กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-08-2010, 10:28
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default การพึ่งตนเองด้วยปัญญา

การพึ่งตนเองด้วยปัญญา
กับการตัดกรรมของพระฉันนะ


ในวันเดียวกันนั้นเพื่อนของผมท่านมีปัญหาคาใจ แต่ไม่กล้าทูลถามพระพุทธองค์ สมเด็จองค์ปฐม ก็ทรงเมตตามาตรัสสอนว่า

๑. “แค่เจ้าคิดตถาคตก็รู้แล้ว จักต้องพูดเพื่อประโยชน์อันใด ไม่มีการตรัสพยากรณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับเรื่องของท่านฤๅษีต่อไปอีก ให้เจ้ารู้อยู่แต่ในธรรมปัจจุบัน เจ้าพึงศึกษาและเรียนรู้เข้าไว้ เพื่อจักทำให้อารมณ์จิตเป็นสุข

๒. “ธรรมนี้เพื่อช่วยอารมณ์จิตของเจ้าเอง เหมือนอย่างกับที่องค์สมเด็จปัจจุบัน ทรงตัดกรรมให้กับพระฉันนะ ให้ละจากธรรมในอดีตที่เป็นสหชาติกับพระองค์ลงเสีย ให้ละจากธรรมอนาคตทั้งหมดที่มุ่งหวังจากพระทุกองค์ ในความเกื้อกูลเนื่องด้วยความเป็นสหชาตินั้น พระฉันนะยึดอดีตไม่ได้ เพราะขันธ์ ๕ ขององค์สมเด็จพระจอมไตรทรงปรินิพพานไปแล้ว จักยึดอนาคตเพื่อพึ่งใครก็ไม่ได้ เพราะถูกสั่งลงพรหมทัณฑ์ คือ อยู่แต่ผู้เดียว จึงอยู่กับธรรมปัจจุบันอันเดียวดายนั้น เป็นการบีบบังคับให้พระฉันนะต้องพึ่งตนเอง

๓. “การคิดและพิจารณาธรรมอยู่ในปัจจุบันนั้น คือ การพึ่งตนเองด้วยปัญญา โดยยึดอริยสัจ คือ ทุกขสัจเป็นที่ตั้ง ในที่สุดพระฉันนะก็จบกิจได้ด้วยธรรมปัจจุบันนั้น เห็นสภาพความเป็นจริงของขันธ์ ๕ ที่เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง ยึดถืออะไรไม่ได้ เห็นสภาพความเป็นจริงของกิเลสที่เป็นเจ้านาย ครอบงำอารมณ์ของจิตที่ทำให้ตกเป็นทาสของมัน ทำให้จิตเคลื่อนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพิจารณาถึงที่สุดพระฉันนะก็หมดทุกข์ เห็นองค์สมเด็จพระจอมไตรอยู่ที่พระนิพพานอย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อบรรลุถึงธรรมวิมุติแล้ว พระฉันนะก็คิดถึงคุณและโทษของการอยู่ว่า จักมีประโยชน์หรือไม่ เมื่อเห็นว่าเป็นโทษก็ยอมละทิ้งขันธ์ ๕ เพื่อไปนิพพานดังกล่าว ตถาคตจักถามเจ้าดูว่า พระฉันนะฆ่าตัวตาย เพราะอาลัยในขันธ์ ๕ หรือไม่” (ก็ตอบว่า ไม่อาลัย)

๔. “ใช่ เพราะท่านหมดอารมณ์ที่จักอาลัยแล้ว ต่างกับคนที่ฆ่าตัวตายเพราะมีอารมณ์ไม่รักก็ชัง จึงไม่พ้นทุกข์ ตถาคตยกเรื่องนี้ให้เจ้าได้คิดพิจารณา พระที่ท่านได้พระอรหัตผล เพราะตัดความรักอาลัยในขันธ์ ๕ หมดจากอารมณ์เบียดเบียนกายและจิตแล้วจึงพ้นทุกข์ ขอให้เจ้าศึกษาธรรมในปัจจุบันให้ดี ๆ ละจากธรรมที่เป็นอดีตและอนาคตเสีย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 11-08-2010 เมื่อ 10:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-08-2010, 16:12
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default พรหมทัณฑ์ กับธัมมวิจัยเรื่องพระฉันนะ

พรหมทัณฑ์ กับธัมมวิจัยเรื่องพระฉันนะ


ในวันอังคารที่ ๑๐ ส.ค. ๒๕๓๖ เมื่อเอาคำสอนของพระองค์ เรื่อง พระฉันนะถูกลงพรหมทัณฑ์แล้ว ท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร มาใคร่ครวญ มีผลสรุปได้ดังนี้

๑. การถูกลงพรหมทัณฑ์ มีผลทำให้พระฉันนะต้องวางอดีต วางอนาคต และมาอยู่กับปัจจุบันธรรมอย่างเดียว

๒. ท่านจะยึดขันธ์ ๕ หรือร่างกายของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งก็ไม่ได้ เพราะพระองค์ทรงปรินิพพานไปแล้ว จึงเท่ากับเป็นอดีตธรรม

๓. ท่านจะยึดพระสาวกทั้งหลายเป็นที่พึ่งก็ไม่ได้ เพราะพระพุทธองค์สั่งให้ลงพรหมทัณฑ์ไว้ เมื่อพระองค์ทรงเข้าสู่ปรินิพพานไปแล้ว หมายความว่าห้ามพูดด้วย ห้ามคบค้าสมาคมด้วย ให้วางเฉยด้วยในทุก ๆ กรณี จึงเท่ากับเป็นอนาคตธรรม

๔. เมื่อพระฉันนะ ท่านยึดอดีตธรรม ยึดอนาคตธรรมก็ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งตนเอง หรือใช้ตนเองเป็นที่พึ่งเท่านั้น เป็นการบังคับให้ท่านอยู่กับธรรมปัจจุบัน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-08-2010, 10:04
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. เมื่อพระฉันนะต้องอยู่คนเดียว คนปกติมักจะฟุ้งซ่านหรือฟุ้งเลวเสมอ แต่สำหรับท่านเป็นนักสู้ ไม่ยอมท้อถอย การอยู่คนเดียวในธรรมปัจจุบัน คือ การพึ่งตนเองด้วยปัญญา ท่านเห็นทุกข์จากการเกิดมามีร่างกาย หรือทุกขสัจ ทุกข์ของกายนี้ หากไม่กำหนดก็ไม่รู้ว่าเป็นทุกข์ ยิ่งกำหนดบ่อย ๆ ก็ยิ่งเห็นทุกข์ของกายมากขึ้นเท่านั้น จึงเท่ากับเห็นอริยสัจ เห็นทุกข์จากความไม่เที่ยงของร่างกาย ที่ทั้งแสนจะสกปรก จิตของท่านตกเป็นทาสของร่างกายตั้งแต่ตื่นยันหลับ มีสภาพเหมือนตนเองต้องติดคุกตลอดชีวิต หรือต้องเลี้ยงลูกอ่อนตลอดชีวิต หากเราวางร่างกายหรือขันธ์ ๕ นี้ลงเสียได้ว่า มันหาใช่เรา หาใช่ของเราไม่ เราเพียงแค่อาศัยมันอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น จิตเราก็จะเป็นอิสระหลุดพ้นจากร่างกายหรือการเกิดตลอดกาล

๖. เมื่อจิตของท่านบริสุทธิ์ขนาดนี้ คือ ตัดอุปาทานขันธ์ ๕ ได้ หรือตัดสักกายทิฏฐิได้ พระพุทธองค์ก็ส่งฉัพพรรณรังสีปรากฏกายให้พระฉันนะเห็น รับรองความคิดของพระฉันนะว่า ถูกต้องแล้ว จิตของฉันนะก็เข้าถึงความเป็นพระอรหัตผล ซึ่งความเป็นจริงแล้วถึงพระองค์จะมารับรองหรือไม่มาก็ตาม จิตของพระฉันนะก็ต้องจบกิจ เพราะหมดอุปาทานขันธ์ ๕ แล้ว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-08-2010, 14:20
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ส่วนเรื่องพรหมทัณฑ์นั้น หมายความว่า การปล่อยให้อยู่คนเดียวอย่างพรหม เพราะพรหมนั้นท่านมีวิมานหลังใหญ่โต แต่อยู่แค่องค์เดียว อย่างผู้มีจิตสงบ เป็นฌานสมาบัติ (สงบจากนิวรณ์ทั้ง ๕) ขออนุญาตเขียนไว้สั้น ๆ แค่นี้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-08-2010, 14:35
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

เมื่อพิจารณาธรรมมาถึงจุดนี้ สมเด็จองค์ปฐม ก็ทรงพระเมตตาตรัสสอนว่า

๑. “เป็นอันว่า เจ้าเริ่มเข้าใจอารมณ์พรหมทัณฑ์แล้ว จงหมั่นระวังรักษาอารมณ์นี้ไว้ให้ดี ๆ ใหม่ ๆ ก็จักมีเผลอบ้าง พลาดบ้าง จิตตกเป็นทาสของอารมณ์พอใจ ไม่พอใจอยู่บ้างเป็นธรรมดา”

๒. “ขอจงตามดูและรู้การเสวยอารมณ์ รู้หนทางแก้ไขของอารมณ์ รู้หลักการระมัดระวังอารมณ์พรหมทัณฑ์ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โจทย์จิตของตนเองเอาไว้ให้ดี ๆ ถ้าหากทำได้ถึงที่สุด พวกเจ้าจักไม่อยู่แค่อนาคามีผลหรอก พวกเจ้าจักบรรลุพระอรหัตผลได้อย่างพระองค์ที่ ๖๑ ในพุทธันดรนี้เช่นกัน” (กรุณาอ่านรำลึกถึงความดีของหลวงพ่อในอดีต หลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง เรื่องนางมาติกมาตา หน้า ๑๔๘ บรรทัดสุดท้ายว่า พระองค์ที่ ๖๑)

๓. อย่าลืมพระพุทธศาสนาสอนให้พ้นทุกข์กันที่จิต แต่ขณะเดียวกัน ต้องไม่เบียดเบียนร่างกายด้วย สอนให้วางเฉย คือ ยอมรับกฎของธรรมดาของร่างกาย จิตก็จักมีความสุขสงบ ไม่ดิ้นรนในกฎของกรรมนั้น ๆ เพราะไม่ว่าจักดิ้นรนอย่างไร ก็หนีกฎของธรรมดานั้นไปไม่พ้น

๔. “การพ้นทุกข์ของจิต คือ การกำหนดรู้อารมณ์ของจิต และหมั่นชำระล้างปล่อยวางซึ่งอารมณ์ที่เป็นกิเลสนั้น ๆ จนกระทั่งหมดซึ่งตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรมที่เข้ามาครอบงำจิต อารมณ์สงบอยู่ในอุเบกขารมณ์ได้ กล่าวคือ ถึงซึ่งสังขารุเบกขาญาณ หมดอารมณ์โมหะ โทสะ ราคะ ที่จักเบียดเบียนจิตและกายของตนลงได้ และสิ้นการเบียดเบียนกายและจิตของบุคคลอื่นลงได้เช่นกัน สุดท้ายหมดความเบียดเบียนซึ่งจิตและกายของตนเอง และผู้อื่นอย่างหมดจด จึงได้ชื่อว่าสิ้นทุกข์ในพระพุทธศาสนา คือถึงซึ่งพระนิพพานอย่างถาวร

๕. “อย่าลืม ทุกอย่างจักสำเร็จลงได้ด้วยความเพียร และจากนิสมฺม กรณํ เสยฺโย ใคร่ครวญเสียก่อนแล้วจึงคิด จึงพูด จึงทำ เห็นคุณ เห็นโทษในกรรมอันจักมาแต่เหตุ นั่นแหละเป็นประการสำคัญ เมื่อเข้าใจตามนี้ จงพยายามทำความเข้าใจ ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยการใคร่ครวญในธรรม”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 18-08-2010, 16:09
ชยันต์พล
Guest
 
ข้อความ: n/a
Default

หมดแล้วหรือ ?
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
สุธรรม (18-08-2010)
  #7  
เก่า 18-08-2010, 16:11
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ให้สังเกตว่า ทุกครั้งที่จบธรรมบทใดแล้ว ยิ้มจะลงท้ายด้วย..

"ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว