไปด้วยกัน

และขออาศัยโอกาสนี้เจริญพรขอบพระคุณท่านผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ควักตลับสีผึ้งเก่า ๆ ของท่าน นำเอาเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยในตลับสีผึ้งออกมาถึง ๙ ตัว มอบให้กระผม/อาตมภาพ ร่วมบุญกุศลในการสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน โดยที่กำชับมาว่า "ขอตัวละ ๕๐,๐๐๐ บาทก็พอนะครับหลวงพ่อ เพราะว่าสมัยก่อนนั้น ผมได้บูชามาในตัวละไม่ถึง ๕๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น" กระผม/อาตมภาพขอเจริญพรขอบคุณท่าน ทั้งที่อยากจะเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม แต่ท่านไม่ยินดีด้วย คงจะกลัวว่ามีผู้รู้แล้วไปรบกวนท่านถึงบ้านอย่างไรก็ไม่ทราบ ?!

ญาติโยมทั้งหลายที่ต้องการบูชาเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นตัวเล็ก ๆ ประเภทที่เรียกว่า "สาลิกา" แม้จะไม่ถึงขนาดสาลิกาจิ๋วที่กระผม/อาตมภาพนำออกให้บูชา ซึ่งสร้างมาจากเขี้ยวเสือไฟ บางตัวก็เล็กแค่เมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น แต่ว่าสาลิกาของท่านก็จัดอยู่ในประเภทเล็ก เพราะว่าตลับสีผึ้งใบเดียวบรรจุถึง ๙ ตัวด้วยกัน..!

เพียงแต่ว่าผู้ที่จองเข้ามา คงไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าต้องการตัวไหน ต้องขอให้วัตถุมงคลเป็นผู้เลือกเจ้าของเอาเองก็แล้วกัน อีกไม่กี่วัน น่าจะให้ไอ้ตัวเล็กนำลงในกระทู้สร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ให้ทุกท่านได้บูชากันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2024 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว