กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-10-2022, 19:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,639
ได้ให้อนุโมทนา: 216,864
ได้รับอนุโมทนา 747,357 ครั้ง ใน 36,404 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-10-2022, 22:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นการสอบนักธรรมชั้นตรีสนามหลวงวันสุดท้าย พรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพก็จะเข้ากรรมฐาน ๓ วันก่อนออกพรรษา เพื่อที่จะได้ออกมารับบาตรเทโวและรับกฐินจากญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งปัจจุบันนี้เฉพาะในส่วนของเว็บเพจวัดท่าขนุน ก็จองผ้าไตรกฐินไปเกือบจะ ๑,๕๐๐ ไตรแล้ว..!

แต่คราวนี้ว่าในช่วง ๒ วันที่ผ่านมา ข่าวที่น่าตกใจก็คือการกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในเมืองไทยน้อยมาก แต่ว่างานนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ เรื่องพวกนี้ปกติแล้วเราจะได้ยินแต่ที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา บ้านเราเกิดขึ้น ฮือฮากันมาหน่อยหนึ่ง แล้วก็หายสาบสูญไปกับสายลม..!

นอกจากที่จะมีผู้เสียชีวิตถึง ๓๐ กว่าศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมากแล้ว ผู้ก่อเหตุยังยิงตัวเองและครอบครัวตายไปด้วย ซึ่งพวกเราส่วนหนึ่งก็เห็นว่าเขาตั้งใจฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้กรรมที่ตนเองได้ทำไป แต่กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่าไม่ใช่

ลักษณะการก่ออาชญากรรมแบบนี้ ไม่ว่าจะในประเทศหรือว่าต่างประเทศก็ตาม ผู้ก่ออาชญากรรมลักษณะนี้เขาตั้งใจที่จะตายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าก่อนตาย จะต้องเอาคนอื่นไปด้วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในลักษณะของบุคคลผู้เกลียดชัง เคียดแค้นสังคม อยู่ในลักษณะที่ว่าสังคมนี้ติดค้างเขามาก ดังนั้น...สิ่งที่เขาทำก็คือ จะต้องทำให้สังคมนี้รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจให้มากที่สุด ถึงจะรู้สึกสาแก่ใจของเขา

เรื่องพวกนี้เป็นปมทางจิตวิทยา ซึ่งต้องให้บุคคลที่เรียนทาง Psychology มาโดยตรงถึงจะสามารถระบุชัดได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นคนไทยทั่ว ๆ ไป ก็คงต้องตั้งคำถามประมาณว่า "แม่ไม่รักหรือ ?" ในเมื่อแม่ไม่รัก ก็เลยต้องไปเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น แล้วการเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นนั้น การก่ออาชญากรรมเป็นหนึ่งในวิธีการเหล่านั้น ถ้ายังไม่มีการระวังป้องกันแต่เนิ่น ๆ เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นอีก และจะเกิดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเด็กรุ่นหลังของเราขาดการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ จนกระทั่งมีคำกล่าวกันว่า "พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกด้วยเงินกับโทรศัพท์" ทำให้เด็ก ๆ ทั้งหลาย ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เมื่อไม่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ ก็ต้องไปทำตัวให้เด่น ให้ดัง เป็นที่สนใจของเพื่อนฝูง

หรือถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่ไม่ชอบการเข้าสังคม ก็จะไปสร้างตัวตนสมมติในโลกโซเชียล แล้วพยายามทำให้คนอื่นเขายอมรับในสื่อโซเชียลต่าง ๆ จนกระทั่งกลายเป็นคนที่เสพติดโซเชียลจนถอนตัวไม่ขึ้น วัน ๆ จมอยู่กับโทรศัพท์ ก้มหน้าก้มตาสร้างโลกของตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2022 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-10-2022, 22:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าจะให้พูดไป ยังมีมากกว่านี้ แต่ว่าญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ก็อาจจะหดหู่และหมดหวังไปเลย เพราะว่าสังคมครอบครัวของเราล่มสลายมานานแล้ว แต่ว่าเพิ่งจะมาปรากฏชัดไม่นานนี้ ก็คือตั้งแต่ผู้หญิงออกไปทำงานนอกบ้าน ทำให้ไม่มีใครที่จะดูแลลูก ๆ ที่ยังเล็กอยู่ ถ้าเป็นสมัยก่อนยังมีปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลให้ เพราะว่าเป็นครอบครัวขยาย

อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเคยบอกเอาไว้ว่า สำหรับครอบครัวของท่านแล้ว ที่บ้านเกิดอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นญาติกันเกือบทั้งตำบล ส่วนกระผม/อาตมภาพเองนั้นเคยเห็นในที่ผืนเดียวกัน รั้วบ้านเดียวกัน มีถึง ๕ ครอบครัวอยู่ด้วยกัน

แต่พอมารุ่นหลัง ต้องการความอิสระ ไม่อยากโดนควบคุมโดยกฎเกณฑ์ของผู้ใหญ่ ก็แยกตัวออกมาตั้งครอบครัว เมื่อถึงเวลาตนเองออกไปทำงาน แม่บ้านออกไปทำงาน ไม่มีใครดูแลลูก ก็ต้องจ้างพี่เลี้ยง ก็เลยมีปัญหาที่ว่า เด็กยังไม่ทันจะพูดภาษาไทยได้ ก็เว้าลาว หรือพูดเขมรพูดพม่าได้ก่อน แล้วแต่ว่าพี่เลี้ยงจะมีเชื้อชาติอะไร..!

แล้วจะไปหวังให้ครูช่วยดูแลเด็กให้เต็มที่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าครูโดนยึดอาญาสิทธิ์ไปหลายสิบปีแล้ว ก็คือห้ามครูตีเด็ก ในเมื่อห้ามครูตีเด็ก เด็กย่อมไม่เกรงกลัว แล้วครูจะไปทำอะไรก็ได้..!?

โดยเฉพาะสมัยนี้ สอบอย่างไรก็ไม่ตก เนื่องเพราะว่าผู้อำนวยการสถานศึกษาจำนวนมาก ถึงขนาดมีคำสั่งไปเลยว่า ให้ครูประจำวิชาหรือว่าครูประจำชั้นต่าง ๆ ดันเด็กทุกคนให้จบผ่านชั้นไปให้ได้ โดยไม่ต้องไปใส่ใจว่าเด็กจะทำข้อสอบได้หรือว่าไม่ได้..!

มีลูกศิษย์ของ
กระผม/อาตมภาพท่านหนึ่งเป็นศึกษานิเทศก์ ไปนิเทศก์โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ขออภัยที่ต้องเอ่ยชื่อจังหวัด เจอเด็กชั้นป.๖ บอกให้อ่านหนังสือ ชี้ตัวไม่ถูกแม้แต่ตัวเดียว..! แต่ถ้าหากว่าให้ท่องตามพร้อม ๆ กับเพื่อน สามารถท่องได้ เพราะว่าเด็กจำได้อย่างเดียว แต่อ่านไม่ออก ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นเด็กชั้นประถมปีที่ ๖...!

ในเมื่อชี้ไม่ถูกว่าตัวอักษรเป็นอย่างไร แล้วผ่านมาจนถึงชั้นป. ๖ ได้อย่างไร ? ก็เพราะนโยบายที่ว่าห้ามครูตีเด็ก ห้ามเด็กสอบตก สอบตกก็ซ่อมได้ จึงทำให้สังคมบ้านเราเกิดภาวะเยาวชนด้อยคุณภาพ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-10-2022, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราอย่าไปคิดว่าเรามีเด็ก ๆ ที่เข้าแข่งขันได้เหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิก เหรียญทองฟิสิกส์โอลิมปิก ประเภทนั้น กระผม/อาตมภาพเรียกว่า "เด็กรับแขก" ก็คือมีแค่ไม่กี่คน

แบบเดียวกับที่การประชุมสภาวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตอนที่กระผม/อาตมภาพจบปริญญาเอกใหม่ ๆ มีอาจารย์ท่านหนึ่งทักท้วงว่า "นิสิตของเราจะจบมากเกินไปไหม ? เพราะว่าถ้าปล่อยให้จบแบบนี้ จะทำให้คุณภาพการศึกษาด้อยลง"

หลังจากที่ถกเถียงกันขนานใหญ่แล้ว ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งสรุปว่า "ถ้ามีนิสิตอย่างพระครูวิลาศกาญจนธรรมจบไปสักรุ่นละรูปสองรูป รวมกันหลาย ๆ รุ่นก็ได้ผู้มีคุณภาพมากขึ้นไปเอง" เจริญครับ...! ก็คือแทนที่ทุกคนจะจบออกมาในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ก็กลายเป็นว่าความรู้ห่างกันมาก

เหตุที่เป็นเช่นนั้น อย่าว่าแต่ในวงของพระภิกษุสามเณรเลย แม้แต่เด็กนักเรียนของเราก็ตาม เรียนเพื่อให้จบเท่านั้น ไม่ได้เรียนเพื่อให้รู้ ส่วนกระผม/อาตมภาพเอง มีนิสัยว่าเรียนอะไรแล้วต้องรู้ รู้แล้วต้องสอนคนอื่นต่อได้ ถ้าสอนคนอื่นต่อ ก็ต้องสอนให้ง่ายที่สุด แต่ท่านอื่น ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น มีส่วนหนึ่งเลยที่มีคติประจำใจว่า "มึนไปวัน ๆ เดี๋ยวก็จบแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2022 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-10-2022, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,684 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้การสร้างจิตสำนึกให้เกิดกับเด็กและเยาวชนของเราเป็นไปโดยยาก เพราะว่าครูคนแรกและครูคนที่ ๒ ก็คือพ่อกับแม่ ไม่มีเวลาให้ ครูคนที่ ๓ ก็รับนโยบายจากผู้บังคับบัญชาว่าห้ามเด็กสอบตก กว่าจะมาถึงครูคนที่ ๔ คือวัดวาอาราม ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องรอจนอายุ ๒๐ ปีถึงจะเข้ามาบวช กลายเป็นไม้แก่ที่ดัดไม่ไหวแล้ว

และโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ถ้าเราดูตามข่าวจะเห็นว่าผู้ก่อเหตุติดยาเสพติดมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน แล้วผ่านเข้าไปเป็นตำรวจได้อย่างไร ? เรื่องพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจท่านไปแก้ไข

กระผม/อาตมภาพหวังอยู่อย่างเดียวว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จไปถึงที่ องค์ประมุขสงฆ์ คือสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สั่งให้วัดที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุจัดงานศพ และปลอบใจผู้สูญเสียให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และให้ทุกวัดเจริญพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติพร้อมกัน ซึ่งเดี๋ยวอีกสักครู่ พวกเราก็จะทำอย่างนั้นกัน

เมื่อทั้งประมุขทางโลกและประมุขทางธรรมนำหน้าไปแล้ว ก็ได้แต่หวังว่า ส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเอาจริงเอาจังกันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยเป็นไฟไหม้ฟาง ฮือมาวูบเดียว แล้วก็หายไปกับสายลม..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2022 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:23



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว