กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-07-2022, 19:24
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,651 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-07-2022, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,139 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ทางด้านบ้านเรากำลังมีความสุขกับการที่ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไทยฝ่าฟัน VNL 2022 เข้าไป จนเข้ารอบ ๘ ทีมสุดท้ายได้ ๘ ทีมสุดท้ายนี่ได้ไปแข่งโอลิมปิกแน่นอน

คนจำนวนมากบอกว่าทีมไทยโชคดี แต่กระผม/อาตมภาพบอกว่าฝีมือ ได้เพราะฝีมือ ไม่ใช่ได้เพราะโชค อย่าลืมว่าในการแข่งขัน ทีมไทยเราอยู่อันดับที่ ๘ เท่ากับเป็นทีมสุดท้ายที่จะได้สิทธิ์เข้าไป เพียงแต่ยังมีความไม่แน่นอนว่า ถ้าเยอรมันสามารถพลิกชนะอเมริกาได้ ก็จะเบียดเราตกแล้วเข้าไปแทน แต่เยอรมันพลิกไม่ขึ้น ไทยเรายังอยู่อันดับที่ ๘ เหมือนเดิม

ส่วนที่บอกว่าฝีมือก็คือว่า ทีมไทยของเราฝ่าฟันตั้งแต่แรก ๆ ที่ประเทศตุรเคีย เราอยู่อันดับที่ ๑๙ จนกระทั่งทะลุเข้ามาได้ตั๋วไปโอลิมปิก อยู่ลำดับที่ ๘ ขณะที่อันดับ ๑ ถึง ๗ นั้น เขาอยู่ ๑ ถึง ๗ เป็นปกติอยู่แล้ว ของเขาแค่ป้องกันเก้าอี้ นั่งให้แน่น ๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว..ใช่ไหม ? ส่วนของเราต้องไปแย่งเก้าอี้ชาวบ้านเขามา..!

เพียงแต่ว่าทีมวอลเล่ย์บอลของเรายังมีข้อบกพร่องอยู่ตรงที่ว่า ต้องใช้กำลังเกินกว่าคนอื่นเขาหลายเท่า สาวฝรั่งตัวสูง ๑.๙ - ๒ เมตร เขายืนตบสบาย ๆ ส่วนสาวไทยเรา ต้องกระโดดลอยทั้งตัวกว่าจะได้ระยะตบเท่ากับเขา ต้องใช้พลังงานมากกว่ากันหลายเท่า

ดังนั้น..ทุกท่านจะเห็นว่า ถ้าไทยเราได้พัก มีช่วงเว้นให้จะแข่งได้ดีมาก ต่อให้เบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่างบราซิล เราก็สู้ได้สูสี มีแววว่าจะชนะด้วย แต่ถ้าหากว่าแข่ง ๒ วันติดกันเมื่อไร ก็เป็นอันว่าป้อแป้ กว่าที่จะชนะเขาได้ก็ "หืดจับ" หรือไม่ก็โดนเขา "ทุบ" ลงมา

ถ้าตรงนี้เราบอกว่ากำลังของทีมเราไม่แข็งแกร่งพอก็โหดร้ายเกินไป เพราะว่าเท่าที่แสดงออกนั้น สาวไทยเราแข็งแกร่งกว่าชาติอื่นมาก เพียงแต่พลังงานที่ทุ่มเทไปนั้นมากกว่าคนอื่นหลายเท่า จนกลายเป็นแรงบันดาลใจว่าคนตัวเล็กก็ล้มยักษ์ได้ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนด้วยกันอย่างเวียดนาม คอมเม้นท์เขาว่า "เราได้เซ็ทไทยในซีเกมส์ เพราะฉะนั้น..พวกเราน่าจะชนะเกาหลีใต้ได้เช่นกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-07-2022 เมื่อ 07:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-07-2022, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,139 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทำไมถึงมาพูดเรื่องนี้ ? ก็เพราะว่าเรามาดูแค่ตอนที่พวกเขาประสบความสำเร็จ แต่ตอนที่เขาฝ่าฟันกันมาด้วยความยากลำบาก สร้างทีมมาตั้งแต่สมัยโค้ชอ๊อด (เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร) จนกระทั่งมาถึงโค้ชด่วน (ดนัย ศรีวัชรเมธากุล) ในปัจจุบัน ใช้เวลามาเกิน ๑๐ ปี นั่นคือวิริยบารมีและขันติบารมี ต้องอดทน อดกลั้น อดออมทุกอย่าง เพื่อที่จะให้มีวันนี้

คราวนี้เราไปดูความสำเร็จของคนอื่น โดยที่ไม่ได้ดูความยากลำบากก่อนจะประสบความสำเร็จ เราก็มักจะเพ้อฝัน ก็คือว่าเราก็ทำได้อย่างนั้นแหละ ตรงจุดนี้เป็นจุดอ่อนใหญ่ของคนไทยรุ่นใหม่ทั้งประเทศ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?

กระผม/อาตมภาพเคยอบรมค่ายพุทธบุตร เด็ก ๆ ไม่สนใจกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่ในระดับมัธยมปลายแล้ว ประมาณว่าเรียนก็ได้ ไม่เรียนก็ได้ สตีฟ จ็อบส์เรียนไม่จบ มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กเรียนไม่จบ แต่รวยกันเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน

กระผม/อาตมภาพต้องด่าเตือนสติไปว่า "โลกนี้มีประชากรกี่พันล้าน ? แล้วมีสตีฟ จ็อบส์กี่คน ? มีมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กกี่คน ? แล้วมึงมั่นใจใช่ไหมว่าจะเป็นอย่างนั้นได้ ? ถ้าทุกวันนี้ในหัวของมึงไม่มีอะไรเลย นอกจากเป็นที่งอกของเส้นผม มึงคิดว่าจะประสบความสำเร็จแบบนั้นไหม ?"

ก็เพราะว่าในเรื่องของการศึกษาของไทยเราไม่ใช่ว่าไม่ดี การศึกษาของไทยเราถือว่าเป็นการศึกษาที่ยากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ต้องเอาใครหรอก เอาแค่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่กระผม/อาตมภาพจบมานี่แหละ ปริญญาตรี เราต้องเรียนถึง ๑๕๐ หน่วยกิต แล้วยังมีวิชาที่ไม่คิดหน่วยกิตอีก ๒๐ - ๓๐ วิชา..! เรียนกันหนักขนาดไหน ?

จะบอกว่าเป็นความฉลาดน้อยของคนรุ่นเก่าก็ใช่ที่ กฎหมายเขาระบุว่า ๑๓๐ ถึง ๑๕๐ หน่วยกิต สามารถมีสิทธิ์ในการรับปริญญาได้ มจร.ของเราไม่เอาน้อย ล่อมัน ๑๕๐ หน่วยกิตไปเลย..!

การศึกษาของเรายากเป็นอันดับต้น ๆ แต่ขอโทษ...เด็กเรานั้นมักง่าย ทุกคนเลือกเรียนแต่วิชาเพ้อฝันหมด ไอ้เรื่องของความยากลำบากที่จะมาสร้างผลผลิตต่าง ๆ ไม่มี ตั้งแต่
กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะรู้ภาษา เข้าเรียนหนังสือชั้นประถมก็มานั่งท่องว่า "สินค้าส่งออกของไทยประกอบไปด้วยข้าว ข้าวโพด ไม้สัก ยางพารา แร่ดีบุก" ทุกวันนี้เรายังส่งออกยางพาราอยู่เลย แต่มีบ้างไหมที่จะทำวิจัยว่า ยางพาราสามารถแปรรูปเป็นอะไรที่เพิ่มมูลค่าได้บ้าง ? อย่างน้อย ๆ ผลิตยางรถยนต์ไปขายก็ยังดี ๔๐ - ๕๐ ปีผ่านไปเราก็ยังคงขายยางแผ่นอยู่เหมือนเดิม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2022 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 04-07-2022, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,139 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเราไม่ยอมทำอะไรที่ยาก ก็เลยกลายเป็นพวกกลวง ว่างเปล่า ยิ่งสมัยนี้ยิ่งน่าสงสารมาก ไม่จำเป็นต้องเรียนกันหรอก ขายของออนไลน์ก็รวยแล้ว คิดเหมือนอย่างกับคนไม่มีหัว ไม่ทราบเหมือนกันว่าใช้หัวแม่ตีนคิดแทนสมองหรือเปล่า !!?

ลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าเด็กรุ่นใหม่ทุกคนหันไปขายของออนไลน์กันหมด แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ? ใครจะเป็นคนผลิตสินค้าให้ขาย ? แล้วการค้าขายนี่คุณคิดว่าคุณเป็น "พิมรี่พาย" ทุกคนใช่ไหม ? ที่ด่าเขาแล้วยังมีคนฟัง ยังมีคนซื้อ..!?

เรื่องพวกนี้เป็น Born to be คือความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนทำได้แบบนั้น "พิมรี่พาย" ยืนไลฟ์สด ๒ ชั่วโมง อาจจะได้ ๑๐ ล้าน ของเราไลฟ์สด ๒ วัน ไม่รู้ว่าจะได้ ๑๐ บาทไหม ? ก็เพราะว่ามักง่าย ไม่ยืนอยู่บนความเป็นจริง มีแต่ความเพ้อฝันอยู่เต็มหัวสมอง

ต้องเรียกว่า "หลับไม่รู้จักตื่น" แล้วคำว่าหลับคืออะไร ? ภาษาพระเขาเรียกว่า อวิชชา แทนที่จะเร่งรัดการผลิต ไม่มีอะไรเลยก็ไปลงไร่ลงนา ข้าวทุกเม็ด ผักทุกต้น ผลไม้ทุกผล ล้วนแล้วแต่เป็นเงินเป็นทอง เป็นอาหารทั้งนั้น

แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพเอง ช่วงที่ทำหน้าที่ส่วนเผยแผ่จริยธรรมของกรมป่าไม้อยู่ ๙ ปี สอนชาวบ้านเขาทำมาหากิน เน้นเกษตรทฤษฎีใหม่ แต่ชาวบ้านมักง่าย ไปปลูกยางพารา ไปปลูกปาล์มน้ำมัน บอกเขาว่าถ้าคุณปลูกลักษณะนั้น ต้นไม้จะแย่งอาหารกัน เพราะว่าเป็นพืชชนิดเดียว ถ้าเกิดโรคก็ติดกันหมดเลย เพราะเป็นโรคชนิดเดียวกัน แล้วที่แน่ ๆ ก็คือถ้าขายไม่ออก กินได้ไหม ? แต่ไม่มีใครสนใจ มักง่ายดี ปลูกแล้วก็ทิ้งเลย รอเวลาโตก็ไปกรีดยาง แล้วการกรีดยางทำอย่างไร ? ก็ไปจ้างลูกจ้างมอญ พม่า

สรุปก็คือขั้นตอนการผลิตเต็มไปด้วยการใช้เงิน ไม่มีการลดต้นทุน กำไรเหลือน้อยมาก ไอ้ที่ได้ไปเต็ม ๆ ก็ลูกจ้างมอญ พม่านั่นแหละ มาอยู่เมืองไทยไม่กี่ปี ทองผาภูมิของเราตอนนี้ บรรดาเจ้าของร้านค้า เจ้าของแผงขายสินค้า เป็นมอญ เป็นพม่าไปสักเจ็ดแปดสิบเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ไม่ต้องอะไรมาก คนมอญ คนพม่าอยู่เมืองไทย ๓ ปี ๕ ปีพูดภาษาไทยได้หมด คนทองผาภูมิ คนสังขละบุรี อยู่กับคนพม่ามาสี่ห้าสิบปี พูดไม่ได้สักคำ เห็นหรือยังว่าความพยายามนั้นต่างกันขนาดไหน ?

ดังนั้น...จึงไม่แปลกว่าการศึกษาของไทย ทำไมถึงรั้งท้ายแม้แต่ในอาเซียน ถ้ารั้งท้ายในอาเซียนก็รั้งท้ายของโลกด้วย ทั้ง ๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ได้งบประมาณมากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2022 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-07-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,139 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความผิดทั้งหมดอยู่ที่พ่อแม่ เลี้ยงลูกไม่ให้ตีนติดดิน ลำบากไม่เป็น แม้กระทั่งเรียนก็แทบจะเรียนแทน ก็เลยก่อให้เกิดสันดานแบบนี้ไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า ผ่านไปแค่ ๓ รุ่นเท่านั้นแหละ จะฝังอยู่ในดีเอ็นเอเลย ก็คือมักง่ายเข้าว่า ขาดความอดทน ขาดความพากเพียร โดยเฉพาะขาดปัญญา ขาด ๓ ตัวนี้ ถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรม ก็ไปไม่รอดอย่างแน่นอน..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ให้มองย้อนกลับมาที่ตัวพวกเราเอง บางท่านปฏิบัติธรรมมา ๒๐ - ๓๐ ปี ลองพิจารณาดูสิว่าไอ้ที่ยังเอาดีไม่ได้นั้นเกิดจากอะไร ? อดทนไม่พอ พากเพียรไม่พอ ขาดปัญญา โดนกิเลสหลอกหัวทิ่มหัวตำอยู่ทุกวัน ถึงเวลาลำบากหน่อย กิเลสคร่ำครวญว่าจะตายแล้ว เราก็ไปหลงคิดว่าเราจะตาย เพราะว่ากิเลสอาศัยร่างกายนี้อยู่ พอถึงเวลากิเลสบอกว่าจะตาย เราก็เชื่อแล้วปล่อยไป พอกิเลสรอดก็หันกลับมาฟัดเราใหม่.!

ตกลงว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้าหรือว่าลูกกิเลส ? พระพุทธเจ้าตรัสอะไรมา ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์จะเข้าหูสักนิดก็ยาก แต่กิเลสบอก
ว่า รัก โลภ โกรธ หลง อะไรดี เราเชื่อไปหมด..!

วันนี้ก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิดสำหรับพวกเรา จากทีมวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทยรุ่นเก่า มาจนถึงรุ่นปัจจุบันที่สร้างชื่อเสียงก้องโลก แต่สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้มาอย่างง่ายดาย เกิดจากความเสียสละ พากเพียร อดทนของทุกภาคส่วน จึงมีวันนี้ขึ้นมาได้

ส่วนพวกเราทั้งหลาย ถ้าหากว่าดูตัวอย่างครูบาอาจารย์ที่ท่านประสบความสำเร็จ แล้วดูแค่ความสำเร็จนั้น ชีวิตนี้จะน่าสงสารมาก เพราะว่าเราจะไปอยู่กับความฝัน อยู่ไปกับความเพ้อถึงอนาคต ไม่ได้อยู่กับความจริงในปัจจุบัน ความจริงตรงหน้าของเราก็คือ การปฏิบัติธรรมเหมือนกับตกนรกชัด ๆ เพียงแต่ว่า เราต้องพากเพียร พลิกนรกให้กลับมาเป็นสวรรค์ให้ได้..!

วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2022 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:38



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว