กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-12-2022, 18:49
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,661 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-12-2022, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,153 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามากระผม/อาตมภาพก็มีภารกิจมากมายรออยู่ เริ่มจากการนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๘/๒๕๖๕ ปฏิบัติธรรมช่วงเช้ามืดตั้งแต่ประมาณตี ๓ ครึ่ง หลังจากนั้นก็ไปร่วมงานเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ต่อด้วยการบิณฑบาต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เมื่อเสร็จภารกิจกลับมา ก็นำผู้บวชเนกขัมมะฯ ปฏิบัติธรรมช่วงสาย ต่อด้วยพิธีปิดการปฏิบัติธรรม ยังโชคดีว่าตอนนี้เป็นการมอบวุฒิบัตรออนไลน์ ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงต้องเสียเวลาในการมอบวุฒิบัตรแก่ผู้บวชเนกขัมมะฯ อีกพักใหญ่

เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางไปยังวัดสะเนพ่อง หมู่ที่ ๑ ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมงานพุทธาภิเษกพระพุทธรูปแก้วขาว (พระพุทธรัตนสังขละบุรีศรีสุวรรณ) ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอสังขละบุรี โดยฉันเพลบนรถด้วยข้าวกล่องตามเคย

พระพุทธรูปแก้วขาวองค์นี้มีที่มาก็คือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้พระราชทานให้แก่เจ้าเมืองสังขละบุรีในช่วงนั้น คือพระศรีสุวรรณคีรี (ภูวะโพ่) เจ้าเมืองกะเหรี่ยง ซึ่งกะเหรี่ยงอำเภอสังขละบุรีนั้นได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร เนื่องเพราะว่าทางเมืองสังขละบุรี ได้ถวายช้างเผือกให้แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารทั้งอำเภอ

พระพุทธรูปแก้วขาวองค์นี้ เมื่อเป็นสมบัติพระราชทานโดยในหลวงรัชกาลที่ ๓ จึงได้มีการดูแลรักษามาอย่างหวงแหนโดยเจ้าเมืองสังขละบุรี ตลอดจนกระทั่งลูกหลานชาวบ้านสะเนพ่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะเนพ่อง ซึ่งวัดสะเนพ่องนี้ ถ้าหากว่าออกเสียงตามสำเนียงกะเหรี่ยง จะต้องออกเสียงว่า "สะหนี่พุ่ง" แต่ว่าคนไทยออกเสียงสบายลิ้น บางทีก็ออกชัด ๆ เลยว่า "เสน่ห์พ่อง" ก็เลยทำให้เป็นคนที่ขาดเสน่ห์ ขาดความน่ารักไปโดยปริยาย

เมื่อไปถึง ทางคณะกรรมการวัดได้เมตตาเปิดให้กระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบพระแก้วขาวถึงภายในห้องประดิษฐาน จึงได้เห็นว่าพระพุทธรูปแก้วขาว ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของสังขละบุรีนั้น ได้รับการระวังป้องกันเป็นอย่างดียิ่ง กระจกทางด้านหน้าห้องประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นกระจกกันกระสุน ประตูเข้าทางด้านข้างเป็นเหล็ก หนาเป็นนิ้วเลย..! แล้วก็มียังมีกุญแจ ซึ่งลักษณะการไขนั้นเป็นไปโดยยาก เพราะว่าจะต้องตั้งอกตั้งใจจริง ๆ เนื่องจากว่าเป็นกุญแจเข้ารหัสอีกด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2022 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-12-2022, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,153 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเข้าไปกราบองค์พระแก้วขาวแล้วออกมาทางด้านนอก ดูเขาจัดมณฑลพิธีจนเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพซึ่งมีภารกิจรออยู่ ก็ขอเขาทำการปลุกเสกวัตถุมงคลก่อนเพื่อน เมื่อกราบขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ ก็เห็นพระพุทธรูปแก้วขาวท่านขยายองค์ใหญ่จนเต็มมณฑลพิธี แล้วอยู่ในลักษณะเหมือนกับเป็นสายล่อฟ้า ก็คือบารมีที่พระแผ่ลงมาผ่านองค์หลวงพ่อแก้วขาว แล้วกระจายไปสู่พระพุทธรูปแก้วขาวองค์จำลองทั้งหมด จนสว่างไสวเหมือนอย่างกับพระอาทิตย์ยามเที่ยง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พรว่า พระพุทธรูปที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนร่มเย็นเป็นสุข พ้นจากภัยธรรมชาติ และโดยเฉพาะพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งคำว่าพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บในที่นี้ก็คือโรคระบาดใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าโรคเล็กโรคน้อยอะไรก็พ้นทั้งหมด

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงได้ตั้งใจขอเผื่อน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ซึ่งระยะนี้มีอาการเจ็บร้าวลงสะโพก ว่าถ้าหากว่าสามารถที่จะป้องกันโรคได้จริง ก็ขอให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ แล้วก็เกิดความรู้สึกเหมือนกับตนเองเจ็บสะโพกร้าวเป็นเส้นลงไป จากนั้นก็หายวับไปในฉับพลันเหมือนกับปลิดทิ้ง ซึ่งเมื่อเล่าให้ฟัง น้องเล็กก็บอกว่าหายจากการเจ็บแล้วจริง ๆ..!

เมื่อครบเวลาตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมตตาสงเคราะห์แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำน้ำมนต์พรมรอบมณฑลพิธี พร้อมกับโปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา ทางผู้จัดงานได้ถวายปัจจัยไทยธรรมมา กระผม/อาตมภาพก็มอบคืนให้ไปทั้งหมด เพื่อที่จะได้ใช้ในงานของทางวัดต่อไป แล้วตนเองก็เดินทางกลับออกมา

แต่ว่าตอนขาเข้านั้น ได้ขับรถลุยลงไปในลำห้วยโรคี่เพื่อที่จะเข้าสู่วัด ตอนแรกก็เห็นว่า ทำไมทางวัดจึงจอดรถไว้อีกฝั่งหนึ่ง แล้วยอมลงเดินเกือบ ๒ กิโลเมตรเข้าวัด ? เมื่อขาออกถึงได้รู้ชัด เพราะว่าน้ำขึ้นสูงมามาก ตอนขาเข้าดูแล้วก็ประมาณแค่ครึ่งล้อรถเท่านั้น แต่ว่าขาออกนี่ ถึงขนาดท่วมล้อรถเลยทีเดียว ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าอีกสักพักหนึ่งแล้ว น้ำจะสูงแค่ไหน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าระยะนี้มีฝนหลงฤดูตกอยู่บ่อย ๆ แล้วทำให้อาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากมาตอนไหนก็ไม่รู้แน่..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-12-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,153 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่หลุดพ้นออกมาได้ก็เดินทางกลับมาสู่ทองผาภูมิ แล้วก็มุ่งลงไทรโยค เข้าตัวเมืองกาญจนบุรี หนีรถติดออกมาทางอำเภอพนมทวน เพราะว่าเป็นวันหยุดยาว คือวันที่ ๓-๔-๕ ธันวาคมต่อเนื่องกัน ทำให้บุคคลที่เดินทางท่องเที่ยวนั้น พากันกลับเข้ากรุงเทพฯ กันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การจราจรหนาแน่นมาก ไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้เลย

กระผม/อาตมภาพมาถึงวัดสี่แยกเจริญพรประมาณ ๕ โมงเย็น ได้เข้าไปให้โอวาทต่อพระนวกะที่บวชถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งจัดโดยท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ทำการอุปสมบทหมู่จำนวน ๖๓ รูปด้วยกัน โดยทำการปลุกใจให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตั้งหน้าตั้งตาถือศีลปฏิบัติธรรมให้ดี เพราะว่ามีเวลาในการบวชน้อย

แต่ว่าเวลาในการบวชน้อยไม่ได้หมายความว่าบุญกุศลของเราจะน้อย เพราะว่ากุศลผลบุญในการบวชนั้นมีมากมายมหาศาล สมมติว่าในชีวิตฆราวาส เรามีศีล ๕ เปรียบเหมือนกับมีเงินต้นทุนอยู่ ๕ ล้านบาท เมื่อเรามาบวช มีศีล ๒๒๗ เปรียบเหมือนกับมีเงิน ๒๒๗ ล้าน ถ้าหากว่านำไปลงทุนในสิ่งเดียวกัน แล้วได้กำไรขึ้นมา คนที่ลงทุน ๕ ล้านกับคนที่ลงทุน ๒๒๗ ล้าน ใครจะได้กำไรมากกว่ากัน ? ก็สามารถที่จะตอบได้ในทันที..!

ดังนั้น..พระใหม่ทั้งหลายที่บวชจึงอย่าคิดว่าตนเองมีเวลาน้อย ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาไหว้พระ สวดมนต์ เจริญพระกรรมฐาน ประกอบกิจการงานตามที่พระพี่เลี้ยงแนะนำ เราก็สามารถที่จะสั่งสมบุญกุศลจำนวนมากได้ เพราะว่าเรามีต้นทุน คือศีลพระนั่นเอง

เมื่อท่านทั้งหลายถึงพร้อมด้วยต้นทุน ถ้าอยู่ต่อก็สามารถเป็นกำลังให้กับพระพุทธศาสนา ถ้าสึกหาลาเพศออกไป บุญกุศลนี้ก็จะช่วยให้ท่านทั้งหลายมีความคล่องตัวในความเป็นอยู่มากกว่าคนอื่นเขา เพราะว่าการดำเนินชีวิตของเรานั้น ล้วนแต่ไปตามบุญตามบาปแต่เดิมที่เราได้สร้างมา แต่ว่าเราได้บุญจำนวนมหาศาลจากการบรรพชาอุปสมบท ไปถือศีล ปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทำได้ยากมาเสริม ทำให้เรามีต้นทุนเพิ่มขึ้นมหาศาล ดังนั้น..ถ้าไปทำมาหากิน ก็ย่อมมีความคล่องตัวมากกว่าคนอื่นเขา เป็นต้น

เมื่อจบการบรรยายแล้ว รับปัจจัยไทยธรรมจากพระครูเทพ กระผม/อาตมภาพก็ถวายเงินทั้งหมดคืนไป เพื่อให้ท่านนำไปใช้ในการดูแลพระนวกะ ซึ่งยังต้องบวชอยู่อีกหลายวัน แล้วตนเองก็เดินทางฝ่ารถติดไปสู่จุดหมายปลายทางของตน เพื่อเตรียมที่จะทำกิจกรรมในวันรุ่งขึ้นต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว