|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
ขับรถเร็วเพื่อฝึกสมาธิ
หลังจากที่เคยฝึกสมาธิ จนจิตรวมเป็นหนึ่ง เหลือแค่สติเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนั้นเกิดกลัว เพราะหาร่างกายไม่เจอ มีแค่สติเท่านั้น นึกว่าตัวเองตายแล้ว ก็เลยเกิดกลัวขึ้นมา สักพักสมาธิก็ถอนออกมา เลยรู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย ไม่นานจิตก็จะรวมอีก ก็พยายามยั้งไว้ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าอาการแบบนี้ คืออะไร
มาตอนหลังถึงได้รู้ว่านั้นคือ สมาธิ ก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้นอีก แต่ก็ไม่สามารถรวมจิตให้เป็นหนึ่งแบบนั้นได้สักที ได้มากที่สุดก็คือ มีอารมณ์ทรงตัวได้ง่ายกว่าแต่ก่อน พอทำอะไรที่ชอบใจแล้วก็มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคง มีอาการหน่วง ๆ ที่ใบหน้า บางครั้งก็สามารถรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด แต่ก็ไม่ต่อเนื่องเหมือนแต่ก่อน เลยไม่สามารถรวมจิตได้สักที แต่หลังจากนั้น เท่าที่สังเกตไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ชอบใจ จิตก็มักจะทรงตัวได้ง่ายมาก โดยที่ไม่ต้องกำหนดรู้ลมหายใจ เพราะเมื่ออารมณ์ทรงตัว ก็จะรู้ลมได้เอง ผมเคยลองขับมอเตอร์ไซต์เร็ว ๆ เสียงดัง ๆ ก็รู้สึกสนุก แล้วอารมณ์ก็ทรงตัวได้เหมือนกัน มีอาการรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด เหมือนกับการทำสมาธิแบบอื่น ๆ เพียงแต่พอเลิกขับรถแล้ว สักพักอารมณ์ทรงตัวนั้นก็หายไป ก็ต้องกลับไปขับรถเร็ว ๆ ใหม่ อารมณ์ก็จะกลับมาทรงตัวอีก แบบนี้ก็แสดงว่า คนที่ชอบขับรถเร็ว ๆ แรง ๆ ก็เป็นการฝึกสมาธิไปในตัวสำหรับชาตินี้ของเขาใช่หรือไม่ครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งทรงกลด : 02-12-2020 เมื่อ 16:13 |
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ รุ้งทรงกลด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
มีใกล้เคียงกับคำถามที่หลวงพ่อเคยตอบไว้ครับ
ถาม : นักแข่งรถ เวลาเขานั่งอยู่ในรถ เขาจะทำตัวไม่มีตัวไม่มีตน นั่นคือการใช้อรูปฌานหรือเปล่าคะ ? ตอบ : การที่เขาจดจ่ออยู่แค่ว่าตัวเองทำอะไร โดยที่ไม่ได้คิดถึงว่าตัวเองจะเจ็บจะตายหรือเปล่า สมาธิต้องเป็นระดับปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ถึงจะทำได้ ถาม : แค่ปฐมฌานละเอียดหรือคะ ? ตอบ : เพราะว่าพอถึงระดับนั้นแล้ว จิตกับประสาทเริ่มจะเป็นคนละส่วนกัน จะมุ่งงานเฉพาะหน้า ไม่ได้ใส่ใจในร่างกาย คนที่ทำได้ในระดับนี้ บางทีทำงานไประยะหนึ่งแล้วหมดสภาพไปเฉย ๆ เพราะว่าลืมพักผ่อน ประเภททำข้ามวันข้ามคืนไปเลย พอถึงเวลาจะพัก ตัวเองก็ไม่ไหวเสียแล้ว งานหมดก็หมดสภาพไปเลย เขาเรียกว่ายังหาจุดพอดีของตัวเองไม่เจอ ฉะนั้น..กำลังใจที่มุ่งมั่นขนาดนั้น พอถึงเวลาจิตกับประสาทแยกส่วนกัน ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าจะต้องกลัวอะไร สมาธิระดับนั้นก็เลยกล้าที่จะขับรถด้วยความเร็วระดับสองร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง บางครั้งเข้าโค้งทีไฟแลบเลย ถาม : ไม่ต้องถึงอรูปฌานหรือคะ ? ตอบ : ถ้าถึงอรูปฌานก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าจะไม่รับรู้ข้างนอก ถ้าไม่คล่องตัวจริง ๆ อรูปฌานจะไม่รับรู้อะไรข้างนอกเลย แล้วจะไปบังคับรถอย่างไร ? ยกเว้นท่านที่ชำนาญเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นหนึ่งในหลายสิบล้าน..! ถาม : แค่ปฐมฌานจะสามารถรับรู้อะไรข้างนอกได้ ? ตอบ : จะยิ่งรู้ละเอียด เพราะเป็นลักษณะของฌานใช้งาน โดยเฉพาะปฐมฌานละเอียด สติจะสมบูรณ์พร้อมอยู่กับตัวเอง หลับกับตื่นความรู้สึกเท่ากัน เวลาทำอะไรก็จะทำได้ดีกว่าคนทั่วไปเยอะมาก บางทีมีส่วนของความเป็นทิพย์มาช่วยคำนวณด้วย อย่างเช่นต้องเข้าโค้งแรงแค่นี้ ต้องแตะเบรกแค่นี้แล้วรถจะไถลไปถึงมุมนั้นพอดี แทนที่จะคำนวณด้วยความชำนาญเฉพาะตัว ก็เริ่มไม่ใช่แล้ว กลายเป็นมีความเป็นทิพย์บางส่วนมาช่วยแล้ว นักกีฬา หรือนักรบ นักต่อสู้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิมาช่วยเป็นอย่างมาก เราจะสังเกตว่า นักกีฬาบางคน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว สถิติจะเสียไปเลย หรือแพ้คู่ต่อสู้แบบยับเยินเลย อย่างสมัยก่อนเวลารบกันไม่เหมือนกับสมัยนี้ สมัยนี้ห่างกันเป็นกิโลก็ยิงกันแล้ว สมัยก่อนต้องถือดาบถือหอกเข้าไปประจัญบานกัน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว กำลังใจลดหน่อยเดียว ก็ไม่กล้าสู้แล้ว บางทีวิ่งหนีเอาดื้อ ๆ ก็มี..! เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔ |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นาย หวังดี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : หลังจากที่เคยฝึกสมาธิจนจิตรวมเป็นหนึ่ง เหลือแค่สติเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนั้นเกิดกลัว เพราะหาร่างกายไม่เจอ มีแค่สติเท่านั้น นึกว่าตัวเองตายแล้วก็เลยเกิดกลัวขึ้นมา สักพักสมาธิก็ถอนออกมาเลยรู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย ไม่นานจิตก็จะรวมอีกก็พยายามยั้งไว้ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าอาการแบบนี้คืออะไร
มาตอนหลังถึงได้รู้ว่านั้นคือสมาธิ ก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้นอีก แต่ก็ไม่สามารถรวมจิตให้เป็นหนึ่งแบบนั้นได้สักที ได้มากที่สุดก็คือ มีอารมณ์ทรงตัวได้ง่ายกว่าแต่ก่อน พอทำอะไรที่ชอบใจแล้วก็มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคง มีอาการหน่วง ๆ ที่ใบหน้า บางครั้งก็สามารถรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด แต่ก็ไม่ต่อเนื่องเหมือนแต่ก่อน เลยไม่สามารถรวมจิตได้สักที แต่หลังจากนั้น เท่าที่สังเกตไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ชอบใจ จิตก็มักจะทรงตัวได้ง่ายมาก โดยที่ไม่ต้องกำหนดรู้ลมหายใจ เพราะเมื่ออารมณ์ทรงตัว ก็จะรู้ลมได้เอง ผมเคยลองขับมอเตอร์ไซค์เร็ว ๆ เสียงดัง ๆ ก็รู้สึกสนุก แล้วอารมณ์ก็ทรงตัวได้เหมือนกัน มีอาการรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด เหมือนกับการทำสมาธิแบบอื่น ๆ เพียงแต่พอเลิกขับรถแล้ว สักพักอารมณ์ทรงตัวนั้นก็หายไป ก็ต้องกลับไปขับรถเร็ว ๆ ใหม่ อารมณ์ก็จะกลับมาทรงตัวอีก แบบนี้ก็แสดงว่า คนที่ชอบขับรถเร็ว ๆ แรง ๆ ก็เป็นการฝึกสมาธิไปในตัวสำหรับชาตินี้ของเขาใช่หรือไม่ครับ ? ตอบ : บางคนก็แค่ชอบความตื่นเต้นระทึกใจเท่านั้น |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
สมาธิ |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|