เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๖

[พิชวัฒน์]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๖

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพค้นหาแว่นกันแดดเพื่อที่จะเอาไปสู้กับหิมะ เนื่องจากมีประสบการณ์ว่า เวลาอยู่ท่ามกลางหิมะแล้วแสงแดดแรง ๆ นั้น ถ้าหากว่าเราไม่มีแว่นกันแดด โอกาสที่สายตาจะบาดเจ็บมีสูงมาก..!

แต่ว่าการหาแว่นกันแดดนั้น ทำให้ค้นเจอวัตถุมงคลบางส่วนที่ตั้งแต่ย้ายจากบ้านเติมบุญ ยังไม่ไม่ได้เอาออกจากกล่องมา วันนี้จึงได้ให้ไอ้ตัวเล็กนำลงในกระทู้ โดยเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งในจำนวนนี้ก็ยังมี "มีดครู" ที่ท่านใช้ในการรักษาโรคอยู่ด้วย เอาไว้ในโอกาสที่เหมาะสม ก็คงจะได้ถ่ายรูปแล้วนำลงในกระทู้ต่อไป

หลังจากที่ฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางไปยังวัดตะคร้ำเอน เพื่อที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสัมมนาพระวินยาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งพระวินยาธิการนั้น หรือที่ชาวบ้านเขาเรียกกันง่าย ๆ ว่าตำรวจพระ ส่วนใหญ่แล้วบางท่านได้รับการแต่งตั้งไป ก็ไม่แม่นต่อข้อกฎหมาย ไม่แม่นต่อพระธรรมวินัย

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราจะไป "คิดว่า คาดว่า" ไม่ได้ ต้องเอากฎหมายและพระธรรมวินัยเป็นที่ตั้ง ดังนั้น..หากว่าบรรดา "ทะแนะ" ก็คือบุคคลที่ไม่รู้จริง อาจจะยุยงให้พระวินยาธิการ หรือว่าตำรวจพระนั้น หลงในอำนาจตนเอง แล้วกระทำในสิ่งที่ผิดต่อพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมืองเสียเอง มีโอกาสที่ตนเองจะโดนฟ้องร้องได้

ดังนั้น..คณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี โดยพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี จึงจัดให้มีการประชุมสัมมนา อยู่ในลักษณะแลกเปลี่ยนบทเรียนในการทำงาน และมีการถวายคำแนะนำทั้งทางด้านกฎหมายบ้านเมือง และพระธรรมวินัยด้วย

[เถรี]

เมื่อทำพิธีเปิดเรียบร้อยแล้ว มีบุคคลผู้หนึ่งซึ่งคุ้นเคยกัน ได้นำวัตถุชิ้นใหญ่มากมา ถ้าถามว่า "ใหญ่ขนาดไหน ?" ก็ใหญ่ประมาณตัวของกระผม/อาตมภาพเอง..! บอกว่าทางเจ้าของทราบว่า หลวงพ่อต้องการวัตถุมงคลเพื่อนำไปเข้าพิพิธภัณฑ์ จึงฝากให้มาช่วยจำหน่าย เพราะว่าลูกต้องการค่าเทอม

กระผม/อาตมภาพเปิดมาพิจารณาแล้วก็ตกใจ เพราะว่าสิ่งที่นำมานั้นก็คือมีดหั่นยา ซึ่งเด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่มีทางที่จะรู้จักได้เลย มีดหั่นยานั้น ในสมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นเด็ก ๆ อยู่ ทางบ้านทำไร่ยาสูบ เมื่อถึงเวลาใบยาสูบแก่ได้ที่แล้ว ก็จะมีการเก็บมา รูดเอาก้านแข็งตรงกลางออก แล้วนำใบยาทั้งหลายนั้นม้วนเป็นม้วนใหญ่ ให้พอเหมาะพอดีกับรางหั่นยา แล้วก็ค่อย ๆ เลื่อน พร้อมกับใช้มีดหั่นยาซอยไปเรื่อย ๆ บุคคลที่หั่นยาได้ละเอียดมาก ฝีมือดีมาก ค่าตัวก็จะแพงมาก..!

เมื่อสอบถามผู้คุ้นเคยแล้ว เขาบอกว่ามีดเล่มนี้ทางด้านเจ้าของนั้น เป็นเถ้าแก่โรงงานผลิตยาสูบสมัยนั้น ซึ่งเขาเรียกกันว่า "ยาตั้ง" เป็นมีดในการทำมาหากิน จึงไปกราบขอหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าทำการลงให้ คำว่าลงในที่นี้ก็คือ ตนเองชอบใจรูปลักษณะแบบใด ยันต์ลักษณะแบบใด ก็ไปขอร้องช่างที่มีฝีมือ ทำการตอกลายลงไปบนมีดหั่นยานั้น แล้วก็นำไปถวายหลวงปู่ศุขให้เสกให้ เมื่อถึงเวลาท่านบอกว่าเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็เอาพานไปรับกลับมา บูชาไว้กับบ้าน อยู่ในลักษณะของการบูชาเครื่องมือทำมาหากิน ต้องบอกว่าเป็นวัตถุมงคลประเภทที่มีชิ้นเดียวในโลก

เมื่อกระผม/อาตมภาพได้ยินราคาแล้วก็รู้สึกว่าค่อนข้างจะสูง เพราะว่าเขาต้องการค่าเทอมให้ลูกสองคน เป็นเงินหลายหมื่นบาท แต่ว่าด้วยความเห็นที่ว่าเป็นของเก่าแท้ ฝีมือเป็นช่างรุ่นเก่า ประมาณยุคนั้นจริง ๆ จึงได้รับซื้อขึ้นมา แต่ว่าก็คงจะไม่ได้เก็บเอาไว้ หากมีท่านใดสนใจจะบูชาต่อ ถ้าเห็นรูปจากในกระทู้แล้ว อย่าคิดว่าเล็ก ๆ ใบมีดนั้นใหญ่ขนาดบังตัวกระผม/อาตมภาพมิดเลยทีเดียว..! ต้องบอกว่าเป็นวัตถุมงคลชิ้นเดียวในโลกที่หาได้ยากมาก

[เถรี]

หลังจากที่ฟังท่านอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาการผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บรรยายไปจนประมาณ ๑๐ โมง กระผม/อาตมภาพก็กราบขออนุญาตพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ตลอดจนกระทั่งเพื่อนเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มาเข้าสัมมนา ขออนุญาตเดินทางไปเพื่อร่วมงานปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดเดิมบาง หรือที่ชื่อเดิมคือวัดคงคาราม หมู่ที่ ๑ ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี

เมื่อไปถึง ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระสุธีวราภรณ์ (ยุวชน เขมปญฺโญ ป.ธ.๖) เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท องค์ประธานในพิธีท่านมาถึงแล้ว เมื่อกราบถวายความเคารพแล้วก็นั่งคุยกัน ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเจ้าคุณยุวชน หรือหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดชัยนาทรูปนี้ มีรูปแบบการทำงานคล้ายคลึงกับกระผม/อาตมภาพมาก ก็คือเป็นคนเห็นแก่งาน ไม่เห็นแก่เงิน ได้เงินทองมาเท่าไรก็เอามาทำงานเพื่อส่วนรวมจนหมด ตนเองจะมีเงินมีทองเก็บ ก็ไม่มีเหมือนกับคนอื่นเขา แต่ว่าผลงานนั้นท่วมจังหวัดเลยทีเดียว..!

เมื่อพูดคุยกันจนกระทั่งได้เวลาแล้ว ทางเจ้าภาพก็นิมนต์เข้าไปในอุโบสถวัดเดิมบาง ซึ่งเป็นอุโบสถแบบโบราณ ค่อนข้างจะเล็กมาก ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่น "แรงอธิษฐาน ปี ๒๕๖๖" ซึ่งเป็นรูปเหรียญย้อนยุคหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ในรุ่นที่ท่านเคยทำเอาไว้ให้กับทางวัดเดิมบาง โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่คุ้นหน้ากันก็คือท่านอาจารย์วิชัย วัดหัวเด่น (พระครูโกวิทชัยกิจ) ท่านอาจารย์ฐิติวัชร์ "พระครูวิธานสุตาภิรม" เป็นต้น

เมื่อพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดทำการจุดเทียนชัยแล้ว พวกเราก็เข้าสู่พิธีกรรม กระผม/อาตมภาพกราบอาราธนาหลวงพ่อกวยท่านลงมาทำการปลุกเสกวัตถุมงคลของท่าน แล้วก็ขออนุญาตท่านว่า "ถึงเวลาหลวงพ่อช่วยมีอะไรยืนยันให้กับบรรดาลูกศิษย์สักหน่อยครับ เขาจะได้มั่นใจว่าหลวงพ่อมาจริง"

ปรากฏว่าตอนทำน้ำมนต์นั้น น้ำตาเทียนไหลเป็นไฟลงไปภายในบาตร ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จนกระทั่งท่านถามว่า "พอแล้วหรือยัง ?" กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีช่างภาพหลายรายถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้แล้ว จึงกราบเรียนท่านว่า "พอแล้วครับ" เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ทำการดับเทียนชัย แล้วมาพรมน้ำมนต์ โปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา

[เถรี]

ก่อนเดินทางกลับ ท่านพระครูวิธานสุตาภิรม หรือพระครูฐิติวัชร์ ท่านก็ได้ถวายเหรียญรุ่นนี้มาจำนวน ๓ ลังด้วยกัน บอกขอบพระคุณที่กระผม/อาตมภาพเมตตาเดินทางมาไกลมาก เพื่อที่จะร่วมงานปลุกเสกครั้งนี้ ถือว่ามอบเป็นน้ำใจให้กับครูบาอาจารย์ กระผม/อาตมภาพเองก็ตั้งใจว่าจะให้ไอ้ตัวเล็กนำลงกระทู้ในเวลาไม่ช้านี้

หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางกลับไปยังที่พัก เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนลูกศิษย์ ที่เข้าการอบรมนักเทศน์อยู่ที่วัดราชโอรสาราม แล้วก็จะไปหาหมอตามนัด ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทางไปยังประเทศอินเดียต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)