กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-03-2023, 18:09
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,636
ได้ให้อนุโมทนา: 216,847
ได้รับอนุโมทนา 747,206 ครั้ง ใน 36,394 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-03-2023, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,521 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นการปฏิบัติธรรมวันที่หกของบรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔

เมื่อวานนี้บรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดเกิดอาการขวัญหนีดีฝ่อกันไปหลายรูป เหตุก็เพราะว่าผู้บรรยายถวายความรู้ในช่วงค่ำ ก็คือพระปลัดสมทบ ปรกฺกโม วัดกลาง (บางปลาม้า) ท่านเป็นผู้ที่ศึกษาทั้งในด้านพระอภิธรรมและในด้านการปฏิบัติธรรม จึงได้บรรยายถวายความรู้ด้วยภาษาทางวิชาการ แทรกศัพท์แสงทางพระศาสนาอย่างเต็มที่ ทำเอาบรรดาท่านที่ฟังอยู่ถึงขนาดใจหายว่า "ถ้าการปฏิบัติธรรมต้องยากเย็นขนาดนี้ ตนเองที่เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม จะสามารถบริหารสำนักไปได้รอดหรือไม่ ?"

หลังจากที่หลวงพ่อพระปลัดสมทบท่านเหมายาวจนหมดรายการตอน ๒ ทุ่มครึ่ง กระผม/อาตมภาพจึงได้ให้กำลังใจทุกคนว่า สิ่งที่หลวงพ่อสมทบท่านพูดมาคือสิ่งที่ท่านปฏิบัติมาตลอด ๔๐ ปี ท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะใช้ระยะเวลาสั้น ๆ แค่ประมาณ ๒ ชั่วโมงซึมซับรับได้หมด หากแต่ว่าฟังไว้เป็นแนวทาง เมื่อถึงเวลาแล้วเราสามารถที่จะศึกษาเพิ่มเติมได้ เหมือนกับรับอาหารไปแล้ว ถึงเวลาก็ค่อย ๆ เคี้ยว ค่อย ๆ กลืน ถือภาษิตของจีนที่ว่า หนทางต้องเดินทีละก้าว กินข้าวต้องกินทีละคำ ถ้าหากว่าทำในลักษณะอย่างนี้ได้ เราเองก็จะมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับท่าน

ส่วนพระเดชพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือว่าหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม เจ้าคณะภาค ๑๔ นั้นดีใจมาก ปรารภกับกระผม/อาตมภาพว่า "ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ มีอาจารย์ระดับสุดยอดแบบนี้อีกรูปหนึ่งแล้ว"
กระผม/อาตมภาพก็ยังเรียนถวายท่านไปว่า ในเรื่องของสำนักปฏิบัติธรรมนั้น ยังมีข้อด้อยอยู่หลายอย่าง

ข้อที่หนึ่งก็คือ เจ้าสำนักที่ศึกษามาอย่างไรก็สอนไปอย่างนั้น ขนาดระดับเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมยังรู้สึกหนักใจ แล้วประชาชนทั่วไปจะแบกรับได้อย่างไร ?

ประการต่อไปก็คือเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายนั้น ส่วนใหญ่แล้วรักสันโดษ รักการปฏิบัติธรรม ชอบปลีกตัวออกจากหมู่ จึงไม่เหมาะสมกับการที่จะบริหารงานต่าง ๆ โดยเฉพาะงานบริหารสำนักปฏิบัติธรรม ถ้าจะแก้ไขตรงจุดนี้ ต้องให้ท่านเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น ๆ แต่งตั้งบุคลากรภายในวัดที่มีใจรักทางด้านนี้ ขึ้นมารับผิดชอบงานแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2023 เมื่อ 00:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-03-2023, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,521 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อต่อไปก็คือ บรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีมานะว่า หลักการปฏิบัติของตนนั้นดีที่สุด ในเมื่อต้องมาศึกษาเพื่อให้ปฏิบัติเหมือน ๆ กัน จึงทำให้รับสิ่งอื่นเข้าไปได้ยาก ทำตัวเหมือนกับน้ำเต็มแก้ว เมื่อถึงเวลาเทของใหม่ลงไป ก็ไหลทิ้งเสียหมด

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจะไม่ไปคำนึงถึง เนื่องเพราะว่าในเวลาปฏิบัติธรรมจริง ๆ นั้น ช่วงที่นั่งสมาธิก็ปล่อยให้ท่านนำไปตามรูปแบบที่ท่านถนัด แต่ว่าช่วงเดินจงกรม ยิ่งคนมากเท่าไร ยิ่งต้องการความพร้อมเพรียงเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นทุกสำนักก็ต้องกำหนดให้เดินจงกรมแบบสติปัฏฐาน ๖ ระยะ เพื่อความพร้อมเพรียง จะได้ไม่เป็นปัญหาในระหว่างผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน

อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า ทางด้านประเทศไทยของเรานั้น มีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการปฏิบัติธรรมอยู่ ก็คือกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ที่กระผม/อาตมภาพนอกจากจะเป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทยแล้ว ยังเป็นกรรมการบริหารโดยตำแหน่ง แต่ไม่ใช่ประธานคณะกรรมการ

อีกส่วนหนึ่งก็คือสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งทั้งสองหน่วยงานนี้จะว่าไปแล้ว สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ เพราะว่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้นก็เกิดมาจากวัดมหาธาตุฯ กองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทยก็ตั้งอยู่ที่วัดมหาธาตุฯ เช่นกัน

เพียงแต่ว่าการทำงานของกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่มากอยู่ในระดับประเทศเลย สามารถเทียบได้กับกองธรรมสนามหลวง หรือว่ากองบาลีสนามหลวง แต่ทำงานแค่ระดับงานวัดทั่ว ๆ ไปเท่านั้น ก็คือลักษณะแนวคิดและการทำงานไม่กว้างขวางพอที่จะอยู่ในระดับบริหารงานด้านวิปัสสนาธุระทั้งประเทศ ส่วนทางด้านสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น ก็แบกงานของตนเองไว้เต็มที่แล้ว โอกาสที่จะสร้างบุคลากร คือพระวิปัสสนาจารย์ขึ้นมาจึงเป็นไปได้น้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2023 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-03-2023, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,521 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทุกวันนี้กระผม/อาตมภาพเป็นคณะกรรมการของสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็ยังต้องควักกระเป๋าสนับสนุนงานปฏิบัติธรรมของสถาบันอยู่ทุกเดือน แล้วขณะเดียวกัน ก็ต้องส่งบุคลากรวัดท่าขนุน ไปฝึกปรือเป็นทั้งวิปัสสนาจารย์ประจำสถาบันวิปัสสนาธุระ และเป็นทั้งวิปัสสนาจารย์ประจำกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย กำลังรออยู่ว่าจะมีใครที่จะสามารถประสานทั้ง ๒ หน่วยงานเข้าหากันได้ ให้ทำงานไปพร้อม ๆ กัน ก็จะสามารถช่วยในเรื่องการปฏิบัติธรรมได้ดีมาก

โดยเฉพาะสองวันที่ผ่านมานั้น ญาติโยมมาถวายภัตตาหารเช้าเพลครั้งละสิบกว่าเจ้า พูดง่าย ๆ ว่า "กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด" ซึ่งถ้าหากว่ามีการปฏิบัติธรรมต่อเนื่องไป ก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นที่ศรัทธาและเลื่อมใสของญาติโยมทั่วไปเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าเราจะต้องทำงานให้จริงจัง แต่ว่าก็ต้องทำงานในลักษณะเดินทางทีละก้าว กินข้าวทีละคำเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเราเป็นสำนักเล็ก ๆ จัดปฏิบัติธรรมทีหนึ่งมีคน ๕ คน ๑๐ คน แล้วเราก็ท้อใจ ไม่จัดเสียเลย

การทำงานในลักษณะนี้นั้น ต้องอาศัยความอดทนอดกลั้น ค่อย ๆ ทำจนผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เมื่อญาติโยมทั้งหลายเห็นความตั้งใจจริงของเรา แล้วไปบอกกล่าวกันปากต่อปาก โดยเฉพาะท่านที่นำปฏิบัติแล้วเกิดผลดี เมื่อนำไปบอกเล่า ก็ย่อมมีคนสนใจที่จะศึกษาและปฏิบัติเพิ่มเติม เมื่อถึงเวลานั้น การปฏิบัติธรรมก็จะค่อย ๆ ก้าวหน้าขึ้น เนื่องเพราะว่ามีผู้ให้การสนับสนุนมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

ไม่ใช่ว่าเราไปมองสำนักใหญ่ ๆ อย่างเช่นว่าสำนักวัดมเหยงคณ์ก็ดี หรือว่าสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ตาม ว่าจัดปฏิบัติธรรมแต่ละรอบมีคนมากมาย ถ้าไปคิดในลักษณะอย่างนั้น เราก็จะท้อใจ ถ้าจะมองท่านก็มองในลักษณะที่ว่าเราต้องทำให้ได้อย่างท่าน

เพียงแต่ว่าตอนนี้เราต้องค่อย ๆ ก้าวเดินไปด้วยความอดทน ด้วยความมุ่งมั่นศรัทธา ด้วยความเชื่อมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัย ด้วยความมั่นใจว่าวิปัสสนากรรมฐานเป็นของแท้ เมื่อถึงเวลา ถ้าเราสามารถทำดีทำถูกอย่างแท้จริง ย่อมมีบุคคลให้ความศรัทธา เข้ามาสนับสนุนกันเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2023 เมื่อ 00:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-03-2023, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,521 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้มีฝนเทลงมาห่าใหญ่ตั้งแต่เวลาตี ๒ เว้นช่วงลงมาระยะหนึ่ง ก็กระหน่ำลงมาในตอนที่กำลังปฏิบัติธรรมช่วงตี ๕ อยู่ เพิ่งจะขาดเม็ดไปก่อนสว่างนิดเดียวเท่านั้น แต่ว่าบรรดาพระวิปัสสนาจารย์ก็ดี บรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม หรือตัวแทนเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมก็ตาม ยังคงปฏิบัติธรรมกันอย่างไม่ย่อท้อ ทำให้ญาติโยมทั้งหลายที่เห็นแล้วเกิดศรัทธา มีโยมคณะหนึ่งถึงขนาดรีบวิ่งออกไปซื้อหาผ้าเช็ดเท้าที่เป็นแบบไม่ลื่น เพื่อที่มาปูรอบสถานที่ให้พระทั้งหลายที่เข้าปฏิบัติธรรมได้เดินโดยไม่มีอันตราย

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจะเห็นว่า ญาติโยมที่ต้องการทำบุญนั้นมีมาก แต่ว่าเขาต้องการศรัทธาเป็นเครื่องนำ ประการสำคัญก็คือต้องการพระที่เขาไว้ใจได้ ถ้าหากว่ามีพระที่เขาไว้ใจได้ เขาย่อมเต็มใจที่จะทำบุญ ส่วนเราทั้งหลายทำตัวให้สมกับที่ญาติโยมเขาไว้วางใจหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่เราต้องคิดกันเอง ไม่ใช่ว่าบอกบุญเรี่ยไรไป กี่ปี ๆ อาคารก็มีแต่เสา ไม่สามารถที่จะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมได้เสร็จเสียที

ถ้าอยู่ในลักษณะนั้น เราก็ไม่สามารถที่จะโทษใครได้ ว่าทำไมศรัทธาญาติโยมถึงได้ท้อถอยไปจากวัดของเราแล้วไปสนับสนุนวัดโน้น ทั้ง ๆ ที่วัดโน้นดูแล้วว่าเจริญรุ่งเรืองมากแล้ว วัดของเรายังทรุดโทรมอยู่ ก็เพราะว่าเราไม่ได้ทำตัวให้เป็นที่ไว้วางใจของญาติโยม จึงทำให้ศรัทธาของเขาทั้งหลายเหล่านั้นถอยไป

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ท่านเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมพึงจะต้องระมัดระวังว่า การปฏิบัติธรรมเพื่อตนเองก็ดี การบริหารสำนักปฏิบัติธรรมเพื่อญาติโยมก็ตาม ต้องการความศรัทธา ต้องการความจริงใจ ต้องการความอดกลั้นอดทน ค่อย ๆ ไปทีละเล็ก ทีละน้อย เหมือนกับน้ำทีละหยด เมื่อนานไป ๆ ก็รวบรวมได้ในจำนวนที่มากเพียงพอต่อการใช้งานได้

ในส่วนที่ท่านทั้งหลายซึ่งมาประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น ถือว่าท่านทั้งหลายผ่านการปฏิบัติธรรมที่มีประกาศนียบัตรรับรองว่า ท่านผ่านหลักสูตรนี้ไปแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลาแล้ว ท่านสามารถนำไปใช้งานในสำนักของท่านได้มากน้อยเท่าไร หรือว่าประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เท่าไรนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวท่านเองแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2023 เมื่อ 01:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:38



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว