กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-05-2023, 17:18
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,628
ได้ให้อนุโมทนา: 216,938
ได้รับอนุโมทนา 747,895 ครั้ง ใน 36,422 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-05-2023, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,536 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ จากอากาศติดลบ ๘ องศาเซลเซียสมาเจออากาศ ๓๕ องศาเซลเซียสเมื่อคืนนี้ สุ้มเสียงของกระผม/อาตมภาพจึงออกอาการอย่างที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังกันอยู่

สำหรับวันนี้ขอกล่าวถึงปฐมเหตุว่าทำไมจึง "ไปหาที่ตายในชมพูทวีป" กัน ? เหตุก็เพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพนั้นเป็น "เด็กเส้น" ได้รับการ "ต่อวีซ่า" มาระยะหนึ่งแล้ว และ "วีซ่าหมดอายุ" จึงคิดว่าครั้งนี้คงจะกลับไปตายยังถิ่นเก่าของตนเอง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะตายได้ จึงไปตรงกับภาษิตของโบราณที่กล่าวว่า "กลับมาตายรัง"..!

สาเหตุที่เดินทางในครั้งนี้เกิดจากคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม หรือที่พวกเราเรียกกันติดปากว่า "พี่นวล" ผู้ก่อตั้งเอ็นซีทัวร์ บริษัทท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานานเกิน ๓๐ ปีแล้ว ทางพี่นวลมาชวนว่า "หลวงพ่อเจ้าขา ดิฉันอยากจะเดินทางจากศรีนาการ์ ขึ้นไปทางคาร์กิล แล้วก็ลงไปเลห์โดยทางรถยนต์
ตั้งแต่ทำทัวร์มายังไม่เคยเดินทางเลียบเทือกเขาหิมาลัยในลักษณะนี้เลย ถ้าหากว่าไม่ใช่นั่งเครื่องไปลงศรีนาการ์เลย ก็นั่งเครื่องไปลงที่เลห์เลย แล้วก็เที่ยวในเมืองบริเวณใกล้เคียง หลังจากนั้นก็นั่งเครื่องกลับ"

กระผม/อาตมภาพได้รับปากว่า "ถ้าหากว่ามีคนยินดีจ่ายค่าทัวร์ให้ฟรีก็จะไปด้วย" ท้ายที่สุดทางบริษัทเอ็นซีทัวร์ จึงอาสาเป็นผู้จ่ายค่าทัวร์ให้กับกระผม/อาตมภาพเอง เมื่อพวกเรารวบรวมคณะได้แล้ว จึงได้เดินทางไปในครั้งนี้

เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณนวลจันทร์ได้ปรารภว่า "ถ้าหลวงพ่อจะไป ขอให้เร็วสักนิดหนึ่ง เพราะว่าพี่นวลอายุเกิน ๘๐ ปีแล้ว ถ้าอายุมากกว่านี้อาจจะไปไม่ไหว" ในเมื่อเห็นใจผู้เฒ่า ซึ่งรู้จักมักคุ้นและชอบอัธยาศัยกันมา จึงได้เดินทาง "ไปหาที่ตายในชมพูทวีป"

แต่ปรากฏว่าการเดินทางไปหาที่ตายนั้น ไม่สามารถที่จะตายได้ ทั้ง ๆ ที่วันซึ่งติดอยู่บนช่องเขา Gardung La Pass ที่ความสูง ๕,๖๐๐ เมตรนั้น โดยปกติทั่วไปคนจากพื้นล่างจะอยู่ได้ไม่เกิน ๓๐ นาที แต่พวกเราติดอยู่ข้างบนเกิน ๒ ชั่วโมง..! ใช้ออกซิเจนถังใหญ่หมดไปถังกว่า แล้วยังมีออกซิเจนกระป๋องส่วนตัวของแต่ละคนด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องยอมรับว่า ครั้งนี้เขายังไม่ยอมให้ "วีซ่าหมดอายุ" มีการ "ขยายอายุวีซ่า" ออกไปอีกครั้งแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2023 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-05-2023, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,536 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องที่สองก็คือ การที่เราจะไปประเทศอินเดียนั้น ทุกคนต้องทำใจเลยว่า คนอินเดียนั้นมีทัศนคติในการทำงานไม่เหมือนกับเรา คนอินเดียจะปัดงานทุกอย่างตรงหน้าออกไปเป็นปัญหาของคนอื่นทั้งหมด ไม่ให้ปัญหานั้นตกอยู่ที่ตัวเอง คำพูดติดปากของคนอินเดียก็คือ "Tomorrow you come again." พรุ่งนี้คุณมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ยกเว้นว่าเราไปโวยวายชี้หน้าด่าว่า ถึงจะได้งานมาภายในวันนั้น โดยเฉพาะพวกเรา แม้ว่าจะรีบร้อนขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องมาพบกับการทำงานแบบถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง "จะตกเครื่องบินก็เป็นเรื่องของคุณ แต่งานของผม ผมจะทำอย่างนี้..!"

ท่านต้องทำใจด้วยความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างสูง ฝึกทั้งขันติบารมี ฝึกทั้งทมธรรม พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าเป็นปุถุชนผู้หนาไปด้วยกิเลส และไม่เคยชินกับการทำงานของคนอินเดียแล้ว นอกจากกัดฟันแล้วยังต้องกัดลิ้นไปด้วย..! ไม่เช่นนั้นก็จะอดโมโหไม่ไหว ดังนั้น..เรื่องทุกเรื่องที่พบเห็นนั้น จะเป็นประสบการณ์เวลาท่านไปเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ ในโอกาสข้างหน้า

แต่ขณะเดียวกัน พวกเราก็จะได้เจอบุคคลที่ดีงามเหลือเกิน อย่างเช่นคุณลุงเซอร์ริง โจลเดน พลขับผู้ยอดเยี่ยมของเรา นอกจากมีความเชี่ยวชาญในหน้าที่แล้ว น้ำใจของคุณลุงยังเหลือล้น ทุกวันคุณลุงจะปีนหลังคาแบกกระเป๋าของพวกเราขึ้นไปผูกมัดเป็นอย่างดี ดูแลพวกเราขึ้นรถจนครบถ้วน ปิดประตูให้เรียบร้อย ดูว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วถึงจะสตาร์ทเครื่องออกรถ

ขณะเดียวกันเมื่อเจอปัญหา ลุงโจลเดนก็ตรงไปแก้ไขให้คนอื่นเขาทันที โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าปัญหานั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเองต่อไปหรือไม่ ? อย่างเช่นว่าไปเจอรถติดหล่มทราย ลุงโจลเดนก็ไปช่วยลากเขาขึ้นมาแบบไม่ต้องขอร้อง ไปเจอรถติด แย่งกันไปแย่งกันมา ในตอนที่อยู่บน Gardung La Pass ลุงโจลเดนก็วิ่งไปวิ่งมา โบกรถให้เขาเป็นชั่วโมง ๆ แบบไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย..!

แม้กระทั่งรถที่วิ่งขึ้นมาโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะเจอหิมะตกหนักขนาดนี้ จึงไม่ได้ใส่โซ่พันล้อมา ลุงโจลเดนก็เอาโซ่ของตัวเองไปให้เขายืม โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้คืนหรือไม่..!? เมื่อบริการคนอื่นจนกระทั่งครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ลุงค่อยมานึกถึงตัวเอง..!

บุคคลที่ทำงานเพื่อส่วนรวมโดยไม่คิดถึงตนเองเลยแบบนี้ ขอยืนยันว่าเป็นพระโพธิสัตว์อย่างแน่นอน ดังนั้น..อานิสงส์ต่าง ๆ ที่เกิดจากการที่ลุงโจลเดนได้กระทำในการเดินทางด้วยกันครั้งนี้ คาดว่าคงจะทำให้ลุงเลื่อนจากพระโพธิสัตว์อุปบารมีขั้นปลาย ขึ้นไปเป็นพระโพธิสัตว์ปรมัตถบารมีขั้นต้นในเวลาอันไม่นานอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2023 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-05-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,536 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความเคารพในพระพุทธศาสนาของลุงโจลเดนนั้นเต็มหัวอกหัวใจ ทุกครั้งที่เจอพระสถูปเจดีย์ แม้ว่าจะมีทางดี ๆ ให้วิ่งไป ลุงโจลเดนก็ไม่วิ่ง แต่ลุงโจลเดนจะใช้วิธีทำความเคารพพระสถูปเจดีย์ ด้วยการขับรถวนทักษิณาวัตร ถวายเป็นพุทธบูชา ๑ รอบ ทำให้พวกเราพลอยได้บุญไปด้วย..!

ขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นว่า ในเรื่องของการศึกษานั้น ถ้าหากว่ากำลังใจของเราไม่ได้อยู่ในลักษณะผู้เข้าถึงธรรมแล้ว ก็จะออกอาการแบบ ดร.เทนซิน โซนัม ก็คืออยู่ในลักษณะที่ฝรั่งเรียกว่า look down แปลเป็นภาษาไทยว่าดูถูก แต่ความจริงอันนี้ก็คือมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเอง โดยที่ลืมไปว่าตนเองอาสามาเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น หน้าที่ของมัคคุเทศก์ก็คือบริการคณะทัวร์ให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ไม่ใช่ว่าบอกอะไร ถ้าเห็นว่าไม่ถูกใจก็ไม่ทำ ถ้าเห็นว่าไม่ตรงตามความเห็นของตนก็ไม่ทำ..!

จึงมีพรรคพวกเพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพหลายคนกล่าวว่า "ดร.เล็กมันเป็นคนอย่างไรวะ ? ทำไมเขาบอกว่าไอ้พวกจบปริญญาเอกแล้วคุยกับชาวบ้านเขาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เห็นมันจะเป็นแบบที่เขาว่าเลย" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพวกเราไม่ได้แบกเอาความรู้หรือว่ายศศักดิ์ไปด้วย

ถ้าหาก ดร.เทนซิน รู้ว่าภายในรถของอาตมภาพคันนั้นมี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ที่เป็นดับเบิ้ลด็อกเตอร์ ก็คือปริญญาเอก ๒ ใบ มีพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ที่กำลังศึกษาปริญญาเอกใบที่สอง มีผศ.ดร.สพญ.ชลาลัย เรืองหิรัญอยู่ด้วย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ดร.เทนซิน แกจะทำหน้าอย่างไร ? เพราะว่าพวกเราไม่ได้ออกอาการยืด ๆ เบ่ง ๆ แบบแกเลยแม้แต่น้อย..!

เรื่องพวกนี้จึงเป็นดาบสองคมตรงที่ว่า คนเราถ้าหากว่ามีความรู้ยิ่งมากเท่าไร ก็ยิ่งควรที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้น เพราะว่าการที่รู้จริงในเรื่องของหลักธรรมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราเลย ย่อมจะทำให้พวกเรารู้สึกตัวอยู่เสมอว่า "เราจะต้องตาย" แบกยศแบกศักดิ์ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร ท้ายที่สุดก็ทิ้งร่างกายนี้ถมปฐพีเอาไว้ ไม่สามารถที่จะเอาความรู้นั้นช่วยให้ตนเองรอดจากความตายไปได้เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2023 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-05-2023, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,536 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความรู้จึงเป็นดาบสองคมตรงที่ว่า ถ้าหากว่าเราใช้ในลักษณะของการช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นหรือว่าส่วนรวม ก็จัดว่าเป็นการใช้ความรู้ในทางที่ถูก แต่ถ้าหากว่าใช้ในการไต่เต้าเพื่อเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไปสู่ที่สูง นั่นเป็นการใช้ความรู้ในทางที่ผิด..!

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ดร.เทนซิน แม้ว่าจะเป็นชาวทิเบต อยู่กับพระพุทธศาสนา แต่ว่าเข้าถึงธรรมน้อยกว่าลุงโจลเดน ซึ่งเป็นแค่คนขับรถรับจ้างทั่วไป กำลังใจของลุงโจลเดนกับกำลังใจของ ดร.เทนซิน ที่เป็นชาวทิเบตเหมือนกัน แสดงออกให้เราเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า การเข้าถึงธรรมนั้นไม่เลือกบุคคล ไม่เลือกชั้นวรรณะ เป็นสิ่งที่เข้าถึงด้วยใจ ไม่ใช่เข้าถึงด้วยความรู้ทางโลก ๆ เลยแม้แต่น้อย

อีกส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพต้องกราบขอบพระคุณและเจริญพรขอบพระคุณ ก็คือเรื่องของพระ ของพรหม ของเทวดา และครูบาอาจารย์ ที่เมตตาให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์มาตลอดทาง โดยเฉพาะภาพสุดท้ายที่คุณนวลจันทร์ส่งมาให้ดู ก็คือพายุหิมะดำทะมึนจ่อเข้ามาถึงเมืองเลห์แล้ว ดีที่พวกเราขึ้นเครื่องและออกมาได้ทัน ทุกอย่างเป็นไปตามที่ "เจ้าแม่นภิสราเทวี" ซึ่งกระผม/อาตมภาพเรียกล้อเล่นกันแบบคนคุ้นเคยว่า "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" ได้บอกกล่าวเอาไว้ก่อนทุกประการ

เจ้าแม่และบริวารช่วยบริการให้ตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายที่ดูแลตลอดเส้นทางอยู่ก็เช่นกัน บางทีโผล่หน้ามาจนกระผม/อาตมภาพตกใจ เกรงว่าถ้าลุงโจลเดนเห็นเข้า อาจจะเกิดอุบัติเหตุตกเหวได้
เพราะว่าเจ้าประคุณยื่นหน้าออกมาจากภูเขาบ้าง จากกองหิมะบ้าง ก็คือภูเขาครึ่งค่อนลูกกลายเป็นหน้าคน..! หิมะครึ่งค่อนภูเขากลายเป็นหน้าคน..! มองอย่างไรก็เป็นหน้าคนชัด ๆ เลย..! จนต้องบอกว่าอย่าได้ทำอย่างนี้อีก กุศลบารมีอะไรที่ต้องการให้โมทนาเอา แล้วก็ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ก็พอ เขาทั้งหลายจึงได้หยุดแสดงอาการเหล่านั้นลงไปได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2023 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว